ตอนที่ 424 ออกห่าง
by ปลามังกร
08:01,Mar 31,2021
เพราะหายป่วยกะทันหันคืนนี้ผมกลับรู้สึกกระปรี้กระเปร่าจนนอนไม่หลับ
ขณะที่คิดอะไรบ้าๆอยู่ก็เหลือบไปเห็นร่างสีดำอีกร่างหนึ่งในส่วนลึกของหลืบภูเขาและลุกยืนขึ้นอย่างเงียบๆผมก็อยากจะลุกขึ้นแต่มองดูตำแหน่งแล้วเงานั่นไม่ใช่ของวังแก๊งแต่เป็นของหยวนหรงผมหยุดนิ่งสักพักแล้วมองว่าเธอจะทำอะไร
ไม่นานหยวนหรงก็คลำมาถึงข้างๆผมจากนั้นก็ก้มศีรษะลงแนบหูของผมแล้วกระซิบว่า"ฟางหยางฉันรู้ว่านายยังไม่หลับ"
ตอนแรกผมแกล้งหลับแต่เมื่อซ่อนไม่ได้เลยต้องพูดว่า"คุณจะทำอะไร?"
เมื่อนึกถึงไป๋เหว่ยที่นอนหลับอยู่ข้างๆเรียกต้องพูดด้วยเสียงที่เบาที่สุดถึงจะไม่รบกวนเธอ
"ฟางหยางนายเก่งขนาดนี้แถมยังหาของกินได้เอางี้ไหมวันหลังฉันกับอยู่กับพวกนายแล้วกันจะให้ฉันทำอะไรก็ได้นะ..."
หยวนหรงพูดช้าๆพูดไปก็ถอดเสื้อแจ็คเก็ตที่ขาดรุ่งริ่งที่คลุมอยู่ด้านนอกออก
แสงจันทร์ที่ผ่านมาก่อนหายไปอย่างกะทันหันหยวนหรงในชุดชั้นในก็ปรากฏตัวต่อหน้าผมอย่างรวดเร็ว
ไม่พูดไม่ได้เลยร่างกายของหยวนหรงก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่สำหรับผมหลังจากคำนวณอย่างละเอียดหลังจากเรียนมาหัยก็ไม่ได้สัมผัสผู้หญิงเลยได้เจอผู้หญิงสวยๆตั้งมากมายแต่ก็ไม่มีใครสามารถเริ่มได้ไม่ว่าจะเป็นเหวินซินไป๋เหว่ยหรือจู้เหม่ยรวมถึงฉีหยู่เหมิงต่างก็เป็นคนสวยอันดับต้นๆ
แต่ผมก็ทำได้แค่มองกลับไม่ได้กินเพราะเหนื่อยมากเลยไม่รู้สึกตัวเลยไม่แต่ยุบยิบในใจ
ผมกลืนน้ำลายและพูดว่า"หมายความว่ายังไง?"
"ก็ไม่ได้มีอะไรแค่อยากจะบอกนายเอาไว้แค่นายเก็บฉันไว้จะให้ทำอะไรก็ได้ร่างกายก็เป็นของนาย..."
หยวนหรงพูดไปด้วยก็ยืดอกเข้าหาใบหน้าผมต้องบอกว่าขนาดของเธอนั้นอวบอิ่มกว่าไป๋เหว่ยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้อีกเพียงสามฟุตก็จะลงมาทับผมอยู่แล้วแถมใบหน้ายิ่งดูเย้ายวน
ไม่รู้ยังไงจู่ๆผมก็นึกถึงฉากที่หยวนหรงและหวังกังอยู่บนชายหาดในวันนั้นและความรู้สึกขยะแขยงก็โผล่ขึ้นในใจผม
ผมระงับความไม่พอใจและพูดว่า"คุณรีบไสหัวไปซะไม่งั้นคืนนี้คุณก็ออกไปนอนข้างนอก"
หยวนหรงที่เห็นน้ำเสียงไม่ดีของผมคำที่จะพูดก็ติดอยู่ในคอแล้วรีบแต่งตัวและกลับไปเงียบๆ
ผมลอบถอนหายใจไม่รู้ทำไมสาเหตุอาจจะเป็นฝนถึงร่างกายผมจะแข็งแรงขึ้นมากแต่ดูเหมือนจะถูกล่อลวงมากขึ้นจากครั้งนี้
ผมระงับความโกรธและสงบสติอารมณ์มองไปที่ใบหน้าที่สงบนิ่งของไป๋เหว่ยข้างๆในที่สุดก็รู้สึกความง่วง...
