บทที่ 21 กลุ่มคนหัวโบราณตาบอดกลุ่มหนึ่ง

สายตาเคียดแค้น ทิ่มแทงมา

ไม่เพียงแค่จูหรง ยังมีพวกคนที่ชื่นชมภาพวาดและการคัดลายมือแบบศิลปะทุกคนที่อยู่ตรงนั้น รวมถึงอาจารย์หานด้วย

ราวกับว่า พวกเขาเอาสาเหตุที่โรคเก่าของจูหงหยวนกำเริบ โยนใส่ลงบนหัวของลู่อวิ้นทั้งหมด

ล้วนเป็นเพราะเขา นิทรรศการภาพวาดและการคัดลายมือแบบศิลปะที่เดิมทีสมบูรณ์แบบ ต้องพังลง

แล้วก็ยังมีหลิวเหยียนเอ๋อผู้หญิงที่ควรตายคนนั้นอีก

หลังจากนี้นิทรรศการภาพวาดและการคัดลายมือแบบศิลปะ ก็น่าจะกีดกั้นพวกเขา ลากพวกเขาลงใส่บัญชีดำตลอดไปอย่างแน่นอน

“แค่กๆ...”

ทันใดนั้นเสียงไอก็ดังขึ้น จูหงหยวนฟื้นขึ้นมา ร่องรอยสีแดงบนใบหน้าเองก็หายไปแล้ว

ทุกคนถึงพากันโล่งอก

หูเว่ยผิงเก็บเข็ม พูดด้วยสายตาเย็นเยียบ “เมื่อกี้ เหมือนผมจะได้ยินคนคุยโว สงสัยความสามารถทางการแพทย์ของผม?”

เขาได้ยินคำนั้นของลู่อวิ้นตั้งนานแล้ว แต่เพราะกำลังฝังเข็ม ไม่สามารถแยกสมาธิออกมาได้ ดังนั้นจึงไม่ได้โต้กลับเขาในทันที

ตอนนี้ จูหงหยวนฟื้นแล้ว

ในที่สุดหูเว่ยผิงก็สามารถแยกสมาธิออกมาตำหนิลู่อวิ้นได้แล้ว

ความสามารถเฉพาะทางของเขา ไม่มีทางยินยอมให้ใครมาสงสัยเด็ดขาด

เดิมทีคนรอบข้างก็ไม่พอใจลู่อวิ้นอยู่แล้ว เห็นหูเว่ยผิงจะคิดบัญชีกับเขา ต่างก็แสดงสีหน้าแบบยินดีในความทุกข์ของผู้อื่นออกมา

ไม่ใช่ว่านายบอกว่าวิชาฝังเข็มของหูเว่ยผิงไม่ถูกต้องเหรอ ตอนนี้จูหงหยวนฟื้นแล้ว ดูสินายจะอธิบายยังไง

หน้านาย ชาไหมล่ะ?

ลู่อวิ้นกลับไม่สนใจสายตาเย้ยหยันของผู้คน พูดเรียบๆว่า “ในสามวัน จูหงหยวนจะต้องสลบอีกครั้งแน่นอน แล้วก็เลือดออกจากทวารทั้งเจ็ด ไม่เกินห้าวัน เขาตายแน่นอน!”

เมื่อกี้ ตอนที่หูเว่ยผิงฝังเข็ม ลู่อวิ้นมองเห็นอย่างชัดเจน

การฝังเข็มผิดวิธี ทำให้เลือดลมของจูหงหยวนที่กำลังเพิ่มขึ้น ถูกกดกลับลงไปอีกครั้ง กลั้นไว้แต่ไม่ได้ปลดปล่อย แน่นอนว่าวิธีแบบนี้จะทำให้การตีกลับรุนแรงยิ่งขึ้น

ถ้าไม่เกินความคาดหมาย ในสามวันจูหงหยวนก็จะอาการกำเริบอีกครั้ง และจะรุนแรงยิ่งกว่าวันนี้

ลู่อวิ้นพูดคำนี้ออกไป จูหรงก็คำรามด้วยสองตาที่แดงก่ำทันที “ไอ้เวร แกกล้าแช่งพ่อฉัน แกตายแน่!”

เขาพุ่งไปหาลู่อวิ้นด้วยความโกรธ

แต่ทว่า...

แสงเย็นเฉียบวาบในดวงตาของลู่อวิ้น กวาดตามองเขาพร้อมพูดว่า “ถ้าอยากตาย ก็ลองลงมือดู”

จูหรงตัวแข็งค้าง

ฝีเท้าที่เตรียมพุ่งขึ้นไป พลันชะงักลง

เขาถูกกลิ่นอายรังสีของลู่อวิ้นทำให้ตกใจจนหยุดนิ่ง

“ไอ้ขยะเอ๊ย!”

ลู่อวิ้นขี้เกียจเสียเวลากับพวกเขาอีก หมุนตัวจากไป ก่อนออกไป ก็มองอาจารย์หานทีหนึ่ง

“พวกกลุ่มคนหัวโบราณตาบอดเอ๊ย ปรมาจารย์อวิ้นลู่มีสาวกแบบพวกคุณนี่ เป็นความอับอายอย่างหนึ่งจริงๆ”

พูดจบก็ดึงมือเรียวของหลิวเหยียนเอ๋อ ก้าวเท้ายาวๆออกจากตระกูลหาน ทุกคนโกรธจนปีกจมูกบานออก

บนทางกลับ

ดวงตางามของหลิวเหยียนเอ๋อเคลื่อนไปมา มองลู่อวิ้นขึ้นลงไม่หยุด

ลู่อวิ้นพูดพร้อมยิ้มขื่น “พี่เหยียนเอ๋อ ทำไมมองผมแบบนี้ หรือบนหน้าผมมีอะไรติดอยู่?”

“ลู่อวิ้นตัวน้อย เมื่อกี้นายเจ๋งมากจริงๆ พี่สาวชอบมาก”

หลิวเหยียนเอ๋อยิ้มเจ้าเล่ห์ ทันใดนั้น เธอกุมหน้าของลู่อวิ้น ยื่นหน้าไปจูบเขา

หน้าหนาๆของลู่อวิ้นที่หนายิ่งกว่าแผ่นเหล็กนั้น ก็แดงขึ้นมาอยู่สองสามส่วนอย่างหาได้ยาก

หลิวเหยียนเอ๋อพูดเสียงดัง “นายอย่าคิดอย่างอื่นนะ พี่สาวก็แค่มีความสุขมากๆเท่านั้นเอง”

ลู่อวิ้นยิ้มขื่นในใจ พี่เป็นพี่สาวผม ผมจะกล้าคิดเป็นอื่นได้ที่ไหนล่ะ!

ตอนที่ทั้งสองคนกลับมาถึงกรีนวิลล่า ก็ประมาณห้าทุ่มกว่าแล้ว

ปกติหลิวเหยียนเอ๋อก็เหมือนพี่สาวน้องสาวคนอื่นของเธอ เพื่อที่จะได้ทำงานสะดวก ล้วนเลือกอยู่ในที่พักที่ใกล้กับที่ทำงาน

มีเพียงเย่ชิงเฉิง บริษัทอยู่ใกล้ ถึงมักจะอยู่ที่กรีนวิลล่า

ตอนนี้ลู่อวิ้นกลับมาแล้ว หลิวเหยียนเอ๋อเองก็เตรียมกลับมาอยู่ด้วยกัน เธอไม่คิดมากถ้าระยะทางตอนไปทำงานวันรุ่งขึ้นจะอยู่ไกลสักหน่อย

“ทำไมกลับมาดึกจัง?”

ตอนที่ทั้งสองคนกลับมาถึง เย่ชิงเฉิงยังไม่ได้นอน

เธออาบน้ำเสร็จแล้ว ใส่ชุดนอนเนื้อบางโปร่งแสงครึ่งหนึ่งบนร่าง ลูกไม้ด้านล่างปกปิดตรงช่วงขาหนีบได้พอดี

สองขาขาวเนียนปรากฏอยู่ในอากาศ ราวกับเป็นผลงานชิ้นเอกที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลกใบนี้

สายตาลู่อวิ้นไม่ย้ายไปไหน ในเวลานี้เขาทำให้ตนเองรักษาความคิดในแง่บวกเข้าไว้

เพียงแต่ วินาทีต่อมาเย่ชิงเฉิงกลับพลันเบิกตากว้างแล้วพูดว่า “ลู่อวิ้นตัวน้อย หน้านาย...”

ใบหน้าด้านซ้ายของลู่อวิ้น ยังมีรอยรูปริมฝีปากสีแดงประทับอยู่ ลืมที่จะลบทิ้ง

หลิวเหยียนเอ๋อพูดด้วยความร้อนตัวว่า “เอ้อๆ พี่ ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ”

เย่ชิงเฉิงพลันเข้าใจได้ทันที ในสายตามีความคับแค้นใจเล็กน้อย เหมือนกับปัดขวดความหึงหวงหล่นกระจายจนพวยพุ่งออกมา

“ยุติธรรมหน่อย หันแก้มขวาตัวเองมา อย่าบังคับให้ฉันลงมือด้วยตัวเอง”

เย่ชิงเฉิงรุนแรงอย่างที่สุด

...

วันต่อมา พวกพี่สาวออกไปทำงานกันหมดแล้ว

ลู่อวิ้นโทรศัพท์ไปหาใครคนหนึ่ง

เรื่องเมื่อคืน แน่นอนว่ายังไม่จบ ลู่อวิ้นจะต้องทำให้พวกคนที่คิดว่าตัวเองถูกต้องพวกนั้น ขอโทษพี่เหยียนเอ๋อด้วยใจที่ยอมรับผิดให้ได้

อย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นข่าวที่ทำให้คนตื่นเต้น ก็กระจายในเมืองเจียงเฉิงอย่างว่องไว

วันอังคาร เมื่องานประมูลของบริษัทตงเจิ้งจัดขึ้น ถึงคราวนั้นก็จะมีผลงานชิ้นใหม่ของปรมาจารย์อวิ้นลู่ปรากฏออกมาสู่สายตาชาวโลก

เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป นักสะสมของทั้งเมืองเจียงเฉิงล้วนกระส่ำกระส่ายขึ้นมากันจริงๆแล้ว

ผลงานชิ้นใหม่ของปรมาจารย์อวิ้นลู่เชียวนะ!

ทุกคนล้วนรู้ หลายปีแล้วที่ปรมาจารย์อวิ้นลู่ไม่ได้มีผลงานชิ้นใหม่ออกมาเลย บวกกับร่องรอยลึกลับของเขา คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างพากันเดาว่าเขาได้ตายไปแล้วหรือไม่

วันนี้ ผลงานชิ้นใหม่ออกมาแล้ว

แสดงว่าปรมาจารย์อวิ้นลู่ยังมีชีวิตอยู่

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า ข่าวนี้สำหรับคนในแวดวงศิลปะแล้ว มีความสั่นสะเทือนมากเพียงไร

อาจารย์หาน พ่อลูกจูหงหยวน รวมถึงหูเว่ยผิงและคนอื่นๆ พากันยินดีอย่างบ้าคลั่ง รีบซื้อตั๋วเข้างานประมูลของบริษัทตงเจิ้งผ่านอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็วทันที

ไม่เพียงแต่เมืองเจียงเฉิง นักสะสมของเมืองอื่นๆเองก็แย่งซื้อตั๋วกันอย่างบ้าคลั่ง แปปเดียวตั๋วเข้างานก็ขายจนเกลี้ยง

เพราะเมื่อกี้หลิวเหยียนเอ๋อกำลังยุ่งอยู่กับพูดคุยกับผู้อื่นพอดี จนเมื่อตอนที่ได้เห็นข่าวนี้ ตั๋วเข้างานก็ขายจนเกลี้ยงแล้ว

เพราะเรื่องนี้เธอจึงซึมเป็นเวลานาน

จนเมื่อตอนค่ำกลับมาถึงกรีนวิลล่า ลู่อวิ้นพลันดึงตัวเธอเข้าไปในห้องเล็กอย่างลึกลับ

“พี่เหยียนเอ๋อ พี่ดูสินี่คืออะไร?”

“ตั๋วเข้างานประมูลของบริษัทตงเจิ้ง! อ๊าย! ลู่อวิ้นตัวน้อยพี่รักนายจริงๆเลย!!”

หลิวเหยียนเอ๋อกลายเป็นแฟนคลับอย่างสมบูรณ์แล้ว ออร่าพุ่งกระจาย กดจูบขึ้นไปยังแก้มของลู่อวิ้นอีกครั้ง

และช่างบังเอิญ ฉากนี้ถูกเย่ชิงเฉิงเห็นเข้าพอดีอีกครั้ง

ดังนั้น บนแก้มทั้งสองข้างของลู่อวิ้นปรากฏรอยริมฝีปากของทั้งสองคนอีกครั้ง

“...”

จริงๆแล้วลู่อวิ้นอยากจะบอกว่า พี่สาวทั้งหลาย ตอนนี้ผมโตแล้วนะ พวกพี่จะเป็นแบบเมื่อก่อนไม่ได้ จู่ๆที่จะหอมแก้มผมตามใจชอบน่ะ!

มันน่าลำไยจริงๆ!

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

939