บทที่ 12 ประธานลู่สั่งให้ผมเรียกคุณมาครับ

วันนี้ลู่จือสิงอารมณ์ดีอยากหาได้ยากยิ่ง ระหว่างที่ส่งฉันไปโรงพยาบาลยังใส่ใจถามถึงอาการของคุณยายฉันว่า: "คุณยายคุณจะออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่"

ฉันรู้สึกตกใจกับการเอาใจใส่ของเขาจึงตอบกลับไปอย่างเร่งรีบว่า: "อีกไม่กี่วันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วค่ะ"

เขาเอียงศีรษะหันมามองฉันเเว็บหนึ่ง: "พรุ่งนี้แวะมาสัมภาษณ์งานที่บริษัทซักหน่อย รอให้คุณยายคุณออกจากโรงพยาบาล ค่อยมาเริ่มงาน"

ฉันตกตะลึงไปเล็กน้อย พอสติกลับมาถึงได้รู้ว่าเขาพูดอะไร: "ได้ค่ะ"

เมื่อรถจอดแล้วเขาจึงเงยหน้าบอกเป็นนัยๆว่า: "ถึงแล้ว"

ฉันเงยหน้าขึ้นมามอง ปลดเซฟตี้เบลแล้วลงจากรถ

ก่อนจะหันตัวเดินจากไป ฉันเกิดความรู้สึกลังเล แต่ในที่สุดก็เดินไปข้างรถเขา: "ประธานลู่คะ"

เขาลดหน้าต่างรถลงมาครึ่งหนึ่ง เห็นฉันกระพริบตาเล็กน้อย: "มีอะไรเหรอ"

ฉันเม้มริมฝีปากเล็กน้อย เดินถอยหลังไปหนึ่งก้าว ค่อยๆ โค้งตัวต่ำลงไปทางเขา: "ขอบคุณที่ให้ฉันยืมเงิน แล้วยังมาเรื่องงานอีก"

จู่ๆ ลู่จือสิงก็ยิ้มขึ้นมา: "บางครั้งทำเรื่องดีๆ ก็ให้ความรู้สึกที่ไม่เลวทีเดียว"

เห็นเงารถที่ค่อยๆ ห่างออกไป แต่คลื่นในใจฉันก็ยังไม่สงบลงเสียที

ฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณยายราวๆ ค่อนวันจึงค่อยกลับบ้านไป ตั้งใจว่าจะอ่านเตรียมความรู้เฉพาะทางไว้สอบสัมภาษณ์และสอบข้อเขียนในวันพรุ่งนี้

เฟิงเหิงสมกับที่เป็นบริษัทใหญ่ แม้แต่สถานที่สำหรับสอบสัมภาษณ์ก็ยังใหญ่กว่าบริษัทธรรมดา มีผู้จัดการนั่งเรียงเป็นหน้ากระดานอยู่ตรงนั้น ถ้าเป็นคนใจป๊อดๆ ก็คงรู้สึกประหม่าน่าดู

แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะรังสีของลู่จือสิงรุนแรงเกินไปหรือเปล่า พอได้สัมผัสกับเขาบ่อยๆ มาเจอระดับผู้จัดการ ฉันกลับไม่รู้สึกประหม่าเลยซักนิดเดียว

หัวข้อของข้อสอบข้อเขียนก็มีมาตรฐานเป็นอย่างมาก แต่จะอย่างไรฉันก็เคยทำงานมา 2 ปี เมื่อเทียบกับเด็กจบใหม่ ฉันก็ยังพอรับมือกับหัวข้อเหล่านี้ได้อยู่

เดิมทีกะจะรออีกซักสองวันค่อยทำเรื่องออกจากโรงพยาบาล แต่เมื่อคืนคุณยายบอกว่าวันนี้อยากจะกลับให้ได้ ฉันจึงรีบไปโรงพยาบาลทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้ท่าน

เมื่อคุณยายรู้ว่าวันนี้ฉันจะมีนัดสัมภาษณ์งาน พอทานอาหารค่ำเสร็จก็ไล่ให้ฉันกลับเข้าเมืองเพื่อเตรียมไปทำงานในวันพรุ่งนี้ ฉันไม่อาจเปลี่ยนใจท่านได้ จึงได้แต่ขอร้องคุณป้าหลี่ที่อยู่บ้านข้างๆ ให้ช่วยดูแลคุณยายแทน

ฉันลงจากรถ หลี่จื้อก็โทรเข้ามาพอดี เขาบอกว่าลู่จือสิงเกิดเรื่องนิดหน่อย ให้ฉันไปช่วยเขาที่คอนโด

หลี่จื้อไม่ได้พูดอะไรอีก ทำให้ฉันรู้สึกกังวลใจ แต่จะอย่างไรลู่จือสิงก็ช่วยฉันมาหลายครั้งแล้ว แม้ในใจจะรู้สึกกังวล แต่ก็รีบเรียกรถไปทันที

มาถึงคอนโดก็ห้าทุ่มเข้าไปแล้ว เคาะประตูแล้ว หลี่จื้อก็เปิดประตูออกมา: คุณซู รีบเข้ามาเถอะครับ"

"ตกลงเกิดอะไรขึ้นหรือคะ?"

ฉันถามเขา พลางเดินเข้าไปข้างใน

หลี่จื้อเหมือนจะร้องไห้: "วันนี้ประธานลู่ดื่มหนักมาก โรคกระเพาะจึงกำเริบ ผมขอร้องท่านไปหลายครั้งแล้ว แต่ท่านก็ไม่ยอมไปโรงพยาบาลเลยครับ"

ฉันอึ้งไปชั่วครู่: "แต่ว่าผู้ช่วยหลี่ ฉันไม่ใช่คุณหมอนะคะ เขาไม่ยอมไปโรงพยาบาล ฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้ค่ะ"

"ประธานลู่สั่งให้ผมเรียกคุณมาครับ"

"หมายความว่ายังไงคะ เขา........"

"คุณซู ในเมื่อคุณมาแล้ว งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ประธานลู่อยู่ที่ห้องนอนใหญ่ชั้นบน ผมขอฝากท่านไว้กับคุณหนูด้วยนะครับ"

"ผู้ช่วยหลี่ ฉัน........"

เขาพูดจบก็เปิดประตูจากไปทันที ฉันจะเรียกก็เรียกไม่ทัน

ฉันเม้มริมฝีปาก คิดถึงอาการปวดท้องครั้งก่อนของลู่จือสิง ในที่สุดก็ทนไม่ได้ ก้าวขาเดินขึ้นไป

เมื่อได้เห็นลู่จือสิง ฉันก็พอจะเข้าใจที่หลี่จื้อทำประหนึ่งโยนเผือกร้อนมาให้ เขานั่งอยู่บนโซฟา ตัวเขาแผ่บรรยากาศเเห่งความเยือกเย็น และไม่ต้องการให้ใครมาเข้าใกล้

ฉันเดินเข้าไปเรียกเขาแบบหยั่งเชิงว่า: "ประธานลู่คะ?"

เขาเงยหน้าขึ้นมามองฉัน ความเยือกเย็นนัยน์ตาทำให้ฉันตัวแข็งไปชั่วขณะ




Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

1