เช้าของวันรุ่งขึ้น
ผมให้ผลไม้ป่าและมะพร้าวกับวังแก๊งและหยวนหรงและพูดว่า"เห็นเนื้อที่แขวนอยู่บนผนังภูเขาไหม?"
เพราะเมื่อคืนเขามาตอนมืดมากคงจะแทบมองไม่เห็นคงจะไม่ได้สังเกตเห็นปลาย่างที่แขวนอยู่บนกำแพงภูเขาข้างเรา
หยวนหรงและวังแก๊งกลืนน้ำลายสายตาแสดงถึงความโหยหา
ผมพูดต่อว่า"รู้ไหมทำไมไม่ให้อาหาร"
วังแก๊งพูดว่า"หรือว่านายคงไม่ได้ดูถูกเราใช่ไหม?"
"หน้านายก็ใหญ่นะขาดไปอย่าง"
ผมหัวเราะเยาะ"เราทำงานกันอย่างหนักเพื่อจับเนื้อสัตว์พวกนี้จากทะเลแถมยังเสี่ยงชีวิตทำไมต้องให้พวกนายที่อยากกินด้วย?เมื่อคืนฉันพูดแล้วฉันไม่ได้เป็นคนดีแล้วก็ไม่ให้ฟรีๆพวกนายอยากกินก็ไปจับมาเองอีกอย่างผลไม้ป่ากับมะพร้าวก็เหมือนกันหลังกินข้าวเช้าเสร็จถ้าอยากกินก็ไปเก็บเอง"
เพราะน้ำบริสุทธิ์เป็นเหมือนสมบัติของเกาะแห่งนี้ไม่มีการค้นพบน้ำใต้ดินผมกับไป๋เหว่ยวางน้ำไว้ที่ด้านบนของหลืบภูเขาซึ่งเป็นทางตัน
ก่อนหน้านี้เราคาดไว้ว่าไม่ว่าสถานที่นี้จะปกปิดแค่ไหนก็จะมีวันหนึ่งที่มีคนเจอถ้าถูกเจอเข้าแล้วน้ำถูกขโมยเราต้องแย่แน่
นั่นเป็นเหตุผลที่เราแยกน้ำกับเนื้อออกจากกันยังไงคงไม่มีใครคิดได้ว่าเนื้อกับน้ำจะแยกกันซ่อน
พอวังแก๊งกับหยวนหรงฟังผมพูดจบสีหน้าก็ดูไม่ดีเพียงกินข้าวให้เสร็จเงียบๆจากนั้นก็เดินออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
รอทั้งสองคนเดินออกไปไกลผมก็พูดว่า"ไป๋เหว่ยเราจะเอาน้ำไปทิ้งเนื้อไว้ครึ่งหนึ่งแล้วส่วนที่เหลือให้พวกเขา"
ไป๋เหว่ยถามอย่างสงสัยว่า"หมายความว่ายังไงเราจะไปแล้วเหรอ?"
ผมหัวเราะและพูดว่า"ใช่ในเมื่อวังแก๊งหาทีนี่เจอแล้วคนอื่นก็อาจเจอเราโชคดีที่เมื่อคืนคนที่มาเป็นพวกเขาถ้าเป็นสัตว์ร้ายตัวอื่นเราคงเละแน่"
ไป๋เหว่ยที่ฟังจบสีหน้าของไป๋เหว่ยก็ซีดลง"ในเมื่อเป็นแบบนี้เรารีบไปทั้งที่ยังเช้าเถอะ"
ผมหยิบมีดผลไม้จากไป๋เหว่ยแล่เนื้อปลาอย่างระมัดระวังครึ่งหนึ่งห่อด้วยผ้าแล้ววางลงในห่อน้ำอีกสองขวดถือในมือแล้วผมกับไป๋เหว่ยก็ออกไป
ก่อนที่ออกไปเพราะครั้งก่อนได้หยิบเสื้อผ้าจากชายหาดมาเยอะบางชิ้นก็เริ่มขาดแล้วผมเก็บเสื้อผ้าที่ขาดๆไว้แล้วเอาเสื้อสองตัวไว้รวมถึงผ้าห่ม
ถ้ามองแบบนี้ของที่เราต้องเอาไปก็ไม่เยอะแถมผมก็แข็งแรงขึ้นแค่มือเดียวก็พอที่จะถือทั้งหมด
แต่เมื่อออกมาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไม่รู้ว่าเป็นภาพลวงตาหรือเปล่าตั้งแต่ฝนตกดูเหมือนว่าอากาศจะหนาวเย็นกว่าเมื่อวานนิดหน่อย
ผมขมวดคิ้วและหยิบเสื้อผ้าอีกสองตัวออกจากห่อผมกับไป๋เหว่ยคนละตัว
และเมื่อเราเดินมาถึงชายหาดในที่สุดก็ข่าวดีผมพูดอย่างประหลาดใจ"ไป๋เหว่ยน้ำลงล่ะ!"
รอยยิ้มเอ่อล้นบนใบหน้าของไป๋เหว่ย"ในโชคร้ายยังมีโชคดียังไงล่ะ"
ผมกับไป๋เหว่ยรีบไปที่ชายหาดเมื่อน้ำลดก็มีปลาและหอยมากมายเกยขึ้นหาดเพราะลงน้ำไม่ทัน
เรารีบหาปลาทะเลตัวอ้วนๆสองสามตัวและกำลังจะหาที่ล้างปลาก็เงาดำปรากฏขึ้นที่ทะเลอีกครั้ง
และเมื่อผมสังเกตเห็นเงาดำที่กำลังเลื้อยอยู่ใต้น้ำผมก็รู้สึกได้ทันทีว่าจิตวิญญาณผมมันหายไปผมถือปลาไว้ในมือข้างหนึ่งอีกข้างจับไป๋เหว่ยรีบวิ่งขึ้นหน้าผา
และเมื่อเราไปถึงหน้าผาก็มองไปในทะเลอีกครั้งเงาสีดำก็หายไปรวมกับประสบการณ์ครั้งก่อนผมพูดอย่างสงสัย"งูหลามนั่นอยากไล่เราให้ออกจากทะเลเหรอ?"
ไป๋เหว่ยครุ่นคิดสักพักแล้วพูดว่า"ถ้าเป็นอย่างที่ฟางหยางบอกเหมือนว่าเราจะล่องแพออกไปเองไม่ได้"
ผมยิ้มเจื่อน"อย่าพูดถึงล่องแพเลยถ้าเป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆเกรงว่าถึงเราจะจุดไฟทั้งเกาะให้เป็นสัญญาณก็ไร้ประโยชน์"
ขณะที่คิดอะไรบ้าๆอยู่ก็เหลือบไปเห็นร่างสีดำอีกร่างหนึ่งในส่วนลึกของหลืบภูเขาและลุกยืนขึ้นอย่างเงียบๆผมก็อยากจะลุกขึ้นแต่มองดูตำแหน่งแล้วเงานั่นไม่ใช่ของวังแก๊งแต่เป็นของหยวนหรงผมหยุดนิ่งสักพักแล้วมองว่าเธอจะทำอะไร
ไม่นานหยวนหรงก็คลำมาถึงข้างๆผมจากนั้นก็ก้มศีรษะลงแนบหูของผมแล้วกระซิบว่า"ฟางหยางฉันรู้ว่านายยังไม่หลับ"
ตอนแรกผมแกล้งหลับแต่เมื่อซ่อนไม่ได้เลยต้องพูดว่า"คุณจะทำอะไร?"
เมื่อนึกถึงไป๋เหว่ยที่นอนหลับอยู่ข้างๆเรียกต้องพูดด้วยเสียงที่เบาที่สุดถึงจะไม่รบกวนเธอ
"ฟางหยางนายเก่งขนาดนี้แถมยังหาของกินได้เอางี้ไหมวันหลังฉันกับอยู่กับพวกนายแล้วกันจะให้ฉันทำอะไรก็ได้นะ..."
หยวนหรงพูดช้าๆพูดไปก็ถอดเสื้อแจ็คเก็ตที่ขาดรุ่งริ่งที่คลุมอยู่ด้านนอกออก
แสงจันทร์ที่ผ่านมาก่อนหายไปอย่างกะทันหันหยวนหรงในชุดชั้นในก็ปรากฏตัวต่อหน้าผมอย่างรวดเร็ว
ไม่พูดไม่ได้เลยร่างกายของหยวนหรงก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่สำหรับผมหลังจากคำนวณอย่างละเอียดหลังจากเรียนมาหัยก็ไม่ได้สัมผัสผู้หญิงเลยได้เจอผู้หญิงสวยๆตั้งมากมายแต่ก็ไม่มีใครสามารถเริ่มได้ไม่ว่าจะเป็นเหวินซินไป๋เหว่ยหรือจู้เหม่ยรวมถึงฉีหยู่เหมิงต่างก็เป็นคนสวยอันดับต้นๆ
แต่ผมก็ทำได้แค่มองกลับไม่ได้กินเพราะเหนื่อยมากเลยไม่รู้สึกตัวเลยไม่แต่ยุบยิบในใจ
ผมกลืนน้ำลายและพูดว่า"หมายความว่ายังไง?"
"ก็ไม่ได้มีอะไรแค่อยากจะบอกนายเอาไว้แค่นายเก็บฉันไว้จะให้ทำอะไรก็ได้ร่างกายก็เป็นของนาย..."
หยวนหรงพูดไปด้วยก็ยืดอกเข้าหาใบหน้าผมต้องบอกว่าขนาดของเธอนั้นอวบอิ่มกว่าไป๋เหว่ยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้อีกเพียงสามฟุตก็จะลงมาทับผมอยู่แล้วแถมใบหน้ายิ่งดูเย้ายวน
ไม่รู้ยังไงจู่ๆผมก็นึกถึงฉากที่หยวนหรงและหวังกังอยู่บนชายหาดในวันนั้นและความรู้สึกขยะแขยงก็โผล่ขึ้นในใจผม
ผมระงับความไม่พอใจและพูดว่า"คุณรีบไสหัวไปซะไม่งั้นคืนนี้คุณก็ออกไปนอนข้างนอก"
หยวนหรงที่เห็นน้ำเสียงไม่ดีของผมคำที่จะพูดก็ติดอยู่ในคอแล้วรีบแต่งตัวและกลับไปเงียบๆ
ผมลอบถอนหายใจไม่รู้ทำไมสาเหตุอาจจะเป็นฝนถึงร่างกายผมจะแข็งแรงขึ้นมากแต่ดูเหมือนจะถูกล่อลวงมากขึ้นจากครั้งนี้
ผมระงับความโกรธและสงบสติอารมณ์มองไปที่ใบหน้าที่สงบนิ่งของไป๋เหว่ยข้างๆในที่สุดก็รู้สึกความง่วง...
เช้าของวันรุ่งขึ้น
ผมให้ผลไม้ป่าและมะพร้าวกับวังแก๊งและหยวนหรงและพูดว่า"เห็นเนื้อที่แขวนอยู่บนผนังภูเขาไหม?"
เพราะเมื่อคืนเขามาตอนมืดมากคงจะแทบมองไม่เห็นคงจะไม่ได้สังเกตเห็นปลาย่างที่แขวนอยู่บนกำแพงภูเขาข้างเรา
หยวนหรงและวังแก๊งกลืนน้ำลายสายตาแสดงถึงความโหยหา
ผมพูดต่อว่า"รู้ไหมทำไมไม่ให้อาหาร"
วังแก๊งพูดว่า"หรือว่านายคงไม่ได้ดูถูกเราใช่ไหม?"
"หน้านายก็ใหญ่นะขาดไปอย่าง"
ผมหัวเราะเยาะ"เราทำงานกันอย่างหนักเพื่อจับเนื้อสัตว์พวกนี้จากทะเลแถมยังเสี่ยงชีวิตทำไมต้องให้พวกนายที่อยากกินด้วย?เมื่อคืนฉันพูดแล้วฉันไม่ได้เป็นคนดีแล้วก็ไม่ให้ฟรีๆพวกนายอยากกินก็ไปจับมาเองอีกอย่างผลไม้ป่ากับมะพร้าวก็เหมือนกันหลังกินข้าวเช้าเสร็จถ้าอยากกินก็ไปเก็บเอง"
เพราะน้ำบริสุทธิ์เป็นเหมือนสมบัติของเกาะแห่งนี้ไม่มีการค้นพบน้ำใต้ดินผมกับไป๋เหว่ยวางน้ำไว้ที่ด้านบนของหลืบภูเขาซึ่งเป็นทางตัน
ก่อนหน้านี้เราคาดไว้ว่าไม่ว่าสถานที่นี้จะปกปิดแค่ไหนก็จะมีวันหนึ่งที่มีคนเจอถ้าถูกเจอเข้าแล้วน้ำถูกขโมยเราต้องแย่แน่
นั่นเป็นเหตุผลที่เราแยกน้ำกับเนื้อออกจากกันยังไงคงไม่มีใครคิดได้ว่าเนื้อกับน้ำจะแยกกันซ่อน
พอวังแก๊งกับหยวนหรงฟังผมพูดจบสีหน้าก็ดูไม่ดีเพียงกินข้าวให้เสร็จเงียบๆจากนั้นก็เดินออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
รอทั้งสองคนเดินออกไปไกลผมก็พูดว่า"ไป๋เหว่ยเราจะเอาน้ำไปทิ้งเนื้อไว้ครึ่งหนึ่งแล้วส่วนที่เหลือให้พวกเขา"
ไป๋เหว่ยถามอย่างสงสัยว่า"หมายความว่ายังไงเราจะไปแล้วเหรอ?"
ผมหัวเราะและพูดว่า"ใช่ในเมื่อวังแก๊งหาทีนี่เจอแล้วคนอื่นก็อาจเจอเราโชคดีที่เมื่อคืนคนที่มาเป็นพวกเขาถ้าเป็นสัตว์ร้ายตัวอื่นเราคงเละแน่"
ไป๋เหว่ยที่ฟังจบสีหน้าของไป๋เหว่ยก็ซีดลง"ในเมื่อเป็นแบบนี้เรารีบไปทั้งที่ยังเช้าเถอะ"
ผมหยิบมีดผลไม้จากไป๋เหว่ยแล่เนื้อปลาอย่างระมัดระวังครึ่งหนึ่งห่อด้วยผ้าแล้ววางลงในห่อน้ำอีกสองขวดถือในมือแล้วผมกับไป๋เหว่ยก็ออกไป
ก่อนที่ออกไปเพราะครั้งก่อนได้หยิบเสื้อผ้าจากชายหาดมาเยอะบางชิ้นก็เริ่มขาดแล้วผมเก็บเสื้อผ้าที่ขาดๆไว้แล้วเอาเสื้อสองตัวไว้รวมถึงผ้าห่ม
ถ้ามองแบบนี้ของที่เราต้องเอาไปก็ไม่เยอะแถมผมก็แข็งแรงขึ้นแค่มือเดียวก็พอที่จะถือทั้งหมด
แต่เมื่อออกมาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไม่รู้ว่าเป็นภาพลวงตาหรือเปล่าตั้งแต่ฝนตกดูเหมือนว่าอากาศจะหนาวเย็นกว่าเมื่อวานนิดหน่อย
ผมขมวดคิ้วและหยิบเสื้อผ้าอีกสองตัวออกจากห่อผมกับไป๋เหว่ยคนละตัว
และเมื่อเราเดินมาถึงชายหาดในที่สุดก็ข่าวดีผมพูดอย่างประหลาดใจ"ไป๋เหว่ยน้ำลงล่ะ!"
รอยยิ้มเอ่อล้นบนใบหน้าของไป๋เหว่ย"ในโชคร้ายยังมีโชคดียังไงล่ะ"
ผมกับไป๋เหว่ยรีบไปที่ชายหาดเมื่อน้ำลดก็มีปลาและหอยมากมายเกยขึ้นหาดเพราะลงน้ำไม่ทัน
เรารีบหาปลาทะเลตัวอ้วนๆสองสามตัวและกำลังจะหาที่ล้างปลาก็เงาดำปรากฏขึ้นที่ทะเลอีกครั้ง
และเมื่อผมสังเกตเห็นเงาดำที่กำลังเลื้อยอยู่ใต้น้ำผมก็รู้สึกได้ทันทีว่าจิตวิญญาณผมมันหายไปผมถือปลาไว้ในมือข้างหนึ่งอีกข้างจับไป๋เหว่ยรีบวิ่งขึ้นหน้าผา
และเมื่อเราไปถึงหน้าผาก็มองไปในทะเลอีกครั้งเงาสีดำก็หายไปรวมกับประสบการณ์ครั้งก่อนผมพูดอย่างสงสัย"งูหลามนั่นอยากไล่เราให้ออกจากทะเลเหรอ?"
ไป๋เหว่ยครุ่นคิดสักพักแล้วพูดว่า"ถ้าเป็นอย่างที่ฟางหยางบอกเหมือนว่าเราจะล่องแพออกไปเองไม่ได้"
ผมยิ้มเจื่อน"อย่าพูดถึงล่องแพเลยถ้าเป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆเกรงว่าถึงเราจะจุดไฟทั้งเกาะให้เป็นสัญญาณก็ไร้ประโยชน์"
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved