บทที่ 12 โควต้าต้องเป็นของฉัน
by หลิงหยุน
10:17,Nov 30,2020
โจวหยางเป็นถึงประธานโครงการปัจจัยด้านไวท์เทนนิ่งและริ้วรอย ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้ออกคำสั่งนี้แล้ว เลขาไม่กล้าที่จะไม่เชื่อฟังแน่นอน
แม้ว่าในสายตาคนจะมองว่าบริษัทความงามเยว่จี๋ ไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับจดหมายคำเชิญ
แต่ก็ไม่สำคัญ ตอนนี้โจวหยางก็ได้พูดออกไปแล้ว ดังนั้นเธอก็ควรเป็นคนที่มีคุณสมบัติคนนั้น
ระหว่างทางที่เซี่ยะหลิงอวี้กำลังขับรถกลับบ้าน มือถือของเธอก็ได้ดังขึ้นมา เป็นผู้ช่วยของเธอโทรมา
ผู้ช่วยที่อยู่ในสายแสดงคำพูดถึงความตื่นเต้น:”ท่านประธานเซี่ยะ!พวกเราได้รับมันแล้ว!พวกเราได้รับมันแล้ว!”
เซี่ยะหลิงอวี้แปลกใจแล้วพูด:”ได้รับอะไรเหรอ ช่วยขยายความหน่อย”
ผู้ช่วยพูดด้วยความตื่นเต้น:”เป็นบริษัทหมิงหยาง!บริษัทหมิงหยางได้ส่งจดหมายเชิญให้เรา!พวกเราได้เข้าร่วมการสัมมนาในครั้งต่อไป”
“เธอพูดว่าไงนะ!” เซี่ยะหลิงอวี้เบรตกระทันหันจนเกือบจะทำให้รถที่ตามมาชนใส่เธอ
“ขับรถยังไงวะ ประสาทหรือเปล่า”
คนขับรถคันหลังก็ได้ด่าเธอไปสักพัก แล้วขับรถไปอย่างโมโห เซี่ยะหลิงอวี้กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง แล้วขับรถไปจอดไว้ข้างทาง รู้สึกตื่นเต้นมากและน้ำตาก็ไหลออกมา:”ที่เธอพูดเป็นเรื่องจริงเหรอ ส่งจดหมายคำเชิญให้พวกเราจริงๆเหรอ”
“ใช่!”ผู้ช่วยพูดด้วยความดีใจว่า:”เลขาของพวกเขาเป็นคนส่งจดหมายคำเชิญมาเองเลย!แถมยังขอโทษพวกเราที่เพิกเฉยต่อบริษัทของเรา”
“โอ้วแม่เจ้า ช่างเป็นเรื่องที่ดีมากๆเลย!!!”
เซี่ยะหลิงอวี้ดีใจเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังแปลกใจอยู่ดี ทำไหมบริษัทหมิงหยางถึงได้ส่งจดหมายคำเชิญให้เธอ ทั้งๆที่เธอไม่มีคุณสมบัตินั้นเลย
ในช่วงขนาดหนึ่ง ในสมองของเซี่ยะหลิงอวี้ก็ได้ฉุดคิดใบหน้าของโจวหยางขึ้นมา ถึงขั้นสงสัยเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับโจวหยางแน่เลย
ดวงตาที่ปกติของเขาก็ได้ลุกวาวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“หรือว่า เป็นโจวหยางที่ช่วยเหลือจริงๆ”
“จะเป็นไปได้ยังไงนะ เขาเป็นแค่พนักงานธรรมดาๆเอง จะไปคุยกับผู้ที่ดูแลโครงการนี้ได้ยังไง โครงการนี้กำลังมาแรงในตอนนี้ แม้แต่แบรนด์ต่างประเทศใหญ่ ๆ ก็ยังปรารถนา โจวหยางจะมีความสามารถนี้ได้ยังไง”
เซี่ยะหลิงอวี้ได้หัวเราะเยาะตัวเอง และไม่คิดอีกต่อไป
แต่ว่าบริษัทหมิงหยางได้มามอบจดหมายคำเชิญให้เขา ดังนั้นต้องเตรียมตัวให้พร้อม ต้องคว้าโอกาสครั้งนี้ไว้!
......
