บทที่ 003 เคราะห์ซ้ำกรรมซ้อน

เย่เสวี่ยจู๋เดินไปที่โต๊ะทำงานของเขา แล้วเอื้อมมือหยิบร่างการออกแบบออกมาแล้วค่อยๆวางลง และกล่าวด้วยน้ำเสียงอย่างเป็นทางการว่า: "ประธานเฉินคะ นี่เป็นร่างการออกแบบระยะแรกของโครงการ Rose Garden ค่ะ"

"วางไว้ ออกไปได้" เฉินซิงเหย้าออกคำสั่งเพียงสั้นๆ

หลังจากได้ยินคำสั่ง เย่เสวี่ยจู๋ก็ไม่ได้ออกไปในทันที แต่ยังควยืนนิ่งอยู่ที่เดิมและกุมมืออย่างกังวล

“มีเรื่องอะไรอีกไหม?” น้ำเสียงของชายคนนั้นเย็นชาและแข็งกร้าว

เย่เสวี่ยจู๋กลืนน้ำลายและพูดว่า "ประธานเฉิน มีเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากจะรบกวน วันนี้ฉันต้องจ่ายค่าเช่าบ้านแล้วแต่ฉันไม่มีเงินในตอนนี้ คุณให้ฉันยืมเงินก่อนได้ไหม ฉันจะจ่ายคืนทันทีที่ได้เงินเดือน”

"คุณขาดเงินมากเหรอ"เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น ก็เงยหน้าขึ้น จ้องมองไปที่ใบหน้าของเธอและหัวเราะอย่างเยาะเย้ย "คุณขาดเงินหรือต้องการให้ฉันมีอะไรกับคุณ เมื่อคืนยังไม่พออีกเหรอ?”

เย่เสวี่ยจู๋กำมือแน่น และถอยหลังไปหนึ่งก้าว ถ้ารู้ว่าเขาจะทำให้เธอขายหน้าในสถานการณ์เช่นนี้ ถึงเจ้าของบ้านจะไล่ออก เธอก็จะไม่มีทางขอให้เขาช่วยเหลือ!

เมื่อเห็นเธอหน้าแดง เฉินซิงเหย้าก็ลดคิ้วลง สายตาของเขามองไปที่อื่นและพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม: "คืนนี้ฉันมีงานเลี้ยง คืนวันพรุ่งนี้มาหาฉันละกัน"

เย่เสวี่ยจู๋ดื้ไม่ตอบสนองเขา หันกลับไปผลักประตูและวิ่งออกจากห้องทำงาน เธอกลับไปที่ห้องทำงานด้วยความลำบากใจ

ในตอนเย็นขณะที่เลิกงาน เย่เสวี่ยจู๋ยังไม่สามารถยืมเงินจากใครได้

ตั้งแต่ออกมาจากห้องทำงานของเฉินซิงเหย้า เธอรู้สึกว่าเพื่อนร่วมงานทุกคนที่อยู่รอบตัวเธอ มองเธอด้วยท่าทางแปลกๆ เธอกระสับกระส่ายอึดอัดและทรมานใจ

หลังจากเลิกงาน เย่เสวี่ยจู๋ก็เดินตรงไปที่โรงพยาบาลที่แม่ของเขาอยู่

แม่ของเธอมีอาากรสมองเป็นอัมพาตเมื่อสามปีก่อน และอยู่ในโรงพยาบาลตลอด พ่อของเธอเกลียดแค้นภรรยาเพราะการตายของพี่สาวเย่เสวี่ยจู๋ หลังจากที่แม่ของเย่เสวี่ยจู๋ล้มป่วย เขาก็ไม่เคยจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเลยแม้แต่น้อย ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดล้วนมากจากการที่เธอคุกเข่าวิงวอนเฉินซิงเหย้า

เย่เสวี่ยจู๋ออกจากโรงพยาบาลตอนสองทุ่ม แม่ของเธอยังคงไม่ได้สติ และรับรู้ไม่ได้ถึงการมาหาของเธอ

หลังจากเดินไปได้สักพัก เย่เสวี่ยจู๋ก็เปิดโทรศัพท์มือถือ และพบว่าแม้แต่โทรศัพท์มือถือก็หยุดทำงานเนื่องจากค้างค่าโทรศัพท์ ไม่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณหรือโทรออกได้

มันช่างเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนจริงๆ

เธอเดินไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย อยู่ดีๆก็เดินมาที่ที่เธอเคยเรียนสมัยก่อนอย่างไม่รู้ตัว เธอยืนอยู่หน้าร้านบะหมี่ มองดูหม้อเกี๋ยวเตี๋ยวที่เดือดพล่านจนไอร้อนลอยออกมา เธอกลืนน้ำลายด้วยความหิวโหย

เย่เสวี่ยจู๋เดินเข้าไปในร้านบะหมี่ และสั่งบะหมี่เกี๊ยวหนึ่งชาม บะหมี่ร้อนอร่อยถูกเสิร์ฟโดยเจ้าของอย่างรวดเร็ว คำแรกที่กินเข้าไป เธอสัมผัสถึงรสชาติความอร่อยและก้มกินอย่าไม่รอช้า

หลังจากกินเสร็จ เธอชำระเงินโดยใช้โทรศัพท์มือถือเชื่อมต่อกับ WIFI ในร้าน และใช้วิธีการแย่งอั่งเปาใน WeChat ถึงจะจ่ายเงินค่าบะหมี่ได้

หลังจากกินอิ่มแล้ว ขณะที่กำลังเดินออกจากร้านบะหมี่ มีเสียงต่ำที่คุ้นเคยเรียกเธอว่า "ใช่ เสวี่ยจู๋ ไหม?"

เย่เสวี่ยจู๋หันกลับไป และพบว่าเป็นเพื่อนเก่าสมัยเรียนหลู่เฉิน

หลู่เฉินสวมชุดสูททางการ ดูก็รู้ว่าเขาเพิ่งเลิกงาน

เขาเห็นเย่เสวี่ยจู๋ยังรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ดวงตาของเขาสดใส: "เสวี่ยจู๋ ฉันไม่คิดเยว่าจะเป็นคุณ"

เย่เสวี่ยจู๋ยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร เธอจำได้ว่าตอนที่เขาเรียนอยู่ที่โรงเรียน หลู่เฉินมีพื้นฐานครอบครัวที่ดี มีเพื่อนร่วมชั้นมากมายอยู่รอบตัวเขา แต่เขามักจะพูดน้อย เย่เสวี่ยจู่พบเขาที่ห้องเรียนในบางครั้ง และเขาก็ยังเป็นคนเงียบๆ เธอไม่ได้คุยกับเขาเลย นับประสาอะไรกับการพูดคุยแลกเปลี่ยน เนื่องจากไม่เคยได้คุยกันลึกซึ้ง หลังจากเรียนจบทั้งสองจึงไม่ได้ติดต่อกันอีกและไม่ได้เพิ่มอีกฝ่ายในแอพโซเชียล

ไม่ง่ายเลยที่จะพบเพื่อนเก่า ทั้งสองนั่งอยู่ในร้านบะหมี่และคุยกันสักพัก หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างถามสถานะการทำงานในปัจจุบันของกันและกัน หลู่เฉินก็อยากเพิ่มเย่เสวี่ยจู๋เป็นเพื่อนในวีแชท เย่เสวี่ยจู๋ตกลง

ขณะที่จะกลับ หลู่เฉินยืนยันที่จะไปส่งเย่เสวี่ยจู๋กลับบ้าน ตอนแรกเย่เสวี่ยจู๋พยายามหลีกเลี่ยง แต่หลังจากนั้นเธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ ทำได้แค่ขึ้นรถไปกับเขา

รถของหลู่เฉินจอดอยู่ใกล้ๆ เขาขับ Volkswagen CC เย่เสวี่ยจู๋ขึ้นรถ หลู่เฉินไปส่งเธอที่บ้าน ตามสถานที่ที่เธอบอก

เย่เสวี่ยจู๋ขอให้หลู่เฉินจอดรถที่ปากซอยบ้านเช่า หลังจากบอกลากัน เธอก็เดินเข้าไปในซอยด้วยตัวเอง

ทันทีที่เธอถึงบ้านเช่า เธอก็ได้ยินเสียงอันเกรี้ยวกราดของเจ้าของบ้าน: "คุณเย่ วันนี้คุณน่าจะมีเงินจ่ายค่าเช่าบ้านให้ฉันนะ"

เย่เสวี่ยจู๋ไม่มีเงินติดตัวมา แต่เดิมเธอคิดว่าเมื่อเธอกลับมาภรรยาของเจ้าของบ้านน่าจะออกไปเดินเล่น ไม่คิดว่าเธอกำลังนั่งรออยู่ที่สนามหญ้า!

"ภรรยาของเจ้าของบ้าน คืออย่างงี้ วันนี้ฉันทำงานเกินเวลา จึงไม่มีเวลาไปถอนเงินจากธนาคาร"

"ใช่เหรอ" เจ้าของบ้านเยาะเย้ย "ถ้าอย่างนั้น คุณก็ไปกดตอนนี้เลย ถ้าคุณคิดว่ามันลำบาก ฉันจะไปกดเงินเป็นเพื่อนคุณ! ถ้ากดไม่ออก วันนี้คุณก็ย้ายออกไปจากที่นี่ซะ! "

ภรรยาของเจ้าของบ้านพูดเสียงดังอย่างรุนแรง ทำให้เพื่อนบ้านทั้งซ้ายและขวาตื่นตระหนก แม้แต่ผู้อยู่อาศัยชั้นบนก็เปิดหน้าต่างและก้มหัวมองลงมา

เย่เสวี่ยจู๋ไม่รู้จะทำเช่นไร ใจของเธอทรมานมาก เธอไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรกับคำโกหกนี้

ณ เวลานี้ ทันใดก็มีเสียงต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง "เสวี่ยจู๋เธอทำโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์หล่นบนรถของฉัน"

ทันทีที่เย่เสวี่ยจู๋หันหน้าไป เขาก็เห็นหลู่เฉินเดินเข้ามาจากข้างนอกโดยมีโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ แต่ไม่มีกระเป๋าสตางค์

หลังจากที่หลู่เฉินเดินเข้าไปในสนามหญ้า เขาก็ยื่นโทรศัพท์ให้เย่เสวี่ยจู๋ และตบไหล่เธอ จากนั้นเดินไปหาภรรยาของเจ้าของบ้าน พร้อมกับหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วพูดว่า "กระเป๋าสตางค์ของเธออยู่กับฉัน เธอเป็นหนี้คุณเท่าไหร่ "

ภรรยาของเจ้าของบ้านบอกจำนวนค่าเช่าบ้านที่ค้าง และหลู่เฉินก็ควักเงินหยวนสิบใบออกจากกระเป๋าสตางค์ อีกทั้งยังจ่ายค่าเช่าในเดือนหน้าให้เธออีก

เจ้าของบ้านได้เงินและจากไปด้วยความพึงพอใจ

เย่เสวี่ยจู๋ยืนอยู่ที่เดิม เธอมองไปที่หลู่เฉินที่ดูเหมือนเป็นผู้ช่วยชีวิตและกล่าวขอบคุณอย่างซาบซึ้ง

"หลู่เฉินขอบคุณนะ ฉันจะคืนเงินคุณโดยเร็วที่สุด"

หลู่เฉินเพียงแค่ยิ้ม และไม่พูดอะไร ก่อนที่จะจากไป เขายัดเงินจำนวนหนึ่งใส่มือของเย่เสวี่ยจู๋ "ใครๆก็มีความเดือดร้อนทัั้งนั้น คุณเก็บไว้ใช้ก่อน”

เย่เสวี่ยจู๋ลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่หลู่เฉินไม่ให้โอกาสเธอได้ปฏิเสธ หลังจากยัดเงินใส่มือเธอแล้ว เขาก็จากไปทันที

เย่เสวี่ยจู๋เฝ้าดูหลู่เฉินที่เดินจากไป และความรู้สึกขอบคุณที่มีต่อเขานั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น ความช่วยเหลือของหลู่เฉินนั้นไม่ได้มีความรู้สึกสงสารเลย ทำให้เธอรู้สึกว่าเธอยังคงมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อยู่เล็กน้อย เธอกล่าวขอบคุณหลู่เฉินเงียบๆในใจ

ในตอนกลางคืนเย่เสวี่ยจู๋นอนหลับฝันดี ในที่สุดเธอก็จะไม่ได้ฝันว่าภรรยาเจ้าของบ้านตามทวงหนี้อีกแล้ว และเธอก็ไม่ฝันว่ากระเป๋าเดินทางของเธอจะถูกภรรยาของเจ้าของบ้านโยนทิ้งอีก

เธอฝันหวานแต่ความฝันนี้อยู่ได้ไม่นาน

เมื่อเธอหลับไปซักพักทันใดนั้น เย่เสวี่ยจู๋ก็ได้ยินเสียงกระแทกประตูอย่างรุนแรง เสียงเคาะประตูดังมาก

จากนั้นก็มีเสียงคำสั่งของผู้ชายที่ทำให้เธอสั่นสะท้านไปทั้งตัว "เย่เสวี่ยจู๋! เปิดประตู!"

แท้จริงแล้วคือเฉินซิงเหย้า!

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

135