บทที่ 16 เต็มไปด้วยความรักความห่วงใย

by หัวมันลู 12:23,Dec 19,2020
"พี่สะใภ้ พี่ให้ผมไปจริงๆหรอ ?" ซูเฉินถามขึ้น

เห็นสายตาซูเฉินที่แผดเผา ดูเหมือนมีน้ำตาภายในตา หลิวอี้อี้ก็ปวดใจ แต่เธอยังพูดอย่างแน่วแน่ว่า "พวกเรา.....ต้องการเวลาในการสงบสติอารมณ์"

"ครับ"

ซูเฉินกัดฟันและพูดว่า ".....คืนนี้ ผมจะรอพี่ถังกลับมาเป็นเพื่อนพี่ ถ้าเขากลับมาแล้วไม่พูดอะไร พรุ่งนี้เช้าผมจะไป แต่ถ้า.....มีเรื่องนั้นล่ะก็ ผมจะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว"

พูดจบ ซูเฉินก็เดินกลับเข้าห้องนอนไป ประตูถูกปิดอย่างแรง เพื่อแยกตัวเองและหลิวอี้อี้ออกจากกัน

มองแผ่นหลังของซูเฉิน หลิวอี้อี้ก็รู้สึกไม่สบายใจแต่ก็พูดอะไรไม่ออก รู้สึกลังเล หลิวอี้อี้เลยจะไปปลอบใจซูเฉิน

เมื่อกลับเข้าห้องแล้ว ซูเฉินรู้สึกว่าฟ้ามืดมิด เรื่องราวทั้งหมด ราวกับว่าเป็นละคร

ถึงเวลาพลบค่ำ หลิวอี้อี้ไปเรียกซูเฉินกินข้าว

หลังจากที่ซูเฉินได้ยินเสียงของหลิวอี้อี้แล้ว ก็รู้สึกเหมือนภายในใจมีแต่ความมืดสลัว แต่ก็ปากแข็งบอกไปว่า " ผมไม่หิว"

"ไม่หิวก็ต้องกินซักหน่อย ไม่งั้นเดี๋ยวจะหิวทำลายกระเพาะ" หลิวอี้อี้พูดอย่างอ่อนโยน

เมื่อซูเฉินได้ยินความเป็นห่วงของหลิวอี้อี้ ยิ่งทำให้รู้สึกไม่ดี เขาลงจากเตียง ยืนเงียบๆที่หน้าประตู อยากฟังเสียงของเธอให้ชัดเจนขึ้น

"ซูเฉิน?" หลิวอี้อี้ยังคงเรียกต่อไป

เพียงแค่ประตูกั้น แต่เสียงของหลิวอี้อี้ก็ดังชัดเจน

แต่ซูเฉินกลับไม่อยากออกไป เพราะทุกครั้งที่หลิวอี้อี้เรียกชื่อตน ใจซูเฉินก็จะสั่น

เขาอยากจะออกไปแล้วกอดหลิวอี้อี้แน่นๆในอ้อมอก อยากจะบอกเธอว่า ตัวเขาใส่ใจเธอขนาดไหน ชอบเธอ....ถึงแม้จะไม่ได้ทำอะไรเกินเลย แค่ให้ตัวเขาได้กอดเธอ แค่นี้ซูเฉินก็พอใจแล้ว

แต่จิสัมนึกบอกกับซูเฉินว่า ตัวเองควรเงียบไว้ดีที่สุด รอพรุ่งนี้เขาไปแล้ว ทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยดี

.........


กลางคืน พี่ถังไม่กลับมา ซูเฉินพลิกไปพลิกมา สุดท้ายก็หลับไป

เพราะมีเรื่องในใจ เขาก็เลยไม่ได้หลับลึก เช้าวันรุ่งขึ้น ก็ตื่นขึ้นมา

เดินออกไปห้องรับแขกเงียบๆ พบว่าไม่มีรองเท้าของพี่ถังที่หน้าประตู เขาน่าจะยังไม่กลับมา คิดถึงเรื่องนี้ ซูเฉินก็ถอนหายใจเบาๆ

และเดินไปหน้าประตูบ้านเงีบๆ เขาเปลี่ยนรองเท้า เปิดประตูและเดินออกไป

ความรู้สึกเหมือนสัปดาห์ก่อน ตัดใจไม่ลง แต่ครั้งนี้โศกเศร้าหน่อย เพราะดูจากท่าทางของหลิวอี้อี้แล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนดูจะไม่มีที่เหลืออีกแล้ว

เดินออกจากหมู่บ้านไป ซูเฉินเรียกแซ็กซี่คันหนึ่ง นั่งไปยังไม่ทันถึง หลิวอี้อี้ก็โทรเข้ามา

ซูเฉินกดตัดสาย และคิดว่าจะส่งข้อความหาหลิวอี้อี้บอกว่า เขากลับมหาวิทยาลัยแล้ว

แต่เมื่อกดตัดสาย หลิวอี้อี้ก็โทรมาอีกครั้ง เขาตัดสายอีก หลังจากทำแบบนั้นอยู่สามสี่ครั้ง ซูเฉินก็รับสาย พูดว่า "พี่สะใภ้...."

พยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลิวอี้อี้ถามด้วยความอ่อนโยนว่า " ทำไมไปไม่บอกซักคำ?"

"นี่ไม่ใช่สิ่งที่พี่ต้องการหรอ?" ซูเฉินยิ้มแห้งๆถามออกไป

หลิวอี้อี้รู้สึกปวดใจ แต่ก็อธิบายอย่างจริงจังว่า " ซูเฉิน พี่เห็นนายเป็นน้องชายแท้ๆ.....จนกระทั่งถึงตอนนี้ พี่ก็ไม่เคยคิดโทษนาย"

ซูเฉินเงียบ ไม่พูดอะไร

หลิวอี้อี้พูดต่อว่า "เรื่องของความรู้สึก พี่คนที่เคยมีประสบการณ์มาก่อนก็ควบคุมไม่ได้ จะไปโทษนายได้ยังไง? พวกเราสองคนสงบสติอารมณ์ สัปดาห์หน้า พี่จะให้พี่ถังไปรับนายกลับมา โอเคมั้ย?"

ซูเฉินรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย พูดเบาๆว่า "อืม" แล้ววางสายไป

กลับถึงมหาวิทยาลัย บังเอิญเจอ เธอสวมชุดกระโปรงยาวลายดอกไม้ แต่งหน้าอ่อนๆบนใบหน้าขาวนวล มากับเพื่อนสนิทอีกสองคน

เห็นจ้าวซีแล้ว ซูเฉินก็ยิ้มเป็นการทักทาย แล้วเดินต่อไป

จู่ๆ จ้าวซีก็วิ่งมาหาเขา สีหน้าเขิลอาย พูดว่า "ซูเฉิน วันนี้วันเกิดฉัน....ตอนเย็นนายว่างมั้ย?"

"หา?" ซูเฉินชะงักไป และมองสายตาที่รอคอยคำตอบของจ้าวซี รีบพยักหน้า พูดว่า " ว่าง ว่าง"

"งั้นตอนเย็นฉันค่อยโทรหานายนะ" จ้าวซียิ้มด้วยความดีใจ และจากไปด้วยหน้าแดงๆ

ซูเฉินไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเขาและจ้าวซีเป็นเพื่อนที่นั่งเรียนโต๊ะเดียวกัน ติดต่อกันส่วนตัวบ้างก็ดี หลังจากที่เธอไปแล้ว เขาก็ละสายตา และตัดสินใจว่าจะไม่กลับไปที่หอพักก่อน

"ไปร่วมงานวันเกิดของเธอ ยังไงก็ต้องมีของขวัญสิ!" ซูเฉินพูดกับตัวเอง

ซูเฉินเดินดูของไปทั่ว สุดท้ายสนใจนาฬิกาข้อมือผู้หญิง ราคาสองร้อยกว่าหวน ราคาไม่ค่อยแพง และก็ดูดี

หลังจากซื้อของเสร็จก็กลับหอไปนอนพัก ตอนที่กำลังเดินเข้าประตู ซูเฉินก็เอาหูแนบไปที่ประตู แน่ใจแล้วว่ารูมเมทที่ชื่อ หวังฟานไม่ได้พาแฟนมาพลอดรักกัน ก็ผลักประตูเข้าไป

คิดถึงสายตาโกรธแค้นของแฟนสาวของหวังฟานแล้ว ซูเฉินก็อยากหัวเราะออกมา

เพราะเมื่อคืนมัวแต่เสียใจเรื่องหลืวอี้อี้ ซูเฉินแทบจะไม่ได้นอนทั้งคืน ตอนนี้ขึ้นเตียงปุ๊บ ก็หลับได้เลย

หลังจากที่ตื่นนอน เวลาประมาณห้าโมงเย็น เก็บของโน่นนี่ จ้าวซีก็โทรมาพอดี

"ซูเฉิน....ฉันอยู่ร้านอาหารหยาหมี่ นายตามมานะ" จ้าวซีน้ำเสียงเขิลอายลอดสายมา

"ร้านอาหารหยาหมี่....ร้านอาหารฝรั่ง?" ซูเฉินชะงักไปครู่หนึ่ง

"ใช่"

"อ้อ งั้นเดี่ยวฉันรีบไป" ถึงแม้ซูเฉินจะแปลกใจ แต่ก็ม่ได้ถามอะไรมาก รีบออกจากห้องไป

ตอนแรกคิดว่าจ้าวซีจะไปร้านอาหารตามสั่ง ร้านชาบูอะไรแบบนี้ แต่ร้านอาหารฝรั่ง......หรือว่าจ้าวซีชวนมาไม่กี่คน?"


"อาจจะมีแค่เพื่อนสนิทเธอสองคนนั้นมั้ง?" ซูเฉินคิดในใจ แล้วรีบเดินไป

ร้านอาหารหยาหมี่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย ลูกค้าหลักก็คือคู่รักนักเรียน ไม่นาน ซูเฉินก็มาถึง เข้
าไปในร้าน ก็เห็นจ้าวซีได้ง่ายๆ

"พวกเธอยังไม่มาอีกหรอ?" เมื่อซูเฉินเห็นจ้าวซีนั่งอยู่คนเดียว ก็แปลกใจ

"คืนนี้......ก็มีแค่เราสองคนนี่แหละ" จ้าวซีพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ

"อ้อ? งั้นพวกเขาไม่ว่าเธอว่าไม่มีน้ำใจหรอ?" ซูเฉินรู้สึกแปลกใจ แต่ผ่านไปครู่หนึ่งก็ทำตัวปกติ อยู่ต่อหน้าจ้าวซีเขาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเหมือนอยู่ต่อหน้าหลิวอี้อี้และหยางถิง

"ตอนเที่ยงฉันกินข้าวกับพวกเขาไปแล้ว ตอนนี้ ก็เลยอยากฉลองวันเกิดกับนาย" จ้าวซีพูด ก้มหน้าด้วยความเขิลอาย เห็นท่าทางของจ้าวซีน่ารักดี ซูเฉินก็รู้สึกชอบ เพื่อนร่วมโต๊ะเรียนของเขาคนนี้หน้าตาและรูปร่างดี แต่เนื่องจากแต่ก่อนเอาความสนใจทั้งหมดไปไว้ที่หลิวอี้อี้ ก็เลยมองข้ามแรงเย้ายวนของจ้าวซี

"นี่ ให้เธอ" ซูเฉินหยิบนาฬิกาข้อมือออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

"มีของฝันด้วย?" จ้าวซีพูด

ซูเฉินพยักหน้า และยื่นกล่องนาฬิกาข้อมือให้จ้าวซี แต่จู่ๆก็หยุดไป และเขาก็เปิดกล่องของขวัญเอง แล้วหยิบนาฬิกาข้อมือออกมา พูดกับจ้าวซีว่า " ยื่นมือมาสิ"

จ้าวซีหน้าแดงก่ำ แล้วยื่นมือมาให้

มองดูมือเล็กๆขาวๆนั้น ซูเฉินก็โน้มตัวเอานาฬิกาข้อมือสวมไว้ที่ข้อมือของจ้าวซี ระหว่างที่สวมให้อยู่นั้นมือทั้งสองคนก็ถูไถกันไปมา ซูเฉินรู้เพียงแต่ว่ามือของจ้าวซีนุ่มมาก ทุกครั้งที่โดนก็จะรู้สึกว่าสบาย

หลังจากที่ใส่นาฬิกาข้อมือให้จ้าวซีเสร็จแล้ว ซูเฉินก็ยิ้มและถามว่า "ชอบมั้ย?"

จ้าวซีหน้าแดงก่ำ พูดด้วยความเขิลว่า "ชอบ"

หลังจากนั้น ซูเฉินก็ลงมานั่งที่เดิม ทั้งสองคนก็เริ่มสั่งอาหาร ตลอดระยะเวลาที่กินข้าวก็มีบรรยากาศความรักความห่วงใย สายตามองกันอย่างหวานเยิ้ม

หลังจากที่หลิวอี้อี้ปฏิเสธเมื่อวานนี้ ที่จริงซูเฉินกังวลใจมาก แต่ตอนนี้จู่ๆกลับรู้สึกร่าเริงขึ้นมา ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและหลิวอี้อี้สุดท้ายก็ไม่ค่อยดี แต่ถ้าตอนนี้เอาจิตใจและความกระตือรือร้นมาฝากไว้กับจ้าวซี ก็ไม่มีอะไรเสียหาย

ส่วนจ้าวซีนั้น เธอรู้สึกดีกับซูเฉินมานานแล้ว แต่แค่ไม่กล้าสารภาพออกไป วันนี้ก็เลยถือโอกาสวันเกิดตัวเอง รวบรวมความกล้าชวนซูเฉินมา และหลังจากที่พบว่าซูเฉินก็รู้สึกดีกับตัวเองเช่นกัน ภายในใจก็รู้สึกถึงความหวาน


"เดี๋ยวไปดูหนังกันมั้ย?" เมื่อเห็นว่าจ้าวซีกินอิ่มแล้ว ซูเฉินก็เอ่ยปากถาม

ผู้ชายที่ตัวเองศรัทธาเอ่ยปากชวน จ้าวซีจะปฏิเสธได้ยังไง ก็เลยพยักหน้า พูดว่า "เอาตามนายว่าเลย"

เมื่อเห็นท่าทางน่ารักของจ้าวซี และเห็นปฎิกิริยาตอบโต้ของจ้าวซีแล้ว เขาก็เอามือไปจับมือเล็กๆของเธอ และเดินไปจ่ายเงิน หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เรียกแท็กซี่นั่งไปยังโรงหนัง


"ซูเฉิน?"

"มีอะไร?"

"ไม่....ไม่มีอะไร"

ที่จริงจ้าวซีต้องการที่จะถามความคิดที่แท้จริงของซูเฉินเพื่อความมั่นใจ แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าถามออกไป

ซูเฉินก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดเพียงแค่ว่าจ้าวซีคงจะพูดอะไรแล้วไม่อยากพูดแล้ว ก็เลยยื่นมือออกไปโอบเอวเล็กๆของเธอไว้ พูดว่า " ทำไม เสียใจที่นัดฉันออกมาหรอ?"

"ไม่ใช่นะ!" จ้าวซีหน้าแดง แล้วพิงลงไปบนไหล่ของเขา

เมื่อมาถึงโรงหนัง เป็นเวลาที่หนังกำลังจะฉายพอดี ซื่อตั๋วหนังเสร็จก็เดินเข้าโรงไป

เพราะเป็นรอบค่ำ คนในโรงก็เลยไม่ค่อยเยอะ มีแค่คู่รักอยู่ไม่กี่คู่ เนื่องจากซูเฉินไม่มีประสบการณ์ก็เลยเลือกที่นังที่อยู่ตรงกลาง

ส่วนคู่รักคู่อื่นๆค่อนข้างฉลาด ก็จะเลือกที่ขอบๆ มุมๆ

หนังที่ฉายเป็นหนังความรักใสใสของเด็กวัยเรียน ก็จะมีบางฉากที่เป็นฉากเลิฟซีนระหว่างผู้หญิงผู้ชาย เมื่อซูเฉินเห็น ก็จะกอดจ้าวซีแน่นขึ้นกว่าเดิม

คู่รักที่นั่งอยู่มุมๆก็เริ่มจะจูบกันอย่างดูดดื่มแล้ว บางคู่ก็เริ่มที่จะปลดเข็มขัดยื่นมือเข้าไปแล้ว

เมื่อซูเฉินได้ยินเสียงใคร่ครวญจากด้านหลัง ในเวลานั้น น้องชายของเขาก็เริ่มขยายขึ้นมา

แต่จ้าวซีไม่เหมือนหลิวอี้อี้ และหยางถิง ดูออกอย่างชัดเจนว่าเธอไม่มีประสบการณ์ ถ้าคุกคามเธอที่นี่ จะทำให้เธอไม่ชอบรึเปล่า?

ไม่มีประสบการณ์ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไร้เดียงสาไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้ ซูเฉินรู้สึกฮึกเหิมในใจ ก็เลยเอามือไปจับมือเล็กๆของจ้าวซี แล้วใช้นิ้วเขี่ยที่ฝามือนุ่มๆของเธอ

ฝ่ามือของจ้าวซีถูกเขี่ยจนรู้สึกคัน เธอเลยหันหน้ามาหาซูเฉิน ถามว่า " นายทำอะไรน่ะ?"

"ไม่ทำอะไร เพีย
แค่รู้สึกว่าหนังไม่น่าดูเท่าดูเธอ" ซูเฉินพูด

"คนบ้า" จ้าวซีทำปากจู๋ หน้าแดงก่ำ

ซูเฉินแกล้งจนเธอยิ้ม ก็เลยยื่นหน้าไปหาเธอ เห็นจ้าวซีสูดลมหายใจลึก แล้วหลับตา

มันราบรื่นกว่าที่เขาคิด อาจจะเพราะฉากในหนัง จ้าวซีมีความกล้าขึ้นมาก ซูเฉินเห็นดังนั้น ก็เลยอ้าปาก แล้วจูบเธอไป.......























































Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

1