บทที่ 17 พี่ถังไปทำงานต่างพื้นที่

by หัวมันลู 12:23,Dec 19,2020
ซูเฉินในตอนนี้ เทคนิคการจูบเก่งกว่าแต่ก่อนมาก เขาค่อยๆกัดริมฝีปากของจ้าวซีเบาๆ และจูบเขาๆไปสองสามที หลังจากนั้นก็แหย่ลิ้นลึกเข้าไป

จ้าวซีถูกซูเฉินจูบก็ตื่นเต้น เห็นว่าซูเฉินใส่ลิ้นเข้าไป เธอก็ตอบรับแบบเก้งๆก้างๆ

หลังจากที่ซูเฉินใช้ลิ้นเขี่ยๆภายในปากนุ่มๆของจ้าวซี เขาก็เปลี่ยนวิธีการ เข้าค่อยๆอมลิ้นของจ้าวซีแล้วดูดเบาๆเพื่อลิ้มรส

ปากก็จูบไปเรื่อยๆ ฝ่ามือใหญ่ของซูเฉินก็ยื่นเข้าไปในเสื้อของจ้าวซีเพื่อจะจับ

"ไม่เอา ซูเฉิน...." จ้าวซีเค้นเสียงพูดออกมา

เมื่อซูเฉินเห็นว่าเธอขัดขืน ก็เลยหยุด แต่มือก็ยังบีบตรงขาอ่อนของจ้าวซีเบาๆ ปากก็ยังจูบต่อไปเรื่อยๆ

สัมผัสได้ถึงความเร่าร้อนที่ฝ่ามือของซูเฉิน จ้าวซีรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะละลายในฝ่ามือของเขา ไม่เพียงรู้สึกร้อนผ่าวบนใบหน้า แต่ทั่วร่างกายก็เริ่มรู้สึกร้อนๆเช่นกัน

ซูเฉินรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของเธอ รอจนจ้าวซีเริ่มรู้สึกถลำลงไป ฝ่ามือใหญ่ๆนั้นก็เริ่มขยับอีกครั้ง

"อื้อ" จ้าวซีดิ้นเบาๆ อยากจะอ้าปากปฏิเสธ

แต่ซูเฉินไม่ให้โอกาสเธอ เขาอมลิ้นเล็กๆของจ้าวซีเอาไปในปาก มือก็ยสอดข้าไปที่หน้าอกของเธอ ถึงแม้ค่อนข้างแน่น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้

คนที่ไม่เคยเจอความเร้าใจอย่างจ้าวซีจะมาควบคุมความเร้าใจนี้ได้อย่างไร หน้าแดงก่ำ น้ำตาแทบจะหยดลงมาแล้ว

เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองขึ้นเรือโจรสลัด!

แต่ก่อนก็ไม่เคยเห็นซูเฉินใกล้ชิดกับผู้หญิงคนไหน ทำไมเขาถึงทำอย่างกับเคยชิน?

จ้าวซีรู้สึกสงสัยภายในใจ แต่ความเร้าใจบนร่างของเธอก็ไม่ได้ทำให้เธอซํกไซ้ประเด็นนี้ นิ้วของซูเฉินอย่างกับมีพลังวิเศษ นวดเบาๆที่หน้าอกของเธอ ทำให้เธอใจสั่นรัว

ความรู้สึกแบบนี้ทำให้รู้สึกจั๊กจี้คันๆ ราวกับว่ามีไฟฟ้าวิ่งอยู่ทั่วร่างกาย

เมื่อซูเฉินเห็นว่าจ้าวซีไม่ดิ้นแล้ว และหน้าเธอแดงก่ำราวจะหยดออกมาเป็นเลือด คิ้วขมวดกันแน่น ดูออกว่ากำลังอดทนต่อการคุกคามของเขา

ดังนั้น ซูเฉินก็เลยละทิ้งแผนที่จะจู่โจม ก็เลยนวดตรงที่เดิมต่อไป และปากก็ค่อยๆจูบเบาลง

ผ่านไปประมาณครึ่งนาที ซูเฉินก็ดึงปากออกมา

จ้าวซีโดนเขาจูบซะจนเกือบจะหายใจไม่ทัน จู่ๆเขาดึงปากออก ก็รีบหายใจเข้าออกอยู่สองสามครั้ง มองเขาด้วยสายตาต่อว่า " คิด...คิดไม่ถึงว่านาย...นายจะร้ายขนาดนี้!"

ฎนี่เรียกว่าร้ายหรอ?" ซูเฉินถามยิ้มๆ

จ้าวซีสบถ หึ ออกมาคำหนึ่ง ก็ไม่สนใจเขาแล้ว แต่ในใจก็แอบคิดถึงความรู้สึกดีของเหตุการณ์เมื่อครู่

เห็นสายตาของจ้าวซี ซูเฉินก็เข้าใจแล้ว ตอนนี้จ้าวซียอมรับการจูบและการเคล้าคลึงของเขาแล้ว ต่อไปถ้าเป็นแบบนี้อีก เธอก็แค่เขิล ก็จะไม่ปฏิเสธแล้ว

"ดูแล้วที่หวังฟานสอนตนมาก็ถือว่ามีประโยชน์ ผู้หญิง เดี๋ยวก็ยอมง่ายๆ!"

ซูเฉินรู้สึกมีความสุข หนังฉายอะไรไป เขาไม่ได้ใส่ใจ ก็แค่คอยแกล้งจ้าวซีซักหน่อย และก็รู้สึกว่า ผ้หญิงคนนี้ยิ่งดูยิ่งสวย ทำไมแต่ก่อนตัวเขาถึงมองไม่เห็น?

หลังจากที่หนังฉายจบแล้วเวลาก็ใกล้จะเช้ามืดแล้ว ประตูหอมหาวิทยาลัยก็ล็อคหมดแล้ว

"ซีซี ถ้างั้นเราหาที่พักนอกมหาวิทยาลัยนอนกันมั้ย?" ซูเฉินเอ่ยถาม

เพื่อไม่ให้จ้าวซีรู้สึกว่าเขาไม่ดี เขาก็เลยไม่ได้พูดออกไปว่า "ไปเปิดห้องที่โรงแรม" คำที่ฟังแล้วดูไม่ดีพวกนี้ สื่อแค่ว่าไปหาที่นอนแค่นั้นเอง

"หา?" จ้าวซีขมวดคิ้วแน่น หลังจากที่ลังเลอยู่สองสามวินาที ก็พูดว่า " กลับมหาวิทยาลัยดีกว่า ถ้าล็อคจริงๆ เราก็ไปเรียกยามให้เปิดให้"

"ก็ได้" ซูเฉินไม่ได้ยื้ออะไร เพราะพวกเขาเพิ่งจะเริ่มความสัมพันธ์ฉันชู้สาว และดูจากนิสัยของจ้าวซี ก็ยังไปไม่ถึงขั้นที่จะนอนด้วยกัน"

เรียกแท็กซี่กลับมหาวิทยาลัย ซูเฉินปีนราวจับขึ้นไป และไปเขย่าประตูกระจกของป้อมยาม

ป่านไปประมาณห้าหกนาที ยามก็เดินออกมาเปิดประตูให้ เมื่อเขาเห็นซูเฉินและจ้าวซี ก็พูดว่า " เด็กสมัยนี้จริงๆเลย กี่โมงกี่ยามกันแล้ว ยังต้องมาลำบากคนแก่แบบฉัน"

"ไม่ลำบากลุง พวกผมทำไงครับ จะนอนที่ไหนกัน?" ซูเฉินพูดออกไป

ยามแก่ๆก็พูดโดยไม่เกรงใจว่า " นอนโรงแรมสิ ดูนายรูปร่างบึกบึนสูงใหญ่ แต่กลับขี้เหนียวไปเปิดห้องรายชั่วโมงกับผู้หญิง แต่สุดท้ายกลับมานอนลำบากคนแก่อีก......"

ซูเฉิน "................."

บ้าเอ้ย ลุงแก่นี้รู้จักห้องรายชั่วโมงด้วย แต่เห็นผมม่ปกติขนาดนั้นเลย

เวลานี้จ้าวซีอายหน้าแดงจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้น ก้มหน้ารอจนกว่ายามเปิดประตูให้ ก็เดินตามซูเฉินเข้ามหาวิยาลัยไป

ซูเฉินไม่สนใจ มหาวิทยาลัยแล้ว ไม่ใช่เด็กมัธยมแล้ว ถึงแม้ว่าจะไปเปิดห้องรายชั่วโมงจริงๆแล้วจะทำไม? เรื่องแบบนี้อาจารย์ยังไม่มายุ่งเลย ออกเสียงสบถ หึ ไปคำหนึ่ง ก็เริ่มจับมือเล็กๆของจ้าวซี

ไปส่งจ้าวซีที่หน้าหอพักผู้หญิง หลังจากดูเธอเดินเข้าไปข้างในแล้ว ซูเฉินถึงจะกลับหอตัวเอง

กลับถึงห้อง รูมเมนกำลังเล่นมือถืออยู่บนเตียง เห็นซูเฉินกลับมา ก็กล่าวทักทายแบบสบายๆ

ซูเฉินเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ตอบ อืม กลับไป ก็ไปล้างหน้าแปรงฟันเตรียมตัวเข้านอน

เช้าวันรุ่งขึ้น เข้าไปถึงห้องเรียนก็พบว่าจ้าวซีซื้ออาหารเช้ามาให้เขาแล้ว

ผู้ชายส่วนใหญ่ขี้เซา มาเรียนก็มาใกล้ๆจะถึงเวลาเรียน ไม่มีเวลากินมื้อเช้า รอจนถึงเวลาพักเบรกแล้วค่อยไปหาขนมปังไม่ก็หมี่กิน

เห็นน้ำเต้าหู้และเครปไข่ที่วางอยู่ในลิ้นชัก ซูเฉินก็รู้สึกอบอุ่นภายในใจ "ภรรยา เธอช่างดีจริงๆ"

"หวานกันซะจริงๆ ไอ่หยา ซูเฉิน เมื่อไหร่จะร่อนการ์ดเชิญ?" ขณะนั้นหลี่เหวินเหวินเพื่อนสนิทของจ้าวซีก็ถามขึ้นมา

จ้าวสีหน้าแดง และพูดว่า "ใครให้นายมาเรียกมั่วๆ"

เมื่อวานเพิ่งได้เริ่มความสัมพันธ์รักๆใคร่ๆ วันนี้ก็โดนซูเฉินเรียกว่าภรรยาแล้ว บวกกับเพื่อนสนิททที่มาแซว จ้าวซีรู้สึกทำตัวไม่ถูก

"เรียกมั่วๆที่ไหน เธอก็คือภรรยาของฉันไง!" ซูเฉินยิ้ม แล้วหันไปพูดกับหลี่เหวินเหวินว่า "ร่อนการ์ดเชิญไม่มีอะไรน่าสนใจ วันไหนฉันเลี้ยงข้าวพวกเธอดีกว่า"

"ได้ นายพูดเองนะ....." เมื่อหลี่เหวินเหวินได้ยินคำเชื่อเชิญของซูเฉิน เธอก็มีความสุขขึ้นมา

ทั้งสามคนกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน อาจารย์ก็เดินเข้ามา เมื่อเพื่อนสนิทของจ้าวซีเห็น ก็รีบกลับไปนั่งที่ของตัวเอง

จ้าวซีเลยถือโอกาสนี้พูดเบาๆว่า "นายไม่ต้องไปสนใจหลีเหวินเหวิน เธอชอบมาวุ่นวาย"

"ไม่เป็นไร ก็แค่เลี้ยงข้าวเพื่อนสนิทเธอไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ไม่งั้นเขาจะมาหัวเราะเยาะได้ว่าสามีเธอขี้เหนียว อิอิ" ซูเฉินพูดเบาๆ

จ้าวซีหน้าแดงอีกครั้ง ยื่นมือไปหยิกขาอ่อนของซูเฉินแล้วพูดว่า "นายพูดมั่วอีกแล้ว......"

"งั้นเธอชอบมั้ยที่ฉันเรียกเธอว่าภรรยา?" ซูเฉินแกล้งเธอต่อ

จ้าวซีไม่พูดอะไร ตั้งใจฟังอาจารย์สอน

ซูเฉินก้มหน้ากินอาหารเช้าที่จ้าวซีซื้อมาให้

หลังจากนั้นสองสามวัน ซูเฉินก็หวานกับจ้าวซีทุกวัน เลิกเรียนแล้วก็จะไปสนามบาสด้วยกันไม่ก็ไปห้องสมุดด้วยกัน จนถึงกลางคืนทั้งสองคนก็พลอดรักกัน

เพราะตอนอยู่ในโรงหน้า จ้าวซีเคยโดนซูเฉินจับหน้าอกแล้ว หลังจากนั้นเมื่อซูเฉินทำอีก จ้าวซีก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร

แต่ที่ทำให้ซูเฉินไม่เข้าใจก็คือ ทุกครั้งที่ซูเฉินจะพัฒนาไปอีกขั้น จ้าวซีก็จะขัดขืน

จนถึงตอนนี้ นอกจากจูบแล้ว จ้าวซีจะยอมให้ซูเฉินบีบๆ ลูบๆ คลำๆหน้าอก แต่ที่มากไปหว่านั้นเธอยังไม่ยอม

แรกๆซูเฉินยังยอมรับได้ แต่ผ่านมาสองสามวันหลังจากนั้น ก็เริ่มคิดถึงหลิวอี้อี้ขึ้นมา

แต่เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว ซูเฉินก็จะรู้สึกเศร้า คิดต่อไปก็จะคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดบนรถเมล์กับหยางถิง

"ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะได้เจอพี่ถิงถิงอีก เธอมีความกล้ามากกว่าพี่สะใภ้เยอะ....ถ้าวันนั้นไม่ได้อยู่บนรถเมล์ล่ะก็ เธอกับผมก็คงเรียบร้อยกันไปแล้ว"

ซูเฉินคิดถึงเรื่องน้แล้ว ไม่เพียงแต่รู้สึกรอคอย ถ้าได้ทำอะไรอย่างนั้นกับหยางถิง ก็คงเป็นเรื่องที่งดงามมากๆ"

จากที่หยางถิงใช้มือช่วยตัวเขาจนเสร็จทำให้รู้ว่าเทคนิคของเธอไม่ธรรมดา น่าจะสอนเทคนิคท่าทางบนเตียงให้ตัวเขาได้ดี!

"แต่ มาคิดอะไรแบบนี้ตอนนี้ก็ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ พี่สะใภ้ไม่ยอมไม่ผมไปที่บ้าน ไม่รู้ชาติไหนถึงได้เจอพี่ถิงถิง?"

ซูเฉินบ่นๆ ไม่นาน สัปดาห์นี้ก็ผ่านไป...................

ที่ไม่เหมือนเคยก็คือ วันหยุดสุดสัปดาห์นี้พี่ถังไม่ได้โทรมาหาให้เขาไปอยู่เป็นเพื่อนหลิวอี้อี้

นี่ทำให้ซูเฉินปวดใจมาก เขาเริ่มรู้สึกสงสัยว่า หรือว่าเพื่อนร่วมงานพี่ถังบอกกับเขาไปแล้ว ว่าเห็นตนโอบๆกอดๆอยู่กับหลิวอี้อี้?

กำลังคิดๆอยู่ โทรศัพท์ซูเฉินก็ดังขึ้น เขาตื่นเต้นมาก รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา สุดท้ายไม่ใช่พี่ถังโทรมา แต่เป็นจ้าวซีโทรมา

"ภรรยา คิดถึงผมแล้วหรอ?" รับโทรศัพท์แล้ว ซูเฉินก็รีบพูดด้วยความกระตือรือร้น

"ซูเฉิน สัปดาห์นี้ฉันต้องกลับบ้านนะ แม่ของฉันป่วย ไม่มีใครช่วยดูน้องชาย" จ้าวซีพูดขอโทษ " ดังนั้น วันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ ฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอไม่ได้....."

"เธอยังอยู่ที่หอมั้ย ? เดี๋ยวฉันไปหาเธอตอนนี้ ไปส่งเธอกลับบ้าน" ซูเฉินพูดด้วยความเป็นห่วง

"ไม่ต้องแล้ว ฉันไม่มีกระเป๋าเดินทางอะไร เดี๋ยวเรียกแท็กซี่กลับไป เธออยู่ที่หมาวิทยาลัยดีดีนะ ห้ามไปสนใจผู้หญิงที่ไหนหล่ะ" จ้าวซีพูด

"ฉันเป็นคนแบบนั้นหรอ?" ซูเฉินถาม

จ้าวซีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า "ใช่!"

ตอนแรกจ้าวซีคิดว่าซูเฉินเป็นคนเงียบขรึม ถึงแม้จะหน้าตาหล่อมาก แต่ปกติก็จะไม่สนิทกับผู้หญิงคนไหน พอถึงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ก์จะกลับไปอยู่บ้าน!

แต่หลังจากที่ทั้งสองคนสานสัมพันธ์กันแล้วนั้น จ้าวซีก็พบว่าเธอเข้าใจผิด ซูเฉินเป็นคนที่เร้าร้อนมาก ทุกวันไปวิ่งที่สนาม ก็จะชอบพาเธอไปตามซอกตามมุม จูบเธอด้วยความร้อนแรง!

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอขัดขืน ก็คงต้องหลอกเธอไปโรงแรมไปทำอะไรแน่ๆ..............

หลังจากวางสาย ซูเฉินถอนหายใจเบาๆ และคิดว่าสองวันนี้ตนจะทำอะไรดี และโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้
เป็นหลิวอี้อี้โทรมา

"พี่สะใภ้?" หลังจากที่ซูเฉินเห็นชื่อบนหน้าจอโทรศัพท์ ใจเข้าก็เต้นแรงมา "ตุบ ตุบ ตุบ"

เขากลืนน้ำลาย ซูเฉินรับสาย พูดว่า " พี่สะใภ้ มีธุระอะไรครับ?"

"เอ่อ.....ซูเฉิน พี่ชายนาย พี่ชายนาย....." หลิวอี้อี้พูดอย่างกระวนกระวายอยู่สองสามคำ แล้วเธอก็สูดลมหายใจลึกๆ พูดว่า " พี่ชายนายไปทำงานต่างพื้นที่ สองามวันนี้นาย..........มาอยู่เป็นเพื่อนฉันได้มั้ย?"




























Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

1