ตอนที่ 426 ฤดูหนาว

by ปลามังกร 08:01,Mar 31,2021
เดิมทีคิดว่าหลังจากฝนตกเมื่อวานตอนกลางคืนอุณหภูมิจะลดลงอย่างน่ามหัศจรรย์และคาดไม่ถึงว่าสิ่งนั้นจะทำให้ผมกับไป๋เหว่ยตะลึงกับความรักที่เกิดขึ้น

พวกเราหลับไปได้ไม่นานผมก็ฝันร้ายขึ้นมา

มีหิมะสีขาวอยู่รอบๆต้นไม้ใหญ่ทั้งหมดแข็งเป็นสลักน้ำแข็งและผมเดินลึกเข้าไปในหิมะผมแค่สูดความร้อนที่มือและในวินาทีต่อมาทั้งหมดก็กลายเป็นน้ำแข็ง

ผมตื่นขึ้นมาจากความหนาวเย็นในตอนเช้าและเมื่อลืมตาขึ้นมาก็มองเห็นเต็นท์บ้าใบที่ผมกางด้วยตัวเองมีลมพัดผ่านไปมาตลอดเวลาโชคดีตรงที่เรากางเต็นท์ไม่มีช่องให้เราเข้ามาเราจึงมีชีวิตรอดมาถึงตอนนี้ได้

"ทำไมจู่ๆมันถึงได้เย็นลงขนาดนี้?"

ผมเดินไปที่กองไฟแต่เห็นว่ากองไฟได้ดับไปแล้วและถ่านที่อยู่บนนั้นเกือบจะเป็นน้ำแข็งไปจนหมดผมมองไปที่พื้นโชคดีเนื่องจากการเผาไหม้ของไฟเมื่อคืนมันเริ่มจากถ้ำด้านในสุดพื้นดินที่แห้งมากอาจจะทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงได้ดีที่มีน้ำแข็งทำให้หยุดเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนั้นได้

ผมเดินไปที่ทางเข้าของถ้ำมีก้อนหินและต้นหญ้าอ่อนเต็มไปหมดข้างๆถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและเมื่อฉันมองลงไปผนังภูเขาบางส่วนที่อยู่เหนือผิวน้ำทะเลก็มีเกล็ดน้ำแข็งละเอียดๆปกคลุมไปทั่ว

ไป๋เหว่ยเองก็ตื่นมาตั้งนานแล้วเธอแปลกใจกับทิวทัศน์ที่เธอเห็นเธอจึงถามออกมาว่า"ฟางหยางหรือว่าอากาศที่เกาะแห่งนี้จะแตกต่างไปจากที่อื่น?"

ผมพยักหน้า"มีแต่จะเข้าใจแบบนั้นเท่านั้นถึงจะมีความเป็นไปได้"

ผมมองไปที่เนื้อปลาที่แขวนอยู่กับผนังถ้ำเนื้อปลาที่เหลือนี้ยังเพียงพอสำหรับการมีชีวิตอยู่ของพวกเราในสองวันแต่น้ำจืดเหลือเพียงขวดเดียวคงไม่เพียงพอต่อการใช้ในสองวันดังนั้นพวกเราจะต้องหาแหล่งน้ำให้ได้ไม่อย่างนั้นเราคงจะต้องตายกันในที่สุด

ผมพูดออกไปว่า"ไป๋เหว่ยคุณรออยู่ที่นี่ก่อนนะเดี๋ยวผมไปหาฝืนก่อน"

เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ผมก็ไม่ค่อยสบายใจแต่ก็ไม่มีวิธีที่ดีไปกว่าที่ผมจะออกไปสำรวจเพื่อหาทางรอดผมจึงยื่นมืดปลอกผลไม้ให้ไป๋เหว่ยเมื่อไป๋เหว่ยเห็นแบบนั้นเธอเองก็เข้าใจ

ผมหยิบฝืนที่หามาเมื่อวานจากพื้นติดตัวไปเป็นอาวุธจากนั้นก็เก็บไม้ชิ้นเล็กมารวมกันและก่อกองไฟเพื่อทำให้อุณหภูมิในถ้ำอบอุ่นตลอดเวลาและยังต้องคำนึงถึงออกซิเจนที่มีอยู่ในอากาศเพื่อทำให้ไป๋เหว่ยหายใจได้อย่างสะดวก

"ถ้าคุณหิวก็ทานปลาที่เหลือได้เลยนะเดี๋ยวขากลับผมจะเอาผลไม้มาให้อีก"

ผมลูบไปที่หัวของไป๋เหว่ยไป๋เหว่ยยิ้มหวานออกมาให้ผม"ฟางหยางออกไปก็ระวังตัวให้มากๆนะ"

หัวใจของผมสั่นไหวในเวลานี้ไป๋เหว่ยดูเหมือนคู่รักที่เพิ่งแต่งงานกันและความไม่เต็มใจของเธอทำให้ผมอยากกอดเธอไว้ในอ้อมแขนและทรมานเธออย่างรุนแรง

ผมปีนออกมาจากถ้ำถึงเห็นทิวทัศน์โดยรอบอย่างชัดเจนเมื่อลมหนาวพัดมาฉันก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

"ด้านนอกนี้อยู่ได้ไม่นาน"

ผมมัดเสื้อผ้าที่ขาดๆให้แน่นขึ้นอีกหน่อยจากนั้นก็มองไปรอบๆเนื่องจากเมื่อวานนี้ผมสำรวจบริเวณนี้ไปบ้างแล้วจึงรู้สึกคุ้นเคยกับมันบ้างไม่นานผมก็หาฝืนและหญ้าแห้งๆได้มากมาย

ผมไม่มีเวลาคิดว่าทำไมหญ้าแห้งๆเหล่านี้ถึงยังคงอยู่ได้ในวันที่อากาศหนาวเย็นเช่นนี้ผมจึงกวาดมันเข้ามาฟืนทั้งหมดที่อยู่ในสายตาของผมถูกนำเข้าไปในถ้ำ

ไป๋เหว่ยที่เห็นผมถือกิ่งไม้ใบหญ้ากลับเข้ามามากมายจึงถามผมออกมาด้วยความตกใจว่า"ฟางหยางนายจะเอาของพวกนี้กลับมาทำไม?"

ผมได้แต่ยิ้มโดยไม่พูดอะไรหยิบไม่ท่อนที่มีขนาดใหญ่กว่าท่อนอื่นๆออกมาสองสามท่อนจากนั้นก็วางหญ้าและใบไม้ลงไปด้านบนมองดูแล้วมันก็เหมือนกับเตียงที่เราเคยเห็นกันตามทั่วไป

ไม่ทั้งหมดถูกนำมายึดติดกันด้วยเถาวัลย์จึงทำให้คุณสามารถนอนลงไปได้อย่างสบายๆ

จากนั้นไม่นานผมก็ทำมันจนเสร็จผมยิ้มและพูดออกมาว่า"จากนี้ต่อไปก็ไม่หนาวแล้วและพวกเราก็ยังเหลือเชื้อเพลิงอีกตั้งเยอะจากนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าเชื้อเพลิงจะหมด"

ไป๋เหว่ยรู้สึกตกใจชมผมออกมาโดยไม่ลังเล"ฟางหยางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าคนอย่างนายจะมีความสามารถแบบนี้ด้วย"

ผมมองเข้าไปในถ้ำจากนั้นก็หาก้อนหินออกมาสองสามก้อนล้อมรอบขอบเตียงไว้เพื่อไม่ให้ไม้ของขอบเตียงทรุดตัว

หลังจากที่จัดการกับของในถ้ำเรียบร้อยผมมองไปที่เตียงที่ผมสร้างขึ้นมาและก็อดดีใจไม่ได้แต่เดิมผมก็มีความสามารถแบบแต่สิ่งที่สำคัญก็คือที่ตั้งของถ้ำแห่งนี้นั้นดีมากนอกจากคุณจะมาจากทางทะเลหรือขึ้นมาอยู่ตรงหัวของพวกเราที่เหลือก็ไม่มีทางหาที่อยู่ของพวกเราเจอ

แน่นอนตอนนี้พวกเรายังมีปัญหาใหญ่อยู่อีกหนึ่งปัญหานั่นก็คือเรื่องเสบียง

อยากที่ทราบกันดีการมาของฤดูหนาวทำให้สัตว์หลายๆชนิดเข้าสู่ฤดูการจำศีลเพื่อลดปริมาณการบริโภคอาหารแน่นอนพวกมันรู้ว่าอาหารไม่ได้หามาได้ง่ายๆ

ดังนั้นผมจึงตัดสินใจเดินออกมาจากถ้ำเพื่อหาว่าแถวๆนี้มีของอะไรที่พอจะกินได้ไหมและผมก็ดีใจที่ไป๋เหว่ยยอมอยู่ในถ้ำนิ่งๆ

ถ้าเป็นคนธรรมดาก็ไม่มีทางหาพวกเราเจอเนื่องจากทางเข้าถ้ำเป็นหน้าผาสูงลมพัดรุนแรงคงไม่มีใครโง่ที่จะเข้ามาถูกน้ำแข็งแช่ตาย

ยิ่งเป็นสัตว์ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไม่มีทางแน่นอน

น่าจะเป็นเพราะระบบนิเวศของเกาะแห่งนี้ไม่นานผมก็มองไปเห็นต้นมะพร้าวแต่มะพร้าวเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เรามีชีวิตรอดได้จนตลอดฤดูหนาว

ด้วยสภาพอากาศในตอนนี้ถ้าเดินไปที่ชายหาดคงได้ตายแน่ๆถ้าผมไปที่นั่นผมอาจจะกลับไปที่ถ้ำอีกไม่ได้

ดังนั้นผมจึงเปลี่ยนความคิดและเดินเข้าไปในป่าหลังจากนั้นอาจเป็นเพราะสภาพอากาศจึงไม่มีสัตว์เล็กๆพวกกระตายนกไก่หรือสัตว์ตัวเล็กชนิดอื่นๆที่สามารถกินได้เมื่อผมเดินเข้ามาได้สักระยะก็ลังเลอยู่ว่าควรจะเดินเข้าไปต่อดีไหม

ผมพบร่องรอยของสัตว์ขนาดใหญ่จำนวนมากในบริเวณนี้เช่นรอยเท้าคล้ายกับเสือสิงโตช้างนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมไม่กล้าเข้าไปแต่เนื่องจากด้านนอกไม่เหลืออะไรอีกแล้วถ้าผมไม่เข้าไปตอนนี้โอกาสที่จะหิวตายคงเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที

ผมคิดไปคิดมาตอนนี้ผมกำลังขยายขอบเขตการหาอาหารงั้นสัตว์นักล่าประเภทต่างๆก็คงจะเหมือนกับผมการที่ผมเข้ามาในนี้คงไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากมาย

ผมคิดแบบนั้นหลังจากที่ผมสงบลงก็สูดหายใจเขาลึกๆมือขวาถือไม้ที่แหลมคมที่ได้จัดเตรียมเอาไว้จากนั้นก็ค่อยๆย่องและเดินเข้าไปอย่างช้าๆ

สิ่งที่ทำให้ผมตกใจก็คือหลังจากเดินเข้ามาได้ไม่นานผมก็เห็นหมูป่ากำลังปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าผม

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

482