บทที่ 7 ไม่ใช่ตาเฒ่า

หยางเฟยพยักหน้าเล็กน้อย ไม่มีท่าทางเอื่อยๆและเหลาะแหละเช่นนั้นอย่างที่อยู่ต่อหน้าเฉินเย่าถิงโดยสิ้นเชิง ท่าทางไม่แข็งกร้าวและไม่อ่อนน้อม "ผมเป็นใครไม่สำคัญ ผมเพียงแค่รู้ว่ายาเข็มนี้ของคุณไม่มีประโยชน์ ในส่วนที่สถาบันรักษาพยาบาลของยุโรปอะไร หนังสือรับรองผู้เชี่ยวชาญอะไรนั่น สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่สามารถแสดงเป็นตัวแทนอะไรได้ หมอคนหนึ่งที่มีความสามารถอย่างแท้จริง ก็ไม่จำเป็นต้องมีหนังสือรับรองมาพิสูจน์ตนเอง"

เมื่อได้ยินคำเฉินเย่าถิงสีหน้าก็เปลี่ยนแปลง ในสายตามีความเกลียดชังเพิ่มขึ้นหลายส่วน

หยางเฟยคำพูดนี้แม้ว่าจะไม่ได้พูดให้ละเอียด แต่ความหมายกลับเข้าใจได้ แม้ว่าเขาจะมีหนังสือรับรองแต่ก็ไม่มีประโยชน์ หนังสือรับรองไม่ได้สามารถรับรองได้ว่าเขามีความสามารถในการรักษาทางแพทย์ให้แก่ไป๋หย่าอวิ้น

เป็นคนที่เคยจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยการแพทย์ของประเทศอเมริกาด้วยคะแนนที่สูงที่สุด สิบปีมานี้ได้อยู่ในนิตยสารทางการแพทย์《ทูตสวรรค์》ที่มีชื่อเสียงมาหลายครั้ง ห้าปีก่อนการรายงานฉบับหนึ่งที่เกี่ยวกับอายุของเลือดยิ่งทำให้วงการแพทย์สั่นสะเทือน ถูกขนานนามว่าเป็นนักวิจัยเลือดในวงการที่อายุน้อยที่สุด หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่โดดเด่นที่สุด อนาคตเป็นคนที่สามารถรักษาไขกระจ่างโรคเกี่ยวกับเลือดหลากหลายความแตกต่างให้แก่คนไข้ แต่ในเวลานี้กลับถูกสงสัย

เฉินเย่าถิงลอบด่าว่าคนบ้านนอกที่โอ้อวดแต่ไม่มีความรู้คำหนึ่ง ขี้เกียจจะพูดมากกับเขาอีก หันไปพูดกับด้านข้างแทนว่า "ลุงอัน ประคองคุณหนูหย่าอวิ้นขึ้นมานั่งเถอะครับ ผมจะฉีดยาให้เธอ"

ซินอันที่ไม่ได้พูดอะไรอยู่ด้านข้างมองหยางเฟยอย่างละเอียดทีหนึ่ง จากความมั่นใจที่อยู่ในคำพูดของหยางเฟย เขารู้สึกว่าอาจจะไม่ได้พูดมั่วๆออกมา แต่ในปกติเวลาที่ไป๋หย่าอวิ้นอาการกำเริบเองก็รักษาเช่นนี้ คงจะไม่มีปัญหาอะไร คิดเช่นนี้ซินอันก็โยนความคิดในใจออกไป ยังคงเห็นด้วยกับวิธีรักษาของเฉินเย่าถิง ส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดสองคนประคองไป๋หย่าอวิ้นขึ้นมาเล็กน้อย

ไม่ง่ายเลยที่ตนเองจะมีจิตใจเปิดเผยเช่นนี้แล้วยังถูกสงสัยอีก หยางเฟยระอาใจอยู่บางส่วน

แต่ความจิตใจดีจากหมอคนหนึ่ง บวกกับความรู้สึกทนไม่ได้จริงๆที่จะให้สาวงามคนหนึ่งสูญหายไป หยางเฟยจึงเปิดปากอีกครั้ง "ผมแนะนำว่าพวกคุณยังคงอย่าฉีดยาเข็มนี้ รีบพาส่งโรงพยาบาลถ่ายเลือดลดความเจ็บปวดของเธอ ไม่อย่างนั้นยาเข็มนี้หากฉีดลงไป ผลลัพธ์จะยิ่งเลวร้ายลง"

คำพูดเช่นนี้ที่หยางเฟยพูดออกไปก็เป็นการสงสัยความชำนาญของเฉินเย่าถิง เขากัดฟันเก็บความโกรธบางส่วนเอาไว้ "หนึ่งปีมานี้ผมล้วนช่วยคุณหนูหย่าอวิ้นรักษาเช่นนี้ ก็ไม่เคยเห็นว่าจะมีผลลัพธ์ที่เลวร้ายอะไร? ผมเห็นว่าคุณต่างหากที่ตั้งใจรบกวนพวกเรา ทำให้พวกเราพลาดเวลาในการรักษาที่สำคัญต่างหากล่ะ?"

เมื่อเฉินเย่าถิงพูดประโยคสุดท้ายออกไปบอดี้การ์ดไม่กี่คนก็มองไปที่หยางเฟยอย่างเยือกเย็น ซินอันเองก็ขมวดคิ้ว "หมอเฉิน ทำตามวิธีของคุณก็พอแล้ว"

หยางเฟยที่จู่ๆก็โผล่ออกมา มองดูแล้วอายุก็ไม่เยอะ คำไม่กี่คำไม่เพียงพอที่จะให้เขาเชื่อ เขาไม่สามารถเอาความปลอดภัยของไป๋หย่าอวิ้นมาเสี่ยงได้

เฉินเย่าถิงยิ้มออกมาพร้อมพยักหน้า หลังจากมองหยางเฟยด้วยความดูถูกแล้วค่อยคุกเข่าลง

มองเห็นฉากนี้หยางเฟยรู้ว่าตนเองห้ามไม่ได้แล้ว ก็ขี้เกียจจะดึงดันต่อไป ยักไหล่แล้วหมุนตัว "หากพวกคุณยังจะฉีดยาเข็มนี้ อย่างรวดเร็วพวกคุณก็สามารถส่งเธอไปที่เมรุได้แล้ว"

กลุ่มอาการเลือดเย็นระยะหลัง อาศัยเพียงยาควบคุมความดันเลือดทำให้คนสงบลงมา หลังจากนั้นใช้เครื่องมือลดความเย็นเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์ หากจะทำเช่นนี้ต่อไป ก็เป็นเพียงการผลักคนป่วยเข้าไปหายมบาลเท่านั้น แต่พวกเขาไม่เชื่อหยางเฟยเองก็ไม่มีวิธีแล้ว เขาได้แสดงความรับผิดชอบของแพทย์คนหนึ่งไปอย่างที่สุดแล้ว ไม่ละอายใจแล้ว

แต่คำพูดของเขากลับสร้างความโกรธให้แก่บอดี้การ์ดสองคนที่เดิมทีก็เข้ามาขัดขวางเขาเอาไว้ "ไอ้เด็กเวร แกกล้าแช่งคุณหนูของพวกเรา หาเรื่องตายนัก!"

หนึ่งในนั้นกำหมัดพุ่งมายังท้ายทอยของหยางเฟย คนในที่แห่งนี้ที่มองเห็นล้วนลอบส่ายหน้า คิดว่าหยางเฟยไร้เดียงสามากเกินไปแล้ว แรกเริ่มเข้าขัดขวางคนเขาในการรักษาก็ช่างมันเถอะ กลับยังกล้าพูดคำซวยๆเช่นนี้ ก็เป็นการฆ่าตัวตายจริงๆนั่นแหละ ยิ่งกว่านั้นคนบางคนที่ขี้ขลาดก็ปิดตาเอาไว้ กลัวว่าจะเห็นหยางเฟยถูกชกหัวแตกเลือดไหลแล้วจะตกใจ

แต่ในตอนที่หมัดกำลังจะกระทบกับท้ายทอยของหยางเฟย เขาก็เอียงหัวหลบตามสัญชาติญาณ หมัดของบอดี้การ์ดคนนั้นร่วงลงยังบนอากาศด้านข้างของเขาไป

เกิดอะไรขึ้น?

เมื่อกี้ที่บอดี้การ์ดคนนั้นออกหมัดเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในพริบตา ทุกคนมองดูแล้วหยางเฟยไม่มีทางหลบได้ แต่ไม่ว่ามองยังไงจู่ๆก็หลบไปได้แล้ว?

หยางเฟยเองก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย หากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อนเขาก็ไม่มีทางหลบได้พ้น แต่เมื่อกี้รู้สึกว่าเบื้องหลังมีความผิดปกติ เขาเอียงหัวเล็กน้อยก็หลบได้แล้ว เกินความคาดคิดของเขาไปเล็กน้อย เมื่อเห็นหยางเฟยหลบได้ บอดี้การ์ดคนนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อยหลังจากนั้นก็ไม่ได้คิดมาก เพียงคิดแค่ว่าหยางเฟยโชคดี ลงมืออีกครั้งในทันที เตรียมตัวสั่งสอนหยางเฟยที่พูดจามั่วๆสักหน่อย

เรื่องประหลาดเกิดขึ้นอีกครั้ง ไม่ว่าหมัดของบอดี้การ์ดจะรุนแรงสักเพียงใด หยางเฟยก็จะหลบหลีกได้ล่วงหน้า ทั้งยังแสดงออกชัดเจนว่าสบายๆอย่างที่สุด

โจมตีต่อกันสิบกว่าครั้งล้วนไม่สัมผัสถึงหยางเฟยแม้แต่ขนเส้นเดียว จากในการหลบหลีกหยางเฟยเองค่อนข้างเข้าใจแล้ว จากที่ของลึกลับนั่นเข้าสู่ในร่างกายของเขา ตอนนี้ร่างกายของเขาดีขึ้นมาก เรื่องบางอย่างที่ก่อนหน้าทำไม่ได้ตอนนี้ก็ทำได้แล้ว

เห็นเพื่อนร่วมกันไม่สามารถจัดการหยางเฟยได้ บอดี้การ์ดอีกคนเองก็พุ่งเข้าไป ในตอนนี้หยางเฟยโกรธแล้ว "อย่าให้มันมากเกินไปนัก!"

เขาเจตนาดีเตือนออกไป พวกเขาไม่เชื่อก็ช่างมันเถอะ ตอนนี้พวกเขายังลงมือเพราะเขาพูดความจริงประโยคนั้น ไม่ได้สนใจเลยว่านี่เป็นกลางวันแสกๆ นี่เป็นการใช้อำนาจรังแกคนอื่นชัดๆ

"ฆ่าแกให้ตายก็ไม่ถือว่าเกินไป"

ได้ยินคำของบอดี้การ์ดหยางเฟยสายตาเย็นเยียบ จากการหลบหลีกเปลี่ยนมาเป็นโจมตี หนึ่งฝ่ามือจับแขนของบอดี้การ์ดหนึ่งในนั้นเอาไว้ดึงมาข้างหน้า อยู่ในตอนที่เขาสูญเสียสมดุลงอเข่าทิ่มเข้าไปในบริเวณท้องของเขาอย่างรุนแรง บอดี้การ์ดคนนั้นก็ร้องโหยหวนเสียงหนึ่งแล้วลงไปบนพื้น

หลังจากนั้นก็หมันตัวกระโดดยื่นเท้าถีบออกมาทีหนึ่ง ถีบลงบนร่างกายของบอดี้การ์ดอีกคน บอดี้การ์ดคนนั้นส่วนสูงประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบ น้ำหนักแปดสิบกิโลขึ้นไปก็ถูกถีบลอยล้มไปกับพื้น

หยางเฟยที่ค่อยๆลงมาขี้เกียจจะมองอีก หมุนตัวเดินออกไปด้านนอกของกลุ่มคน เขาพบว่าตนเองไม่เพียงเป็นหนุ่มน้อยมีแนวโน้มที่จะเติบใหญ่ ร่างกายเองก็อยู่ในช่วงค่อยๆพัฒนา สามารถแสดงความสามารถที่เมื่อก่อนไม่สามารถแสดงออกไป เขาต้องการศึกษาอย่างเงียบๆ ว่าทำไมเป็นเช่นนี้

รอจนหยางเฟยไปแล้วเหล่าผู้ชมถึงจะมีปฏิกิริยากลับมา ตอนที่บอดี้การ์ดชุดดำไม่กี่คนต้องการไล่ตามไปซินอันส่งเสียงเรียกพวกเขาเอาไว้ "ไม่ต้องตามแล้ว ไอ้เด็กนี่มันไม่ธรรมดา"

ในตอนที่พูดประโยคนี้ออกไปคิ้วก็ขมวดแน่น ความเชื่อมั่นในใจที่มีต่อเฉินเย่าถิงสั่นคลอนเล็กน้อยเพราะความสามารถของหยางเฟยที่แสดงออกมา

แต่ว่าเขาไม่ได้ห้ามเฉินเย่าถิงในการฉีดยาให้ไป๋หย่าอวิ้น เพียงแต่ในใจหวังเอาไว้ว่าห้ามถูกหยางเฟยพูดถูกอย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นไม่ว่าเขาจะมีกี่ชีวิตก็ตายอย่างไม่เพียงพอ

ไม่มีหยางเฟยมารบกวน เฉินเย่าถิงก็ฉีดยาให้กับไป๋หย่าอวิ้น เดิมทีไป๋หย่าอวิ้นที่ร่างกายสั่นกระตุกเล็กน้อย กำสองมือแน่นทั้งยังกัดฟันแน่นนั้นก็สงบลงมา ใบหน้าที่บิดเบี้ยวเองก็ผ่อนลงเล็กน้อย ดูแล้วไม่ทรมานแล้ว

ซินอันที่หัวใจร้อนรนเห็นแล้วก็ถอนหายใจออกมา ดูท่าว่าไอ้เด็กนั่นพูดมั่วๆเอา

เฉินเย่าถิงสังเกตเห็นแล้วเขาเองก็ถอนหายใจออกมา เก็บอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปพลางพูดพร้อมหัวเราะไปพลางว่า "ลุงอัน ไอ้เด็กนั่นพูดมั่วๆเห็นๆ รีบให้คนขับรถเข้ามากลับตระกูลไป๋ พอผมใช้เครื่องมือรักษา คุณหนูหย่าอวิ้นก็สามารถ..."

ยังไม่ทันพูดจบไป๋หย่าอวิ้นที่เดิมทีเงียบสงบก็พลันส่งเสียงฟืดฟาดราวกับเจ็บปวดอย่างมากออกมา ทั้งร่างกายคดงอเกร็งกระตุก มองดูแล้วยังอาการหนักกว่าเมื่อสักครู่อีก สองมือที่กำแน่นนิ้วเล็บล้วนจิกเข้าเนื้อ ถเห็นเลือดสดๆไหลออกมาทิ่มแทงสายตา

เพิ่งจะถอนหายใจ เมื่อซินอันมีปฏิกิริยากลับมาก็กระชากคอเสื้อของเฉินเย่าถิงทันที "นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"

รอยยิ้มของเฉินเย่าถิงแข็งค้างมองอย่างโง่เง่า หนึ่งปีมานี้เวลาที่ไป๋หย่าอวิ้นอาการกำเริบเขาเองก็รักษาเช่นนี้ ทุกครั้งล้วนไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย ตอนนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเขาเองก็ไม่รู้สถานการณ์แล้วเช่นกัน

เสียงฝ่ามือดังเพี๊ยะดังขึ้น ซินอันตบหน้าเฉินเย่าถิงทันทีหนึ่งฝ่ามือ "ไอ้เวร เกิดอะไรขึ้นกันแน่?"

เฉินเย่าถิงโดนตบหนึ่งฝ่ามือก็มีสติกลับมา สีหน้าซีดขาว "ผมเองก็ไม่รู้ ไม่ควรจะเป็นแบบนี้นี่ หนึ่งเดือนก่อนเธออาการกำเริบผมเองก็รักษาเช่นนี้นะ!"

ได้ยินคำพูดแล้วซินอันยิ่งโกรธ ฝ่ามือถีบเฉินเย่าถิงล้มกลิ้งลงบนพื้น แล้วก็คิดถึงหยางเฟยขึ้นมาได้ "เร็ว รีบไปเอาเด็กเมื่อกี้นั่นกลับมา เขาสามารถรู้ผลหลังจากฉีดยาล่วงหน้าได้ จะต้องมีวิธีรักษาคุณหนูหย่าอวิ้นได้แน่"

ในตอนที่บอดี้การ์ดไม่กี่คนเตรียมตัวจะจากไปนั้น เด็กผู้หญิงราวสิบเอ็ดสิบสองปีคนหนึ่งเข้ามาใกล้จากในกลุ่มฝูงชน "พวกคุณใครคือตาเฒ่าลุงอันน่ะ?"

ซินอันเห็นว่าเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เก็บกดความร้อนรนและไม่พอใจไว้ในใจรักษาน้ำเสียงอบอุ่นเอาไว้อย่างเต็มที่ "ลุงก็คือลุงอัน แต่ไม่ใช่ตาเฒ่า"

เด็กสาวแบมือออกแล้วพูดตอบ "พี่ชายคนหนึ่งที่ถนนเมื่อกี้บอกให้เอาสิ่งนี้มาให้ลุงไว้ช่วยคน ยังบอกอีกว่าลุงจะให้เงินหนู"

ซินอันมองสิ่งของในฝ่ามือของเด็กสาว ของสีเหลืองอ่อนราวยาอม หลังจากหรี่ตามองแล้วก็ตกใจมีสติขึ้นมา "เป็นคนที่สะพายกระเป๋าขาดๆเก่าๆ กางเกงมีรูใช่ไหม?"

เด็กสาวกะพริบตาพยักหน้าลง "อืม ลุงรู้จักเหรอ?"

"ลุงรู้จัก เขายังพูดอะไรอีกไหม?"

ซินอันมีสีหน้ายินดีรีบพยักหน้าโดยไว คิดอยู่สักหน่อยเด็กสาวถึงตอบกลับ "พี่ชายคนนั้นพูดว่าคนสวยเป็นกลุ่มอาการเลือดเย็นอะไรสักอย่าง เริ่มตั้งแต่ตอนอายุสองขวบสามปีก็แสดงอาการหนึ่งครั้ง หลังจากเก้าขวบสองปีแสดงอาการหนึ่งครั้ง หลังจากสิบสามขวบหนึ่งปีหนึ่งครั้ง จนถึงตอนนี้หนึ่งเดือนหนึ่งครั้ง นี่เป็นสัญญาณของระยะสุดท้ายแล้ว ยึดตามวิธีเดิมก่อนหน้านั้นมารักษามันไร้ประโยชน์ ทุกครั้งที่อาการกำเริบจะต้องไปโรงพยาบาลถ่ายเลือดลดความเจ็บปวด"

ได้ยินคำสีหน้าซินอันเปลี่ยนไปเล็กน้อย สิ่งที่เด็กสาวพูดออกมาทั้งหมดก็คือเหตุการณ์ที่ไป๋หย่าอวิ้นเคยเกิดอาการตั้งแต่เล็กจนโต รีบควักแบงค์ร้อยหยวนสักกี่ใบส่งให้เธอ เอาของที่เหมือนยาอมนั่นมา แล้วหมุนตัวเอาให้ไป๋หย่าอวิ้นกินลงไปทันที เขาเชื่อแล้วว่าหยางเฟยเป็นผู้มีความรู้คนหนึ่ง ไม่เช่นนั้นก็พูดคำพวกนี้ออกมาไม่ได้แน่นอน

"ลุงอัน ไอ้เด็กนั่นใส่เสื้อผ้าขาดวิ่นเป็นคนบ้านนอกนะ ของของเขาไม่สามารถกินมั่วๆได้นะครับ"

เฉินเย่าถิงรีบร้อนออกมาขัดขวางทันที ซินอันได้ยินคำพูดแล้วก็ให้บอดี้การ์ดดึงตัวเขาเอาไว้ "เขาเพียงแค่มองก็ดูออกแล้วถึงระยะเวลาในการเกิดอาการกำเริบของคุณหนูหย่าอวิ้น คุณที่มีชื่อเสียงจอมปลอกดูออกไหม?"

คิดไปถึงคำพูดของเด็กสาวเมื่อสักครู่ มุมปากของเฉินเย่าถิงเคลื่อนไหว "เป็นไปได้ยังไง?"

เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มาสิบปีคนหนึ่ง และก็ได้พบเจอผู้เชี่ยวชาญหลายด้านมาไม่น้อย แต่ไม่มีใครที่มองครั้งเดียวก็สามารถวิเคราะห์ได้ถึงระยะห่างการเกิดอาการกำเริบของคนไข้!

ซินอันส่งเสียงเหอะแล้วเอายาให้ไป๋หย่าอวิ้นกินลงไป หลังจากนั้นก็คุกเข่าอยู่ด้านข้างดวงตาจ้องมองอย่างไม่กะพริบ ผ่านเช่นนี้ชั่วครู่หนึ่ง เขาที่ทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นปรากฏรอยยิ้มออกมา "ดีจริง!"

ไป๋หย่าอวิ้นกำลังสงบลงมาอย่างช้าๆ แม้ว่าสีหน้ายังซีดขาวอยู่มากไม่สามารถพูดออกมาได้ แต่มองดูแล้วไม่ได้ทรมานขนาดนั้นแล้ว

เมื่อคิดถึงหยางเฟยได้ก็รีบพูดกับบอดี้การ์ดข้างกายทันที "ตามหา เจ้าหนุ่มนั่นบางทีอาจมีวิธีรักษาคุณหนูหย่าอวิ้นได้ แม้แต่คุณชายเหยียน!"

"ทราบ!"

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

1480