บทที่4 การประเมินของผู้บริหารสุดสวย
by ฮั่วโหย่วซานเยว่
17:29,Jan 26,2024
“ผู้บริหารสุดสวย คุณใจเย็น ๆ ก่อน ฉันไม่ได้ตั้งใจจะด่าคุณเลย...” เสินหลางแสดงสีหน้าประจบสอพลอ
ในที่สุดหลิวเซียวเซียวก็สงบลง เผยอปาก คิดในใจว่าจะกลัวแล้วล่ะสิ ทำผิดต่อสาวสูงวัยไม่มีผลดีกับคุณหรอก!
“ฮ่าฮ่าฮ่า เมื่อกี้มันก็แค่เรื่องตลกเอง เหมือนดั่งคำกล่าวที่ว่า ไม่ทะเลาะก็ไม่รู้จักกัน ต่อจากนี้เราก็จะกลายเป็นมิตรกัน" เสิ่นหลางทำหน้าทะเล้น
หลิวเซียวเซียวกลอกตามองบน ทำไมคำพูดของชายคนนี้ทุเรศจัง
เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของการเป็นผู้ดีหลิวเซียวเซียวขมวดคิ้วหนึ่งทีแล้วพูดอย่างจริงจัง “ฮึ่ม ฉันจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่ช่วยแสดงความเคารพกันหน่อยและอยู่ห่างจากฉันด้วย"
เสิ่นหลางหัวเราะและพูดว่า “ผู้บริหารสุดสวย การสัมภาษณ์ช่วงบ่ายนี้ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ”
หลิวเซียวเซียวแอบยิ้มเย้ยหยันในใจ จากที่ฉันประเมิน คุณยังคิดว่าจะผ่านอยู่อีกหรอ ฝันไปเถอะ!
ในใจของเธอ เสินหลางไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน สาว ๆ ในแผนกประชาสัมพันธ์จะถูกทำลายโดยอันธพาลแบบนี้ไม่ได้
“ไม่ต้องพูดให้มากความ ตอนนี้คุณยังไม่ใช่พนักงานของบริษัท โปรดช่วยรีบออกไปจากบริษัทด้วย” หลิวเซียวเซียวตะคอกอย่างเย็นชา
“โอเค” เสิ่นหลางยักไหล่ สาวสวยในที่ทำงานเย็นชากันแบบนี้ทุกคนเลยหรอ?
ในอนาคตฉันอยากได้ผู้บริหารแบบนี้จริง ๆ ชีวิตคงลำบากน่าดู
ไม่ว่ายังไงก็ตาม เสิ่นหลางยังคงต้องการงานนี้มาก ไม่ว่าจะสัมภาษณ์อะไรก็ตามคงได้แต่ตามน้ำไปเท่านั้น
หลังจากที่ออกมาจากตึกหลิงหยา อินเตอร์เนชั่นแนล เสิ่นหลางก็เดินไปรอบ ๆ หาของกินไปเรื่อย
ถึงเวลาบ่าย2โมง เสิ่นหลางก็มาที่ห้องทำงานผู้บริหารตามกำหนด
ห้องทำงานตกแต่งแบบเรียบง่ายมาก บนโต๊ะมีกระถางต้นไม้สดอยู่สองสามถาด และข้าง ๆ ยังมีปลาทองอยู่ในตู้สองสามตัว
ผ้าม่านถูกเปิดออก แสงแดดส่องเข้ามา ทำให้ทั้งห้องทำงานดูสว่างมาก
ให้ห้องทำงานก็มีคนอยู่2คน คนหนึ่งคือหลิวเซียวเซียว และอีกคนคือผู้ประเมินหลินไฉ่เอ๋อร์
“ผู้บริหารหลิว ชายท่านนี้คือคุณเสิ่น” ฝั่งของหลินไฉ่เอ๋อร์พูดแนะนำ
“ฉันรู้แล้ว” หลิวเซียวเซียวชำเลืองมองเสิ่นหลางและตอบอย่างไร้อารมณ์
มันทำให้เสิ่นหลางรู้สึกเครียดเล็กน้อย
เขายังไม่ทันได้พูด หลิวเซียวเซียวก็พูดต่อว่า “การประเมิณเริ่มขึ้นแล้ว ผู้ช่วยหลิน คุณไปเรียกนางแบบของบริษัททั้ง2คนมาให้หน่อย”
“ค่ะ”
หลินไฉ่เอ๋อร์พยักหน้า เดินออกจากห้องทำงานผู้บริหาร
“ผู้บริหารสุดสวย ผมขอถามหน่อยว่าจะสัมภาษณ์อะไร?” เสิ่นหลางอดถามไม่ได้
หลิวเซียวเซียวตอบอย่างไรอารมณ์ “รอก่อน เดี๋ยวคุณก็รู้”
หลังจากนั้นไม่นาน นางแบบสาวหุ่นสวยเซ็กซี่2คนก็เดินเข้ามาในห้องทำงานของผู้บริหาร แต่ละคนสวมชุดเจ็คเก็ตบาง ๆ เซ็กซี่เบา ๆ
เมื่อมองไปที่นางแบบสาวสวย2คนที่อยู่ตรงหน้า เสิ่นหลางก็ตกตะลึง นี่มันคือการประเมินแบบไหน? ไม่น่าจะใช่การทดสอบความสามารถชายแบบนั้นมั้ง?
“คุณเสิ่น แม้ว่าหลิงหยา อินเตอร์เนชั่นแนลของเราจะไม่ใช่บริษัทเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ แต่ก็ได้รับความนิยมสูงมาก เนื่องจากคุณมาที่นี่เพื่อสมัครงาน คุณน่าจะเข้าใจวิธีการทำงานของบริษัทเราใช่ไหม? "หลิวเซียวเซียวถามด้วยรอยยิ้มจางๆ
“ไม่เข้าใจ” เสิ่นหลางส่วยหัว
“นี่คุณ...”
หลิวเซียวเซียวพูดไม่ออก ไม่คิดว่าคำตอบนี้จะออกมาจากปากของเสิ่นหลาง ชายคนนี้ประหลาดอะไรขนาดนั้น ไม่เตรียมตัวอะไรสักอย่างยังมีหน้ามาสมัครงานที่บริษัทอีก?
“คุณเสิ่น บริษัทของเราทำธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้าแฟชั่น...” หลินไฉ่เอ๋อร์เตือนด้วยท่าทางพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
เสิ่นหลางก็นึกขึ้นได้ “อ๋อ ฉันนึกออกแล้ว ถ้าอย่างนั้นผู้บริหารหลิว คุณคงไม่ต้องการให้ฉันออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่นหรอกมั้ง? ขออภัยด้วย ฉันทำเรื่องยากแบบนั้นไม่ได้หรอก "
หลิวเซียวเซียวชำเลืองมอง เสิ่นหลางด้วยสายตาเหยียดหยาม ออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่น ฮิฮิ ถ้าคุณมีความสามารถนั้นจริงๆ ก็สามารถขึ้นสวรรค์ได้แล้ว
ชายคนนี้คงทำอะไรไม่เป็น หน้าตาก็ดูโง่ๆ แบบนี้ ยังอยากเป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์อีก?
เพื่อกำจัดเสิ่นหลางอย่างรวดเร็ว หลิวเซียวเซียวพูดอย่างไม่เกรงใจ: “เสื้อผ้าของนางแบบทั้งสองคนนี้ออกแบบโดยบริษัทของเรา และเป็นเสื้อผ้าคอลเลกชันสำหรับฤดูร้อนเพียงสองชุดของบริษัทของเราที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วม Paris Fashion Week แม้จะได้อันดับต่ำใน Paris Fashion Week แต่ก็ถือว่าไม่เป็นสองรองใครในประเทศจีน เสื้อผ้าคอลเลกชันฤดูร้อนสองชุดนี้มีข้อบกพร่อง การประเมินของฉันง่ายมาก ต่อไปคุณเซิน ช่วยแสดงความคิดเห็นที่เหมาะสมเกี่ยวกับเสื้อผ้าสำหรับฤดูร้อนสองชุดนี้และ ชี้ให้เห็นข้อบกพร่องด้วย”
ทันทีที่สิ้นสุดเสียง หลินไฉ่เอ๋อร์ที่อยู่ข้าง ๆ ก็อ้าปากค้าง การประเมินนี้ยากไปสำหรับคนคนหนึ่งหรือเปล่า? แม้แต่มืออาชีพที่เข้าใจแฟชั่นก็แทบจะไม่สามารถบอกข้อดีข้อเสียของเสื้อผ้าแฟชั่นได้ แล้วนับประสาอะไรกับคนธรรมดา
เพราะก่อนหน้านี้เสิ่นหลางได้กระทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม และยังทำให้หลิวเซียวเซียวไม่ประทับใจในตัวเขา ด้วยความที่อยากจะส่งผู้ชายคนนี้ออกไปโดยเร็ว จึงเพิ่มความยากของการสัมภาษณ์ขึ้นเป็นเท่าตัว
แต่สิ่งที่ หลิวเซียวเซียวไม่คาดคิดก็คือเสิ่นหลางไม่ได้แสดงสีหน้าลำบากใจเลยสักนิด แต่กลับมองไปที่นางแบบทั้งสองด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายและไม่แยแส
"จุ๊จุ๊ การออกแบบธรรมดามาก ผู้บริหารหลิว ฉันคิดว่าแฟชั่นดีไซเนอร์ของหลิงหยา อินเตอร์เนชั่นแนลก็งั้น ๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไม่ติดอันดับต้น ๆ" เสิ่นหลางพูดด้วยรอยยิ้ม
“จริงหรอ? ถ้าคุณเสิ่นสายตาเฉียบคมขนาดนี้ งั้นคุณก็ควรแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเสื้อผ้าแฟชั่นทั้งสองนี้เร็ว ๆสิ”
สายตาที่ดูถูกเหยียดหยามของหลิวเซียวเซียว พูดเบา ๆ ว่า “ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่” ผู้ชายคนนี้คิดจริง ๆ หรือว่าดีไซเนอร์ที่บริษัทเสียเงินจ้างหนึ่งล้านต่อปีจะเปล่าประโยชน์?
เสิ่นหลางรู้ว่าหลิวเซียวเซียวตั้งใจทำให้เป็นเรื่องยาก เขาหลุดหัวเราะและพูดว่า “ผู้บริหารหลิว ฉันเพิ่งจะสมัครตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ คุณคงไม่ต้องกังวลเรื่องการออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่นหรอกมั้ง”
"แผนกประชาสัมพันธ์ของบริษัทของเราต้องออกไปข้างนอกบ่อย ๆ ถ้าหากต้องไปต่างประเทศเพื่อติดต่อกับบริษัทเสื้อผ้าแฟชั่นขนาดใหญ่อื่น ๆ จะทำได้อย่างไรหากไม่มีความรู้ด้านแฟชั่น" หลิวเซียวเซียวยิ้มเบา ๆ
ผู้หญิงคนนี้รู้จักตอบจริง ๆ เซินหลางหลุดพูดง่าย ๆ ไปว่า: "ตกลง ฉันจะพูดถึงมุมมองส่วนตัวของฉันเอง"
“ดีเลย!”
หลิวเซียวเซียวยักคิ้วขึ้นและตั้งตารอว่าเสิ่นหลางจะพูดอะไรโง่ ๆ ออกมา
หลินไฉ่เอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างก็ได้ไว้ทุกข์ให้กับเสิ่นหลาง เมื่อตกเป็นเป้าหมายของผู้บริหารหลิวแล้วยังไงก็ต้องถูกกำจัดอย่างแน่นอน
"มาพูดถึงสาวที่มีผิวขาวกันก่อนดีกว่า ชุดคอลเลกชันฤดูร้อนนี้มีสไตล์มินิมอลอย่างชัดเจน มีการอ้างอิงถึงองค์ประกอบที่เรียบง่ายของจิล แซนเดอร์ เพื่อสร้างสไตล์มินิมอลแบบใหม่ ปกคอเสื้อที่ใหญ่เกินจริงก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ก็ยังไม่สามารถหลีกหนีจากแนวคิดการออกแบบประจำของจิล แซนเดอร์ได้ ชุด คอลเลกชันฤดูร้อนนี้อาจทำให้กรรมการของ Paris Fashion Week รู้สึกสดชื่นเมื่อมองแวบแรก แต่หลังจากดูใกล้ ๆ แล้ว ยังมีองค์ประกอบที่อ้างอิงมากเกินไป ดังนั้นจึงไม่ติดอันดับต้น ๆ "
“พูดถึงอีกหนึ่งชุดกันดีกว่า เสื้อแฟชั่นนี้อาศัยการจับคู่สี มีบุคลิกที่โดดเด่น โดยผสมผสานระหว่างลายตาราง สีสันต่าง ๆและผ้าส่าหรีเข้าด้วยกัน
แม้ว่าการประกบกันหลายสีจะดูสะดุดตา แต่ก็ยังขาดความใส่ใจในการออกแบบ เมื่อห้าปีที่แล้ว เวอร์ซาเช ได้เปิดตัวกระโปรงกีฬาในรูปแบบสีนี้ ดังนั้นการออกแบบนี้จึงขาดความแปลกใหม่ในระดับหนึ่ง "
เสิ่นหลางพูดอย่างฉะฉาน ทั้งหลิวเซียวเซียวและหลินไฉ่เอ๋อร์ตกตะลึงและอึ้งพร้อมกัน
ไม่ใช่แค่พวกเธอ นางแบบทั้ง2คนก็ก็มองไปที่เสิ่นหลางด้วยสายตาที่แปลกใจ
สิ่งที่ออกมาจากปากของเสิ่นหลางคือคำศัพท์ทางเทคนิคระดับสูง และสิ่งที่เขาพูดนั้นมีพื้นฐานมาอย่างดี ตรงประเด็นเป๊ะ! อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าผู้ชายคนนี้เคยเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์มาก่อนหรือเปล่า
หลิวเซียวเซียวที่เป็นผู้บริหารของบริษัท เธอรวบรวมสติบังคับตัวเองให้หยุดความตกใจ หายใจเข้าลึก ๆ แล้วถามว่า “ถ้าอย่างนั้น...คุณเสิ่น คุณช่ายแนะนำหรือออกความคิดเห็นให้กับบริษัทของเราได้ไหมว่าจุดบกพร่องสำหรับสองชุดนี้คือตรงไหนบ้าง?”
ในที่สุดหลิวเซียวเซียวก็สงบลง เผยอปาก คิดในใจว่าจะกลัวแล้วล่ะสิ ทำผิดต่อสาวสูงวัยไม่มีผลดีกับคุณหรอก!
“ฮ่าฮ่าฮ่า เมื่อกี้มันก็แค่เรื่องตลกเอง เหมือนดั่งคำกล่าวที่ว่า ไม่ทะเลาะก็ไม่รู้จักกัน ต่อจากนี้เราก็จะกลายเป็นมิตรกัน" เสิ่นหลางทำหน้าทะเล้น
หลิวเซียวเซียวกลอกตามองบน ทำไมคำพูดของชายคนนี้ทุเรศจัง
เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของการเป็นผู้ดีหลิวเซียวเซียวขมวดคิ้วหนึ่งทีแล้วพูดอย่างจริงจัง “ฮึ่ม ฉันจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่ช่วยแสดงความเคารพกันหน่อยและอยู่ห่างจากฉันด้วย"
เสิ่นหลางหัวเราะและพูดว่า “ผู้บริหารสุดสวย การสัมภาษณ์ช่วงบ่ายนี้ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ”
หลิวเซียวเซียวแอบยิ้มเย้ยหยันในใจ จากที่ฉันประเมิน คุณยังคิดว่าจะผ่านอยู่อีกหรอ ฝันไปเถอะ!
ในใจของเธอ เสินหลางไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน สาว ๆ ในแผนกประชาสัมพันธ์จะถูกทำลายโดยอันธพาลแบบนี้ไม่ได้
“ไม่ต้องพูดให้มากความ ตอนนี้คุณยังไม่ใช่พนักงานของบริษัท โปรดช่วยรีบออกไปจากบริษัทด้วย” หลิวเซียวเซียวตะคอกอย่างเย็นชา
“โอเค” เสิ่นหลางยักไหล่ สาวสวยในที่ทำงานเย็นชากันแบบนี้ทุกคนเลยหรอ?
ในอนาคตฉันอยากได้ผู้บริหารแบบนี้จริง ๆ ชีวิตคงลำบากน่าดู
ไม่ว่ายังไงก็ตาม เสิ่นหลางยังคงต้องการงานนี้มาก ไม่ว่าจะสัมภาษณ์อะไรก็ตามคงได้แต่ตามน้ำไปเท่านั้น
หลังจากที่ออกมาจากตึกหลิงหยา อินเตอร์เนชั่นแนล เสิ่นหลางก็เดินไปรอบ ๆ หาของกินไปเรื่อย
ถึงเวลาบ่าย2โมง เสิ่นหลางก็มาที่ห้องทำงานผู้บริหารตามกำหนด
ห้องทำงานตกแต่งแบบเรียบง่ายมาก บนโต๊ะมีกระถางต้นไม้สดอยู่สองสามถาด และข้าง ๆ ยังมีปลาทองอยู่ในตู้สองสามตัว
ผ้าม่านถูกเปิดออก แสงแดดส่องเข้ามา ทำให้ทั้งห้องทำงานดูสว่างมาก
ให้ห้องทำงานก็มีคนอยู่2คน คนหนึ่งคือหลิวเซียวเซียว และอีกคนคือผู้ประเมินหลินไฉ่เอ๋อร์
“ผู้บริหารหลิว ชายท่านนี้คือคุณเสิ่น” ฝั่งของหลินไฉ่เอ๋อร์พูดแนะนำ
“ฉันรู้แล้ว” หลิวเซียวเซียวชำเลืองมองเสิ่นหลางและตอบอย่างไร้อารมณ์
มันทำให้เสิ่นหลางรู้สึกเครียดเล็กน้อย
เขายังไม่ทันได้พูด หลิวเซียวเซียวก็พูดต่อว่า “การประเมิณเริ่มขึ้นแล้ว ผู้ช่วยหลิน คุณไปเรียกนางแบบของบริษัททั้ง2คนมาให้หน่อย”
“ค่ะ”
หลินไฉ่เอ๋อร์พยักหน้า เดินออกจากห้องทำงานผู้บริหาร
“ผู้บริหารสุดสวย ผมขอถามหน่อยว่าจะสัมภาษณ์อะไร?” เสิ่นหลางอดถามไม่ได้
หลิวเซียวเซียวตอบอย่างไรอารมณ์ “รอก่อน เดี๋ยวคุณก็รู้”
หลังจากนั้นไม่นาน นางแบบสาวหุ่นสวยเซ็กซี่2คนก็เดินเข้ามาในห้องทำงานของผู้บริหาร แต่ละคนสวมชุดเจ็คเก็ตบาง ๆ เซ็กซี่เบา ๆ
เมื่อมองไปที่นางแบบสาวสวย2คนที่อยู่ตรงหน้า เสิ่นหลางก็ตกตะลึง นี่มันคือการประเมินแบบไหน? ไม่น่าจะใช่การทดสอบความสามารถชายแบบนั้นมั้ง?
“คุณเสิ่น แม้ว่าหลิงหยา อินเตอร์เนชั่นแนลของเราจะไม่ใช่บริษัทเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ แต่ก็ได้รับความนิยมสูงมาก เนื่องจากคุณมาที่นี่เพื่อสมัครงาน คุณน่าจะเข้าใจวิธีการทำงานของบริษัทเราใช่ไหม? "หลิวเซียวเซียวถามด้วยรอยยิ้มจางๆ
“ไม่เข้าใจ” เสิ่นหลางส่วยหัว
“นี่คุณ...”
หลิวเซียวเซียวพูดไม่ออก ไม่คิดว่าคำตอบนี้จะออกมาจากปากของเสิ่นหลาง ชายคนนี้ประหลาดอะไรขนาดนั้น ไม่เตรียมตัวอะไรสักอย่างยังมีหน้ามาสมัครงานที่บริษัทอีก?
“คุณเสิ่น บริษัทของเราทำธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้าแฟชั่น...” หลินไฉ่เอ๋อร์เตือนด้วยท่าทางพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
เสิ่นหลางก็นึกขึ้นได้ “อ๋อ ฉันนึกออกแล้ว ถ้าอย่างนั้นผู้บริหารหลิว คุณคงไม่ต้องการให้ฉันออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่นหรอกมั้ง? ขออภัยด้วย ฉันทำเรื่องยากแบบนั้นไม่ได้หรอก "
หลิวเซียวเซียวชำเลืองมอง เสิ่นหลางด้วยสายตาเหยียดหยาม ออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่น ฮิฮิ ถ้าคุณมีความสามารถนั้นจริงๆ ก็สามารถขึ้นสวรรค์ได้แล้ว
ชายคนนี้คงทำอะไรไม่เป็น หน้าตาก็ดูโง่ๆ แบบนี้ ยังอยากเป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์อีก?
เพื่อกำจัดเสิ่นหลางอย่างรวดเร็ว หลิวเซียวเซียวพูดอย่างไม่เกรงใจ: “เสื้อผ้าของนางแบบทั้งสองคนนี้ออกแบบโดยบริษัทของเรา และเป็นเสื้อผ้าคอลเลกชันสำหรับฤดูร้อนเพียงสองชุดของบริษัทของเราที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วม Paris Fashion Week แม้จะได้อันดับต่ำใน Paris Fashion Week แต่ก็ถือว่าไม่เป็นสองรองใครในประเทศจีน เสื้อผ้าคอลเลกชันฤดูร้อนสองชุดนี้มีข้อบกพร่อง การประเมินของฉันง่ายมาก ต่อไปคุณเซิน ช่วยแสดงความคิดเห็นที่เหมาะสมเกี่ยวกับเสื้อผ้าสำหรับฤดูร้อนสองชุดนี้และ ชี้ให้เห็นข้อบกพร่องด้วย”
ทันทีที่สิ้นสุดเสียง หลินไฉ่เอ๋อร์ที่อยู่ข้าง ๆ ก็อ้าปากค้าง การประเมินนี้ยากไปสำหรับคนคนหนึ่งหรือเปล่า? แม้แต่มืออาชีพที่เข้าใจแฟชั่นก็แทบจะไม่สามารถบอกข้อดีข้อเสียของเสื้อผ้าแฟชั่นได้ แล้วนับประสาอะไรกับคนธรรมดา
เพราะก่อนหน้านี้เสิ่นหลางได้กระทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม และยังทำให้หลิวเซียวเซียวไม่ประทับใจในตัวเขา ด้วยความที่อยากจะส่งผู้ชายคนนี้ออกไปโดยเร็ว จึงเพิ่มความยากของการสัมภาษณ์ขึ้นเป็นเท่าตัว
แต่สิ่งที่ หลิวเซียวเซียวไม่คาดคิดก็คือเสิ่นหลางไม่ได้แสดงสีหน้าลำบากใจเลยสักนิด แต่กลับมองไปที่นางแบบทั้งสองด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายและไม่แยแส
"จุ๊จุ๊ การออกแบบธรรมดามาก ผู้บริหารหลิว ฉันคิดว่าแฟชั่นดีไซเนอร์ของหลิงหยา อินเตอร์เนชั่นแนลก็งั้น ๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไม่ติดอันดับต้น ๆ" เสิ่นหลางพูดด้วยรอยยิ้ม
“จริงหรอ? ถ้าคุณเสิ่นสายตาเฉียบคมขนาดนี้ งั้นคุณก็ควรแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเสื้อผ้าแฟชั่นทั้งสองนี้เร็ว ๆสิ”
สายตาที่ดูถูกเหยียดหยามของหลิวเซียวเซียว พูดเบา ๆ ว่า “ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่” ผู้ชายคนนี้คิดจริง ๆ หรือว่าดีไซเนอร์ที่บริษัทเสียเงินจ้างหนึ่งล้านต่อปีจะเปล่าประโยชน์?
เสิ่นหลางรู้ว่าหลิวเซียวเซียวตั้งใจทำให้เป็นเรื่องยาก เขาหลุดหัวเราะและพูดว่า “ผู้บริหารหลิว ฉันเพิ่งจะสมัครตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ คุณคงไม่ต้องกังวลเรื่องการออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่นหรอกมั้ง”
"แผนกประชาสัมพันธ์ของบริษัทของเราต้องออกไปข้างนอกบ่อย ๆ ถ้าหากต้องไปต่างประเทศเพื่อติดต่อกับบริษัทเสื้อผ้าแฟชั่นขนาดใหญ่อื่น ๆ จะทำได้อย่างไรหากไม่มีความรู้ด้านแฟชั่น" หลิวเซียวเซียวยิ้มเบา ๆ
ผู้หญิงคนนี้รู้จักตอบจริง ๆ เซินหลางหลุดพูดง่าย ๆ ไปว่า: "ตกลง ฉันจะพูดถึงมุมมองส่วนตัวของฉันเอง"
“ดีเลย!”
หลิวเซียวเซียวยักคิ้วขึ้นและตั้งตารอว่าเสิ่นหลางจะพูดอะไรโง่ ๆ ออกมา
หลินไฉ่เอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างก็ได้ไว้ทุกข์ให้กับเสิ่นหลาง เมื่อตกเป็นเป้าหมายของผู้บริหารหลิวแล้วยังไงก็ต้องถูกกำจัดอย่างแน่นอน
"มาพูดถึงสาวที่มีผิวขาวกันก่อนดีกว่า ชุดคอลเลกชันฤดูร้อนนี้มีสไตล์มินิมอลอย่างชัดเจน มีการอ้างอิงถึงองค์ประกอบที่เรียบง่ายของจิล แซนเดอร์ เพื่อสร้างสไตล์มินิมอลแบบใหม่ ปกคอเสื้อที่ใหญ่เกินจริงก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ก็ยังไม่สามารถหลีกหนีจากแนวคิดการออกแบบประจำของจิล แซนเดอร์ได้ ชุด คอลเลกชันฤดูร้อนนี้อาจทำให้กรรมการของ Paris Fashion Week รู้สึกสดชื่นเมื่อมองแวบแรก แต่หลังจากดูใกล้ ๆ แล้ว ยังมีองค์ประกอบที่อ้างอิงมากเกินไป ดังนั้นจึงไม่ติดอันดับต้น ๆ "
“พูดถึงอีกหนึ่งชุดกันดีกว่า เสื้อแฟชั่นนี้อาศัยการจับคู่สี มีบุคลิกที่โดดเด่น โดยผสมผสานระหว่างลายตาราง สีสันต่าง ๆและผ้าส่าหรีเข้าด้วยกัน
แม้ว่าการประกบกันหลายสีจะดูสะดุดตา แต่ก็ยังขาดความใส่ใจในการออกแบบ เมื่อห้าปีที่แล้ว เวอร์ซาเช ได้เปิดตัวกระโปรงกีฬาในรูปแบบสีนี้ ดังนั้นการออกแบบนี้จึงขาดความแปลกใหม่ในระดับหนึ่ง "
เสิ่นหลางพูดอย่างฉะฉาน ทั้งหลิวเซียวเซียวและหลินไฉ่เอ๋อร์ตกตะลึงและอึ้งพร้อมกัน
ไม่ใช่แค่พวกเธอ นางแบบทั้ง2คนก็ก็มองไปที่เสิ่นหลางด้วยสายตาที่แปลกใจ
สิ่งที่ออกมาจากปากของเสิ่นหลางคือคำศัพท์ทางเทคนิคระดับสูง และสิ่งที่เขาพูดนั้นมีพื้นฐานมาอย่างดี ตรงประเด็นเป๊ะ! อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าผู้ชายคนนี้เคยเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์มาก่อนหรือเปล่า
หลิวเซียวเซียวที่เป็นผู้บริหารของบริษัท เธอรวบรวมสติบังคับตัวเองให้หยุดความตกใจ หายใจเข้าลึก ๆ แล้วถามว่า “ถ้าอย่างนั้น...คุณเสิ่น คุณช่ายแนะนำหรือออกความคิดเห็นให้กับบริษัทของเราได้ไหมว่าจุดบกพร่องสำหรับสองชุดนี้คือตรงไหนบ้าง?”
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved