ตอนที่ 11 ความหวังสุดท้าย

หลี่ฉางเซิงช่วยอู๋ไป๋ซุยหาเซี่ยม่อฮั่นจนพบว่าเธออยู่ที่โรงแรมยวี่ถิง แต่อู๋ไป๋ซุยไม่ได้เรียกหลี่ฉางเซิงมาด้วย แต่เขามีความกังวลว่าอู๋ไป๋ซุยจะเกิดเรื่องขึ้น จึงส่งกำลังคนจำนวนมากมาที่โรงแรมยวี่ถิง

เมื่อหลี่ฉางเซิงพูดจบ บรรยากาศก็เงียบสงัด จนสามารถได้ยินเสียงใบไม้ร่วงเลยก็ว่าได้ ทุกคนในที่นั้นนิ่งเงียบไม่กล้าขยับตัวเป็นเหมือนรูปแกะสลักตั้งไว้

หลี่ฉางเซิงเป็นใครพวกเขารู้ดี นี่คือบุคคลสำคัญในมณฑลเจียงตง การที่เขาเดินทางมาซีหยวนครั้งนี้ บรรดาผู้นำในเมืองซีหยวนมีใครบ้างไม่อยากหาโอกาสร่วมกินข้าวกับเขา แต่ไม่มีใครได้ทำเช่นนั้น บัดนี้บุคคลผู้สูงส่งกลับให้ความเคารพต่ออู๋ไป๋ซุย และเรียกเขาว่าคุณชายสาม ภาพนี้ทำให้พวกเขาตกตะลึง

บรรดาเฝิงเซิ่งลี่ก็งงไปตามๆกัน

อู๋ไป๋ซุยไม่ได้ใส่ใจปฏิกิริยาของคนอื่น เขาเพียงมองดูเซี่ยม่อฮั่นที่อยู่ในอ้อมอกตอนนี้ พบว่าเธอสายตามึนมัวลืมตาไม่ขึ้น ดังนั้นเขาจึงสั่งหลี่ฉางเซิงด้วยเสียงอันดังว่า “จัดการเรื่องนี้ให้ดี อย่าเหลือปัญหามาให้ผมต้องปวดหัว”

เมื่อพูดจบ อู๋ไป๋ซุยก็อุ้มเซี่ยม่อฮั่นเดินออกไป

สำหรับอู๋ไป๋ซุยนั้น แม้จะมีเรื่องด่วนสำคัญ ก็ต้องพาเซี่ยม่อฮั่นกลับไปพักผ่อนให้เรียบร้อยก่อน

ในวันที่สอง เวลาสิบเอ็ดโมงครึ่ง

เซี่ยม่อฮั่นนอนหลับจนกระทั่งตอนกลางวันจึงตื่นขึ้น เธอมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง คล้ายหัวจะระเบิด รู้สึกไม่สบายมากๆ เมื่อผ่านไปชั่วครู่เริ่มดีขึ้น เธอจึงได้ทบทวนเรื่องราวและนึกออกว่า เมื่อวานเธอดื่มหนักมาก

ก่อนหน้านี้เซี่ยม่อฮั่นไม่เคยดื่มเหล้าขาว จากเหตุการณ์เมื่อวานเธอจึงได้รู้ว่าตัวเองนั้นดื่มเพียงแก้วเดียวก็เมาได้ เมื่อคืนหลังจากแก้วเหล้านั้นลงสู่กระเพาะแล้วเธอก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกลับมาที่บ้านได้อย่างไร

เมื่อนึกได้ดังนั้นเธอรีบเปิดผ้าห่มออกดู พบว่าเสื้อผ้าอยู่ในสภาพดี จึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก

เธอลงจากเตียงและเดินไปล้างหน้าแปรงฟัน จากนั้นเดินออกมาจากห้องนอน

เมื่อเดินออกมาก็พบว่าหวางกุ้ยหลานกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว “แม่คะ เมื่อวานหนูกลับมาบ้านยังไง?”
หวางกุ้ยหลานทำกับข้าวไปพลางตอบไปว่า “เมื่อวานเห็นดึกแล้ว แม่โทรศัพท์ไปก็ไม่รับสาย ก็เลยออกไปหา แต่พอกลับมาก็เห็นเรานอนอยู่บนเตียงแล้ว แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากลับมายังไง ตัวเองไม่รู้ยังมาถามคนอื่น เมื่อคืนดื่มไปเท่าไหร่เนี่ย?”

เซี่ยม่อฮั่นทำปากตุ่ย เธอไม่ได้พูดอะไร เดินไปอีกทางหนึ่งหยิบมือถือออกโทรหาจางเสี่ยวลี่ เมื่ออีกฝ่ายรับสายเซี่ยม่อฮั่นรีบถามขึ้นว่า “เมื่อคืนฉันกลับมายังไง แล้วมันเกิดอะไรขึ้น?”

จางเสี่ยวลี่ตอบว่า “เมื่อวานฉันเมามาก ตื่นมาก็อยู่ที่บ้านแล้ว คนที่บ้านบอกว่าพนักงานโรงแรมมาส่ง คุณก็น่าจะเหมือนกัน!”

ได้ยินดังนั้น เซี่ยม่อฮั่นก็สบายใจ และรีบถามต่อว่า “โครงการกรีนพาร์คอสังหาริมทรัพย์สำเร็จไหม?”

จางเสี่ยวลี่ได้ยินดังนั้นก็พูดว่า “หึๆ ไม่ต้องพูดเลย หูต้าไห่เป็นพวกต้มตุ๋น กรีนพาร์คอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้มีโครงการปรับแต่งห้องใหม่ เขาแค่หลอกพวกเรา ตอนนี้ถูกกรีนพาร์คอสังหาริมทรัพย์ไล่ออกแล้ว”

เมื่อฟังคำพูดของจางเสี่ยวลี่ เซี่ยม่อฮั่นก็นิ่งเงียบ เพื่อที่ต้องการให้โปรเจคสำเร็จ เธอวิ่งวุ่นทั้งวันในการเตรียมงาน กว่าจะได้ผูกสัมพันธ์กับกรีนพาร์คอสังหาริมทรัพย์ จากเดิมคิดว่าโปรเจคนี้สำเร็จแน่ แต่ใครจะไปรู้ว่าสุดท้ายแล้วหูต้าไห่จะเป็นพวกต้มตุ๋น?

เซี่ยม่อฮั่นจิตตกมาก แต่เธอไม่มีเวลาไปสืบหาเรื่องราวเพิ่มเติม วันนี้เป็นวันสุดท้ายของเดือน หากไม่สามารถทำยอดได้ยี่สิบล้าน เธอก็ต้องตกงาน

ดังนั้นเซี่ยม่อฮั่นจึงพูดขึ้นว่า “ฉันจะรีบไปที่บริษัทเดี๋ยวนี้” พูดจบก็วางสายไป

อู๋ไป๋ซุยที่นั่งอยู่บนโซฟาเมื่อได้ยินคำพูดทั้งหมดของเซี่ยม่อฮั่น และเห็นเธอทำท่าจะออกไปข้างนอกจึงพูดขึ้นว่า “ต่อไปอย่าดื่มเหล้าอีก”

เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน อู๋ไป๋ซุยก็เกิดกังวลใจ เซี่ยม่อฮั่นเป็นคนที่ดื่มเหล้าไม่ได้ แต่เมื่อวานเธอดื่มไปเยอะ หากว่าเขาไปไม่ทันก็คงเกิดเรื่องขึ้นได้ อู๋ไป๋ซุยไม่สนใจที่เธอจำไม่ได้ว่าเขาเป็นคนช่วยเธอออกมา เขาเพียงกลัวว่าเธอจะเกิดเรื่องขึ้นเพราะดื่มเหล้า จึงได้เอ่ยตักเตือน

เซี่ยม่อฮั่นจากเดิมที่กำลังเครียด เมื่อได้ยินคำพูดของอู๋ไป๋ซุยก็ยิ่งโมโห “คุณคิดว่าฉันชอบดื่มหรือไง?ฉันทำไปก็เพื่องานไม่ใช่เหรอ?” บุคคลที่กำลังจะเผชิญหน้ากับการตกงานอย่างเซี่ยม่อฮั่น ทำให้เธอกดดันมากขึ้นเพราะทั้งบ้านนี้ เธอเป็นผู้หาเงินเพียงคนเดียว เธอจะเสียงานนี้ไปไม่ได้

เมื่อพูดจบ เธอก็เดินตรงออกไป

หวางกุ้ยหลานวิ่งออกมาจากห้องครัว ตะโกนว่า “เสี่ยวม่อ กินข้าวก่อนค่อยไปสิ!”

เซี่ยม่อฮั่นเดินไปพลางพูดว่า “หนูไม่กินค่ะ ไม่มีเวลาแล้ว”

หวางกุ้ยหลานถอนหายใจ จากนั้นหันมาตะคอกใส่อู๋ไป๋ซุยว่า “เสี่ยวม่อใกล้จะถูกไล่ออกแล้ว ต่อไปแกจะเอาอะไรกิน!”

เมื่อเซี่ยม่อฮั่นมาถึงบริษัท ก็ตรงไปยังฝ่ายธุรการ

เดินไปได้ครึ่งทาง เซี่ยจือซวนเดินออกมาขวางทางเซี่ยม่อฮั่นเอาไว้

เซี่ยจือซวนในตอนนี้สีหน้าเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย เขามองมาที่เซี่ยม่อฮั่นแล้วพูดอย่างเจ้าเล่ห์ว่า “เซี่ยม่อฮั่นได้ยินมาว่าเมื่อเช้าไม่ได้มาทำงานเหรอ คุณคงจะถอดใจแล้วสินะ กลับมาเตรียมเก็บข้าวของออกจากบริษัทเหรอครับ?” เขาพูดแล้วยิ้มเย้ย

เรื่องหญิงชรากำหนดให้เซี่ยม่อฮั่นหารายได้ให้ครบยี่สิบล้านนี้ เซี่ยจือซวนรู้ดี เขาไม่ชอบเซี่ยม่อฮั่นอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามีบ้าของเธอคนนั้น ทำให้ชื่อเสียงของเขาเสื่อมเสียไปด้วย ทุกครั้งที่เขาเห็นอู๋ไป๋ซุย ก็อยากจะเข้าไปอัดสั่งสอน ครั้งที่แล้วอู๋ไป๋ซุยตะคอกใส่เขา แค้นนี้ยังไม่ได้ชำระ แต่เขาจำเอาไว้ในใจ!

เซี่ยม่อฮั่นเองก็ไม่ชอบเซี่ยจือซวนเช่นกัน เธอตอบกลับไปว่า “ไม่ใช่เรื่องของคุณนะ” แล้วเดินอ้อมไปยังฝ่ายธุรการ

เป็นเวลาพักพอดี พนักงานในแผนกไปพักกินอาหารกลางวัน บ้างก็นั่งเล่น บ้างก็พูดคุยกันอยู่ มีเพียงจางเสี่ยวลี่เท่านั้นที่กำลังนั่งรอการมาของเซี่ยม่อฮั่น

เมื่อเซี่ยม่อฮั่นมาถึง ก็กำชับกับจางเสี่ยวลี่ว่า “เรียกประชุมทุกคน ในยังห้องประชุมตอนนี้”

จางเสี่ยวลี่พยักหน้า และรีบไปจัดการตามคำสั่ง

สิบนาทีต่อมาในห้องประชุม เซี่ยม่อฮั่นเป็นประธานในการประชุมด่วนในครั้งนี้ หัวข้อการประชุมแน่นอนว่าคือ ทำอย่างไรให้สามารถทำยอดยี่สิบล้านให้ได้

ระยะเวลาที่หญิงชรากำหนดไว้นั้น เหลือแค่เพียงครึ่งวัน เธอจำเป็นต้องใช้เวลาครึ่งวันนี้ทำยอดยี่สิบล้านให้สำเร็จ คำพูดนี้ช่างเป็นอะไรที่เหมือนฝันจริงๆ

บรรดาพนักงานฝ่ายขายนั้นล้วนไม่คาดหวังอะไร

แต่เซี่ยม่อฮั่นเธอเป็นคนไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หากไม่ถึงวินาทีสุดท้ายเธอจะไม่ยอมถอยเด็ดขาด จากการประชุมในระยะเวลาอันสั้น เธอถามจางเสี่ยวลี่ขึ้นว่า “พวกเรายังมีบริษัทที่ไม่ได้ไปเจรจาด้วยไหม?”

จางเสี่ยวลี่รายงานว่า “บริษัทที่จะสามารถรับยอดยี่สิบล้านได้ ตอนนี้เหลือแค่กลุ่ม ChangShengแล้วค่ะ”

พูดถึงตรงนี้ จางเสี่ยวลี่ฝืนยิ้ม แล้วพูดต่อว่า “แต่มันเป็นไปไม่ได้ จากการสังเกตการณ์ กลุ่ม ChangShengใช้บริษัทภายในในการตกแต่ง พวกเขาไม่กระจายให้บริษัทภายนอกจัดการ”

กลุ่ม ChangSheng บรรดาบริษัทใหญ่โตทั้งหลายในมณฑลเจียงตงล้วนอยากทำความร่วมมือด้วย มากมายจนนับไม่ถ้วน แต่บ้านตระกูลเซี่ยเป็นเพียงบริษัทตกแต่งธรรมดาทั่วไป ไม่มีใครในบริษัทกล้าคิดทำความร่วมมือด้วย

เซี่ยม่อฮั่นเองก็รู้ข้อนี้ดี กลุ่ม ChangShengเป็นเหมือนฟ้า มองเห็นแต่จับต้องไม่ได้ เพียงแต่วันนี้เธอไม่มีหนทางแล้ว ถึงแม้จะเป็นความฝันเฟื่อง เธอเองก็ต้องลองดู

เซี่ยม่อฮั่นลุกขึ้นยืน แล้วพูดว่า “เอาเอกสารของบริษัทมาให้ฉัน ฉันจะไปกลุ่ม ChangShengตอนนี้”

“ฮ่าๆๆๆ ทุกคนได้ยินไหม เซี่ยม่อฮั่นจะเดินทางไปเจรจากับกลุ่ม ChangSheng”

เซี่ยจือซวนพาคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในห้องประชุมฝ่ายขาย

“การที่จะทำความร่วมมือกับกลุ่ม ChangSheng คุณหญิงท่านเองยังไม่กล้าแม้แต่คิด เซี่ยม่อฮั่นติดโรคจากอู๋ไป๋ซุยเหรอ เป็นบ้าไปแล้วหรือไง?”

“นั่นนะสิ กลุ่ม ChangShengเป็นบริษัทอะไร จะมาทำความร่วมมือกับพวกเราได้ยังไง โลภมากจริงๆ”
“เซี่ยม่อฮั่น ถ้าเธอจะไปกลุ่ม ChangSheng ฉันรับรองได้ว่าเธอไม่ได้เข้าแม้แต่ประตูแน่นอน ถึงเวลาแล้วจะทำบริษัทเราขายหน้าไปด้วยนะ”

“ใช่ๆ บริษัทเราอับอายกับการที่เธอแต่งงานกับคนบ้าก็มากพออยู่แล้ว นี่เธอจะโดนไล่ออกอยู่แล้วยังมาทำให้บริษัทขายหน้าอีกเหรอ!”

บรรดาที่เดินตามมากับเซี่ยจือซวนล้วนเป็นลูกหลานตระกูลเซี่ย

เซี่ยจือซวนได้ยินมาว่าตอนพักกลางวันเซี่ยม่อฮั่นเรียกประชุมด่วน จึงได้พาคนพวกนี้มาดูเซี่ยม่อฮั่นที่หมดหนทางไป นึกไม่ถึงว่าพวกเขาเดินทางมาแล้วจะได้ยินเรื่องน่าขำนี้เข้า เซี่ยม่อฮั่นจะเดินทางไปกลุ่ม ChangShengเพื่อเจรจาการซื้อขาย นี่มันเป็นเรื่องตลกแบบที่ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อนจริงๆ

บรรดาคนพวกนี้หัวเราะเยาะเธอต่อหน้า ทำให้เธออับอายมากละยิ่งโมโห เธอใช้ตายตาอันแหลมคมมองไปที่พวกขี้แพ้นี้แล้วพูดว่า “การที่บริษัทของพวกเราไม่เติบโต ก็เพราะมีคนแบบพวกคุณอยู่ไง คอยแต่กินส่วนบุญของคนอื่น ตัวเองไม่เคยคิดจะทำอะไรให้ก้าวหน้า พวกคุณไม่มีสิทธิมาดูถูกฉัน แม้ว่ากลุ่ม ChangShengจะไม่ทำความร่วมมือแล้วเป็นยังไง อย่างน้อยฉันก็ได้ลองแล้ว ฉันบริสุทธิ์ใจ!”

บรรดาลูกหลานตระกูลเซี่ยได้ยินดังนั้นก็พูดไม่ออก นอกจากเซี่ยจือซวนที่พอมีความสามารถบ้างนั้น คนอื่นๆก็เป็นเพียงสวะ หลังที่คุณปู่จากไป คุณย่าก็เอาลูกหลานเข้ามาในบริษัทมากมาย และยังให้ตำแหน่งสำคัญๆแก่พวกเขาด้วย ทำให้บริษัทวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ ตอนนี้บริษัทกำลังประสบปัญหา แต่พวกเขากลับโยนหน้าที่รับผิดชอบมาที่เธอคนเดียว

แต่ก่อนเซี่ยม่อฮั่นไม่เคยแสดงความคิดเห็นใดๆ เธอเก็บเอาไว้ในใจ แต่ตอนนี้ไหนๆก็จะถูกไล่ออกแล้ว เธอไม่คำนึงอีกต่อไป พูดคำที่คิดอยู่ในใจทั้งหลายออกมา

เมื่อได้ยินดังนั้น เซี่ยจือซวนก็โกรธ เขากัดฟันพูดกับเซี่ยม่อฮั่นว่า “ตัวปัญหา ยังกล้ามาโทษคนอื่น ถ้าคุณไม่ใช่เธอทำลายชื่อเสียงของบริษัท หุ้นของบริษัทจะตกลงเรื่อยๆแบบนี้ได้ยังไง คุณคอยดูเถอะ รอให้พรุ่งนี้คนบางคนไสหัวออกไปจากบริษัทแล้ว หุ้นจะดีขึ้นเรื่อยๆ!”

เซี่ยจือซวนพูดจบ ทุกๆคนก็เห็นเป็นเสียงเดียวกัน เซี่ยม่อฮั่นเป็นตัวซวย หากเธอออกไปจากที่นี่ ทุกอย่างจะดีขึ้นแน่นอน

เซี่ยม่อฮั่นไม่อยากเสียเวลาต่อล้อต่อเถียงกับพวกเขา เธอหยิบเอกสารแล้วออกจากบริษัทไป

เวลาบ่ายสองโมง เซี่ยม่อฮั่นเดินทางมาถึงกลุ่ม ChangSheng

เป็นตึกสำนักงานหรูหราใหญ่โตที่สุดในเมืองซีหยวน ความสูงระฟ้า ติดตัวอักษรว่ากลุ่ม ChangSheng

ถึงพูดว่าเป็นเพียงบริษัทย่อยในเมืองซีหยวนของกลุ่ม ChangSheng แต่ก็ช่างหรูหราดูดี ทั้งตึกนี้เป็นของกลุ่ม ChangShengแต่เพียงบริษัทเดียว พนักงานทุกคนทำงานอยู่ในที่นี้


ประตูทางเข้าชั้นหนึ่งของตึก มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนยืนอยู่

การที่จะเข้าออกจากบริษัทนั้นจำเป็นต้องใช้บัตรพนักงาน หากว่าลืมนำมา แม้จะเป็นพนักงานของบริษัทเองก็ไม่สามารถเข้าไปได้

กลุ่ม ChangShengเป็นสถานที่ที่หลายๆคนอยากก้าวเข้าไป

เซี่ยม่อฮั่นมาถึงที่นี่ เธออดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองตึกที่สูงเสียดฟ้านี้ จากนั้นค่อยๆเดินก้าวเข้าไปข้างใน

“ขอโทษนะครับ กรุณาแสดงบัตรพนักงาน” เซี่ยม่อฮั่นถูกกักถามโดยไม่มีข้อยกเว้น

เซี่ยม่อฮั่นอธิบายว่า “ดิฉันเป็นพนักงานของบริษัทอันจวีเล่อ มีความต้องการทำความร่วมมือกับบริษัทคุณค่ะ”

“ไม่ทราบว่าได้นัดไว้หรือเปล่าครับ?” เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งถามขึ้น

เซี่ยม่อฮั่นส่ายหัว “เปล่าค่ะ”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพูดขึ้นว่า “ไม่สามารถเข้าไปได้ครับ”

เซี่ยม่อฮั่นเม้มปาก แล้วเอ่ยออกมาด้วยการขอร้องว่า “ช่วยหน่อยนะคะ ฉันอยากทำความร่วมมือกับพวกคุณจริงๆ”

ก่อนหน้านี้เซี่ยม่อฮั่นไม่เคยขอร้องใคร แต่ตอนนี้เธอกลับต้องมาขอร้องเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพื่อความอยู่รอดของเธอ

คนที่อยากทำความร่วมมือกับกลุ่ม ChangShengมีมากมาย ถ้าให้ทุกคนเข้าไปก็คงวุ่นวายน่าดู ดังนั้นพนักงานทั้งสองจึงนิ่งดูเซี่ยม่อฮั่นที่หน้าตาสวยงามโดยไม่ขยับเขยื้อน

เซี่ยม่อฮั่นเหมือนถูกเมินเฉย เธออึดอัดใจมาก ทุกสิ่งตรงตามที่บรรดาพวกเซี่ยจือซวนพูดไว้ไม่มีผิด เธอไม่ได้แม้แต่จะเหยียบเข้าไปข้างใน สิ่งนี้สำหรับเซี่ยม่อฮั่นแล้ว เธอยากที่รับได้จริงๆ เธอรู้ดีว่าหากกลับไปมือเปล่าแบบนี้คงถูกพวกเขาหัวเราะเยาะแน่นอน และไม่วายยังถูกไล่ออกอีกด้วย

“รีบไปเถอะ อย่ามาขวางทางให้เกะกะ “ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกคนหนึ่งพูดขึ้น

เซี่ยม่อฮั่นไม่ได้สีหน้าหนาพอที่จะทนได้กับการถูกไล่เช่นนี้ เธอหน้าแดงเรื่อ แต่หากมัวแต่หน้าแดงยืนอยู่แบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจหันหลังกลับ

“ให้เธอเข้ามาได้” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านใน

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

395