ในเวลาอันรวดเร็วบริษัทหมิงหยางก็ได้ตัดสินใจเลือก รวมทั้งเซี่ยะหลิงอวี้ ตระกลูเฉินก็เป็นหนึ่งในนั้น ต้องสรุปผลให้จบภายในสามวันกับผู้ที่มาร่วมธุรกิจ และจะต้องส่งเครื่องสำอางให้กระจายไปทั่วอุตสาหกรรม
แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของการเลือกก็ตาม โจวหยางตัดสินใจทำโครงการใหม่นี้ให้มีชื่อเสียง แต่ก็ยังไม่มีข่าวใดๆเลย
เวลาผ่านไปสักพัก บุคคลลึกลับที่เป็นคนตัดสินใจเกี่ยวกับข้อโต้แย้งได้กลายเป็นข่าวซุบซิบสุดฮอตในวงการไปแล้ว
ทุกคนต่างพากันเดา โครงการที่ใหญ่ขนาดนี้ คนที่มีโอกาสที่สุดคือประธานบริษัทหมิงหยางเสิ่นบี้จวินเป็นคนดูแล
หลังจากสามวันผ่านไป ณ เวลาช่วงเที่ยงวัน บริษัทหมิงหยางได้เรียกประชุมผู้ที่ถูกเลือกให้มาดูแลบริษัท ถึงเวลาการประชุมของหมิงหยาง
หน้าทางเข้าห้องประชุมของบริษัทหมิงหยาง เซี่ยงหลิงอวี้ได้ถูกเฉินจวิ้นเซิงตาม เธอขมวดคิ้วและได้เพิ่มความเร็วในการเดิน
เฉินจวิ้นเซิงเดินตาม หัวเราะแล้วพูด:”หลิงอวี้ เธอไม่ต้องกังวล โควต้าหมิงหยางด้านความร่วมที่มีชื่อเสียงนี้ ร้อยทั้งร้อยเป็นของบริษัทจวิ้นฟาแน่นอน ถึงเวลานั้นเพียงแค่หลิงอวี้พูดออกมา ฉันจะแบ่งให้เธอส่วนหนึ่งแน่นอน”
เฉินจวิ้นเซิงพูดด้วยคำพูดที่มั่นใจ ดูเหมือนว่าเขาใช้โควตาในความร่วมมือนี้เป็นเพียงแค่เรื่องเล่นๆ
โจวหยางกำลังถือกระเป๋าเอกสารอย่างเร่งรีบไปที่ห้องประชุม
เดิมทีเขาวางแผนในงานสัมมนาวันนี้ว่าจะประกาศตัวตนของเขาอย่างเป็นทางการ แต่ไม่คิดเลยดันมาเจอเข้ากับเซี่ยะหลิงอวี้และเฉินจวิ้นเซิง.....
“เอะ นี่น้องโจวไม่ใช่เหรอ ทำไหมถึงอยู่ที่นี่ล่ะ”
เฉินจวิ้นเซิงเห็นโจวหยาง ขมวดคิ้ว รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
แต่ในไม่ช้า เขาก็คิดได้ ยิ้มแล้วพูด:”เกือบลืมเลย รู้สึกว่าน้องโจวทำงานที่หมิงหยางใช่ไหม แต่วันนี้มีกิจกรรมที่สำคัญอย่างมาก ตำแหน่งที่ต่ำของนายสามารถที่จะมาเข้าร่วมได้เหรอ”
โจวหยางไม่ได้สนใจคำพูดของเฉินจวิ้นเซิง แต่เขากลับมองไปที่ตัวของเซี่ยะหลิงอวี้
เวลานี้เซี่ยะหลิงอวี้ ดูดีขึ้นเล็กน้อย แต่ภายใต้การแต่งหน้ารอยคล้ำทั้งสองนั้นไม่สามารถซ่อนได้
“หลิงอวี้ บริษัทของพวกเธอได้รับจดหมายคำเชิญแล้วใช่ไหม”
โจวหยางพูดช้าๆด้วยน้ำเสียงของเขาอินดู
เซี่ยะหลิงอวี้แปลกใจแล้วมองไปที่โจวหยาง ความคิดที่เคยคิดก็ฉุดขึ้นมาอีกครั้ง
หรือว่า จะเป็นเขาจริงๆที่เป็นคนจัดการจดหมายคำเชิญ
แต่ว่า เธอยังไม่ทันได้คิด เฉินจวิ้นเซิงก็ได้พูดขึ้นว่า :”การประชุมความร่วมมือของบริษัท น้องโจวไม่ต้องกังวลไปนะ นายเป็นแค่พนักงานทั่วไป จะทำอะไรได้”
อย่างไรก็ตามคราวนี้โควตาความร่วมมือของบริษัทของนายฉันจะได้รับแน่นอน แต่ตราบใดที่หลิงอวี้บอก ฉันก็จะปล่อยให้เธอ
เฉินจวิ้นเซิงมองไปที่เซี่ยะหลิงอวี้ด้วยใบหน้าที่รักใคร่
เพียงแค่โจวหยางเหมือนเด็กน้อยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
เขาสัมผัสได้ถึงดวงตาของเฉินจวิ้นเซิงที่ลามก
ไอ้นี่ หรือเขาอยากจะใช้เรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างเพื่อมาคุกคามเซี่ยะหลิงอวี้อีก
เขาก็เลยตะคอกแล้วพูด:”รอบนี้มีหลายบริษัทมาแข่งขัน ทำไมคุณถึงคิดว่าคุณสามารถชนะการประมูลได้”
โจวหยางได้คิดในใจต่อเฉินจวิ้นเซิง การร่วมมือครั้งนี้ อำนาจการตัดสินใจทั้งหมดอยู่ในมือตัวเอง ใครสามารถชนะการประมูล มันอยู่ที่คนเดียวทั้งหมด แกเฉินจวิ้นเซิงไม่ใช่อะไรเลย
ฉันบอกว่าให้คุณออกไป ถึงคุณจะเก่งแค่ไหน ก็ต้องออกไปอยู่ดี
เฉินจวิ้นเซิงไม่รู้เรื่องอะไรเลย พูดด้วยคำดูถูก :”น้องโจวดูแล้วเองยังเด็ก แต่ฉันก็ไม่โทษนายหรอก ถึงเวลานายก็จะรู้เอง”
“หลิงอวี้ พวกเราเข้าไปดีกว่า กรประชุมกำลังจะเริ่มแล้ว”
ในขณะที่เขาพูดเขายื่นมือออกไปโอบไหล่ของเซี่ยะหลิงอวี้
ร่างของเซี่ยะหลิงอวี้ได้ขยับเพื่อหลบมือของเฉินจวิ้นเซิง เมื่อมองไปที่โจวหยางดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสน
แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ เพียงแค่พยักหน้าและเดินตรงเข้าไปข้างใน
เฉินจวิ้นเซิงเดินตามข้างหลัง แต่เขากลับตามไปทีหลังและเขามองโจวหยางด้วยท่าทางเยาะเย้ย
“ไว้ใจได้เลย คราวนี้โควต้าความร่วมมือของบริษัทดังต้องเป็นของฉัน ถึงเวลานั้น แกลองคิดดูเซี่ยะหลิงอวี้จะทำหน้ายังไงต่อหน้าฉัน จะให้เธอจัดเลี้ยงตอนรับฉันเอง แกเพิ่มวีแชทฉันสิ รอให้เธอเสร็จฉันก่อน เดี๋ยวจะคอลวีดีโอโชว์ให้แกดู”
เฉินจวิ้นเซิงได้หัวเราะออกมาและจงใจไปชนไหล่ของโจวหยาง ราวกับว่าไม่มีใครยืนอยู่แล้วเดินเข้าไป
โจวเหยางมองไปที่หลังของฉินจวิ้นเซิง เขาคิดในใจ:”อยากได้โค้วต้าเหรอ ฝันไปเถอะ!”
คิดได้สักพัก เขาก็หยิบมือถือขึ้นมา โทรหาเลขาเย่ฉู่เช่น
......
คนที่เป็นผู้ดูแลการประชุมครั้งนี้ เย่ฉู่เช่นเขาได้เลื่อนเพราะโจวหยางเป็นคนเลือก
โจวหยางทำงานกับเย่ฉู่เช่นเป็นเวลาสามปี รู้ความสามารถของเธออย่างชัดเจน เมื่อรู้ว่าสิ่งที่เธอขาดคือโอกาส
ตอนนี้โจวหยางกลายเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทหมิงหยาง ยังเป็นผู้รับผิดชอบโครงการไวน์เทนนิ่งและต่อต้านริ้วรอยอีกด้วย มันง่ายมากที่จะให้โอกาสเธอ
เย่ฉู่เช่นมาถึงที่ประชุม เธอกล่าวอย่างจริงใจกับตัวแทนบริษัททุกคนที่มา:”ยินดีต้อนรับสู่การประชุมบริษัทหมิงหยางครั้งนี้” เนื่องจากเหตุผลบางประการที่ไม่สะดวก ประธานโจวของโครงการไวน์เทนนิ่งและต่อต้านริ้วรอยไม่สามารถมาได้ สำหรับเรื่องนี้ ฉันขอเป็นตัวแทนขอโทษทุกท่านในนามของบริษัทหมิงหยาง
สิ้นเสียงของเย่ฉู่เช่น ห้องประชุมเต็มไปด้วยเสียงวิพากวิจารณ์
ข่าวลือของบุคคลที่รับผิดชอบโครงการไวท์เทนนิ่งแอนตี้และต่อต้านริ้วลอยเป็นประเด็นร้อนแรง มีการคาดเดามาก่อนหน้านี้นับไม่ถ้วน แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นใค
แต่ว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะมีการประชุมครั้งนี้เพื่อที่จะได้เห็นผู้ดูแลคนนี้ได้เปิดเผยตัวตน แต่เย่ฉู่เช่นกลับบอกว่าเขาไม่มา
ลงทุนเยอะเกินไปหรือเปล่า
ตอนนี้เริ่มมีหลายบริษัทที่แสดงท่าทีไม่พอใจ
แต่ว่า ไม่มีใครกล้าว่าบริษัทชื่อดังนี้ เพราะโครงการนี้มีความสำคัญอย่างมาก ทุกคนก็อยากทำงานร่วมกับบริษัทชื่อดังเพื่อหาผลกำไร ดังนั้นจึงต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่เต็มใจ
ถึงแม้เฉินจวิ้นเซิงไม่กล้าพูด แต่ในใจเขารู้สึกไม่พอใจ และได้พูดเบาๆต่อเย่ฉู่เช่นว่า:”ประธานโจวอะไร ยังจะมาเล่นอะไรอีก หลิงอวี้ไว้ใจได้เลย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มา โค้วต้าการร่วมมือครั้งนี้ ต้องเป็นของพวกเราจวิ้นฟาแน่นอน”
แม้ว่าในสายตาคนจะมองว่าบริษัทความงามเยว่จี๋ ไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับจดหมายคำเชิญ
แต่ก็ไม่สำคัญ ตอนนี้โจวหยางก็ได้พูดออกไปแล้ว ดังนั้นเธอก็ควรเป็นคนที่มีคุณสมบัติคนนั้น
ระหว่างทางที่เซี่ยะหลิงอวี้กำลังขับรถกลับบ้าน มือถือของเธอก็ได้ดังขึ้นมา เป็นผู้ช่วยของเธอโทรมา
ผู้ช่วยที่อยู่ในสายแสดงคำพูดถึงความตื่นเต้น:”ท่านประธานเซี่ยะ!พวกเราได้รับมันแล้ว!พวกเราได้รับมันแล้ว!”
เซี่ยะหลิงอวี้แปลกใจแล้วพูด:”ได้รับอะไรเหรอ ช่วยขยายความหน่อย”
ผู้ช่วยพูดด้วยความตื่นเต้น:”เป็นบริษัทหมิงหยาง!บริษัทหมิงหยางได้ส่งจดหมายเชิญให้เรา!พวกเราได้เข้าร่วมการสัมมนาในครั้งต่อไป”
“เธอพูดว่าไงนะ!” เซี่ยะหลิงอวี้เบรตกระทันหันจนเกือบจะทำให้รถที่ตามมาชนใส่เธอ
“ขับรถยังไงวะ ประสาทหรือเปล่า”
คนขับรถคันหลังก็ได้ด่าเธอไปสักพัก แล้วขับรถไปอย่างโมโห เซี่ยะหลิงอวี้กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง แล้วขับรถไปจอดไว้ข้างทาง รู้สึกตื่นเต้นมากและน้ำตาก็ไหลออกมา:”ที่เธอพูดเป็นเรื่องจริงเหรอ ส่งจดหมายคำเชิญให้พวกเราจริงๆเหรอ”
“ใช่!”ผู้ช่วยพูดด้วยความดีใจว่า:”เลขาของพวกเขาเป็นคนส่งจดหมายคำเชิญมาเองเลย!แถมยังขอโทษพวกเราที่เพิกเฉยต่อบริษัทของเรา”
“โอ้วแม่เจ้า ช่างเป็นเรื่องที่ดีมากๆเลย!!!”
เซี่ยะหลิงอวี้ดีใจเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังแปลกใจอยู่ดี ทำไหมบริษัทหมิงหยางถึงได้ส่งจดหมายคำเชิญให้เธอ ทั้งๆที่เธอไม่มีคุณสมบัตินั้นเลย
ในช่วงขนาดหนึ่ง ในสมองของเซี่ยะหลิงอวี้ก็ได้ฉุดคิดใบหน้าของโจวหยางขึ้นมา ถึงขั้นสงสัยเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับโจวหยางแน่เลย
ดวงตาที่ปกติของเขาก็ได้ลุกวาวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“หรือว่า เป็นโจวหยางที่ช่วยเหลือจริงๆ”
“จะเป็นไปได้ยังไงนะ เขาเป็นแค่พนักงานธรรมดาๆเอง จะไปคุยกับผู้ที่ดูแลโครงการนี้ได้ยังไง โครงการนี้กำลังมาแรงในตอนนี้ แม้แต่แบรนด์ต่างประเทศใหญ่ ๆ ก็ยังปรารถนา โจวหยางจะมีความสามารถนี้ได้ยังไง”
เซี่ยะหลิงอวี้ได้หัวเราะเยาะตัวเอง และไม่คิดอีกต่อไป
แต่ว่าบริษัทหมิงหยางได้มามอบจดหมายคำเชิญให้เขา ดังนั้นต้องเตรียมตัวให้พร้อม ต้องคว้าโอกาสครั้งนี้ไว้!
......
ในเวลาอันรวดเร็วบริษัทหมิงหยางก็ได้ตัดสินใจเลือก รวมทั้งเซี่ยะหลิงอวี้ ตระกลูเฉินก็เป็นหนึ่งในนั้น ต้องสรุปผลให้จบภายในสามวันกับผู้ที่มาร่วมธุรกิจ และจะต้องส่งเครื่องสำอางให้กระจายไปทั่วอุตสาหกรรม
แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของการเลือกก็ตาม โจวหยางตัดสินใจทำโครงการใหม่นี้ให้มีชื่อเสียง แต่ก็ยังไม่มีข่าวใดๆเลย
เวลาผ่านไปสักพัก บุคคลลึกลับที่เป็นคนตัดสินใจเกี่ยวกับข้อโต้แย้งได้กลายเป็นข่าวซุบซิบสุดฮอตในวงการไปแล้ว
ทุกคนต่างพากันเดา โครงการที่ใหญ่ขนาดนี้ คนที่มีโอกาสที่สุดคือประธานบริษัทหมิงหยางเสิ่นบี้จวินเป็นคนดูแล
หลังจากสามวันผ่านไป ณ เวลาช่วงเที่ยงวัน บริษัทหมิงหยางได้เรียกประชุมผู้ที่ถูกเลือกให้มาดูแลบริษัท ถึงเวลาการประชุมของหมิงหยาง
หน้าทางเข้าห้องประชุมของบริษัทหมิงหยาง เซี่ยงหลิงอวี้ได้ถูกเฉินจวิ้นเซิงตาม เธอขมวดคิ้วและได้เพิ่มความเร็วในการเดิน
เฉินจวิ้นเซิงเดินตาม หัวเราะแล้วพูด:”หลิงอวี้ เธอไม่ต้องกังวล โควต้าหมิงหยางด้านความร่วมที่มีชื่อเสียงนี้ ร้อยทั้งร้อยเป็นของบริษัทจวิ้นฟาแน่นอน ถึงเวลานั้นเพียงแค่หลิงอวี้พูดออกมา ฉันจะแบ่งให้เธอส่วนหนึ่งแน่นอน”
เฉินจวิ้นเซิงพูดด้วยคำพูดที่มั่นใจ ดูเหมือนว่าเขาใช้โควตาในความร่วมมือนี้เป็นเพียงแค่เรื่องเล่นๆ
โจวหยางกำลังถือกระเป๋าเอกสารอย่างเร่งรีบไปที่ห้องประชุม
เดิมทีเขาวางแผนในงานสัมมนาวันนี้ว่าจะประกาศตัวตนของเขาอย่างเป็นทางการ แต่ไม่คิดเลยดันมาเจอเข้ากับเซี่ยะหลิงอวี้และเฉินจวิ้นเซิง.....
“เอะ นี่น้องโจวไม่ใช่เหรอ ทำไหมถึงอยู่ที่นี่ล่ะ”
เฉินจวิ้นเซิงเห็นโจวหยาง ขมวดคิ้ว รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
แต่ในไม่ช้า เขาก็คิดได้ ยิ้มแล้วพูด:”เกือบลืมเลย รู้สึกว่าน้องโจวทำงานที่หมิงหยางใช่ไหม แต่วันนี้มีกิจกรรมที่สำคัญอย่างมาก ตำแหน่งที่ต่ำของนายสามารถที่จะมาเข้าร่วมได้เหรอ”
โจวหยางไม่ได้สนใจคำพูดของเฉินจวิ้นเซิง แต่เขากลับมองไปที่ตัวของเซี่ยะหลิงอวี้
เวลานี้เซี่ยะหลิงอวี้ ดูดีขึ้นเล็กน้อย แต่ภายใต้การแต่งหน้ารอยคล้ำทั้งสองนั้นไม่สามารถซ่อนได้
“หลิงอวี้ บริษัทของพวกเธอได้รับจดหมายคำเชิญแล้วใช่ไหม”
โจวหยางพูดช้าๆด้วยน้ำเสียงของเขาอินดู
เซี่ยะหลิงอวี้แปลกใจแล้วมองไปที่โจวหยาง ความคิดที่เคยคิดก็ฉุดขึ้นมาอีกครั้ง
หรือว่า จะเป็นเขาจริงๆที่เป็นคนจัดการจดหมายคำเชิญ
แต่ว่า เธอยังไม่ทันได้คิด เฉินจวิ้นเซิงก็ได้พูดขึ้นว่า :”การประชุมความร่วมมือของบริษัท น้องโจวไม่ต้องกังวลไปนะ นายเป็นแค่พนักงานทั่วไป จะทำอะไรได้”
อย่างไรก็ตามคราวนี้โควตาความร่วมมือของบริษัทของนายฉันจะได้รับแน่นอน แต่ตราบใดที่หลิงอวี้บอก ฉันก็จะปล่อยให้เธอ
เฉินจวิ้นเซิงมองไปที่เซี่ยะหลิงอวี้ด้วยใบหน้าที่รักใคร่
เพียงแค่โจวหยางเหมือนเด็กน้อยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
เขาสัมผัสได้ถึงดวงตาของเฉินจวิ้นเซิงที่ลามก
ไอ้นี่ หรือเขาอยากจะใช้เรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างเพื่อมาคุกคามเซี่ยะหลิงอวี้อีก
เขาก็เลยตะคอกแล้วพูด:”รอบนี้มีหลายบริษัทมาแข่งขัน ทำไมคุณถึงคิดว่าคุณสามารถชนะการประมูลได้”
โจวหยางได้คิดในใจต่อเฉินจวิ้นเซิง การร่วมมือครั้งนี้ อำนาจการตัดสินใจทั้งหมดอยู่ในมือตัวเอง ใครสามารถชนะการประมูล มันอยู่ที่คนเดียวทั้งหมด แกเฉินจวิ้นเซิงไม่ใช่อะไรเลย
ฉันบอกว่าให้คุณออกไป ถึงคุณจะเก่งแค่ไหน ก็ต้องออกไปอยู่ดี
เฉินจวิ้นเซิงไม่รู้เรื่องอะไรเลย พูดด้วยคำดูถูก :”น้องโจวดูแล้วเองยังเด็ก แต่ฉันก็ไม่โทษนายหรอก ถึงเวลานายก็จะรู้เอง”
“หลิงอวี้ พวกเราเข้าไปดีกว่า กรประชุมกำลังจะเริ่มแล้ว”
ในขณะที่เขาพูดเขายื่นมือออกไปโอบไหล่ของเซี่ยะหลิงอวี้
ร่างของเซี่ยะหลิงอวี้ได้ขยับเพื่อหลบมือของเฉินจวิ้นเซิง เมื่อมองไปที่โจวหยางดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสน
แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ เพียงแค่พยักหน้าและเดินตรงเข้าไปข้างใน
เฉินจวิ้นเซิงเดินตามข้างหลัง แต่เขากลับตามไปทีหลังและเขามองโจวหยางด้วยท่าทางเยาะเย้ย
“ไว้ใจได้เลย คราวนี้โควต้าความร่วมมือของบริษัทดังต้องเป็นของฉัน ถึงเวลานั้น แกลองคิดดูเซี่ยะหลิงอวี้จะทำหน้ายังไงต่อหน้าฉัน จะให้เธอจัดเลี้ยงตอนรับฉันเอง แกเพิ่มวีแชทฉันสิ รอให้เธอเสร็จฉันก่อน เดี๋ยวจะคอลวีดีโอโชว์ให้แกดู”
เฉินจวิ้นเซิงได้หัวเราะออกมาและจงใจไปชนไหล่ของโจวหยาง ราวกับว่าไม่มีใครยืนอยู่แล้วเดินเข้าไป
โจวเหยางมองไปที่หลังของฉินจวิ้นเซิง เขาคิดในใจ:”อยากได้โค้วต้าเหรอ ฝันไปเถอะ!”
คิดได้สักพัก เขาก็หยิบมือถือขึ้นมา โทรหาเลขาเย่ฉู่เช่น
......
คนที่เป็นผู้ดูแลการประชุมครั้งนี้ เย่ฉู่เช่นเขาได้เลื่อนเพราะโจวหยางเป็นคนเลือก
โจวหยางทำงานกับเย่ฉู่เช่นเป็นเวลาสามปี รู้ความสามารถของเธออย่างชัดเจน เมื่อรู้ว่าสิ่งที่เธอขาดคือโอกาส
ตอนนี้โจวหยางกลายเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทหมิงหยาง ยังเป็นผู้รับผิดชอบโครงการไวน์เทนนิ่งและต่อต้านริ้วรอยอีกด้วย มันง่ายมากที่จะให้โอกาสเธอ
เย่ฉู่เช่นมาถึงที่ประชุม เธอกล่าวอย่างจริงใจกับตัวแทนบริษัททุกคนที่มา:”ยินดีต้อนรับสู่การประชุมบริษัทหมิงหยางครั้งนี้” เนื่องจากเหตุผลบางประการที่ไม่สะดวก ประธานโจวของโครงการไวน์เทนนิ่งและต่อต้านริ้วรอยไม่สามารถมาได้ สำหรับเรื่องนี้ ฉันขอเป็นตัวแทนขอโทษทุกท่านในนามของบริษัทหมิงหยาง
สิ้นเสียงของเย่ฉู่เช่น ห้องประชุมเต็มไปด้วยเสียงวิพากวิจารณ์
ข่าวลือของบุคคลที่รับผิดชอบโครงการไวท์เทนนิ่งแอนตี้และต่อต้านริ้วลอยเป็นประเด็นร้อนแรง มีการคาดเดามาก่อนหน้านี้นับไม่ถ้วน แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นใค
แต่ว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะมีการประชุมครั้งนี้เพื่อที่จะได้เห็นผู้ดูแลคนนี้ได้เปิดเผยตัวตน แต่เย่ฉู่เช่นกลับบอกว่าเขาไม่มา
ลงทุนเยอะเกินไปหรือเปล่า
ตอนนี้เริ่มมีหลายบริษัทที่แสดงท่าทีไม่พอใจ
แต่ว่า ไม่มีใครกล้าว่าบริษัทชื่อดังนี้ เพราะโครงการนี้มีความสำคัญอย่างมาก ทุกคนก็อยากทำงานร่วมกับบริษัทชื่อดังเพื่อหาผลกำไร ดังนั้นจึงต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่เต็มใจ
ถึงแม้เฉินจวิ้นเซิงไม่กล้าพูด แต่ในใจเขารู้สึกไม่พอใจ และได้พูดเบาๆต่อเย่ฉู่เช่นว่า:”ประธานโจวอะไร ยังจะมาเล่นอะไรอีก หลิงอวี้ไว้ใจได้เลย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มา โค้วต้าการร่วมมือครั้งนี้ ต้องเป็นของพวกเราจวิ้นฟาแน่นอน”
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved