บทที่ 5 เขาค่อนข้างน่ารังเกียจ
by ฮั่วโหย่วซานเยว่
17:29,Jan 26,2024
"อย่างที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ แฟชั่นทั้งสองนี้มีข้อบกพร่องร่วมกัน นั่นคือการขาดความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการสร้างสรรค์และนวัตกรรม
ดังนั้นคำแนะนำก็คือ ความสามารถของแฟชั่น ดีไซเนอร์ของบริษัทของคุณต้องได้รับการยกระดับขึ้น” เสิ่นหลางพูดอย่างใจเย็น
ใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียวเซียวไม่สามารถซ่อนความตกใจของเธอได้อีกต่อไป มุมมองของเสิ่นหลางสอดคล้องกับความคิดเห็นของคณะกรรมการ Paris Fashion Week อย่างน่าประหลาดใจ บริษัทของพวกเขาขาดความสามารถในการออกแบบที่เป็นของตัวเอง
ตอนนี้หลิวเซียวเซียวก็หมดคำพูดที่จะทำให้เสิ่นหลางขายหน้าได้ ถ้าเส่นหลางพูดไร้สาระ หรือบังเอิญตอบถูกล่ะก็เธอยังสามารถเยาะเย้ย แต่ผู้ชายคนนี้รอบรู้มากเกินไปหรือเปล่า?
หากอีกฝ่ายไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่น เป็นไปไม่ได้ที่จะได้ข้อสรุปในประดับที่ดีแบบนี้ และหลิวเสี่ยวเซียวก็รู้เรื่องนี้ดี
เมื่อเห็นว่าทุกคนเงียบ เสิ่นหลางก็เหลือบไปมองหลิวเซียวเซียวและยิ้ม: "ผู้บริหารหลิว จากที่คุณเห็น การประเมินนี้น่าจะผ่านแล้วนะ?"
"ขอแสดงความยินดีด้วยนะคุณเสิ่นที่ผ่านการสัมภาษณ์ ผู้ช่วยหลินพาคุณเสิ่นไปที่แผนกทรัพยากรบุคคลเพื่อลงนามในสัญญา และรายงานให้ฉันทราบหลังจากเสร็จสิ้น ฉันจะพาเขาไปที่แผนกประชาสัมพันธ์เพื่อทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมในภายหลัง" หลิวเซียวเซียวพูดอย่างใจเย็น
เมื่อเห็นว่าหลิวเซียวเซียวตรงไปตรงมามาก เสิ่นหลางก็ตกใจเล็กน้อย เขาคิดว่าสาวสวยคนนี้จะต้องใช้วิธีอื่นเพื่อทำให้สิ่งต่าง ๆ ยากสำหรับเขาต่อไป
หลิวเซียวเซียวอาจจะขี้เล่น แต่เธอก็ยังคิดถึงบริษัทอยู่ แม้ว่าเธอจะอารมณ์เสียเล็กน้อยแต่เธอก็ต้องยอมรับว่าเสิ่นหลางมีพรสวรรค์จริง ๆ
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ผู้ชายคนนี้เข้าทำงานแล้ว ก็มีโอกาสมากมายที่จะเกิดความโกรธ
เสิ่นหลางเดินตามหลินไฉ่เอ๋อร์ออกจากห้องทำงานผู้บริหารอย่างมีความสุข
"ฮ่าฮ่า ผู้ช่วยหลิน จากนี้ไปเราจะเป็นเพื่อนร่วมงานกัน เร็วจัง" เสิ่นหลางพูดกับหลินไฉ่เอ๋อร์ด้วยรอยยิ้ม
หลินไฉ่เอ๋อร์ยิ้มและพูดว่า "ผู้จัดการเสิ่น ฉันฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค่ะ"
เธอยังคงชื่นชมเสิ่นหลางอยู่ในใจ เพียงแค่มีความชำนาญทั้งสามภาษาก็เพียงพอแล้ว แต่นี่ยังมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับแฟชั่นอีก
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายอายุไล่เลี่ยกับเธอ แต่ความสามารถของเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับตัวเธอลย
สาว ๆ ในที่ทำงานไม่ได้ตื้นเขินเหมือนสาวน้อย ผู้ชายที่มีความสามารถมักจะดึงดูดพวกเขาแบบไม่ตั้งใจ ยิ่งไปกว่านั้นเสิ่นหลางทั้งยังหนุ่มและหล่อเหลาอีกด้วย
เสิ่นหลางโบกมือส่าย: "อย่าเรียกฉันว่าผู้จัดการเลย ต่อจากนี้ไปเราจะเป็นเพื่อนกัน เรียกฉันว่า พี่เสิ่นเถอะ ฉันจะเรียกคุณว่าไฉ่เอ๋อร์”
หลินไฉ่เอ๋อร์หน้าแดง: "ผู้จัดการเสิ่น อยู่ในบริษัทเรียกแบบนั้นไม่ดีหรอก นอกจากนั้นฉันยังเป็นผู้ช่วยของคุณอีกด้วย..."
เสิ่นหลางก็ตระหนักได้ว่า เรียกคนอื่นว่าน้องแบบนี้ มันง่ายมากที่จะทำให้คนอื่นคิดว่าตัวเองให้อภิสิทธ์กับพนักงาน ซึ่งไม่ดีเลย
“ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ฉันแค่อยากจะปฏิบัติต่อคุณในฐานะเพื่อน” เสิ่นหลางเกาหัวและยิ้ม
“อืม” หลินไฉ่เอ๋อร์หน้าแดงและพยักหน้าตอบ
บทสนทนาอันน่าขบขันของเสิ่นหลาง ประกอบกับใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ทำให้หลินไฉ่เอ๋อร์เกิดความประทับใจแรกพบ และเธอก็ตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับ เสิ่นหลาง
ต้องบอกว่าประสิทธิภาพในการทำงานของ หลิงหยา อินเตอร์เนชั่นแนลนั้นค่อนข้างสูง ทันทีที่เสิ่นหลางมาถึงสำนักงานของแผนกบุคคล สัญญาก็ถูกเตรียมพร้อมไว้แล้ว
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ เงินเดือน 16,000 สุดยอดสวัสดิการ 5 อย่าง พร้อมค่าคอมมิชชั่นและเงินปันผลสิ้นปี ผลประโยนช์ดีเลิศ
เสิ่นหลางรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย งานดี ๆ แบบนี้ก็หาไม่ยากหนิ! ก่อนหน้านั้นสาวแสนเย็นชาที่บ้านยังคงแสดงท่าทางดูถูกเหยียดหยามว่า "คุณจะหางานได้หรอ" ในที่สุดเสิ่นหลางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เมื่อกลับไปที่ห้องทำงานผู้บริหาร หลิวเซียวเซียวก็ไม่ได้พูดอะไรไร้สาระ และพาเสิ่นหลางไปที่แผนกประชาสัมพันธ์ทันทีพร้อมกับหลินไฉ่เอ๋อร์ที่เดินอยู่ข้าง ๆ
เมื่อเสิ่นหลางเดินเข้าแผนกประชาสัมพันธ์ครั้งแรก เห็นสาวสวยในชุดออฟฟิศเต็มไปหมด เขาก็รู้สึกตื้นตันใจทันที เขาให้คะแนนเต็มกับสภาพแวดล้อมการทำงานแบบนี้!
เหมือนกับที่ชายน่าสะอิดสะเอียน2คนก่อนหน้าพูดไว้ ฝ่ายประชาสัมพันธ์เกือบทั้งหมดเป็นหญิงสาววัยรุ่น คนที่อายุมากสุดก็ไม่เกิน 27 ปี
โดยทั่วไปแล้วฝ่ายประชาสัมพันธ์ของหลิงหยา อินเตอร์เนชั่นแนล มีหน้าที่รับผิดชอบในการต้อนรับ การประชาสัมพันธ์ และการเจรจาธุรกิจต่าง ๆ ในเรื่องแบบนี้ สาว ๆ สวยๆ ย่อมมีเงื่อนไขหรือสภาพแวดล้อมที่คอยอำนวยให้เป็นพิเศษอยู่แล้ว
โดยทั่วไปแล้วเมื่อให้สาวสวยไปเจรจา อีกฝ่ายจะเกิดความประทับใจแรกพบกับคุณเพราะรูปร่างหน้าตา ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมาก
สาว ๆ ในแผนกประชาสัมพันธ์ก็มีการแบ่งแยกเช่นกัน พวกเขาสามารถไปกับลูกค้าเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับงานหรือแม้แต่ดื่มสังสรรค์ แต่ถ้ามากไปกว่านั้นก็ไม่สามารถทำได้แล้ว
หลิงหยา อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงซึ่งให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์และการพัฒนาเป็นอย่างมาก ไม่มีทางที่จะไปมีส่วนร่วมในเรื่องที่ไม่ดีเด็ดขาด หากพบว่าพนักงานไม่ระมัดระวังเกี่ยวกับกิจการของบริษัท พนักงานคนนั้นจะถูกไล่ออกทันที
เมื่อเห็นว่าผู้บริหารหลิวพาผู้ชายมาที่นี่ พนักงานหญิงกลุ่มหนึ่งต่างก็จ้องมองด้วยความตกตะลึง สีหน้าประหลาดใจของพวกเขาราวกับเห็นหมีแพนด้ายักษ์
หลิวเซียวเซียวชำเลืองมองเสิ่นหลาง แล้วพูดว่า: "อะแฮ่ม... ให้ฉันขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักก่อน คุณเสิ่นหลางท่านนี้ได้เป็นผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์แล้ว"
“สวัสดีครับทุกคน” เสิ่นหลางยิ้มจนเห็นฟันขาว
กลับกันเขาเป็นคนหน้าหนอยู่แล้ว ไม่รู้สึกเขินอายเลยักนิด
“ผู้จัดการ?”
“เป็นผู้ชายจริง ๆ หรอ?
“ไม่แย่ ไม่แย่ เขาหล่อมาก!”
"ผู้บริหารหลิวสายตาถึงมากเลยที่เลือกผู้จัดการที่มีสไตล์แบบนี้"
“ห้ามแย่งนะ หัวใจของหนุ่มคนนี้เป็นของฉัน!”
กลุ่มสาวสวยด้านล่างก็เดือดปุด ๆ สายตานับไม่ถ้วนมองไปที่เสิ่นหลาง แทบจะอยากเห็นทุกส่วนของร่างกายเสิ่นหลาง ซึ่งทำให้เสิ่นหลางสั่นสะท้านไปทั้งตัว
แต่เมื่อดูจากท่าทางของสาวๆแล้ว ความฟุ้งซ่านของเสิ่นหลางก็ระเบิดขึ้น ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนมากมายในเมืองนี้ถึงอยากเป็นผู้นำ รู้สึกดีจริงๆ ที่ได้เป็นผู้นำโดยเฉพาะผู้นำของกลุ่มสาวงาม
หลิวเซียวเซียวชำเลืองมองไปที่เสิ่นหลางและพูดอย่างจริงจัง: "เอาล่ะ ทุกคนเงียบ ๆ ฟังฉัน! อย่าถูกหลอกโดยรูปลักษณ์ที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยของชายคนนี้ แม้ว่าฉันจะไม่ไม่ค่อยรู้จักกับผู้จัดการเสิ่นมากนัก แต่ฉันก็รับประกันว่าผู้ชายคนนี้เป็นผู้ชายที่ไม่ดี 100% สาว ๆ ต้องระวังไว้นะ!"
。
ทันทีที่สิ้นสุดคำพูด ทั้งสำนักงานก็เงียบลง และผู้หญิงกลุ่มหนึ่งก็จ้องมองไปที่เสิ่นหลาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
หลินไฉ่เอ๋อร์ก็มึนงงเช่นกัน
“ยิ่งไปกว่านั้น เขาค่อนข้างลามก น่ารังเกียจ!” หลิวเซียวเซียวกล่าวเสริม
เสิ่นหลางแทบจะกระอักเลือด พูดด้วยความไม่พอใจว่า: “หลิวเซียวเซียว ทำไมคุณถึงพูดให้ร้ายผม ผมลามกตรงไหนไม่ทราบ?"
หลิวเซียวเซียว พูดอย่างเย็นชา ไม่สนใจการต่อต้านของเสิ่นหลาง แต่แอบขำสะใจอยู่ข้างใน: อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ความคิดสกปรกข้างในหัวของคุณนะ สาว ๆ ในบริษัท อย่าแม้แต่จะคิดคบปฏิสัมพันธ์กับพวกอันธพาลตัวเหม็นแบบนี้!
ดังนั้นคำแนะนำก็คือ ความสามารถของแฟชั่น ดีไซเนอร์ของบริษัทของคุณต้องได้รับการยกระดับขึ้น” เสิ่นหลางพูดอย่างใจเย็น
ใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียวเซียวไม่สามารถซ่อนความตกใจของเธอได้อีกต่อไป มุมมองของเสิ่นหลางสอดคล้องกับความคิดเห็นของคณะกรรมการ Paris Fashion Week อย่างน่าประหลาดใจ บริษัทของพวกเขาขาดความสามารถในการออกแบบที่เป็นของตัวเอง
ตอนนี้หลิวเซียวเซียวก็หมดคำพูดที่จะทำให้เสิ่นหลางขายหน้าได้ ถ้าเส่นหลางพูดไร้สาระ หรือบังเอิญตอบถูกล่ะก็เธอยังสามารถเยาะเย้ย แต่ผู้ชายคนนี้รอบรู้มากเกินไปหรือเปล่า?
หากอีกฝ่ายไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่น เป็นไปไม่ได้ที่จะได้ข้อสรุปในประดับที่ดีแบบนี้ และหลิวเสี่ยวเซียวก็รู้เรื่องนี้ดี
เมื่อเห็นว่าทุกคนเงียบ เสิ่นหลางก็เหลือบไปมองหลิวเซียวเซียวและยิ้ม: "ผู้บริหารหลิว จากที่คุณเห็น การประเมินนี้น่าจะผ่านแล้วนะ?"
"ขอแสดงความยินดีด้วยนะคุณเสิ่นที่ผ่านการสัมภาษณ์ ผู้ช่วยหลินพาคุณเสิ่นไปที่แผนกทรัพยากรบุคคลเพื่อลงนามในสัญญา และรายงานให้ฉันทราบหลังจากเสร็จสิ้น ฉันจะพาเขาไปที่แผนกประชาสัมพันธ์เพื่อทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมในภายหลัง" หลิวเซียวเซียวพูดอย่างใจเย็น
เมื่อเห็นว่าหลิวเซียวเซียวตรงไปตรงมามาก เสิ่นหลางก็ตกใจเล็กน้อย เขาคิดว่าสาวสวยคนนี้จะต้องใช้วิธีอื่นเพื่อทำให้สิ่งต่าง ๆ ยากสำหรับเขาต่อไป
หลิวเซียวเซียวอาจจะขี้เล่น แต่เธอก็ยังคิดถึงบริษัทอยู่ แม้ว่าเธอจะอารมณ์เสียเล็กน้อยแต่เธอก็ต้องยอมรับว่าเสิ่นหลางมีพรสวรรค์จริง ๆ
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ผู้ชายคนนี้เข้าทำงานแล้ว ก็มีโอกาสมากมายที่จะเกิดความโกรธ
เสิ่นหลางเดินตามหลินไฉ่เอ๋อร์ออกจากห้องทำงานผู้บริหารอย่างมีความสุข
"ฮ่าฮ่า ผู้ช่วยหลิน จากนี้ไปเราจะเป็นเพื่อนร่วมงานกัน เร็วจัง" เสิ่นหลางพูดกับหลินไฉ่เอ๋อร์ด้วยรอยยิ้ม
หลินไฉ่เอ๋อร์ยิ้มและพูดว่า "ผู้จัดการเสิ่น ฉันฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค่ะ"
เธอยังคงชื่นชมเสิ่นหลางอยู่ในใจ เพียงแค่มีความชำนาญทั้งสามภาษาก็เพียงพอแล้ว แต่นี่ยังมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับแฟชั่นอีก
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายอายุไล่เลี่ยกับเธอ แต่ความสามารถของเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับตัวเธอลย
สาว ๆ ในที่ทำงานไม่ได้ตื้นเขินเหมือนสาวน้อย ผู้ชายที่มีความสามารถมักจะดึงดูดพวกเขาแบบไม่ตั้งใจ ยิ่งไปกว่านั้นเสิ่นหลางทั้งยังหนุ่มและหล่อเหลาอีกด้วย
เสิ่นหลางโบกมือส่าย: "อย่าเรียกฉันว่าผู้จัดการเลย ต่อจากนี้ไปเราจะเป็นเพื่อนกัน เรียกฉันว่า พี่เสิ่นเถอะ ฉันจะเรียกคุณว่าไฉ่เอ๋อร์”
หลินไฉ่เอ๋อร์หน้าแดง: "ผู้จัดการเสิ่น อยู่ในบริษัทเรียกแบบนั้นไม่ดีหรอก นอกจากนั้นฉันยังเป็นผู้ช่วยของคุณอีกด้วย..."
เสิ่นหลางก็ตระหนักได้ว่า เรียกคนอื่นว่าน้องแบบนี้ มันง่ายมากที่จะทำให้คนอื่นคิดว่าตัวเองให้อภิสิทธ์กับพนักงาน ซึ่งไม่ดีเลย
“ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ฉันแค่อยากจะปฏิบัติต่อคุณในฐานะเพื่อน” เสิ่นหลางเกาหัวและยิ้ม
“อืม” หลินไฉ่เอ๋อร์หน้าแดงและพยักหน้าตอบ
บทสนทนาอันน่าขบขันของเสิ่นหลาง ประกอบกับใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ทำให้หลินไฉ่เอ๋อร์เกิดความประทับใจแรกพบ และเธอก็ตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับ เสิ่นหลาง
ต้องบอกว่าประสิทธิภาพในการทำงานของ หลิงหยา อินเตอร์เนชั่นแนลนั้นค่อนข้างสูง ทันทีที่เสิ่นหลางมาถึงสำนักงานของแผนกบุคคล สัญญาก็ถูกเตรียมพร้อมไว้แล้ว
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ เงินเดือน 16,000 สุดยอดสวัสดิการ 5 อย่าง พร้อมค่าคอมมิชชั่นและเงินปันผลสิ้นปี ผลประโยนช์ดีเลิศ
เสิ่นหลางรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย งานดี ๆ แบบนี้ก็หาไม่ยากหนิ! ก่อนหน้านั้นสาวแสนเย็นชาที่บ้านยังคงแสดงท่าทางดูถูกเหยียดหยามว่า "คุณจะหางานได้หรอ" ในที่สุดเสิ่นหลางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เมื่อกลับไปที่ห้องทำงานผู้บริหาร หลิวเซียวเซียวก็ไม่ได้พูดอะไรไร้สาระ และพาเสิ่นหลางไปที่แผนกประชาสัมพันธ์ทันทีพร้อมกับหลินไฉ่เอ๋อร์ที่เดินอยู่ข้าง ๆ
เมื่อเสิ่นหลางเดินเข้าแผนกประชาสัมพันธ์ครั้งแรก เห็นสาวสวยในชุดออฟฟิศเต็มไปหมด เขาก็รู้สึกตื้นตันใจทันที เขาให้คะแนนเต็มกับสภาพแวดล้อมการทำงานแบบนี้!
เหมือนกับที่ชายน่าสะอิดสะเอียน2คนก่อนหน้าพูดไว้ ฝ่ายประชาสัมพันธ์เกือบทั้งหมดเป็นหญิงสาววัยรุ่น คนที่อายุมากสุดก็ไม่เกิน 27 ปี
โดยทั่วไปแล้วฝ่ายประชาสัมพันธ์ของหลิงหยา อินเตอร์เนชั่นแนล มีหน้าที่รับผิดชอบในการต้อนรับ การประชาสัมพันธ์ และการเจรจาธุรกิจต่าง ๆ ในเรื่องแบบนี้ สาว ๆ สวยๆ ย่อมมีเงื่อนไขหรือสภาพแวดล้อมที่คอยอำนวยให้เป็นพิเศษอยู่แล้ว
โดยทั่วไปแล้วเมื่อให้สาวสวยไปเจรจา อีกฝ่ายจะเกิดความประทับใจแรกพบกับคุณเพราะรูปร่างหน้าตา ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมาก
สาว ๆ ในแผนกประชาสัมพันธ์ก็มีการแบ่งแยกเช่นกัน พวกเขาสามารถไปกับลูกค้าเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับงานหรือแม้แต่ดื่มสังสรรค์ แต่ถ้ามากไปกว่านั้นก็ไม่สามารถทำได้แล้ว
หลิงหยา อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงซึ่งให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์และการพัฒนาเป็นอย่างมาก ไม่มีทางที่จะไปมีส่วนร่วมในเรื่องที่ไม่ดีเด็ดขาด หากพบว่าพนักงานไม่ระมัดระวังเกี่ยวกับกิจการของบริษัท พนักงานคนนั้นจะถูกไล่ออกทันที
เมื่อเห็นว่าผู้บริหารหลิวพาผู้ชายมาที่นี่ พนักงานหญิงกลุ่มหนึ่งต่างก็จ้องมองด้วยความตกตะลึง สีหน้าประหลาดใจของพวกเขาราวกับเห็นหมีแพนด้ายักษ์
หลิวเซียวเซียวชำเลืองมองเสิ่นหลาง แล้วพูดว่า: "อะแฮ่ม... ให้ฉันขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักก่อน คุณเสิ่นหลางท่านนี้ได้เป็นผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์แล้ว"
“สวัสดีครับทุกคน” เสิ่นหลางยิ้มจนเห็นฟันขาว
กลับกันเขาเป็นคนหน้าหนอยู่แล้ว ไม่รู้สึกเขินอายเลยักนิด
“ผู้จัดการ?”
“เป็นผู้ชายจริง ๆ หรอ?
“ไม่แย่ ไม่แย่ เขาหล่อมาก!”
"ผู้บริหารหลิวสายตาถึงมากเลยที่เลือกผู้จัดการที่มีสไตล์แบบนี้"
“ห้ามแย่งนะ หัวใจของหนุ่มคนนี้เป็นของฉัน!”
กลุ่มสาวสวยด้านล่างก็เดือดปุด ๆ สายตานับไม่ถ้วนมองไปที่เสิ่นหลาง แทบจะอยากเห็นทุกส่วนของร่างกายเสิ่นหลาง ซึ่งทำให้เสิ่นหลางสั่นสะท้านไปทั้งตัว
แต่เมื่อดูจากท่าทางของสาวๆแล้ว ความฟุ้งซ่านของเสิ่นหลางก็ระเบิดขึ้น ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนมากมายในเมืองนี้ถึงอยากเป็นผู้นำ รู้สึกดีจริงๆ ที่ได้เป็นผู้นำโดยเฉพาะผู้นำของกลุ่มสาวงาม
หลิวเซียวเซียวชำเลืองมองไปที่เสิ่นหลางและพูดอย่างจริงจัง: "เอาล่ะ ทุกคนเงียบ ๆ ฟังฉัน! อย่าถูกหลอกโดยรูปลักษณ์ที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยของชายคนนี้ แม้ว่าฉันจะไม่ไม่ค่อยรู้จักกับผู้จัดการเสิ่นมากนัก แต่ฉันก็รับประกันว่าผู้ชายคนนี้เป็นผู้ชายที่ไม่ดี 100% สาว ๆ ต้องระวังไว้นะ!"
。
ทันทีที่สิ้นสุดคำพูด ทั้งสำนักงานก็เงียบลง และผู้หญิงกลุ่มหนึ่งก็จ้องมองไปที่เสิ่นหลาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
หลินไฉ่เอ๋อร์ก็มึนงงเช่นกัน
“ยิ่งไปกว่านั้น เขาค่อนข้างลามก น่ารังเกียจ!” หลิวเซียวเซียวกล่าวเสริม
เสิ่นหลางแทบจะกระอักเลือด พูดด้วยความไม่พอใจว่า: “หลิวเซียวเซียว ทำไมคุณถึงพูดให้ร้ายผม ผมลามกตรงไหนไม่ทราบ?"
หลิวเซียวเซียว พูดอย่างเย็นชา ไม่สนใจการต่อต้านของเสิ่นหลาง แต่แอบขำสะใจอยู่ข้างใน: อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ความคิดสกปรกข้างในหัวของคุณนะ สาว ๆ ในบริษัท อย่าแม้แต่จะคิดคบปฏิสัมพันธ์กับพวกอันธพาลตัวเหม็นแบบนี้!
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved