บทที่ 15 บังเอิญพบในไป๋เฉาถัง!

เมื่อพูดถึงต้วนยวี่จะช่วยหลี่ชิงเอาคืนแก๊งหลงหู่ จุดประสงค์ของเขาแน่นอนว่าไม่ได้ง่ายๆ นอกเหนือจากการได้รับราชาโสมแห่งร้อยปีแล้ว อีกสิ่งหนึ่งคือจะสร้างพลังของตัวเอง

หลังจากที่ทำให้ตระกูลหวงและตระกูลหลิวขุ่นเคือง แม้กระทั่งหลังจากสังหารรุ่นพี่ของหวงเซี่ยวหู่นั้นแล้ว ความรู้สึกวิกฤตในใจของต้วนยวี่ก็รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามาอย่างบริสุทธิ์เขาไม่กลัว แต่เขากลัวการมาในแนวลึกลับ ก็ยากที่จะปกป้อง....ดังนั้นนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงคิดว่ามีพลังเป็นของตัวเอง

ด้วยวิธีนี้ไม่ว่าจะมาในแนวบริสุทธิ์หรือแนวลึกลับก็ไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป

ส่วนรุ่นพี่ของหวงเซี่ยวหู่ที่ถูกต้วนยวี่ฆ่า ศพของเขายังคงซ่อนอยู่ในท้ายรถอาวดี้นั้น โชคดีที่ในครอบครัวต้วน ไม่มีใครกล้าเคลื่อนย้ายรถของต้วนยวี่ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะถูกค้นพบ เมื่อมีโอกาสต้วนยวี่จะจัดการศพนี่เองตามธรรมชาติ

เมื่อแสงแดดส่องเข้ามาในสวนคฤหาสน์ ในวันรุ่งขึ้นทุกคนในคฤหาสน์ต้วนกรุ๊ปต่างก็ยุ่งกันเป็นเวลานาน แต่เมื่อทุกคนเห็นต้วนยวี่ที่ตื่นเช้ากว่าพวกเขาทุกคน แต่ละคนก็เบิกตากว้างและมองไปที่ฉากตรงหน้าด้วยความไม่เชื่อ

ในวันธรรมดาคุณชายใหญ่คนนี้ ซึ่งต้องนอนอาบสายๆของทุกวัน ซึ่งวันนี้ตื่นแต่เช้าและยังชกหมัดในสวน ยังไม่พูดถึงหลังจากการชกชุดนี้ พลังของคุณชายดูเหมือนจะพัฒนาขึ้นมาก....

เมื่อมองไปที่ดวงตาที่ตกตะลึงของคนรับใช้ ต้วนยวี่เพียงแค่ยิ้มและพยักหน้าให้พวกเขาอย่างกรุณา แต่รอยยิ้มที่เป็นมิตรนี้ได้รับการยกย่องจากทุกคนว่าเป็นสัญญาณของการบ้าคลั่งและทันใดนั้นหมู่คนก็กระจายกันไป

ต้วนยวี่ทำได้เพียงยิ้มอย่างจนใจ ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาแม้ว่าเขาจะทำตัวเป็นมิตรมาก แต่คนอื่นก็ยังไม่สามารถยอมรับได้ เนื่องจากการปรากฏตัวที่หยิ่งผยองในช่วงสิบปีก่อนหน้านี้ได้ฝังรากลึกในหมู่คนอื่นๆ!

ไม่สนใจคนรับใช้เหล่านี้ ต้วนยวี่จึงจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย หันหัวมองไปที่ต้วนเทียนและคนอื่นๆทั้งแปดคนที่นั่งยองๆ จากเดิมที่ยิ้มแย้มของเขากลายเป็นจริงจังทันที

อย่าประมาทชองท่านั่งยองๆนี้ นี้เป็นบทเรียนแรกที่ต้วนยวี่ฝึกพวกเขา ท่านั่งยองๆที่มั่นคงนี้ไม่เหมือนท่านั่งยองๆธรรมดาในปัจจุบัน แต่ใช้ในการฝึกซ้อมในท่อนล่างลำตัว คนมักกล่าวกันว่าผู้ที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้จะต้องมั่นคงในท่อนล่างของลำตัวและขั้นตอนท่านั่งยองๆนี้คือการฝึกความมั่นคงนี้ แน่นอนว่าในขณะเดียวกันยังสามารถฝึกความสม่ำเสมอของความแข็งแรงของเท้าได้อีกด้วย

และท่านั่งยองๆที่ต้วนยวี่เอาออกมา นั่นคือมันหายไปโดยพื้นฐานแล้ว ยังมีอีกประเด็นหนึ่งก็คือส่วนใหญ่มันสูญหายไปแล้ว ที่สามารถรักษาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ก็จะต้องเป็นตระกูลศิลปะการต่อสู้ มันเหมือนกับการออกกำลังกายเลียนแบบสัตว์ห้าชนิดนั้น มีหลายคนที่รู้จัก แต่มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถทำมันได้จริงๆ

ท่านั่งการนั่งยองๆของโบราณไม่ใช่นั่งง่ายๆ ต้วนเทียนและคนอื่นๆ ตั้งแต่เริ่มจนถึงตนอนี้นั่งยองๆเป็นเพียงเวลานานกว่ายี่สิบกว่านาที แต่หน้าผากนั้นเต็มไปด้วยเหงื่อ แม้แต่ร่างกายก็เริ่มสั่นเทานอกจากนี้ยังมีร่องรอยของการแสดงออกที่ทรมาน

จะเห็นได้ว่าการนั่งท่านั่งยองๆของโบราณนี้ เป็นการทรมานผู้คนแค่ไหน! ต้องรู้ว่า พวกเขาทุกคนนั้นคือผู้ที่ปลดออกจากกองทัพ.....

เมื่อมองไปที่การแสดงของเทียน ในใจต้วนยวี่ก็ยังคงพอใจมาก เนื่องจากคนสมัยใหม่ไม่ได้สัมผัสกับศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่เด็กและก็เริ่มใช้ศิลปะการต่อสู้ท่านั่งยองๆแบบโบราณนี้ สามารถทนได้นานกว่ายี่สิบกว่านาที เหงื่อถึงจะออก แค่นี้ต้วนยวี่ก็พอใจมากแล้ว

แต่ภายนอกก็ยังคฝดูจริงจัง "หึ พึ่งแค่ยี่สิบกว่านาที ก็ทนไม่ได้แล้วเหรอ? แลจะเรียนรู้สิ่งต่างๆต่อจากนี้อย่างไร?"

เขานี้คือกำลังขู่ใช้อำนาจ มีเพียงความประทับใจของต้วนเทียนที่อยู่ในใจพวกเขาที่ไม่สามรถลบออกได้ ถึงจะรับประกันได้ว่าคนเหล่านี้จะไม่ทรยศต่อตัวเองในอนาคต หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า.... ไม่กล้าทรยศตัวเอง!

พอต้วนยวี่กล่าว ต้มนเทียนและคนอื่นๆก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น พวกเขาที่เตรียมพร้อมที่จะอดทนต่อความยากลำบากนานมาแล้ว แต่คาดไม่ถึงนี้พึ่งจะเริ่ม ตัวเองก็เริ่มจะทนไม่ได้แล้ว ท่านั่งยองๆนี้ดูเหมือนเรียบง่าย แต่จริงๆแล้วช่างทรมานเหลือเกิน!

เพี๊ยะ!

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ในที่สุดก็มีคนที่ไม่ทนไม่ได้แล้ว ต้วนซิงบุคคลที่อายุน้อยที่สุดก็ล้มลงกับพื้นก่อน เหงื่อออกท่วมท้น ไม่สามารถขยับได้

เมื่อมีหนึ่งคนที่ล้มลง ก็จะมีคนที่สองล้มลงและเรื่อยๆ คนเหล่านี้ก็ล้มลงทีละคน จนในที่สุดต้วนเทียนก็ล้มลง ต้วนยวี่จึงเรียกคนมายกเขาทั้งแปดคนไปที่ห้องอาบน้ำที่เตรียมไว้นานแล้ว

ที่นั่นมีอ่างยาที่ต้วนยวี่ได้เตรียมไว้ตั้งแต่เช้าตรู่ ก่อนที่ต้วนเทยนและคนอื่นๆยังไม่ตื่น ต้วนยวี่ก็ตื่นและสั่งให้คนรับใช้ซื้อวัสดุยา หลังจากที่ได้มาเขาก็เริ่มทำยาอาบในอ่างเหล่านี้

จุดประสงค์คือรอให้ต้วนเทียนและคนอื่นๆฝึกท่านั่งยองๆจนเหนื่อยล้าและทรุดตัวลง ใช้อ่างยานี้เพื่อปรับร่างกายของพวกเขาอย่างเต็มที่ สิ่งนี้สามารถให้ประสิทธิภาพของยาอย่างเต็มที่และบรรลุผลระดับสูงสุด

เมื่อเห็นต้วนเทียนและคนอื่นๆถูกยกเข้าไป ต้วนยวี่ก็เข้าไปในบ้านและอาบน้ำ และก็กินอะไรนิดหน่อย แล้วขับรถออกไป คราวนี้เขาออกไปเขาขับบีเอ็มดับเบิลยู ด้วยมูลค่าประมาณสองล้านหยวน สำหรับต้วนกรุ๊ปเงินจำนวนนี้ไม่ได้เป็นอะไรเลย

เมื่อคืนหลังจากเอาราชาโสมแห่งร้อยปีแล้ว ก็เป็นเวลาดึกแล้ว มิฉะนั้นวันนี้ต้วนยวี่ก็ไม่จำเป็นต้องออกมา จุดประสงค์ของเขาคือการซื้อวัสดุเสริมยาบางอย่างที่เอากลับไปร่วมกับราชาโสม เพื่อให้ตัวเองสามารถดูดซับผลของราชาโสมได้อย่างเต็มที่

หลังจากที่คิดเพียงชั่วข้ามคืน ทำให้ต้วนยวี่คิดออกว่าจะใช้ราชาโสมแห่งร้อยปีนี้อย่างไร

ต้วนยวี่ขับรถตรงไปที่ไป๋เฉาถังซึ่งเป็นร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเทียนหลง นี้เป็นร้านขายยาโซ่ที่ใหญ่ที่สุดในจีนร้านหลักอยู่ในปักกิ่ง แม้ว่าวัสดุยาในไป๋เฉาถังจะแพงกว่าเล็กน้อย แต่ก็ดีกว่าไม่มีของปลอม วัตถุดิบยาแต่ละชนิดมีคุณภาพสูงและได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นวัตถุดิบทางยายังมีความสมบูรณ์มากอีกด้วย.....

คฤหาสน์ต้วนกรุ๊ปไปยังไป๋เฉาถังที่อยู่ในใจกลางเมืองเพียงมีระยะไกลเล็กน้อย แม้ว่าจะขับรถสปอร์ตก็ตาม ต้วนยวี่ก็ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงถึงจะถึงที่นั่น

หลังจากลงจากรถ ต้วนยวี่ก็มองไปที่ร้านขายยาโบราณที่อยู่ตรงหน้าและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เขาเพิ่งลงจากรถ เขาก็ได้กลิ่นของยาสมุนไพร จะเห็นได้ว่าสิ่งที่เก็บไว้ในไป๋เฉาถังนั้นน่ากลัวเพียงใด

"ไป๋เฉาถัง? ดีๆ ถือปากกาอย่างแรงและเขียนอย่างเฉียบขาด ดูแล้วคนที่เขียนนี้ เขียนพู่กันจีนได้ดี!" เมื่อมองไปที่ตัวอักษรขนาดใหญ่สามตัวบนป้าย ต้วนยยวี่พยักหน้าจากนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าและเดินเข้าไป

ทันทีที่เขาเข้าสู่ไป๋เฉาถัง ต้วนยวี่ก็เริ่มมีพลังขึ้นมาทันที กลิ่นของสมุนไพรที่อยู่ข้างในนั้นรุนแรงกว่าภายนอกและกลิ่นของสมุนไพรก็ไม่เป็นที่น่ารังเกียจเหมือนในโรงพยาบาล ตรงกันข้ามกลับมีกลิ่นที่สบายตัวมาก

เมื่อมองไปที่ผู้คนไปๆมาๆที่ซื้อวัตถุดิบยา ในเวลาเดียวกันต้วนยวี่ก็เข้าใจเล็กน้อย บุคคลที่เข้ามาทั้งหมดนั้น เกือบไม่มีคนจนเลย เสื้อผ้าบนร่างกาย ถอดลงมาชุดละเกือบเจ็ดแปดพันหรือมากกว่านั้น นี่มันไปมาหาสู้คนไร้เขลาจริงๆ.....

"สวัสดีค่ะคุณ ไม่ทราบว่ามีอะไรช่วยคุณได้บ้างคะ?" ขณะที่ต้วนยวี่กำลังมองไปรอบๆ เสียงที่อ่อนโยนมากดังขึ้นในหูของเขาและในขณะเดียวกันก็มีกลิ่นหอมอ่อนๆของลูกสาวลอยเข้ามาในปลายจมูก

เมื่อหันไปมองผู้มาเยือนก็คือบริกรในไป๋เฉาถัง ซึ่งสวมชุดโบราณเช่นกัน ในร่างของพนักงานบริกรคนนี้ เขาแสดงได้มีเสน่ห์มาก

เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของพนักงานในไป๋เฉาถังเป็นผู้หญิงและผู้หญิงทุกคนสวมชุดยาวโบราณ นี่เป็นวิธีการจัดการของไป๋เฉาถังด้วย มีคนสวยเคียงข้างคุณแบบนี้คุณไม่อยากอวดตัวเองบ้างเหรอ? จะไม่ซื้อเยอะหน่อยเหรอ?

นี่คือแนวทางปฏิบัติ ไม่มีนักธุรกิจคนไหนไม่เจ้าเล่ห์.....

ต้วนยวี่ยิ้มเล็กน้อย เมื่อเขามองไปที่บริกรสาวสวยหน้าตาดีจนเขาอดทึ่งไม่ได้ เขาเคยชินกับผู้หญิงสวยในชาติก่อน และมีภูมิคุ้มกันต่อผู้หญิงอย่างเต็มที่

"ฉันต้องการซื้อยา ในปริมาณมากและทั้งหมดต้องเป็นสินค้าคุณภาพสูง และสินค้าที่โชว์ไว้ข้างนอกนี้ก็ไม่ต้องเอามาให้ฉันแล้ว!" ต้วนยวี่พูดตรงๆ

ซื้อสมุนไพรชั้นดี? บริกรสาวสวยรู้สึกดีใจ เมื่อมองดูชุดของต้วนยวี่ที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่าล้านบนตัว ก็ตัดสินใจในใจว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาต้องเป็นเศรษฐี

ผู้ที่ทำงานแนวพวกเขา ได้ฝึกฝนสายตาที่ดีมานาน เพียงแค่นาฬิกาวี่รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นบนมือของต้วนยวี่มีราคาไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้าน

และไป๋เฉาถังมีตกลงว่าผู้ที่มาซื้อวัตถุดิบยาที่มีคุณภาพสูง พนักงานที่ค้อนรับนั้นจะได้รับค่าคอมมิชชั่น

สาวสวยรู้สึกดีใจมาก คาดไม่ถึงว่าในวันนี้ตัวเองจะได้พบกับสิ่งดีๆเช่นนี้

ทันทีที่เหมือนกลัวว่าจะถูกคนอื่นแย่งเครดิตไป สาวสวยก็พาต้วนยวี่เข้าไปในห้องด้านในทันที นี่คือสถานที่สำหรับรับแขกผู้มีเกียรติจริงๆ

"เชิญคุณตามฉันมา!" สาวสวยกล่าวอย่างสุภาพ

ต้วนยวี่พยักหน้าขณะที่เขากำลังจะก้าวเดิน ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นในไป๋เฉาถัง

"คุณปู่ คุณปู่คุณเป็นอะไร.....คุณอย่าทำฉันตกใจนะ มีคนไหม มีหมอไหม รีบมาช่วยคุณปู่ของฉันหน่อย..... "

เสียงตะโกนนี้ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน คนที่เช่นเดียวกับต้วนยวี่ส่วนใหญ่หันหัวกลับไปมอง แต่เห็นชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบปีกำลังกอดชายชราคนหนึ่งที่กำลังชักนอนอยู่บนพื้น

ในขณะที่ชายชรากำลังชักตาทั้งคู่ก็เริ่มซีดลง เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์เป็นเรื่องเร่งด่วนมาก

เมื่อเห็นชายชราที่ล้มลงกับพื้น ทันใดนั้นทุกคนก็รีบถอยหนี เหมือนกับว่าพวกเขากลัวว่าจะเสียหาย แต่ไม่มีใครขึ้นไปช่วย

ผู้คนในไป๋เฉาถังก็ตกใจกับฉากนี้เช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเจอสถานการณ์เช่นนี้

แต่เนื่องจากเป็นร้านขายยาขนาดใหญ่ เสียงของชายหนุ่มก็ร้องออกมาใช้เวลาไม่นานนัก ก็เห็นหมอในชุดเสื้อคลุมสีขาวและรีบขี้นไปพร้อมกับเครื่องมือ

หมอนี้กำลังตรวจร่างกายของชายชราขึ้นๆลงๆ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ขมวดคิ้วและยืนขึ้นและพูดกับชายหนุ่มว่า " อาการของชายชรานั้นอันตรายมาก เขาต้องถูกส่งไปที่โรงพยาบาลทันที เพราะร้านของเราไม่ใช่ อุปกรณ์ที่พร้อมเพียง จึงไม่สามารถทำการช่วยได้ "

ประโยคนี้ทำให้ชายหนุ่มตาแดงทันทีและน้ำตากำลังจะไหลออกมา

ในความเป็นจริงร้านขายยาขนาดใหญ่อย่างไป๋เฉาถัง โดยปกติจะมีหมอผู้เชี่ยวชาญอยู่ในห้อง แต่น่าเสียดายที่วันนี้หมอผู้เชี่ยวชาญไม่มา.....

"โทร โทรเรียกโรงพยาบาล ช่วยๆกันหน่อย ช่วยโทรหน่อย..... คุณปู่ คุณห้ามเป็นไรไปนะ..... " ชายหนุ่มตัวสั่นด้วยความตกใจและน้ำตาก็ไหลออกมาขณะที่กำลังกอดชายชราที่กำลังสลบอยู่

ต้วนยวี่ที่ยืนดูอยู่สักพักก็ขมวดคิ้วช้าๆ ไม่ใช่ไม่อยากเห็นเมื่อคนอื่นล้มลง แต่ค่อนข้างงงงวยหรือประหลาดใจกับอาการของชายชรา!

"ชายชราคนนี้ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่ตีเขาน่าจะได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่ร้ายกาจ!" ต้วนยวี่พูดในใจ แล้วเดินไปข้างหน้า!