บทที่ 4 การพูดคุยทางโทรศัพท์

by หัวมันลู 12:22,Dec 19,2020
ซูเฉินกำลังรู้สึกเพลิดเพลิน แต่คอของเขายังมีความเจ็บปวดเมื่อถูกสัมผัส ตอนนี้เขาถูกลูบเบา ๆ ด้วยปลายนิ้วของหลิวอี้อี้ เพียงเขารู้สึกว่าส่วนที่สัมผัสนั้นเย็นและลื่น โดยเฉพาะมือของพี่สะใภ้ของเขา ทำไมจู่ๆ ความเขินอายก็กลับมาอีก!

“ พี่ พี่สะใภ้ ... ครีมหกลงไปบนพื้นแล้ว” ซูเฉินเตือน

หลิวอี้อี้เริ่มมีสติ เธอบีบครีมไว้ที่มือซ้ายและใช้ปลายนิ้วมือขวาของเธอทาครีมให้ซูเฉิน แต่เมื่อเธอเดินไปมา ทำให้ครีมในมือซ้ายของเธอหล่นลงไปที่พื้น

"อุ๊ย" เมื่อ หลิวอี้อี้เห็น เธอก็ดึงทิชชู่ออกอย่างรวดเร็วจากนั้นคุกเข่าลงเพื่อเช็ดมัน

การนั่งลงไปยังไม่น่ามองเท่า บางอย่างทรงกลมสีขาวราวกับหิมะ หน้าอกของเธอปรากฏในสายตาของซูเฉินอีกครั้ง อาจเป็นเพราะเธออยู่แต่ในบ้าน หลิวอี้อี้จึงไม่ได้สวมเสื้อชั้นใน ไม่น่าแปลกใจที่ตอนที่เขาจับเธอไว้ในครัวในตอนนั้น เนินอกและยอดปทุมถันจึงแทบจะทะลุเสื้อออกมาก!

แท้จริงแล้ววันนี้หลิวอี้อี้สวมชุดชั้นในแบบครึ่งตัว แม้ว่าเธอจะไม่ได้เปิดให้เห็นยอดหน้าอกทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้ไม่สวมอะไรเลย เพียงแต่ซูเฉินมีความรู้เพียงเล็กน้อยและเมื่อเห็นความขาวของหลิวอี้อี้ เขาจึงคิดว่าเธอไม่ได้สวมเสื้อชั้นใน

"อืม" ซูเฉินกลืนน้ำลายอีกครั้งและน้องชายของเขาก็ตอบสนองอีกครั้ง

หลิวอี้อี้ไม่รู้ตัวว่าเนินหิมะทั้งสองปรากฏขึ้นบนหน้าอกของเธอ เพราะเมื่อเห็นครีมหล่นลงบนพื้นเธอรีบหยิบทิชชู่ออกมาแล้วหันมาเช็ดโดยไม่ทันคิด ลืมแม้กระทั่งท่อนล่างที่ใส่

เธอใส่กระโปรงยีนส์เอวต่ำเมื่อเช้านี้ เมื่อเธอหันกลับไปเอวเรียวของเธอก็เผยให้เห็นกางเกงในบางและขาว ไล่เรียงไปยังส่วนโค้งที่ขยายออก ส่วนต่ำลงมาระหว่างก้นขาวทั้งสอง ซูเฉินเห็นร่างกายส่วนลึกนั้นเช่นกัน

ยิ่งคิดก็ยิ่งคิดลึก เขาเขยิบอยู่ห่างออกไปด้วยความกังวล ซูเฉินอดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืนและปรับมุมของตัวเองโดยต้องการที่จะมองเห็นภาพทั้งหมด

หลังจากเช็ดครีมบนพื้น หลิวอี้อี้ ก็ยืนขึ้นและโยนทิชชู่ในมือลงในถังขยะ และมองไปที่รอยขีดข่วนบนคอของซูเฉินมันไม่เป็นสีแดงอักเสบอีกต่อไป

"นายอยู่บ้านทบทวนบทเรียนของนายไปนะ ฉันนัดเพื่อนไปซื้อของ มื้อเที่ยงนายก็สั่งข้าวมากินเองแล้วกัน" หลังจากทำความสะอาดเสร็จ หลิวอี้อี้ก็เดินไปหยิบเงินห้าสิบหยวนออกมาจากกระเป๋าของเขา ก่อนส่งให้ซูเฉิน

เมื่อรู้ว่าพี่สะใภ้ของเขากำลังจะออกไป ซูเฉินก็ลังเลอยู่สักพัก แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ จึงรับเงินไว้แล้วพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้

หลังจากที่หลิวอี้อี้จากไปซูเฉินก็รู้สึกโดดเดี่ยวอยู่สักพัก เมื่อเขากำลังคิดว่าเขาควรทำอะไรดี จู่ๆเขาก็จำได้ว่ากางเกงในของเธอยังคงอยู่ใต้หมอนของเขา

เขารีบกลับไปที่ห้องนอน พลิกกางเกงชั้นในลูกไม้สีแดงขึ้นดูอีกครั้งและมองที่รอยเปื้อนที่มีทั้งร่องรอยของเขาเองรวมทั้งของหลิวอี้อี้ด้วย

ซูเฉินไม่ใช่พวกโรคจิตของสะสมกางเกงในผู้หญิง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในสองวันที่ผ่านมานั้นยากที่จะควบคุมจิตใจได้ ในหัวของเขายังยังคงมีภาพหน้าอก กลมกลึงของหลิวอี้อี้ บั้นท้ายสีขาวราวดอกไม้ของเธอจนแทบทนไม่ได้ แต่ก็ไม่สามารถระบายออกไปได้

"คนที่มณฑลกวางตงนั้นไม่ติดต่อกลับมาหา บางครั้งพวกเขาก็ลืมไปแล้วว่าที่เดิมที่เคยเดินนั้นเป็นอย่างไร... "

เขารู้สึกตื่นเต้นเมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น และเสียงเรียกเข้าดังกล่าวเป็นริงโทนเพลงใหม่ล่าสุด เมื่อเห็นว่าสายนั้นมาจากหลิวอี้อี้ เขาก็รีบรับสายทันที

"มีอะไรเหรอครับพี่" ซูเฉินถาม ร่างกายของเขาร้อนรุ่มขึ้นเล็กน้อย และเริ่มเคลื่อนไหวมืออย่างช้าๆ

หลิวอี้อี้ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติของซูเฉิน และพูดว่า : "ฉันน่าจะลืมทิ้งกุญแจไว้นาย นายช่วยเป็นเด็กกีอยู่แต่ในบ้านก็แล้วกันนะ ไม่ต้อองออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก... "

"อา โอเคครับ" ซูเฉินฟังเสียงของหลิวอี้อี้และจินตนาการถึงว่าเธอมาปรากฏตัวอยู่ข้างหน้า ลมหายใจก็พลันสะดุด

"โอเค นายช่วยเป็นเด็กดีสักวันนะ ฉันไปละ" หลิวอี้อี้กล่าว

"อย่าวางสาย ... " ซูเฉินกำลังจินตนาการอย่างสบายใจ เมื่อได้ยินว่าหลิวอี้ยี่กำลังจะวางสาย เขาจึงพูดขึ้นพูดอย่างกังวล

“ มีอะไรเหรอ?” หลิวอี้อี้ถาม

"ผม... เอ่อ ฉันปากกาของผมพัง ถ้าออกไปซื้อไม่ได้ ในบ้านพอมีปากกาไหมครับ" ซูเฉินรีบยกเหตุผลมาอ้าง

หลิวอี้อี้ไม่รู้ว่าซูเฉินโกหก เธอจึงพูดว่า "ในห้องนั่งเล่นมีที่ใส่ปากกาอยู่บนชั้นวางของ นายไปหาดูก็แล้วกัน"

ซู่เฉินตั้งใจฟังเสียงของหลิวอี้อี้ ความเร็วในการเคลื่อนไหวมือของเขาเร็วขึ้นและเร็วขึ้น เขาถามเบา ๆ "ที่ไหน ผมหาไม่เจอ... "

"ในห้องนั่งเล่นมีที่วางปากกาบนชั้นสองของชั้นวาง ในนั้นมีปากกาคาร์บอนอยู่สองสามด้าม นายน่าจะหาเจอได้ง่ายนะ ถ้าลองหาดูดีดี" หลิวอี้อี้อธิบาย

ซูเฉินทำเป็นไม่ได้ยินเสียงของเธอ และเคลื่อนไหวมือของเขาอย่างต่อเนื่อง ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาอดไม่ได้ เนื่องจากอารมณ์พุ่งพล่านถึงจุดระเบิดอีกครั้ง!

“ อา!” ซูเฉินครางพร้อมสูดลมหายใจเข้าลำคอ

ปลายสายอีกด้านหนึ่ง หลิวอี้อี้ตกตะลึงไปชั่วขณะ ในฐานะคนเป็นภรรยา เธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าผู้ชายคนหนึ่งจะค้างสายนานขนาดนี้ได้อย่างไร? เธอขมวดคิ้วและส่งเสียงดุทางโทรศัพท์ "นาย...ไอ้เด็กเลวฉันจะฟ้องพี่ชายของนาย!"

หลังจากการปลดปล่อย สมองของซูเฉินก็ว่างเปล่าไปสองสามวินาที หลังจากนั้นก็รู้สึกโล่งสบายก็ค่อยๆเข้ามาแทนที่ เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ : "พี่สะใภ้ ผมเจอปากกาคาร์บอนแล้ว ... ""

"นาย!"

หลิวอี้อี้โกรธมากที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น และเธอไม่สามารถจับได้คาหนังคาเขา แบบนี้ก็ไม่สามารถเอาไปบอกซูเจิ้งได้น่ะสิ

หลิวอี้อี้ที่ใบหน้าแดงก่ำ พลันนึกถึงเจ้ากางเกงชั้นในที่ "หายไป" เมื่อคืนนี้ได้ เธอจึงตะคอกว่า "ซักของที่นายขโมยไปเมื่อคืนมาให้ฉัน แล้ววางไว้ที่ระเบียง! และ ... คราวนี้ฉันจะยกโทษให้นาย แล้วต่อไปห้ามทำเรื่องแบบนี้อีก ฟังอยู่รึเปล่าห๊ะ!?

เมื่อซูเฉินได้ยินดังนั้นเขาจึงมองไปยังสิ่งที่เปียกชื่นอยู่ในมือและถามหลิวอี้อี้ว่า "หลังจากซักแล้วพี่ยังใส่มันอยู่ไหม"

"ไอ้เด็กเลว!" หลิวอี้อี้วางสายลงด้วยความโกรธเมื่อได้ยิน

แน่นอนว่าเธอรู้ว่าซูเฉินทำอะไรกับชุดชั้นในของเธอ สิ่งที่น่ารังเกียจที่สุดคือหลักจากทำมันแล้วยังจะกล้าถามอีกว่าเธอจะใส่มันอีกไหม

ชุดชั้นในเป็นสินค้าแบรนด์เนมที่ซื้อจากทางร้านโดยตรง ราคากว่า 600 หยวนต่อชิ้น หลังจากใส่เพียงสองครั้งเด็กคนนี้ก็ทำให้ชุดชั้นในของเธอสกปรก ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าเสียดาย

ถ้าซูเฉินไม่ถาม หลิวอี้อี้ก็อาจจะไม่คิดมากกันมัน ซักตากเสร็จก็คงใส่มันต่อไป แต่เมื่ออีกฝ่ายถามขึ้นแบบนี้ ถ้าเธอบอกว่าเธอจะใส่ต่อไป มันก็ออกจะ....


























Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

1