ตอนที่ 418 ติดเกาะ

by ปลามังกร 08:01,Mar 30,2021
พวกเราตัดสินใจเดินหาจ้าวซูเหิงไปทั่วแต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันตรงกันข้ามกับที่พวกเราหวังไว้ก็คือพวกเราเดินหาจนกระทั่งอากาศและอุณหภูมิลดลงก็ยังไม่เห็นเงาคนแม้แต่คนเดียวแม้กระทั่งสัตว์ยังเห็นได้น้อย

โชคดีที่ไม่ไกลจากชายหาดพวกเราเจอส่วนของภูเขาที่เว้าเข้าไปคล้ายๆกับถ้ำสามารถหลบลมได้พวกเราตรวจดูสภาพแวดล้อมรอบๆและตัดสินใจว่าคืนนี้พวกเราจะพักกันที่นี่

เนื่องจากไม่มีโทรศัพท์ไม่สามารถติดต่อกับคนอื่นๆได้ดังนั้นพวกเราจึงเลือกที่จะอยู่ที่นี่รอการช่วยเหลือ

แต่พระเจ้าก็ยังช่วยในระหว่างที่ผมกำลังหากิ่งไม้อยู่บางครั้งก็จะเห็นสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆลอยมากับน้ำเช่นขนมปังกระจก

ผมคิดๆสิ่งของพวกนี้น่าจะมาจากคลังสินค้างของเครื่องบินหลังจากที่เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุแล้วแต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรบอกให้ไป๋เหว่ยช่วยผมหากิ่งไม้บนชายหาดแล้วตัวผมเองก็รีบวิ่งไปเห็บของพวกนั้นที่ลอยน้ำอยู่

และสิ่งที่ผมให้ภูมิใจในตัวเองมากที่สุดคือความแข็งแรงและความอดทนเพราะมันช่วยผมได้มากผมวิ่งไปกลับรอบแล้วรอบเล่าจนไม่มีสิ่งของอะไรลอยอยู่บนน้ำอีก

กระจกกล่องเล็กๆที่มีไฟแช็คอยู่เสื้อผ้าสองสามตัวมีทั้งของผู้หญิงและผู้ชายผ้าห่มสองสามผืนและยังมีน้ำเปล่าขวดใหญ่อีกสี่ห้าขวด

ผมรู้สึกโล่งใจ"หลังจากนี้พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลแล้วเพราะสภาพภูมิอากาศที่ทะเลเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเมื่อกี้ผมยังกังวลอยู่เลยว่าพวกเราจะผ่านคืนนี้ไปได้อย่างไร"

ไป๋เหว่ยยิ้มและพูดว่า"ที่เครื่องบินตกครั้งนี้แล้วพวกเราไม่ตายนี่ก็ถือว่าโชคดีมากแล้วฉันไม่กล้าขออะไรไปมากกว่านี้แล้ว"

แล้วผมก็เอาสิ่งของทุกอย่างที่อยู่บนพื้นมัดรวมกันแล้วถือไปส่วนไป๋เหว่ยถือกล่องที่มีไฟแช็คไม่นานพวกเราก็เอาของเหล่านี้ไปวางในถ้ำเล็กๆนั้น

พวกราวางสิ่งของอย่างดีแล้วผมก็ลองจุดไฟแช็คดูยังสามารถจุดได้ผมถอนหายใจไม่เสียแรงที่เป็นของผลิตในประเทศทนทานจริงๆ

ผมเอากิ่งไม้ที่เก็บมากองรวมกันไว้และจุดไฟลงบนเชื้อเพลิงหลังจากนั้นก็เอาไปวางไว้บนกิ่งไม้ไฟติดโชติช่วงขึ้นพวกเราก็อบอุ่นขึ้น

เสื้อผ้าที่พวกเราสวมแห้งตั้งนานแล้วแต่ของและผ้าห่มที่เพิ่งเก็บมาจากน้ำยังไม่แห้งดังนั้นผมก็เลยเอาของต่างๆรวมถึงผ้าห่มวางใกล้กองไฟ

ผมเอาผ้าห่มที่แห้งแล้วห่มไปที่ตัวของไป๋เหว่ยและยังเอาเสื้อมารองให้เธอนั่งจอนนี้สีหน้าของไป๋เหว่ยไปขาวซีดแล้วมีเลือดฝาดแดงๆนิดหน่อยผมเห็นแล้วก็โล่งใจ

ไป๋เหว่ยถามว่า"ฟางหยางนายว่าที่เครื่องบินตกครั้งนี้มีคนรอดกี่คน?"

ผมเงียบอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้า"รอดชีวิตทุกคนจะดีที่สุด"

ผมยิ้มจับมือไป๋เหว่ยจนแน่นและพูดว่า"ไม่ต้องกลัวคนบนเครื่องตั้เยอะแยะที่เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้แน่นอนว่าต้องได้รับความสนใจแน่ๆตอนนี้ครอบครัวของคุณและเพื่อนๆของผมน่าจะส่งคนออกตามหาพวกเราแล้วรวมถึงหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องด้วยไม่นานพวกเราก็จะได้กลับบ้าน!"

เพื่อต้องการพูดปลอบใจเธอผมก็เลยไม่ได้บอกข้อสงสัยที่ผมพบเห็นกับเธอ

ไป๋เหว่ยเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลไป๋ถึงแม้จะจบปริญญาเอกแต่เธอก็ไม่ใช่จะเข้าใจทุกๆเรื่อง

แต่เนื่องจากเป็นงานอดิเรกที่ผมชื่นชอบก็เลยทำให้ผมพอเข้าใจบ้าง

เดิมทีเครื่องบินของเราบินจากShenghaiไปยังประเทศไทยบินได้ไม่นานก็เจอสภาพอากาศแปรปรวนดังนั้นพื้นที่ที่พวกเราอยู่ในตอนนี้ก็ควรเป็นพื้นภูมิอากาศเขตร้อนหรือกึ่งเขตร้อนแต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือตอนที่ผมและไป๋เหว่ยไปหากิ่งไม้และตอนออกตามหาจ้าวซูเหิงอยู่นั้นผมก็พบว่าพืชพรรณที่ขึ้นบนเกาะแห่งนี้เป็นพืชที่ขึ้นในเขตพื้นที่เย็นอบอุ่น!

นี่หมายความว่าอะไร?

พืชที่ขึ้นตามภูมิอากาศที่แตกต่างกันจะมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดป่าริมทะเลเป็นพื้นที่ที่ไม้ใบกว้างชื่นชอบแต่ที่นี่กลับเต็มไปด้วยป่าสนน่าแปลกมากๆ

ที่สำคัญก็คือภูมิอากาศที่นี่ค่อนข้างเย็นไม่เหมือนทะเลในเขตร้อน

ผมรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีในใจ

แต่หลังจากนั้นก็เป็นปกตินอกจากจะไม่พบเจอคนอื่นๆแล้วพวกเรายังพบไก่ป่าบนเกาะนี้หมูป่าดุและน่ากัวเกินไปผมยังต้องคอยดูแลปกป้องไป๋เหว่ยผมก็เลยไม่สนใจมัน

แต่จับไก่ป่ามาหนึ่งตัวเนื่องจากบนเกาะไม่มีเครื่องปรุงมีแต่ไฟดังนั้นไก่ที่ย่างมาไม่อร่อยมากแต่ก็พอกินได้ช่วงนี้ไป๋เหว่ยไม่ค่อยเจริญอาหารผมรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

เป็นใครๆมาเจอเรื่องแบบนี้ต้องส่งผลกระทบต่อจิตใจอยู่แล้ว

ผ่านไปสองวันเนื้อไก่ป่าที่ผมหามาได้ก็แทบจะไม่เหลือแล้วเพราะพวกเราพยายามออกตามหาคนบนเกาะอยู่ตลอดมันเป็นงานที่ค่อนข้างเหนื่อยก็เลยทำให้เราสูญเสียพลังงานไปมาก

พอเป็นแบบนี้พวกเราก็เลยต้องหาของกินอื่นๆแม้ว่าสัตว์ป่าบนเกาะแห่งนี้มีไม่น้อยแต่สัตว์ที่เหมาะกับพวกเรากินมีไม่มาก

ผมก็เลยต้องลงทะเลไปจับปลาแต่ไม่รู้ว่าปลาทะเลมีความสามารถมากกว่าปลาน้ำจืดเท่าไหร่ผมจับอยู่ครึ่งวันเช้าก็ยังจับไม่ได้ในที่สุดก็ต้องเอาเศษเนื้อไก่ที่เหลือมาใช้เป็นเหยื่อและเอาตาข่ายวางไว้บนชายหาดริมทะเลหลังจากนั้นผมก็ขุดหลุมไว้รอคลื่นซัดมาและดูว่าจะมีปลามาติดมั้ย

ไม่เพียงแค่ไป๋เหว่ยที่ไม่เชื่อแม้แต่ความคิดของผมเองก็คงต้องลองดูเพราะชาวประมงยังต้องใช้เหยื่อในการจับปลาแล้วนับประสาอะไรกับพวกเรา?

สิ่งที่ทำให้พวกเราต้องตกใจก็คือวิธีนี้ของผมได้ผลตอนที่คลื่นไหลกลับเข้าไปในทะเลหลุมที่ผมขุดไว้มีทรายกลบจนเรียบแต่เนื้อไก่ที่อยู่ในหลุมยังอยู่และปลาตัวใหญ่ก็ติดอยู่ในตาข่าย

ผมและไป๋เหว่ยดีใจมากไม่ว่าจะเป็นปลาตัวเล็กหรือกุ้งตัวเล็กๆพวกเราก็ไม่ปล่อยไปบวกกับปลาตัวใหญ่ที่จับมาได้พวกเราก็เลยได้กินอาหารทะเลสดๆแต่เพราะไป๋เหว่ยเป็นผู้หญิงเวลาผมฆ่าไก่ฆ่าปลาเธอจะหลบไปอยู่ไกลๆ

และพวกเราก็อยู่บนเกาะแห่งนี้กันสองวันแล้วหิวกันมานานแล้วแม้ว่าปลาย่างที่ผมทำจะไม่มีเครื่องปรุงแต่รสชาติไม่เลวเลยไป๋เหว่ยเองก็ไม่สนใจภาพลักษณ์แล้วกินอย่างรีบร้อนแต่เนื่องจากเนื้อปลายังร้อนเกินไปเธอเลยส่งเสียงร้อง"อ๊า"ออกมามือสองข้างลูบริมฝีปากและมองผมด้วยดวงตาที่มีน้ำตาคลอ

ผมหัวเราะไปด้วยเป่าริมฝีปากให้เธอไปด้วยจนกระทั่งไป๋เหว่ยรู้สึกดีขึ้นผมก็เลยเริ่มกิน

ที่คิดไม่ถึงก็คือพวกเราเพิ่งจะกินได้ไม่นานพงหญ้าที่อยู่ชายหาดด้านหลังก็เริ่มสั่นผมหันไปมองไป๋เหว่ยเป็นการส่งสัญญาณบอกเธอว่าห้ามขยับค่อยๆโค้งตัวเล็กน้อยและมองไปทางพงหญ้านั้น

และสิ่งที่ทำให้พวกเราคิดไม่ถึงก็คือเดิมทีคิดว่าเป็นสัตว์ป่าที่อยู่บนเกาะวิ่งมาต่อมาก็เห็นคนสองคนเสื้อผ้าขาดๆเนื้อตัวมอมแมมพุ่งอกมาจากพงหญ้าแถมยังมีกลิ่นเหม็นๆ

ดูแล้วเป็นผู้หญิงคนผู้ชายคนเมื่อพวกเขาเห็นพวกเราดวงตาก็เปล่งประกายตะโกนมาว่า"น้องชายมีของกินมั้ย?ขอกินหน่อยหิวมากเลย"

"เป็นคนจีน"

ผมและไป๋เหว่ยสบตากันบอกว่า"ยังมีอีกนิดหนึ่งพวกคุณมาสิ"

เพราะว่าปลาตัวค่อนข้างใหญ่ผมก็เลยแบ่งครึ่งหนึ่งให้สองคนนั้นไม่มีมีดผมก็เลยใช้มือแบ่งปลาเป็นสองชิ้นหักตรงกลางรวมก้างด้วย

ทั้งสองคนชะงักเล็กน้อยหลังจากนั้นชายคนนั้นก็กลืนน้ำลาย

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

482