ตอนที่ 439 สัตว์ร้าย
by ปลามังกร
08:01,Apr 02,2021
จากนั้นที่ทำให้เราหายใจไม่ออกก็เกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปหัวขนาดใหญ่ก็ค่อยๆโผล่ออกมานอกประตูถ้ำไม้จากนั้นกรงเล็บอันทรงพลังสองกีบ...
ร่างของมันยืนอยู่บนถนนเล็กๆนอกถ้ำหัวอันใหญ่โตของมันก็หันมาทางเราเพียงแวบเดียวก็ทำให้พวกเรารู้สึกตัวชาวาบ
แมวเขี้ยวดาบลงมาแล้ว!
เคยอธิบายที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของถ้ำนี้แล้วมันคล้ายกับการเชื่อมต่อกันของภูเขา2ลูกส่วนตรงกลางเป็นโพรงและกันหน้าออกทางทะเล
ทางเข้าถ้ำเป็นทางลาดซึ่งง่ายสำหรับมนุษย์ในการเดินแต่สำหรับสัตว์อื่นกลับยาก
ผมคิดว่าไอ้ตัวใหญ่นั่นจะค่อยๆล่าถอยไปหลังจากโจมตีล้มเหลวคิดไม่ถึงว่าจะมาให้บทเรียนเรา
ไอคิวของสัตว์ชนิดนี้ที่เติบโตอย่างดุเดือดเหนือกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่อย่างเสือโคร่งเบงกอลมากถึงขนาดเดินถนนเส้นเล็กๆได้!
"ทุกคนรีบกั้นประตู!"
ในขณะนั้นเองความปรารถนาที่จะเอาตัวรอดของทุกคนก็ถูกกระตุ้นขึ้นเราทุกคนเข้าใจดีว่าประตูไม้ที่ทางเข้าถ้ำเป็นอุปสรรคสุดท้ายและหากประตูไม้นี้ถูกทำลายเราก็อยู่ไม่ไกลจากความตายนัก
ในขณะเดียวกันถ้าเราแข็งแกร่งพอก็สามารถใช้ประตูไม้เป็นกำแพงกั้นเพื่อผลักแมวเขี้ยวดาบที่ดุร้ายออกไปด้านนอกและสุดท้ายก็บีบมันลงหน้าผา
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงเรื่องตลกผมยังสงสัยว่าแค่แรงของเราจะทนต่อแรงของแมวเขี้ยวดาบได้ยังไงนี่แหละปัญหา
ในที่สุดแมวเขี้ยวดาบก็หยุดนิ่งและเราก็ใช้ประตูไม้ยึดด้านหลังประตูด้วย
"โฮก!”
แมวเขี้ยวดาบคำรามฟันยาวที่น่าสะพรึงกลัวเปล่งประกายกลิ่นเหม็นแทบจะพุ่งเข้ามาในหัวของพวกเรา
วินาทีต่อมาแมวเขี้ยวดาบก็ขยับและกระแทกอุ้งเท้าเข้ากับประตูไม้พวกเราผู้ชายสามคนอยู่ข้างหน้ารู้สึกตัวเองเหมือนถูกค้อนหนักทุบลงมาจะมีประตูไม้กั้นแบ่งแรงดันแต่ก็รู้สึกชาไปทั่งตัว
แมวเขี้ยวดาบไม่พอใจหลังจากสะสมพลังได้แล้วก็ตบลงมาอีกครั้งผมก่นด่า"ไอ้เชี่ยแบบนี้ไม่ได้การแล้วไม่ช้าก็เร็วต้องตายอยู่ที่นี่แน่”
สีหน้าของจ้าวซูเหิงแดงขึ้น"ฟางหยางไม่ใช่ว่านายมีปืนเหรอฆ่ามันสิ!"
หูเจี้ยนก็พูดต่อ"ใช่นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเราแล้ว!เรากำลังจะทนไม่ไหวแล้วนะ!"
ไม่ใช่แค่เราแต่ผู้หญิงสองคนที่ดันเราจากข้างหลังเพื่อช่วยรวมทั้งเด็กต่างก็หน้าซีดและเริ่มออกอาการหมดแรง
ผมกัดฟันแล้วพูดว่า"งั้นพวกนายก็รั้งไว้ก่อน"
พูดจบก็ใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่แมวเขี้ยวดาบกำลังโจมตีเปิดประตูไม้นิดหน่อยแล้วใช้ปากกระบอกเล็งที่แมวเขี้ยวดาบ
ปัง!
ประกายไฟพุ่งออกมาในความมืดและแมวเขี้ยวดาบก็คำรามอีกครั้งใกล้ขนาดนี้ผมยิงได้โดยไม่ต้องเล็งแต่ที่แลกมาก็อาจจะยิงไม่โดน
ต้องบอกว่าตำแหน่งของผมสามารถตยิงได้เฉพาะผิวหนังเท่านั้นไม่ต้องพูดถึงหังกับช่วงท้องด้วยซ้ำ
แต่ในตอนนี้ผมไม่สามารถสนใจได้บรรจุทีละนัดสามนัดติดต่อกันแมวเขี้ยวดาบเหมือนจะเรียนรู้และฉลาดขึ้น
สัตว์ร้ายตัวนี้ไม่ได้ตบอุ้งเท้าแต่เริ่มใช้แรงส่วนไหล่ชนเข้ามา!
ประตูไม้สั่นคลอนยากจะรองรับสีหน้าจ้าวซูเหิงกับหูเจี้ยนซีดเซียวเรากำลังตกอยู่ในอันตราย!
"เชี่ยเอ๊ยเหล่าจือจะสู้กับแกเอง!"
ผมที่ใจเต็มไปด้วยความสิ้นหวังก็ตะโกนและยิงแมวเขี้ยวดาบอย่างบ้าคลั่งถ้านัดเดียวไม่สามารถฆ่ามันได้ก็ยิงสองนัดสองนัดยังไม่ตายก็ต้องห้านัด!
ถึงเราจะต้องตายที่นี่ในวันนี้แต่แมวเขี้ยวดาบก็ต้องไม่ตายดี!
ตอนนี้ผมหวังว่าปืนลูกซองในมือของผมนี้ถึงจะเป็นสัตว์ร้ายแล้วยิงไปห้านัดก็สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
แมวเขี้ยวดาบตัวนี้ทรงพลังมากจนดูเหมือนว่าจะทำให้ภูเขาสั่นไหวและหิมะบนยอดเขาตกลงมาไป๋เหว่ยที่สงบสติตั้งแต่มาถึงเกาะนี้สีหน้าเธอก็เต็มไปด้วยความหมดหวัง
ผมยิงไปด้วยก็พูดไปด้วย"ทุกคนไม่ต้องห่วงนี่...แมวเขี้ยวดาบมันเข้ามาไม่ได้"
ยังไงผมก็ยังไม่เชื่อคำพูดตัวเอง
และแมวเขี้ยวดาบตัวนี้ดูเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดและแรงในการชนประตูไม้ก็มากขึ้นประตูไม้สั่นไหวปืนผมก็ทิ้งบาดแผลไว้เยอะ
เสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวของแมวเขี้ยวดาบผสมกับเสียงปืนที่ดังก้องข้างหูเราในที่สุดเวลาถัดมาเสียงข้างนอกก็เงียบลง
พวกเราทุกคนต่างชะงักไปชั่วขณะ"แมวเขี้ยวดาบนั่นหายไปแล้ว?"
หานเหม่ยฉีถามอย่างประหลาดใจ
ผมส่ายหัวและพูดว่า"ไม่รู้สิแต่ฉันมองไม่เห็นมันแล้ว"
ฉันมองขึ้นลงซ้ายและขวาผ่านช่องว่างของประตูไม้ขณะนั้นเงาของแมวเขี้ยวดาบที่อยู่ข้างหน้าก็หายไปมีเพียงพายุหิมะที่ยังโหมกระหน่ำ
ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก"แมวเขี้ยวดาบตัวนั้นไม่รู้ว่ามันหายไปไหนบางทีเพราะเมื่อกี้ยิงไปเยอะมันเลยกลัว”
เรารอดแล้ว
เราทุกคนมองกันและกันแววงตาที่เต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อผมกอดไป๋เหว่ยและเธอเองก็เอนตัวเข้ามาในอ้อมแขนผม
หานเหม่ยฉีก็กอดหูเจี้ยนและร้องไห้ออกมาหูเจี้ยนก็ไม่กล้าทำอะไรที่เป็นการละเมิดแม้แต่ตัวเล็กก็กระโดดเข้ามากอดพร้อมร้องไห้ด้วยกัน
และจ้าวซูเหิงลูบจมูกตัวเองอย่างทำอะไรไม่ถูกแล้วเบะปาก
อาศัยอยู่บนเกาะร้างมาตั้งนานเราไม่เพียงแต่รับมือกับคนเท่านั้นแต่ยังรวมถึงสัตว์ต่างๆอีกด้วยแต่ไม่เคยเป็นเหมือนวันนี้มาก่อนความรู้สึกเหมือนจะตายของจริงและเรายังรู้สึกว่าถ้าแมวเขี้ยวดาบทนเจ็บแล้วโจมตีเข้ามาอีกหน่อยเราคงตายไปแล้ว
โชคดีที่มันกลัว
ผมก็สัมผัสปากทางเข้าถ้ำที่แมวเขี้ยวดาบทำเมื่อกี้อย่างเงียบๆและเข้าใจถึงเหตุผลว่าไม่ว่าชีวิตไหนต่างก็มีข้อดีเฉพาะตัวเช่นแมวเขี้ยวดาบตัวนี้ยืนอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารแต่ภูมิปัญญาของมันกลับไม่น้อยเลย
เราหอบกันสักพักและผมยังรู้สึกความกังวลในใจมันยังไม่จางหายไปผมเตรียมออกไปดูอีกหน่อย
ยังไม่ทันจะก้าวออกไปไป๋เหว่ยก็คว้าตัวผมไว้"ไม่ต้องรีบก่อนอื่นนายมองรอบๆก่อนฉันกลัวว่าแมวเขี้ยวดาบนั้นยังไปไม่ไกล"
ผมพยักหน้าตอนนี้ช่องว่างด้านบนของถ้ำไม่มีร่องรอยอะไรมีเพียงความเย็นเปียกโชกด้านบน
ทันทีที่พ้นประตูก็รู้สึกผิดปกติ
ผมมองไปข้างหน้าและเจอกับทางเข้าของถ้ำเต็มไปด้วยเกล็ดหิมะและมันปกคลุมรอยเท้าของแมวเขี้ยวดาบแต่ก็ยังรู้สึกแปลก
ปกติเกล็ดหิมะจะตกลงมาไม่เท่ากันแต่ตอนนี้มีพื้นที่ที่ดูเหมือนว่าหิมะที่ตกลงมาจะถูกกั้นด้วยบางสิ่งจนไม่สามารถตกลงมาได้บนพื้นเป็นพื้นที่วงกลมที่ปราศจากหิมะ
ร่างของมันยืนอยู่บนถนนเล็กๆนอกถ้ำหัวอันใหญ่โตของมันก็หันมาทางเราเพียงแวบเดียวก็ทำให้พวกเรารู้สึกตัวชาวาบ
แมวเขี้ยวดาบลงมาแล้ว!
เคยอธิบายที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของถ้ำนี้แล้วมันคล้ายกับการเชื่อมต่อกันของภูเขา2ลูกส่วนตรงกลางเป็นโพรงและกันหน้าออกทางทะเล
ทางเข้าถ้ำเป็นทางลาดซึ่งง่ายสำหรับมนุษย์ในการเดินแต่สำหรับสัตว์อื่นกลับยาก
ผมคิดว่าไอ้ตัวใหญ่นั่นจะค่อยๆล่าถอยไปหลังจากโจมตีล้มเหลวคิดไม่ถึงว่าจะมาให้บทเรียนเรา
ไอคิวของสัตว์ชนิดนี้ที่เติบโตอย่างดุเดือดเหนือกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่อย่างเสือโคร่งเบงกอลมากถึงขนาดเดินถนนเส้นเล็กๆได้!
"ทุกคนรีบกั้นประตู!"
ในขณะนั้นเองความปรารถนาที่จะเอาตัวรอดของทุกคนก็ถูกกระตุ้นขึ้นเราทุกคนเข้าใจดีว่าประตูไม้ที่ทางเข้าถ้ำเป็นอุปสรรคสุดท้ายและหากประตูไม้นี้ถูกทำลายเราก็อยู่ไม่ไกลจากความตายนัก
ในขณะเดียวกันถ้าเราแข็งแกร่งพอก็สามารถใช้ประตูไม้เป็นกำแพงกั้นเพื่อผลักแมวเขี้ยวดาบที่ดุร้ายออกไปด้านนอกและสุดท้ายก็บีบมันลงหน้าผา
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงเรื่องตลกผมยังสงสัยว่าแค่แรงของเราจะทนต่อแรงของแมวเขี้ยวดาบได้ยังไงนี่แหละปัญหา
ในที่สุดแมวเขี้ยวดาบก็หยุดนิ่งและเราก็ใช้ประตูไม้ยึดด้านหลังประตูด้วย
"โฮก!”
แมวเขี้ยวดาบคำรามฟันยาวที่น่าสะพรึงกลัวเปล่งประกายกลิ่นเหม็นแทบจะพุ่งเข้ามาในหัวของพวกเรา
วินาทีต่อมาแมวเขี้ยวดาบก็ขยับและกระแทกอุ้งเท้าเข้ากับประตูไม้พวกเราผู้ชายสามคนอยู่ข้างหน้ารู้สึกตัวเองเหมือนถูกค้อนหนักทุบลงมาจะมีประตูไม้กั้นแบ่งแรงดันแต่ก็รู้สึกชาไปทั่งตัว
แมวเขี้ยวดาบไม่พอใจหลังจากสะสมพลังได้แล้วก็ตบลงมาอีกครั้งผมก่นด่า"ไอ้เชี่ยแบบนี้ไม่ได้การแล้วไม่ช้าก็เร็วต้องตายอยู่ที่นี่แน่”
สีหน้าของจ้าวซูเหิงแดงขึ้น"ฟางหยางไม่ใช่ว่านายมีปืนเหรอฆ่ามันสิ!"
หูเจี้ยนก็พูดต่อ"ใช่นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเราแล้ว!เรากำลังจะทนไม่ไหวแล้วนะ!"
ไม่ใช่แค่เราแต่ผู้หญิงสองคนที่ดันเราจากข้างหลังเพื่อช่วยรวมทั้งเด็กต่างก็หน้าซีดและเริ่มออกอาการหมดแรง
ผมกัดฟันแล้วพูดว่า"งั้นพวกนายก็รั้งไว้ก่อน"
พูดจบก็ใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่แมวเขี้ยวดาบกำลังโจมตีเปิดประตูไม้นิดหน่อยแล้วใช้ปากกระบอกเล็งที่แมวเขี้ยวดาบ
ปัง!
ประกายไฟพุ่งออกมาในความมืดและแมวเขี้ยวดาบก็คำรามอีกครั้งใกล้ขนาดนี้ผมยิงได้โดยไม่ต้องเล็งแต่ที่แลกมาก็อาจจะยิงไม่โดน
ต้องบอกว่าตำแหน่งของผมสามารถตยิงได้เฉพาะผิวหนังเท่านั้นไม่ต้องพูดถึงหังกับช่วงท้องด้วยซ้ำ
แต่ในตอนนี้ผมไม่สามารถสนใจได้บรรจุทีละนัดสามนัดติดต่อกันแมวเขี้ยวดาบเหมือนจะเรียนรู้และฉลาดขึ้น
สัตว์ร้ายตัวนี้ไม่ได้ตบอุ้งเท้าแต่เริ่มใช้แรงส่วนไหล่ชนเข้ามา!
ประตูไม้สั่นคลอนยากจะรองรับสีหน้าจ้าวซูเหิงกับหูเจี้ยนซีดเซียวเรากำลังตกอยู่ในอันตราย!
"เชี่ยเอ๊ยเหล่าจือจะสู้กับแกเอง!"
ผมที่ใจเต็มไปด้วยความสิ้นหวังก็ตะโกนและยิงแมวเขี้ยวดาบอย่างบ้าคลั่งถ้านัดเดียวไม่สามารถฆ่ามันได้ก็ยิงสองนัดสองนัดยังไม่ตายก็ต้องห้านัด!
ถึงเราจะต้องตายที่นี่ในวันนี้แต่แมวเขี้ยวดาบก็ต้องไม่ตายดี!
ตอนนี้ผมหวังว่าปืนลูกซองในมือของผมนี้ถึงจะเป็นสัตว์ร้ายแล้วยิงไปห้านัดก็สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
แมวเขี้ยวดาบตัวนี้ทรงพลังมากจนดูเหมือนว่าจะทำให้ภูเขาสั่นไหวและหิมะบนยอดเขาตกลงมาไป๋เหว่ยที่สงบสติตั้งแต่มาถึงเกาะนี้สีหน้าเธอก็เต็มไปด้วยความหมดหวัง
ผมยิงไปด้วยก็พูดไปด้วย"ทุกคนไม่ต้องห่วงนี่...แมวเขี้ยวดาบมันเข้ามาไม่ได้"
ยังไงผมก็ยังไม่เชื่อคำพูดตัวเอง
และแมวเขี้ยวดาบตัวนี้ดูเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดและแรงในการชนประตูไม้ก็มากขึ้นประตูไม้สั่นไหวปืนผมก็ทิ้งบาดแผลไว้เยอะ
เสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวของแมวเขี้ยวดาบผสมกับเสียงปืนที่ดังก้องข้างหูเราในที่สุดเวลาถัดมาเสียงข้างนอกก็เงียบลง
พวกเราทุกคนต่างชะงักไปชั่วขณะ"แมวเขี้ยวดาบนั่นหายไปแล้ว?"
หานเหม่ยฉีถามอย่างประหลาดใจ
ผมส่ายหัวและพูดว่า"ไม่รู้สิแต่ฉันมองไม่เห็นมันแล้ว"
ฉันมองขึ้นลงซ้ายและขวาผ่านช่องว่างของประตูไม้ขณะนั้นเงาของแมวเขี้ยวดาบที่อยู่ข้างหน้าก็หายไปมีเพียงพายุหิมะที่ยังโหมกระหน่ำ
ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก"แมวเขี้ยวดาบตัวนั้นไม่รู้ว่ามันหายไปไหนบางทีเพราะเมื่อกี้ยิงไปเยอะมันเลยกลัว”
เรารอดแล้ว
เราทุกคนมองกันและกันแววงตาที่เต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อผมกอดไป๋เหว่ยและเธอเองก็เอนตัวเข้ามาในอ้อมแขนผม
หานเหม่ยฉีก็กอดหูเจี้ยนและร้องไห้ออกมาหูเจี้ยนก็ไม่กล้าทำอะไรที่เป็นการละเมิดแม้แต่ตัวเล็กก็กระโดดเข้ามากอดพร้อมร้องไห้ด้วยกัน
และจ้าวซูเหิงลูบจมูกตัวเองอย่างทำอะไรไม่ถูกแล้วเบะปาก
อาศัยอยู่บนเกาะร้างมาตั้งนานเราไม่เพียงแต่รับมือกับคนเท่านั้นแต่ยังรวมถึงสัตว์ต่างๆอีกด้วยแต่ไม่เคยเป็นเหมือนวันนี้มาก่อนความรู้สึกเหมือนจะตายของจริงและเรายังรู้สึกว่าถ้าแมวเขี้ยวดาบทนเจ็บแล้วโจมตีเข้ามาอีกหน่อยเราคงตายไปแล้ว
โชคดีที่มันกลัว
ผมก็สัมผัสปากทางเข้าถ้ำที่แมวเขี้ยวดาบทำเมื่อกี้อย่างเงียบๆและเข้าใจถึงเหตุผลว่าไม่ว่าชีวิตไหนต่างก็มีข้อดีเฉพาะตัวเช่นแมวเขี้ยวดาบตัวนี้ยืนอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารแต่ภูมิปัญญาของมันกลับไม่น้อยเลย
เราหอบกันสักพักและผมยังรู้สึกความกังวลในใจมันยังไม่จางหายไปผมเตรียมออกไปดูอีกหน่อย
ยังไม่ทันจะก้าวออกไปไป๋เหว่ยก็คว้าตัวผมไว้"ไม่ต้องรีบก่อนอื่นนายมองรอบๆก่อนฉันกลัวว่าแมวเขี้ยวดาบนั้นยังไปไม่ไกล"
ผมพยักหน้าตอนนี้ช่องว่างด้านบนของถ้ำไม่มีร่องรอยอะไรมีเพียงความเย็นเปียกโชกด้านบน
ทันทีที่พ้นประตูก็รู้สึกผิดปกติ
ผมมองไปข้างหน้าและเจอกับทางเข้าของถ้ำเต็มไปด้วยเกล็ดหิมะและมันปกคลุมรอยเท้าของแมวเขี้ยวดาบแต่ก็ยังรู้สึกแปลก
ปกติเกล็ดหิมะจะตกลงมาไม่เท่ากันแต่ตอนนี้มีพื้นที่ที่ดูเหมือนว่าหิมะที่ตกลงมาจะถูกกั้นด้วยบางสิ่งจนไม่สามารถตกลงมาได้บนพื้นเป็นพื้นที่วงกลมที่ปราศจากหิมะ
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved