บทที่ 1 ต้อนรับลูกเขย
by กู่เซียวซาน
11:23,Dec 19,2020
สนามบินนานาชาติหยุนเฉิง
บนที่นั่งติดกับริมถนน มีชายวัยสามสิบกว่าปีที่พึ่งจะลงจากเครื่องมา นั่งดูดบุหรี่อยู่ด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว
"แค่กๆ !”
และมีควันก็ปลิวไปตามลม หลังจากนั้นก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาดูดอีก ทนไม่ไหวจนเขาต้องไอออกมา และหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาปิดปาก หลังจากนั้นไม่นานผ้าเช็ดหน้าก็เต็มไปด้วยเลือด
"พี่เทียน!”
ชายหนุ่มรูปร่างสูงที่มีร่างกายกำยำที่อยู๋ในชุดสูทสีดำคนหนึ่ง ยืนอยู่ไม่ไกลจากเขานัก
พอเห็นอาการของเจ้านายตนจึงถามด้วยความเป็นห่วงว่า : " เป็นอะไรมากไหม?"
เสี่ยวเทียนโบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน ว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก แล้วถือโอกาสถามไปด้วย “เรื่องที่ฉันให้ไปจัดการเรียบร้อยหรือยัง”
ในขณะที่เขาพูด สายตาของเสี่ยวเทียนก็เต็มไปด้วยความอ่อนโยน
วันนั้น ขณะที่ฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก ก็มีเด็กหนุ่มวัยสิบแปดปีที่โดนไล่ออกจากบ้าน และเขาเร่ร่อนอยู่ในเมืองหยุนเฉิง
และในวันที่หนาวเหน็บ เขาก็ต้องใช้ชีวิตอย่างเร่ร่อน เดินไปตามถนนด้วยความหิวโหย และนอนขดอยู่ข้างกองขยะอย่างหมดหวัง
แต่ในขณะนั้น ก็มีเด็กสาวถักเปียตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่มีใบหน้าเรียวๆรูปไข่ ค่อยๆเดินไปข้างๆเขา ในมือถือหมัั่นโถวร้อนๆ แล้วเธอก็ยื่นให้แก่เขา
"พี่ๆ รับๆกินเถอะ อย่าปล่อยให้หิวเลยนะ........”
รอยยิ้มของสาวน้อยทั้งสวยและเป็นธรรมชาติมาก
เสี่ยวเทียนพึ่งกัดหมั่นโถวได้เพียงแค่ครึ่งเดียว เขาก็โดนชายแปลกหน้าเอาตัวไป
ตอนเขาปรากฏตัวอีกครั้ง ก็ผ่านไปสามปีแล้ว แล้วเขาก็กลายเป็นเด็กที่หลงอ้าวเทียนที่อยู่ฝั่งเหนือ
อุปการะอยู่ !
และในอีกเก้าปีต่อมา เขาก็ได้ต่อสู้กับศตรูข้ามชาติจนชนะมาหลายครั้ง และได้รับการขนานนามว่าเป็นเทพเจ้าในฝั่งเหนือ ไม่มีใครอาจเทียบได้
โลกจะต้องสั่นสะเทือน !
อย่างไรก็ตามถ้าถึงจุดสูงสุดแล้ว เขาก็เลือกที่จะถอย
หนึ่งเลยคืออยากจะรักษาอาการบาดเจ็บจากสงครามที่ต้องทนทุกข์ทรมานมานานหลายปี และสองคือเขาอยากจะตามหาเด็กสาวคนนั้นที่ได้ให้ความหวังเขาในวันที่เขาสิ้นหวัง
เขาไม่สามารถที่ลืมรอยยิ้มที่บริสุทธิ์นั่นได้
"นี่ก็ผ่านไปได้ยี่สิบสองปีแล้ว ตอนนี้คุณน่าจะโตขึ้นมากแล้ว คงจะเป็นสาวหุ่นผอมเพรียวแล้วล่ะ "
"ฉันเสี่ยวเทียนขอสัญญาว่า ฉันจะปกป้องดูแลเธอไปตลอดชีวิตเอง! ”
ฉินหมิงพยักหน้า :“ตามที่พี่เทียนสั่งมา ทุกอย่างจัดการเรียบร้อยแล้วครับ วันนี้งานแต่งหลานสาวของตระกูลเฉินถูกจัดขึ้นที่ล็อบบี้ชั้นสามของโรงแรมแกรนด์วิวครับ พี่แทนแค่ไปที่นั่นก็เรียบร้อยแล้วครับ ”
เสี่ยวเทียนพยักหน้ารับ
"พี่เทียน ผมขอถามอะไรหน่อยสิ พี่ก็มีพร้อมทุกอย่างแล้ว เกิดในตระกูลที่สูงศักดิ์ ทำไมถึงยังจะทำเป็นคนที่หนีทหารมา เพื่อที่จะแต่งงานกับตระกูลธรรมดาๆแบบนั้นด้วยครับ?” ฉินหมิงถามด้วยความไม่เข้าใจ
"ฉันไม่อยากให้มีการเปื้อนเลือดที่หยุนเฉิงอีกแล้ว แค่อยากอยู่เงียบๆซักพัก“ เสี่ยวเทียนกล่าว
เสียงต่ำ!
ฉินหมิงเข้าใจเจตนาของผู้ชายคนนี้ที่อยู่ข้างหน้าเขา ผู้ชายที่เป็นเทพเจ้าของสงครามและมีประสบการณ์การต่อสู้นองเลือดมานับไม่ถ้วน
แน่นอนยังมีหญิงสาวที่อยู๋ข้างเขาคนนั้นอีกคนที่เขายังเป็นห่วง
"สาวน้อย ฉันกลับมาแล้ว”
รถแล่นไปอย่างรวดเร็ว
โรงแรมจวินอี้
รถคันหรูจอดเต็มอยู่หน้าโรงแรม จนไม่มีพื้นที่ว่าง
ชั้นสามของโรงแรมในหยุนเฉิง ได้มีการจัดงานแต่งงานที่พิเศษและยิ่งใหญ่ของหลานสาวคนสุดท้องหรือเฉินเมิ่งเหยา
เจ้าสาวเฉินเมิ่งเหยาจบจากมหาวิทยาลัยหัวเซี่ย เป็นมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เฉฺินเมิ่งเหยามีหน้าตาที่สวยงาม และมีรูปร่างที่ใครเห็นก็ต้องหลง เมื่อเธอเรียนจบก็ได้เข้ามาทำธุรกิจของตระกูล เธอมีความสามารถที่โดดเด่น และธุรกิจของเธอก็โด่งดังในเมืองนี้ จนผู้คนเรียกเธอว่านางฟ้าหมายเลขหนึ่งแห่งหยุนเฉิง
แต่เจ้าบ่าวของเขากลับเป็นบุคคลที่หนีทหารมา!
ห้องแต่งตัวในโรงแรม
เฉินเมิ่งเหยากำลังแต่งตัวอย่างละเมียดละไมสวยงาม แต่ในใจของเธอกลับหม่นหมอง
เธอกำมือแน่น และความอัดอั้นที่มีก็ค่อยๆกลั่นลงมาเป็นน้ำตา
"เฉินเฉียง คุณพูดอะไรบ้างสิ ความสุขของลูกสาวจะมาถูกทำลายแบบนี้ไม่ได้นะ"
"ครอบครัวเราแต่เดิมก็โดนดูถูกมาเยอะแล้ว ตอนนี้ยังมีไอ้คนไม่เอาไหนมาเป็นเจ้าบ่าวอีก
พวกเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ?”
"วันนี้เป็นงานแต่งของลูก ฉันไม่ยอมรับ คุณจะต้องไปบอกแม่คุณด้วยนะ!"
ผู้เป็นแม่โกรธจนหน้าแดงลมออกหู
เฉินเฉียงเป็นลูกชายคนที่สองของตระกูล และเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ไม่เอาไหนในตระกูล ยังจะมาโดนภรรยาบ่นอีก เขาจึงพยายามอธิบายอย่างใจเย็นไป : “นี่เป็นงานแต่งที่คุณแม่ผมเขาจัดให้ ใครจะกล้าขัดใจล่ะ? ถ้าเราไปขัดขวางงานแต่ง เราต้องถูกเฉดหัวออกมาจากตระกูลแน่ๆ แม้แต่เงินปันผลรายปีของตระกูลก็คงไม่ได้”
"คุณทนเห็นลูกแต่งกับคนไม่เอาไหนแบบนี้ได้ยังไง คุณไม่สงสารลูกหรอ” ผู้เป็นแม่พูดออกมาทั้งน้ำตา
"พ่อคะ แม่คะ อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ พ่อก็ทำเพื่อครอบครัวเรามามากแล้ว ไม่แน่ว่าคนที่คุณย่าหามาให้อาจจะไม่ได้เหมือนอย่างที่พ่อกับแม่พูดก็ได้นะคะ”
"ไม่เหมือนกัน ? มันจะเก่งมาจากไหน? ทหารก็หนีมา มันจะไปมีความอดทนมากขนาดไหนกัน ” ฉินยวี่เหลียนพูดไปพลางร้องไห้ไป
เฉินเมิ่งเหยาทำได้เพียงกัดปากแล้วก้มหน้าลง
เธอเข้าใจชัดเจนทุกอย่าง งานแต่งครั้งนี้ ก็คงจะเป็นคุณย่าและลุงของเธอวางแผนกัน
สองปีมานี้เธอทำผลงานอย่างดีเยี่ยมในธุรกิจ ลุงเฉินหยงและลูกชายของเขาเฉินเหวินเฉากลัวว่าเธอจะแย่งชิงสมบัติของตระกูลเฉินไป ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามยุยงคุณย่าให้หาทหารที่หนีมามาแต่งเธอ
ถ้าเฉินเมิ่งเหยาได้แต่งกับคนแบบนี้จริงๆ ในอนาคตก็คงจะไม่มีสิทธิ์สืบทอดมรดกของตระกูลแน่นอน!
พ่อของเมิ่งเหยาอยู่ในบ้านนี้ก็ไม่มีมสิทธิ์มีเสียงอะไร ตอนนี้ยังจะมีลูกเขยไม่เอาไหนเข้ามาอีก ต่อไปครอบครัวเหมิงเหยาคงจะอยู่ยาก
แต่นี่เป็นงานแต่งงานที่คุณย่าสั่งมา ไม่มีใครจะกล้าขัดแน่นอน!
เฉินเหมิงเหยาเธอเป็นเพียงแค่หลานยิ่งไม่มีสิทธื์!
งานแต่งเข้าใกล้มาทุกที
"พ่อคะ แม่คะ ไปกันเถอะค่ะ ลูกตัดสินใจที่จะแต่งแล้ว เดี๋ยวสายเอานะคะ ถ้าถึงตอนนั้นเดี๋ยวคุณยายจะโกรธเอาได้นะคะ”
ช่างเป็นลูกสาวที่ทั้งเข้าใจทุกอย่าง และทั้งน่ารักอะไรอย่างนี้ เฉินเฉียงและฉินยวี่เหลียนกำลังรู้สึกอึดอัดใจ
พวกเขาเข้าใจดี ทำแบบนี้ถึงจะอยู่ในตระกูลเฉินต่อได้ แม้ว่าจะอึดอัดใจก็ตาม แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องกินอยู่ เพราะถ้าถูกไล่ออกจากตระกูลแล้ว เขาก็แค่ต้องนอนข้างถนนเท่านั้น
ชั้นสามของโรงแรม
ห้องประชุมใหญ่ถูกจัดแต่งด้วยความหรูหรา โคมไฟระย้าส่องสว่างไปทั่วห้อง
แขกมากันเต็มหอประชุม เยอะจนเบียดกัน
หญิงชราแห่งตระกูลเฉินแต่งตัวด้วยชุดกี่เพ้า ด้วยท่าทาที่สง่างาม ข้างกายมีไม้เท้าสีแดงสดถืออยู่
"ยินดีด้วยนะคะ ”
"ยินดีด้วยนะครับคุณหญิง วันนี้จะได้ลูกเขยที่ดีขนาดนี้เข้าบ้าน”
"ยินดีด้วยครับ......"
"ยินดีด้วยครับ ที่วันนี้ได้มีลูกเขยที่ดีเข้ามา"
"ขอแสดงความยินดีกับตระกูลเฉินด้วยนะครับ ขอให้ได้ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองนะครับ”
เสียงแขกต่างอวยพรกันไปต่างๆนาๆ
คุณหญิงเฉินฟังแล้วรู้สึกปรื้มปริ่มเป็นอย่างมาก แต่หลานชายคนโตของตระกูลอย่างเฉินเหวินเฉาที่ยืนอยู่ข้างเธอ ก็คอยมองและเยาะเย้ยครอบครัวเฉินเฉียง
"คุณย่าครับงานใกล้เริ่มแล้ว มากล่าวคำเปิดงานเถอะครับ"
ทุกคนในตระกูลกำลังยิ้มอย่างสะใจ เมื่อเฉินเฉียงจะได้ลูกเขยที่หนีทหารมาและจะได้แต่งงานกับเฉินเมิ่งเหยาผู็ที่คอยขัดประโยชน์พวกเขา
เหอะ !
"เฉินเมิ่งเหยา ฉันจะคอยดูว่าเธอจะเอาอะไรมาสู้กับฉันได้”
"พ่อเธอมันก็แค่เศษขยะ ตอนนี้สามีของเธอก็เหมือนกัน!"
ฮ่า ฮ่า เศษขยะทั้งครอบครัว!
คุณหญิงตระกูลเฉินลุกขึ้นพร้อมพยักหน้าให้สัญญาณ พอเธอเริ่มพูด ทุกคนในงานก็เริ่มเงียบ
และจับจ้องมาที่คุณหญิงตระกลูเฉิน
"สวัสดีแขกผู้มีเกียรติทุกท่านและเพื่อนๆที่มาร่วมงานทุกๆคน วันนี้เป็นวันสิริมงคลของหลานสาวดิฉัน ดิฉันขอขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่ได้มาร่วมงานในวันนี้ และในตอนนี้งานแต่งได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้วค่ะ!”
สิ่้นเสียงกล่าวเปิดงาน
ทั้งห้องก็เต็มไปด้วยเสียงดนตรี พร้อมปรากฎพิธีกรบนเวที ถือไมค์พร้อมพูดด้วยเสียงที่ดังฟังชัดว่า : “บัดนี้ขอเชิญเจ้าบ่าว คุณเสี่่ยวเทียนขึ้นมาบนเวทีครับ”
บนที่นั่งติดกับริมถนน มีชายวัยสามสิบกว่าปีที่พึ่งจะลงจากเครื่องมา นั่งดูดบุหรี่อยู่ด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว
"แค่กๆ !”
และมีควันก็ปลิวไปตามลม หลังจากนั้นก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาดูดอีก ทนไม่ไหวจนเขาต้องไอออกมา และหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาปิดปาก หลังจากนั้นไม่นานผ้าเช็ดหน้าก็เต็มไปด้วยเลือด
"พี่เทียน!”
ชายหนุ่มรูปร่างสูงที่มีร่างกายกำยำที่อยู๋ในชุดสูทสีดำคนหนึ่ง ยืนอยู่ไม่ไกลจากเขานัก
พอเห็นอาการของเจ้านายตนจึงถามด้วยความเป็นห่วงว่า : " เป็นอะไรมากไหม?"
เสี่ยวเทียนโบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน ว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก แล้วถือโอกาสถามไปด้วย “เรื่องที่ฉันให้ไปจัดการเรียบร้อยหรือยัง”
ในขณะที่เขาพูด สายตาของเสี่ยวเทียนก็เต็มไปด้วยความอ่อนโยน
วันนั้น ขณะที่ฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก ก็มีเด็กหนุ่มวัยสิบแปดปีที่โดนไล่ออกจากบ้าน และเขาเร่ร่อนอยู่ในเมืองหยุนเฉิง
และในวันที่หนาวเหน็บ เขาก็ต้องใช้ชีวิตอย่างเร่ร่อน เดินไปตามถนนด้วยความหิวโหย และนอนขดอยู่ข้างกองขยะอย่างหมดหวัง
แต่ในขณะนั้น ก็มีเด็กสาวถักเปียตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่มีใบหน้าเรียวๆรูปไข่ ค่อยๆเดินไปข้างๆเขา ในมือถือหมัั่นโถวร้อนๆ แล้วเธอก็ยื่นให้แก่เขา
"พี่ๆ รับๆกินเถอะ อย่าปล่อยให้หิวเลยนะ........”
รอยยิ้มของสาวน้อยทั้งสวยและเป็นธรรมชาติมาก
เสี่ยวเทียนพึ่งกัดหมั่นโถวได้เพียงแค่ครึ่งเดียว เขาก็โดนชายแปลกหน้าเอาตัวไป
ตอนเขาปรากฏตัวอีกครั้ง ก็ผ่านไปสามปีแล้ว แล้วเขาก็กลายเป็นเด็กที่หลงอ้าวเทียนที่อยู่ฝั่งเหนือ
อุปการะอยู่ !
และในอีกเก้าปีต่อมา เขาก็ได้ต่อสู้กับศตรูข้ามชาติจนชนะมาหลายครั้ง และได้รับการขนานนามว่าเป็นเทพเจ้าในฝั่งเหนือ ไม่มีใครอาจเทียบได้
โลกจะต้องสั่นสะเทือน !
อย่างไรก็ตามถ้าถึงจุดสูงสุดแล้ว เขาก็เลือกที่จะถอย
หนึ่งเลยคืออยากจะรักษาอาการบาดเจ็บจากสงครามที่ต้องทนทุกข์ทรมานมานานหลายปี และสองคือเขาอยากจะตามหาเด็กสาวคนนั้นที่ได้ให้ความหวังเขาในวันที่เขาสิ้นหวัง
เขาไม่สามารถที่ลืมรอยยิ้มที่บริสุทธิ์นั่นได้
"นี่ก็ผ่านไปได้ยี่สิบสองปีแล้ว ตอนนี้คุณน่าจะโตขึ้นมากแล้ว คงจะเป็นสาวหุ่นผอมเพรียวแล้วล่ะ "
"ฉันเสี่ยวเทียนขอสัญญาว่า ฉันจะปกป้องดูแลเธอไปตลอดชีวิตเอง! ”
ฉินหมิงพยักหน้า :“ตามที่พี่เทียนสั่งมา ทุกอย่างจัดการเรียบร้อยแล้วครับ วันนี้งานแต่งหลานสาวของตระกูลเฉินถูกจัดขึ้นที่ล็อบบี้ชั้นสามของโรงแรมแกรนด์วิวครับ พี่แทนแค่ไปที่นั่นก็เรียบร้อยแล้วครับ ”
เสี่ยวเทียนพยักหน้ารับ
"พี่เทียน ผมขอถามอะไรหน่อยสิ พี่ก็มีพร้อมทุกอย่างแล้ว เกิดในตระกูลที่สูงศักดิ์ ทำไมถึงยังจะทำเป็นคนที่หนีทหารมา เพื่อที่จะแต่งงานกับตระกูลธรรมดาๆแบบนั้นด้วยครับ?” ฉินหมิงถามด้วยความไม่เข้าใจ
"ฉันไม่อยากให้มีการเปื้อนเลือดที่หยุนเฉิงอีกแล้ว แค่อยากอยู่เงียบๆซักพัก“ เสี่ยวเทียนกล่าว
เสียงต่ำ!
ฉินหมิงเข้าใจเจตนาของผู้ชายคนนี้ที่อยู่ข้างหน้าเขา ผู้ชายที่เป็นเทพเจ้าของสงครามและมีประสบการณ์การต่อสู้นองเลือดมานับไม่ถ้วน
แน่นอนยังมีหญิงสาวที่อยู๋ข้างเขาคนนั้นอีกคนที่เขายังเป็นห่วง
"สาวน้อย ฉันกลับมาแล้ว”
รถแล่นไปอย่างรวดเร็ว
โรงแรมจวินอี้
รถคันหรูจอดเต็มอยู่หน้าโรงแรม จนไม่มีพื้นที่ว่าง
ชั้นสามของโรงแรมในหยุนเฉิง ได้มีการจัดงานแต่งงานที่พิเศษและยิ่งใหญ่ของหลานสาวคนสุดท้องหรือเฉินเมิ่งเหยา
เจ้าสาวเฉินเมิ่งเหยาจบจากมหาวิทยาลัยหัวเซี่ย เป็นมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เฉฺินเมิ่งเหยามีหน้าตาที่สวยงาม และมีรูปร่างที่ใครเห็นก็ต้องหลง เมื่อเธอเรียนจบก็ได้เข้ามาทำธุรกิจของตระกูล เธอมีความสามารถที่โดดเด่น และธุรกิจของเธอก็โด่งดังในเมืองนี้ จนผู้คนเรียกเธอว่านางฟ้าหมายเลขหนึ่งแห่งหยุนเฉิง
แต่เจ้าบ่าวของเขากลับเป็นบุคคลที่หนีทหารมา!
ห้องแต่งตัวในโรงแรม
เฉินเมิ่งเหยากำลังแต่งตัวอย่างละเมียดละไมสวยงาม แต่ในใจของเธอกลับหม่นหมอง
เธอกำมือแน่น และความอัดอั้นที่มีก็ค่อยๆกลั่นลงมาเป็นน้ำตา
"เฉินเฉียง คุณพูดอะไรบ้างสิ ความสุขของลูกสาวจะมาถูกทำลายแบบนี้ไม่ได้นะ"
"ครอบครัวเราแต่เดิมก็โดนดูถูกมาเยอะแล้ว ตอนนี้ยังมีไอ้คนไม่เอาไหนมาเป็นเจ้าบ่าวอีก
พวกเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ?”
"วันนี้เป็นงานแต่งของลูก ฉันไม่ยอมรับ คุณจะต้องไปบอกแม่คุณด้วยนะ!"
ผู้เป็นแม่โกรธจนหน้าแดงลมออกหู
เฉินเฉียงเป็นลูกชายคนที่สองของตระกูล และเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ไม่เอาไหนในตระกูล ยังจะมาโดนภรรยาบ่นอีก เขาจึงพยายามอธิบายอย่างใจเย็นไป : “นี่เป็นงานแต่งที่คุณแม่ผมเขาจัดให้ ใครจะกล้าขัดใจล่ะ? ถ้าเราไปขัดขวางงานแต่ง เราต้องถูกเฉดหัวออกมาจากตระกูลแน่ๆ แม้แต่เงินปันผลรายปีของตระกูลก็คงไม่ได้”
"คุณทนเห็นลูกแต่งกับคนไม่เอาไหนแบบนี้ได้ยังไง คุณไม่สงสารลูกหรอ” ผู้เป็นแม่พูดออกมาทั้งน้ำตา
"พ่อคะ แม่คะ อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ พ่อก็ทำเพื่อครอบครัวเรามามากแล้ว ไม่แน่ว่าคนที่คุณย่าหามาให้อาจจะไม่ได้เหมือนอย่างที่พ่อกับแม่พูดก็ได้นะคะ”
"ไม่เหมือนกัน ? มันจะเก่งมาจากไหน? ทหารก็หนีมา มันจะไปมีความอดทนมากขนาดไหนกัน ” ฉินยวี่เหลียนพูดไปพลางร้องไห้ไป
เฉินเมิ่งเหยาทำได้เพียงกัดปากแล้วก้มหน้าลง
เธอเข้าใจชัดเจนทุกอย่าง งานแต่งครั้งนี้ ก็คงจะเป็นคุณย่าและลุงของเธอวางแผนกัน
สองปีมานี้เธอทำผลงานอย่างดีเยี่ยมในธุรกิจ ลุงเฉินหยงและลูกชายของเขาเฉินเหวินเฉากลัวว่าเธอจะแย่งชิงสมบัติของตระกูลเฉินไป ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามยุยงคุณย่าให้หาทหารที่หนีมามาแต่งเธอ
ถ้าเฉินเมิ่งเหยาได้แต่งกับคนแบบนี้จริงๆ ในอนาคตก็คงจะไม่มีสิทธิ์สืบทอดมรดกของตระกูลแน่นอน!
พ่อของเมิ่งเหยาอยู่ในบ้านนี้ก็ไม่มีมสิทธิ์มีเสียงอะไร ตอนนี้ยังจะมีลูกเขยไม่เอาไหนเข้ามาอีก ต่อไปครอบครัวเหมิงเหยาคงจะอยู่ยาก
แต่นี่เป็นงานแต่งงานที่คุณย่าสั่งมา ไม่มีใครจะกล้าขัดแน่นอน!
เฉินเหมิงเหยาเธอเป็นเพียงแค่หลานยิ่งไม่มีสิทธื์!
งานแต่งเข้าใกล้มาทุกที
"พ่อคะ แม่คะ ไปกันเถอะค่ะ ลูกตัดสินใจที่จะแต่งแล้ว เดี๋ยวสายเอานะคะ ถ้าถึงตอนนั้นเดี๋ยวคุณยายจะโกรธเอาได้นะคะ”
ช่างเป็นลูกสาวที่ทั้งเข้าใจทุกอย่าง และทั้งน่ารักอะไรอย่างนี้ เฉินเฉียงและฉินยวี่เหลียนกำลังรู้สึกอึดอัดใจ
พวกเขาเข้าใจดี ทำแบบนี้ถึงจะอยู่ในตระกูลเฉินต่อได้ แม้ว่าจะอึดอัดใจก็ตาม แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องกินอยู่ เพราะถ้าถูกไล่ออกจากตระกูลแล้ว เขาก็แค่ต้องนอนข้างถนนเท่านั้น
ชั้นสามของโรงแรม
ห้องประชุมใหญ่ถูกจัดแต่งด้วยความหรูหรา โคมไฟระย้าส่องสว่างไปทั่วห้อง
แขกมากันเต็มหอประชุม เยอะจนเบียดกัน
หญิงชราแห่งตระกูลเฉินแต่งตัวด้วยชุดกี่เพ้า ด้วยท่าทาที่สง่างาม ข้างกายมีไม้เท้าสีแดงสดถืออยู่
"ยินดีด้วยนะคะ ”
"ยินดีด้วยนะครับคุณหญิง วันนี้จะได้ลูกเขยที่ดีขนาดนี้เข้าบ้าน”
"ยินดีด้วยครับ......"
"ยินดีด้วยครับ ที่วันนี้ได้มีลูกเขยที่ดีเข้ามา"
"ขอแสดงความยินดีกับตระกูลเฉินด้วยนะครับ ขอให้ได้ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองนะครับ”
เสียงแขกต่างอวยพรกันไปต่างๆนาๆ
คุณหญิงเฉินฟังแล้วรู้สึกปรื้มปริ่มเป็นอย่างมาก แต่หลานชายคนโตของตระกูลอย่างเฉินเหวินเฉาที่ยืนอยู่ข้างเธอ ก็คอยมองและเยาะเย้ยครอบครัวเฉินเฉียง
"คุณย่าครับงานใกล้เริ่มแล้ว มากล่าวคำเปิดงานเถอะครับ"
ทุกคนในตระกูลกำลังยิ้มอย่างสะใจ เมื่อเฉินเฉียงจะได้ลูกเขยที่หนีทหารมาและจะได้แต่งงานกับเฉินเมิ่งเหยาผู็ที่คอยขัดประโยชน์พวกเขา
เหอะ !
"เฉินเมิ่งเหยา ฉันจะคอยดูว่าเธอจะเอาอะไรมาสู้กับฉันได้”
"พ่อเธอมันก็แค่เศษขยะ ตอนนี้สามีของเธอก็เหมือนกัน!"
ฮ่า ฮ่า เศษขยะทั้งครอบครัว!
คุณหญิงตระกูลเฉินลุกขึ้นพร้อมพยักหน้าให้สัญญาณ พอเธอเริ่มพูด ทุกคนในงานก็เริ่มเงียบ
และจับจ้องมาที่คุณหญิงตระกลูเฉิน
"สวัสดีแขกผู้มีเกียรติทุกท่านและเพื่อนๆที่มาร่วมงานทุกๆคน วันนี้เป็นวันสิริมงคลของหลานสาวดิฉัน ดิฉันขอขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่ได้มาร่วมงานในวันนี้ และในตอนนี้งานแต่งได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้วค่ะ!”
สิ่้นเสียงกล่าวเปิดงาน
ทั้งห้องก็เต็มไปด้วยเสียงดนตรี พร้อมปรากฎพิธีกรบนเวที ถือไมค์พร้อมพูดด้วยเสียงที่ดังฟังชัดว่า : “บัดนี้ขอเชิญเจ้าบ่าว คุณเสี่่ยวเทียนขึ้นมาบนเวทีครับ”
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved