บทที่16 ราชินีกุหลาบ

ใบหน้าของถังเล่ยสลดลง

เขายังไม่ทันจะได้โมโห จู่ๆก็มีเสียงที่มีเสน่ห์เสียงหนึ่งดังขึ้น: "นายน้อยถัง* เรื่องอะไรทำให้คุณทำหน้าตาดูไม่ได้แบบนั้น"

ทุกคนเงยหน้าขึ้นมอง

บรรยากาศรอบๆช้าลงทันที

มองเห็นเพียงสาวสวยคนหนึ่งค่อยๆเดินลงมาจากบันไดบนชั้นสองของบาร์ พร้อมกับแขนเรียวยาว และคู่ขาที่ขาวดั่งหยกที่ค่อยๆแกว่งไปมา

แต่งกายด้วยชุดสีแดงอันงดงาม คู่กับรองเท้าส้นสูงสีเงินแวววาว ราวกับราชินี ลงมาจากสวรรค์

ในความเป็นจริง ผู้หญิงคนนี้คือหลิวเหยียนเอ๋อ หรือที่รู้จักกันในนามราชินีกุหลาบ ซึ่งเป็นเจ้าของและเบื้องหลังของไนท์โรสบาร์

ทุกคนมองด้วยสายตาที่ตกอยูในภวังค์

พวกเขาเคยได้ยินมานานแล้วว่า เจ้าของไนท์โรสบาร์เป็นสาวเซ็กซี่ มีเสน่ห์ และสวยมาก และเมื่อได้เห็นเองกับตาในตอนนี้ และเป็นไปตามที่ยินมาจริงๆ

มีรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากของหลิวเหยียนเอ๋อ กับริมฝีปากสีแดงสุดร้อนแรงที่ปล่อยสเน่ห์ที่น่าดึงดูดออกมา

เมื่อเธอเดินถึงข้างๆของเย่ชิงเฉิง ผู้คนรอบข้างก็ต่างตกอยู่ในความมึนงง

เมื่อสองสาวงามมาพบกัน รูปร่างหน้าตาของพวกเขาไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ เย่ชิงเฉิงดูหยิ่งและเย็นชา ขณะที่หลิวเหยียนเอ๋อมีเสน่ห์ เหมือนน้ำแข็งและไฟ

คู่น้ำแข็งและไฟ ทีี่สามารถฆ่าคนได้โดยง่าย

“นายน้อยถัง?”

ถังเล่ยยังตกอยู่ในภวังค์เสน่ห์ของหลิวเหยียนเอ๋อ เสียงเรียกจากหลิวเหยียนเอ๋อ ถึงทำให้เขาฟื้นคืนสติกลับมา

“คุณเหยียนเอ๋อ ไม่ใช่ว่าผมตั้งใจหาเรื่องในที่ของคุณ แต่หมาตัวผู้ตัวเมียคู่นี้ หลอกฉันเมื่อกี้ ฉันแค่ต้องการความยุติธรรม”

"ใช่หรอ?"

หลิวเหยียนเอ๋อยิ้มอย่างมีเลศนัย ทันใดนั้นก็มองไปที่เย่ชิงเฉิง และพูดว่า "พี่สาว เขาเรียกคุณว่าหมาตัวผู้ตัวเมียน่ะ!"

พี่สาว?

ทันใดนั้น สีหน้าของถังเล่ยก็แข็งทื่อ

เกิดความโกลาหลบริเวณรอบๆ

ใครจะคิดว่า สาวสวยน่าทึ่งยากสองคนนี้จะเป็นพี่น้องกัน?

เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทำให้ผู้คนแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ

เย่ชิงเฉิงดื่มไวน์แดงไปไม่น้อย แก้มเธอแดงเล็กน้อย แต่การพูดของเธอยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: "งั้นก็ให้เขาตบปากตัวเองซะ"

"ได้เลย"

หลิวเหยียนเอ๋อหันกลับมามองที่ถังเล่ยด้วยรอยยิ้ม: "นายน้อยถัง พี่สาวของฉันไม่ชอบที่คุณพูดเมื่อสักครู่เท่าไหร่ เธอให้คุณตบปากตัวเองซะ"

แน่นอนว่าเมื่อถังเล่ยได้ยินสิ่งที่เย่ชิงเฉิงพูด จริงๆแล้วไม่ต้องรอให้หลิวเหยียนเอ๋อพูดอีกครั้งด้วยซ้ำ เพียงแต่เขายังรู้สึกสับสนเล็กน้อย

หลิวเหยียนเอ๋อพูดอีกครั้ง: "ถ้าหากนายน้อยถังไม่กล้าทำ ฉันเรียกคนอื่นทำแทนได้ หรือไม่ ให้ฉันเข้าไปคุยกับพ่อของคุณด้วยตัวเองก็ได้"

แม้ว่ามุมปากของเธอจะมีรอยยิ้มจางๆ อยู่เสมอ แต่ ถังเล่ย ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของราชินี ราวกับว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นพระราชกฤษฎีกา

“ไม่...ไม่จำเป็น ฉันจะทำเอง”

ในที่สุด ถังเล่ย ก็พ่ายแพ้ต่อพลังอำนาจของหลิวเหยียนเอ๋อ เขาตบตัวเองสองสามครั้งอย่างเชื่อฟัง และเดินจากไปด้วยความหดหู่

และในตอนนี้ หลิวเหยียนเอ๋อถึงได้มองเห็นลู่อวิ้นชัดๆ : "คนนี้คือ?"

“อ๋อ เขาเป็นแฟนฉัน นามสกุลลู่”

ก่อนที่ลู่อวิ้นจะได้พูดอะไร เย่ชิงเฉิงก็ชิงตอบก่อน ทำให้ตามแผนของตัวเองคือทำให้หลิวเหยียนเอ๋อประหลาดใจ

ตามที่คาดไว้ดวงตาเรียวยาวสวยงามของ หลิวเหยียนเอ๋อ แสดงความประหลาดใจ: "แฟน?"

เธอมองไปที่ลู่หยุนอย่างสงสัย

ลู่หยุนพยักหน้า

จู่ๆสีหน้าของหลิวเหยียนเอ๋อก็แสดงออกถึงความงุดงงเล็กน้อย จูงมือเย่ชิงเฉิงและกระซิบ: "พี่ เขาเป็นแฟนของคุณจริงๆเหรอ ไม่ใช่ว่าพี่กำลังเล่นตลกกับฉันอยู่นะ?

เย่ชิงเฉิงพูด: "เธอไม่คิดว่าเขาดูเหมือนใครสักคนเหรอ? อีกอย่างเขายังมีนามสกุลเดียวกัน"

แน่นอนว่าหลิวเหยียนเอ๋อรู้ว่าเย่ชิงเฉิงกำลังพูดถึงใคร และเกลี้ยกล่อมเธอว่า "ฉันรู้ว่าคุณคิดถึงลู่อวิ้นตัวน้อยมาก ฉันคิดถึงเหมือนกัน แต่ไม่ใช่เพราะว่าหน้าเหมือนกันแล้ว คุณก็เอาตัวเข้าไปหาเขาตามใจได้นะ! "

เย่ชิงเฉิงไม่ได้ฟังคำพูดของเธอเลย ได้แต่กระพริบตาและพูดว่า: "น้องสาม ฉันมีเรื่องที่จะปรึกษาบางอย่างกับเธอ เธอยังจำเรื่องที่เราสัญญาตอนเรายังเด็กได้ไหม ว่าโตขึ้นเราจะแต่งงานกับผู้ชายคนเดียวกัน?”

หลิวเหยียนเอ๋อพยักหน้า

แน่นอนว่าเธอจำเรื่องนี้ได้ แต่มันเป็นแค่เรื่องตลกตอนเด็ก

“ฉันตัดสินใจว่าจะแต่งงานกับเขา เพราะฉะนั้นที่มาครั้งนี้ ก็เพื่อแนะนำเธอเขารู้จัก ไม่เพียงเท่านั้น แต่ฉันยังจะพาเขาไปหาน้องสาวคนอื่นๆด้วย”

คำพูดที่น่าตกตะลึงของเย่ชิงเฉิง ทำให้ดวงตาของหลิวเหยียนเอ๋อเบิกกว้างทันทีด้วยความตกใจ และเธอเอามือของเธอไปแตะที่หน้าผากของเย่ชิงเฉิงทันที

“พี่ใหญ่ คุณไม่ได้มีไข้ใช่ไหม”

เธอไม่อยากเชื่อ พี่สาวคนโตจะพูดแบบนี้ออกมา พี่สาวคนโตเป็นคนที่พูดอะไรมักมีเหตุผลเสมอ!

เย่ชิงเฉิงไม่สนใจสายตาประหลาดใจของหลิวเหยียนเอ๋อและพูดต่อ: "ฉันถามแฟนของฉันแล้ว และเขาบอกว่าเขาไม่รังเกียจที่จะอยู่กับพี่น้องทั้งเจ็ดของเรา"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าที่สวยงามของหลิวเหยียนเอ๋อก็เต็มไปด้วยคำถามทันที

นี่ไม่ใช่เรื่องไร้สาระหรอ พี่น้องทั้งเจ็ดของเราต่างก็ดีมาก เขาจะดีใจก็ยังไม่แปลกอะไร จะรังเกียจได้ยังไง!

พี่สาวคนโตจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร หรือว่าความรักจะทำให้คนโง่ขึ้นได้จริงๆ?

หลิวเหยียนเอ๋อรู้สึกว่าพี่สาวคนโตของเธอบ้าไปแล้ว ไหนๆเธอก็ไม่สามารถพูดให้พี่เปลี่ยนใจได้ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปพูดกับ'แฟน'ของเธอ

สิ่งที่หลิวเหยียนเอ๋อไม่รู้ก็คือ เมื่อเธอหันกลับมา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของ เย่ชิงเฉิง และเธอก็มองไปที่ลู่อวิ้น

ดูเหมือนว่าจะบอกว่าการแสดงของฉันจบลงแล้ว และต่อไปก็ขึ้นอยู่กับคุณ

ลู่อวิ้นเข้าใจทันที และพูดในท่าทางหยิ่งผยองอย่างยิ่ง: "คุณคือน้องสามของชิงเฉิงสินะ ในเมื่อชิงเฉิงก็บอกคุณแล้ว ฉันก็คงจะไม่พูดซ้ำอีก หวังว่าคุณจะไม่รู้จักที่จะขอบคุณอย่างไร"

"..."

นี่มันคนแบบไหนกันเนี๊ยะ?

หลิวเหยียนเอ๋อกัดฟัน ผู้ชายประเภทนี้นอกจากจะถูกแล้วยังมักง่าย ทุ้ย ผู้ชายเหลือเดน!

“ฉันว่าเราขึ้นไปคุยกันข้างบนดีกว่า”

แม้ว่าในใจของเธอจะโกรธ แต่หลิวเหยียนเอ๋อก็ยังคงรักษาภาพพจน์ราชินีของเธอไว้ได้ และเหลือบมองลู่อวิ้นอย่างเย็นชา

แน่นอนว่าลู่อวิ้นไม่ปฏิเสธ

เมื่อขึ้นไปชั้นบน ลู่อวิ้นเดินตามหลัง ชื่นชมร่างอันน่าหลงใหลของพี่เหยียนเอ๋ออย่างเงียบๆ

ทุกคนด้านล่างเห็นฉากนี้ พวกเขาก็กัดฟันด้วยความอิจฉา ไม่รู้ว่าลู่อวิ้นโชคดีมาจากไหนเขามีเทพธิดาผู้เยือกเย็นอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาได้รับเชิญให้ไปที่ห้องวีไอพีตามลำพังกับราชินีกุหลาบ

เป็นคนที่คนยิ่งเปรียบเทียบยิ่งรู้สึกอิจฉา

ห้องวีไอพีที่หรูหรามีฉนวนกันเสียงที่ดีเยี่ยม เมื่อปิดประตู เสียงจากภายนอกจะไม่เข้ามาเลย

แต่ลู่อวิ้นกลับรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมา

เห็นเพียงหลิวเหยียนเอ๋อนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาหนัง รองเท้าส้นสูงสีเงินสว่างนั้นดูเหมือนจะเปล่งแสงเย็นยะเยือกออกมา และออร่าราชินีก็แผล่กระจายออกมาเต็มที่

"นั่ง!"

หลิวเหยียนเอ๋อพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ลู่อวิ้นหัวเราะเบาๆ แทนที่จะนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้าม เขาเดินตรงไปข้างๆหลิวเหยียนเอ๋อและนั่งลง

หลิวเหยียนเอ๋อขมวดคิ้วทันที และในดวงตาที่สวยงามของเธอมีแววตาความรังเกียจในนั้น

ผู้ชายเหลือเดนคนนี้ นี่มันโง่เขลาจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่พี่สาวคนโตของฉัน ฉันคงสับเขาละเอียดไปแล้ว

หลิวเหยียนเอ๋อนึกถึงอดีต เพลย์บอยเฉินจื่ออังตระกูลเฉินแห่งเมืองเจียงเป่ย เพราะว่ามีอิทธิพลที่แข็งแกร่ง ไม่สนฟ้าไม่สนกฎหมาย ได้ทำร้ายเด็กสาวนับไม่ถ้วน

ในท้ายที่สุดเธอทนไม่ไหวได้อีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงจังหวะและเปลี่ยนเฉินจื่ออังให้เป็นขันที

ถ้าเจ้าคนนามสกุลลู่คนนี้วันนี้ยังพูดไม่รู้เรื่อง หลิวเหยียนเอ๋อคนนี้ก็ไม่รังเกียจที่จะให้ เมืองเจียงเฉิงมีขันทีสักหนึ่งคน

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

939