บทที่12 ใคร ๆ ต่างก็ชมภรรยาเก่า

หนานหยานั้นโดนหนานซ่งยั่วจนโมโหจริง ๆ แล้ว เธอยกมือขึ้นสูง เล็งเอาไว้แล้วว่าแจกันใบนี้จะต้องปาไปโดนท้ายทอยของหนานซ่ง

แต่การกระทำของหนานซ่งนั้นเร็วกว่าที่คิดไว้ ในตอนที่แจกันกำลังจะโดนท้ายทอยของหนานซ่ง หนานซ่งก็เบี่ยงหัวหลบได้ราวกับว่ามีตาหลัง แล้วก็ยกมือขึ้นมาจับแจกันใบนั้นที่หนานหยาปามาได้อย่างแม่นยำ

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแจกันใบนั้นไปอยู่ในมือของหนานซ่งได้ยังไง แต่จากนั้นหนานหยาก็โดนฝ่ามืออรหันต์ตบหน้าจนลงไปนั่งอยู่กับพื้น โดยที่เธอยังไม่ทันจะได้หลบด้วยซ้ำ ทำเอาเธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด "โอ๊ย-"

ดวงตาของเธอมีแววตาวาววับ หน้าฝั่งหนึ่งของเธอยังรู้สึกปวดแสบ แม้ผ่านไปพักใหญ่เธอก็ยังนั่งอยู่บนพื้นเหมือนเดิม

"ไม่มีศักยภาพ ยังกล้ามาสู้"

หนานซ่งมีท่าทีเย็นชา เธอปาแจกันในมือลงบนพื้น เสียง "เพล้ง" ดังขึ้น เศษแจกันกระเด็นไปทุกทิศทาง ทำเอาหนานหยาตกใจกลัวจนต้องยกมือขึ้นมาปิดหูแล้วกรีดร้องเสียงดัง ทั้งยังขดตัวเข้าหากันเพื่อหลบเศษแก้ว

หนานซ่งค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ ๆ เธอ พอเธอก้าวเข้าไปใกล้หนึ่งก้าว หนานหยาก็ขยับถอยหลังไปหนึ่งก้าว จนกระทั่งเธอนั้นถูกต้อนเข้ามุม เธอก็มองหนานซ่งด้วยสายตาเกรงกลัว "แกอย่าเข้ามานะ......"

"เมื่อกี้ไม่ได้จะลอบทำร้ายฉันหรือยังไง? แค่นี้ก็กลัวแล้วเหรอ?"

หนานซ่งยื่นมือออกไป หนานหยานึกว่าเธอกำลังจะตบตัวเองอีกครั้ง เลยหลับตาลงด้วยความกลัว แต่หนานซ่งก็แค่ยื่นมือออกไปจัดผมที่ยุ่งของเธอเฉย ๆ

"เธอเองก็เคยเป็นน้องสาวที่ฉันรัก ถึงแม้ว่าจะเป็นญาติกัน แต่ฉันว่าฉันเองก็ไม่เคยทำอะไรไม่ดีต่อเธอ ฉันถามหน่อยสิ ทำไมเธอถึงเกลียดฉันนัก ถึงขนาดที่ต้องร่วมมือกับฉินเจียงหยวนพยายามฆ่าฉันให้ตาย?"

ในตอนนี้หนานหยาถึงได้ลืมตาขึ้นมา แล้วเงยหน้าขึ้นมามองเธอ พอได้สบตากับสายตาที่มีแต่คำถามของหนานซ่ง เธอก็หลุดหัวเราะออกมา "แกไม่รู้หรือไง?"

หนานซ่งมองเธอเงียบ ๆ เธอรู้ว่าโลกใบนี้ไม่มีใครเกลียดกันโดยไม่มีเหตุผลหรอก ดังนั้นเธอก็เลยมาถามให้รู้แจ้งกันไปเลย

หนานหยาเชิดหน้า มองใบหน้าที่ถึงแม้ว่าจะอยู่ในเงาแต่ก็ยังสวยจนคนมองใจสั่นของหนานซ่ง ความรู้สึกอิจฉาทำเอาเธอนั้นแทบจะกระอัก ความรู้สึกที่ถูกเก็บเอาไว้มานานหลายปีถ้าไม่ได้พูดออกมาคงต้องอึดอัดตายแน่

"แก ฉัน แล้วก็หนานหลิน พวกเราสามคนเป็นญาติพี่น้องกัน แต่ว่าสถานที่ที่พวกเราโตมาต่างกันเหมือนฟ้ากับเหว คุณลุงเป็นประธานของบริษัทตระกูลหนาน คุณป้าคลอดลูกสาวแบบแกออกมา ตั้งแต่เด็กแกก็เป็นแก้วตาดวงใจของพวกท่านมาตลอด แกชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ ขออะไรก็ได้ตามที่ต้องการ แกไม่อยากไปโรงเรียน คุณลุงคุณป้าก็เปิดรับสมัครครูมาสอนแกถึงที่บ้าน ให้การศึกษาที่ดีที่สุดกับแก ถึงขนาดที่ว่าลงทุนซื้อสวนกุหลาบให้แก ทั้งเมืองหนานมีใครไม่รู้จักคุณหนูใหญ่ของตระกูลหนานบ้าง แล้วใครรู้จักฉันบ้างล่ะ? ฉัน ตั้งแต่เด็กพ่อแม่ก็หย่าขาดจากกัน พ่อฉันเป็นแค่ผู้จัดการตัวเล็ก ๆ ในบริษัทรัฐวิสาหกิจ เสื้อผ้าชุดใหม่ที่ฉันได้ทุกปีใหม่ก็เป็นชุดที่แกไม่เอาแล้ว ถึงได้ให้ฉัน......."

หนานหยาพูดไป ๆ ก็เริ่มร้องไห้ออกมา "พวกเราทุกคนเป็นลูกสาวของตระกูลหนาน แต่ทำไมแกถึงได้มีสิทธิ์กินหรูอยู่สบาย แต่ฉันกลับอยู่อย่างลำบาก?"

หนานซ่งฟังมาตั้งนาน แต่ก็ยังไม่ได้ใจความอะไร เธอขมวดคิ้ว "นี่เป็นความผิดของฉันงั้นเหรอ?"

ที่แท้ความรักของเธอ ในสายตาของคนในครอบครัวมันเป็นเพียงแค่การกุศล

"ความผิดที่มากที่สุดของเธอก็คือ เธอไม่ควรจะปฏิเสธฉินเจียงหยวน!"

พอหนานหยาปาดน้ำตาเรียบร้อยแล้ว ริมฝีปากของเธอก็ผุดรอยยิ้มได้ใจขึ้นมา "แกไม่คิดว่าเขาจะดีกับฉันใช่ไหมล่ะ? ใครใช้ให้แกปฏิเสธเขาล่ะ พี่เจียงหยวนเป็นผู้สืบทอดคนต่อไปของตระกูลฉิน ผู้หญิงสวย ๆ ตั้งมากอยากจะแต่งกับเขา มีแค่แกเท่านั้นแหละหนานซ่งที่ไม่ดูตาม้าตาเรือปฏิเสธเขาได้! แกไม่รู้ล่ะสิ ฉันกับพี่เจียงหยวนกำลังจะแต่งงานกันแล้ว นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปฉันจะเป็นคุณนายน้อยของตระกูลฉิน ตอนนี้บริษัทตระกูลฉินดีกว่าบริษัทตระกูลหนานเป็นไหน ๆ !"

"ที่แท้ก็ไม่มีสาระอะไรเลย สีซอให้ควายฟังแท้ ๆ "

คำถามของหนานซ่งไม่มีคำตอบ เธอเลยได้แต่ส่ายหน้า

แต่เธอก็แค่ลองถามดู

หนานซ่งหลุบตามองหนานหยา "ก็แค่หนูท่อตัวหนึ่งเธอยังยินดีขนาดนี้ ต่อไปถ้าได้แต่งแล้วย้ายไปอยู่ตระกูลฉิน ต่อไปก็เรียกตัวเองว่าคุณนายฉินนะ อย่าบอกว่าตัวเองนั้นเป็นลูกสาวตระกูลหนานอีก ฉันไม่อยากขายหน้าไปด้วย"

......

ที่ห้องทำงานในคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลยวี่ บทสนทนาระหว่างตาหลานกำลังอยู่ในจุดเดือด

"ถ้าเกิดว่าแกยังยืนยันจะแต่งงานกับโจ๋เซวียน อย่างนั้นแกก็ไปขอเธอเลย แต่ว่าตอนที่แกจัดงานแต่งไม่ต้องมาเชิญฉันไป! ฉันไม่ไป!"

นายท่านยวี่สะบัดแขนเสื้อแล้วก็เดินออกไป

"ไอ้หยา อะไรกันเนี่ย?"

นายหญิงยวี่กำลังนั่งคุยกับลูกสะใภ้ที่ศาลาในสวน ระหว่างที่คุยก็ได้ยินเสียงดังจากห้องทำงาน จากนั้นก็แค่เห็นว่าผู้เป็นสามีเดินเอามือไพล่หลังออกมา จึงรีบเข้าไปช่วยพูดให้เขาใจเย็น "มีอะไรก็พูดกันดี ๆ "

นายท่านยวี่เป็นคนที่มีอารมณ์ร้อน จึงเขม็งตาแล้วก็พูดขึ้นว่า: "ฉันจะไม่โกรธได้ยังไง หลานสะใภ้ดีขนาดนั้น ไม่เอา จะเอาผู้หญิงที่ไม่ได้เรื่อง คุณว่ามันเป็นบ้าไปแล้วหรือยัง? มันบ้า!"

นายหญิงยวี่เห็นสามีเดินออกไปทั้ง ๆ ที่ยังโกรธจัดแบบนั้น ก็ถอนหายใจออกมาอย่างหมดหนทาง ยวี่จิ้นเหวินเองก็เดินออกมาจากห้องทำงานเหมือนกัน พอสบตากับผู้ใหญ่ ก็ทักทายด้วยเสียงเบา "คุณยาย"

"เพื่อผู้หญิงคนเดียว ทะเลาะกันใหญ่โตขนาดนี้ มันคุ้มหรือเปล่า?"

หญิงชราถอนหายใจออกมา "คนที่ลุ่มหลงในราคะย่อมพาหายนะมาสู่ชีวิตได้โดยง่ายนะ ในตอนนั้นพ่อของหลานทำกับแม่ยังไง หลานเองก็คงจะจำได้ดีว่าหลายปีมานี้แม่หลานมีชีวิตยังไง ยังไงก็ไม่ควรจะไปยุ่งกับลูกสาวตระกูลโจ๋นะ"

ยวี่จิ้นเหวินเม้มริมฝีปาก ในดวงตาของเขามีแววดื้อรั้นไม่ท้อถอย "ตระกูลโจ๋ก็ส่วนตระกูลโจ๋ โจ๋เซวียนก็ส่วนโจ๋เซวียน ไม่เหมือนกัน"

"ไม่เหมือนกันเหรอ? ยายว่าไม่มีอะไรเลยที่ต่างกัน"

ริมฝีปากขายนายหญิงยวี่เผยรอยยิ้มสมเพชออกมา รู้ว่าหลานชายของตนกำลังหลงสตรีจนหน้ามืดตามัว ก็เลยไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่ถามออกมา "ได้ยินมาว่าหนูซ่งเขาไปแล้ว แถมยังไม่ขออะไรติดไปด้วยอย่างนั้นเหรอ เธอไปไหนล่ะ รู้หรือเปล่า?"

ยวี่จิ้นเหวินส่ายหน้า "ยังตามสืบอยู่ครับ"

"เฮ้อ ผู้หญิงที่ดีขนาดนี้ เสียดายจริง ๆ " หญิงชราหยิบพัดขึ้นมาตีบนตัวของตัวเองเบา ๆ "หลานนี่ไม่มีโชคเลยนะเนี่ย"

ยวี่จิ้นเหวินขมวดคิ้ว ทุกคนมัวแต่พูดเรื่องดี ๆ ของลู่หนานซ่ง แต่กลับทำให้ในใจของเขารู้สึกแย่ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

ปกติผู้หญิงคนนั้นมักจะอยู่เงียบ ๆ แล้วเธอเอาเวลาไหนมาซื้อใจคนอื่นกัน?

"ประธานยวี่ เกิดเรื่องแล้วครับ"

เหอจ้าวรีบเข้ามาขัดความคิดของยวี่จิ้นเหวิน แล้วรายงานว่า: "คุณหญิงไปหาคุณหนูโจ๋ครับ แถมยัง......ตบคุณหนูโจ๋ด้วยครับ"

แววตาของยวี่จิ้นเหวินเปลี่ยนเป็นมืดดำ จากนั้นก็รีบเดินออกไปทางด้านนอกโดยเร็ว

*

ตอนนี้โจ๋เซวียนอยู่ในบ้านที่ยวี่จิ้นเหวินเป็นคนจัดหามาให้เธอ บ้านกว้างหนึ่งร้อยยี่สิบตารางเมตร สามห้องนอน อยู่คนเดียวได้สบาย ๆ แต่โจ๋เซวียนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ยังไงเธอก็ชอบคฤหาสน์ยวี่มากกว่า

เธอกำลังรอให้ตัวเองนั้นได้เข้าไปอยู่ที่นั่น วันไหนที่เธอได้เป็นคุณหญิงแล้วจริง ๆ เธอก็สามารถที่เดินเชิดหน้าได้อย่างมั่นใจ

เธอใช้เครื่องทำกาแฟเครื่องใหม่ที่เพิ่งซื้อมาชงกาแฟ โจ๋เซวียนนั่งลงบนโซฟาด้วยท่วงท่าที่สง่างาม เปิดโทรศัพท์ วันนี้เธอหลับไปตลอดทั้งบ่าย บทความนั้นที่เธอเป็นคนโพสต์ไปตอนนี้คงจะถูกพูดถึงไปทั่วแล้ว

มันเป็นเรื่องค้นหายอดฮิต แต่กลับไม่มีข่าวเกี่ยวกับตัวเธอแล้วก็ยวี่จิ้นเหวินเลยแม้แต่น้อย โจ๋เซวียนไม่นิ่งนอนใจ เธอเลื่อนลงไปข้างล่างเรื่อย ๆ ไม่หยุด เธอรู้ว่าเรื่องมันผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว ก็คงจะซาลงไปบ้าง แต่ก็คงไม่ถึงขนาดที่ว่าจะไม่มีเลยแน่ ๆ

พอไปดูที่เพจหลักของบริษัทยวี่กรุ๊ป บทความที่เธอเป็นคนลงมือเขียนเองกับมือบทนั้นก็หายไปแล้ว มีแต่หนังสืออธิบายว่าแอคเค้าท์ของบริษัทโดนแฮ็กไปเท่านั้น

ทำไมแค่หลับไปแป๊บเดียว เรื่องราวก็กลับตาลปัตรไปแบบนี้ล่ะ?

โจ๋เซวียนกำลังงุนงง เธอโทร.หานักข่าวที่ตัวเองสนิทด้วย พออีกฝ่ายรับส่ายก็เริ่มโอดครวญไม่หยุด "ฉันว่านะ ต่อไปเรื่องโกหกแบบนี้ไม่ต้องเอามาให้ทางเราแล้วล่ะ คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณสร้างปัญหาให้กับพวกเรามากแค่ไหน? คุณอยากจะแต่งงานกับพวกคนรวยจนบ้าไปแล้วหรือไง ฉันเองก็คงจะบ้าไปแล้วเหมือนกันถึงได้เชื่อคุณ ฉันโดนด่ามาทั้งวันแล้ว บัญชีก็โดนบล็อกไปแล้ว ฉันโมโหสุด ๆ แล้วเนี่ย......เงินฉันก็รับมาแล้ว ต่อไปใครเชื่อคุณคนนั้นก็คงเป็นไอ้โง่!"

นี่นับว่าเป็นการพูดอย่างให้เกียรติกันแล้ว สายหลัง ๆ ที่โทร.ไปถ้าไม่ด่าเธออย่างเสีย ๆ หาย ๆ ก็บล็อกเบอร์ของเธอไปเลย

โจ๋เซวียนขมวดคิ้วแน่น เธอเริ่มวิตก นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?

เธอพยายามใจเย็น ในตอนที่กำลังจะโทร.หายวี่จิ้นเหวิน เธอก็พบว่ามีคนเข็นผู้หญิงที่นั่งอยู่บนวีลแชร์เข้ามา

โจ๋เซวียนตกใจ เธอรีบลุกขึ้นยืนในทันที "ค... คุณป้ายวี่"

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

1