บทที่13 เจอเทพเจ้าสงคราม
by กู่เซียวซาน
11:24,Dec 19,2020
ผู้บริหารระดับสูงที่อยู่ข้างหลังเขาแทบจะไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
พวกเขาสงสัยว่าตัวเองฟังผิดไปรึป่าว
จางชิวไป๋กล้าเรียกตัวเองว่านามสกุลจาง?
ล้อเล่นอยู่หรอ!
เฉินหย่งขยี้ตาและหูของเขาฝาดไปรึป่าว
เขาต้องการติดตามเข้าไปด้วย แต่จางชิวไป๋ปิดประตูไปแล้ว
ปัง!
ประตูเกือบชนใบหน้าของเฉินเหวินเชาทำให้เขากลัวกลับไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้สีหน้าของเฉินหย่งไม่แน่ใจและไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ผู้บริหารที่อยู่เบื้องหลังเขาก็มองหน้ากันด้วยความตะลึง
หัวนับไม่ถ้วนยื่นออกมาจากด้านหลังเห็นคนสองสามคนหลังประตูเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ทำไมผู้อำนวยการไม่เข้าไปด้วย
พนักงานเริ่มกระซิบ
ผู้บริหารจางก็คือผู้บริหารจางและเขาก็ให้ผู้อำนวยการไว้นอกประตูมันไม่อยากจะเข้าไปข้างในอย่างกังวลเหรอ?
สามีที่ไร้ประโยชน์ของเฉินเมิ่งเหยายังอยู่ไม่ใช่หรอ
ดูเหมือนเรื่องนี้จะยุ่งยากแล้วแหละ
พวกเขาไม่ได้ยินที่จางชิวไป๋พูด ดังนั้นเลยไม่เข้าใจเหตุการณ์
แต่ว่าการกระทำของจางชิวไป๋ครั้งนี้ก็เป็นการดำเนินความสัมพันธ์ของเฉินเมิ่งเหยาอย่างเป็นทางการ
ในห้องทำงานเฉินเมิง่เหยาลุกขึ้นด้วยความตื่นตระหนกโน้มตัวไปข้างหน้าและพูดว่า "ผู้บริหารจาง ... ทำไมคุณมาที่นี่?"
เธอรู้สึกกังวลมาก ทำไมเฉินหย่งไม่บอกเธอว่าผู้บริหารจางมาที่นี่เธอจะได้ไปพบเขา
เมื่อเห็นเฉินเมิ่งเหยาตื่นตระหนกจางชิวไป๋ก็โค้งคำนับติดต่อกันหลายครั้ง: "คุณเฉิน คุณเกรงผมเกินไปแล้ว ผมไม่กล้าที่จะตีตัวเสมอ ต่อไปนี้เรียกผมว่าเสี่ยวจางได้เลย "
จางชิวไป๋ไม่แสดงอิทธิพลเพราะก่อนหน้านี้เขาไม่รู้สถานะของเฉินเมิ่งเหยาก็ไม่เป็นไร ตอนนี้รู้แล้วว่าต่อให้เขามีความกล้าแค่ไหน เขาก็ไม่กล้าหรอก
หน้าจางชิวไป๋แสดงออกอย่างเคารพเฉินเมิ่งเหยาก็สับสน
ไม่เจอแค่ไม่กี่วัน จางชิวไป๋เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยหรอ
ก่อนหน้านี้ที่เคยทักทายเขา ท่าทีของเขาก็ไม่ได้นับว่าเลวร้ายแต่ว่าหยิ่งมาก แม้กระทั่งในดวงตาของเขายังดูมีความโลภ
แต่ว่าตอนนี้ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความน่าเคารพ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เธอหันกลับมามองเสี่ยวเทียน ไม่รู้จะรับมืออย่างไร
มองตามสายตาของเฉินเมิ่งเหยา จางชิวไป๋พึ่งรู้ว่ามีผู้ชายอีกคนนึงอยู่ที่นี่
เขาเป็นใคร
ทำไมมาอยู่ในห้องทำงานคุณเฉิน
จางชิวไป๋รู้สึกสงสัย นอกจากนั้นเขายังรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้านี้รู้สึกคุ้นตา
“คุณเฉิน นี่คือ...”
ฉันเป็นสามีเธอ!
เสี่ยวเทียนพูดไปอย่างตรงๆ
จางชิวไป๋พอได้ยินเสียงนี้ ร่างสูงใหญ่ปรากฏขึ้นในความคิดของเขา
เขาเอาร่างสูงใหญ่นั้นกับผู้ชายตรงหน้าคนนี้มานึกดูซ้ำๆ
ตู้ม!
เมื่อเอาทั้งสองคนมานึกดูซ้ำๆ ทันใดนั้นรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า เขางงไปหมด!
ทันใดนั้นเขาก็หายใจเร็วขึ้น
ลูกตาเกือบจะหลุดออกจากเบ้า
เขาจำเสี่ยวเทียนได้อย่างชัดเจน
"ผู้บริหารจาง คุณคุยงานกับภรรยาผมไปเถอะ ไม่ค้องสนใจผม” พูดจบ เสี่ยวเทียนก็ไม่พูดอะไรอีก
จางชิวไป๋สะดุ้งเล็กน้อย และเข้าใจความหมายของเสี่ยวเทียนในทันที
เขากัดปากแน่น เขาก็ไม่คิดว่าเฉินเมิ่งเหยาที่แท้เป็น...
"ผู้บริหารจาง เป็นอะไรไป?” เฉินเมิ่งเหยาขมวดคิ้ว มองไปที่หน้าตาตกตะลึงของจางชิวไป๋ โบกมือไปมา
เอ่ออ ขอโทษที่เมื่อกี้ผมเหม่อไปหน่อย
จางชิวไป๋ลดท่าทางกริยาของเขาลง เขาพูดอย่างมีมารยาท “ที่รัก ผมอ่านสัญญาแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเกิดว่าคุณต้องการอะไรเพิ่มบอกได้ตลอดเวลา ผมจะเติมลงไปให้” ไม่ว่าเฉินเมิ่งเหยามีปัญหาอะไร เขาก็ยอมทั้งหมด ถ้าหากเธอมีความสุข ก็แค่เพิ่มเงินเขาก็เต็มใจ
ที่รัก ? เฉินเมิ่งเหยามองจางชิวไป๋ด้วยความสงสัย เมื่อกี้เหมือนเขากำลังเรียกภรรยาของตัวเอง
"ขอโทษครับ พลั้งปากไปหน่อย” จางชิวไป๋ใจสั่น มองไปทางด้านข้างของเสี่ยวเทียนครู่หนึ่ง เห็นเขาไม่พูดจา ถ้าพูดตามใจคงอันตรายมาก
ฟังที่เขาแก้ตัวเฉินเมิ่งเหยาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก และพูดขึ้นว่า “ขอบคุณผู้บริหารจาง ฉันไม่มีอะไรจะเพิ่มเติมแล้ว งั้นเอาตามที่พวกเราคุยกันก่อนที่จะเซ็นสัญญาก็โอเคแล้ว”
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าทำไม่จางชิวไป๋ถึงเปลี่ยนไปได้เยอะขนาดนี้แต่สามารถคว้าโครงการนี้มาได้อย่างราบรื่น เธอดีใจมากกว่าทุกคน
“ผู้บริหารจางนั่งรอสักครู่ ฉันจะไปเอาสัญญามา"
พูดแล้วเฉินเมิ่งเหยาก็ใส่รองเท้าส้นสูงเดินออกไป
เฉินเมิ่งเหยาพึ่งจะผลักประตูเฉินหย่งก็เดินมาล้อมรอบ
เธอขมวดคิ้วและถอยหลังไปสองก้าวอย่างไม่พูดจาและพูดว่า “ผู้บริหารคะ ประธานจางตกลงเซ็นสัญญาแล้ว ให้ที่ปรึกษากฎหมายนำสัญญามาได้เลย”
“ใครก็ได้ไปเอาสัญญามา!” เฉินหย่งตอนนี้ก็ยังคงงงอยู่ว่านี่คุยกันเสร็จแล้วหรอ?”
เข้าไปยังไม่ถึงห้านาทีเลยนะ
เมื่อผู้บริหารระดับสูงได้ยินเฉินหย่งพูดก็รีบวิ่งเหยาะๆไปนำสัญญามา
และในเวลานี้เฉินเหวินเชากลืนน้ำลายตัวเอง พูดอย่างขมขื่นว่า “เหยาเหยา บอกพี่ใหญ่ไปว่าเธอกับผู้บริหารจางที่จริงแล้วมีความสัมพันธ์กันอย่างไร
คำพูดของคนนามสกุลจาง เขาได้ยินมันอย่างชัดเจน
การแสดงออกที่ประจบของจางชิวไป๋เหมือนกับหมาที่ชอบเลีย
เหมือนกับได้เข้าเฝ้าราชินี!
เฉินเมิ่งเหยาขมวดคิ้ว ความสัมพันธ์อะไร? เธอคิดว่าคำพูดนี้มีสองนัย!
ดังนั้นเธอเลือกที่จะเงียบ
ในห้องทำงาน หลังจากที่เฉินเมิ่งเหยาเดินออกไป จางชิวไป๋ลุกขึ้นยืนตรงเหมือนทหารทันที
"จางชิวไป๋เคยเจอเทพแห่งสงคราม!”
"เรื่องวันนี้ทำได้ดี”
เสี่ยวเทียนพูดเบาๆ “แต่ไม่ต้องเปิดเผยตัวตนของฉัน ไม่งั้นจะโดนลงโทษตามกฏทหาร"
เมื่อจางชิวไป๋ได้ยินเช่นนั้นใจสั่นกลัวและรีบยืนตัวตรงเหมือนต้นเสา
"ครับ!”
เขาเป็นทหารของฉินหมิง ตอนนั้นฉินหมิงยังเป็นแค่พันโทแต่เสี่ยวเทียนได้เป็นผู้นำสงครามในดินแดนทางเหนือแล้ว
เขาเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามในความคิดของทหารทุกคนในดินแดนทางเหนือ และเป็นที่นับถือของทุกคน
สามปีก่อน เขาปลดประจำการเนื่องจากบาดเจ็บ เสี่ยวเทียนคือคนที่ช่วยเขาไว้ ไม่มีเสี่ยวเทียนก็ไม่มีจางชิวไป๋
ถ้าพูดได้ว่าพ่อแม่เป็นคนให้ชีวิตเขา งั้นก็สามารถพูดได้ว่าเสี่ยวเทียนก็เป็นพ่อแม่อีกคน
รับรู้ได้ถึงสายตาที่เด็ดเดี่ยวของจางชิวไป๋ เสี่ยวเทียนไม่คิดว่ามีอะไรที่ผิดปกติ
ฉินหมิงพูดกับฉันว่าตอนนี้นายหลบซ่อนอยู่ในเมืองยวิ้นเฉิงได้ดี ต่อจากนี้คงจะมีปัญหา”
จางชิวไป๋ได้ยินแบบนั้นด้วยความกลัวจบเกือบจะคุกเข่าลงกับพื้น “ ท่านผู้นำ ถ้าคุณเก็บผมไว้ ผมสามารถทำสิ่งต่างๆเพื่อคุณได้ก็นับว่าเป็นเกียรติแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นถ้าไม่มีคุณก็จะไม่มีจางชิวไป๋ในวันนี้ ทุกอย่างที่ผมมีในตอนนี้คือ คุณเป็นคนให้มันกับผม”
"อื้ม!”
เสี่ยวเทียนพยักหน้า ถึงแม้ว่าในตอนนั้นฉันจะช่วยเขาโดยไม่หวังผลตอบแทน แต่จางชิวไป๋ก็รู้จักสำนึกบุญคุณ นั่นหมายถึงเขาไม่ได้ช่วยผิดคน
"ตอนนี้ภรรยาของฉันยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของฉัน ดังนั้นฉันไม่สามารถยืนมือไปช่วยเธอได้มาก เธอเป็นคนดี คนในบริษัทนี้ต้องการจะรังแกเธอ คุณรู้ใช่มั้ยว่าต้องทำยังไง
"ครับท่าน...”
เสี่ยวเทียนโบกมือ “ต่อจากนี้เรียนฉันว่าพี่ใหญ่เหมือนฉินหมิง”
จางชิวไป๋ลังเลไปครู่พักหนึ่งเรียกพี่ใหญ่คงดีกว่า แต่ว่าอีกสักหน่อยค่อยบอกพี่หมิง ไม่งั้นเขาตำหนิขึ้นมาและจะทนไม่ได้
ในตอนนี้
ประตูห้องทำงานเปิดออก เฉินเมิ่งเหยามองไปที่จางชิวไป๋ยังคงอยู่ในท่าทางเคารพ เเละคนที่เขากำลังเคารพก็คือเสี่ยวเทียน
"ผู้บริหารจาง นี่คุณ...”
เมื่อเห็นเหตุการณ์เมื่อกี้เฉินเมิ่งเหยารู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก
จางชิวไป๋รีบเอามือวางลง ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณเฉิน เมื่อสักครู่ผมคุยกับสามีคุณ คิดไม่ถึงว่าสามีจะเป็นทหาร ผมก็เคยเป็นทหารเหมือนกัน ผมตื่นเต้นมากเลยทำความเคารพสักหน่อย”
เฉินเมิ่งเหยาข้องใจที่ผู้บริหารจางไม่รู้ว่าลุงหนีทหาร?
การเซ็นสัญญาเป็นไปอย่างรวดเร็ว จางชิวไป๋รับสัญญาไปก็เขียนชื่อของตัวเองไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ได้มองเลยสักนิด
"ผู้บริหารจางคุณแน่ใจหรอว่าจะไม่อ่านสัญญาสักหน่อย?”
จางชิวไป๋หัวเราะ “เราเชื่อใจในตัวคุณเฉิน สัญญาไม่จำเป็นต้องดูแล้วเรื่องของโครงการรบกวนคุณมาก หากมีปํญหาอะไรโทรหาผมได้ตลอดเวลา”
พูดไปก็มองไปที่เสี่ยวเทียนกลัวว่าตัวเองจะพูดอะไรผิดไปทำให้เธอไม่พอใจ โชคดีที่สีหน้าของเสี่ยวเทียนนั้นปกติ นั้นทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
หลังจากที่จางชิวไป๋ออกจากห้องทำงานของเฉินเมิ่งเหยา ก็ถอนหายใจออกมายาวๆ เมื่อกี้ที่อยู่ต่อหน้าเสี่ยวเทียนรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก
แท้กระทั่งหายใจเขายังไม่กล้า
"ผู้บริหารจางคุณเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้วหรือ?”
พอจางชิวไป๋ เฉินหย่งก็รีบมารับและถามด้วยความนอบน้อม
"ผู้อำนวยการเฉิน สัญญาเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าผมมีเรื่องหนึ่งที่จะบอกคุณ โครงการนี้นอกจากคุณเฉินเมิ่งเหยาแล้วใครก็ห้ามมาแย่ง ไม่งั้นอย่าโทษว่าผมไม่ให้โอกาสพวกคุณ”
ในขณะที่เขาพูดเขามองไปที่เฉินเหวินเชาที่กำลังตะโกนอยู่ในตอนนี้: “ต่อจากนี้จำเอาไว้ ว่าไม่ได้สอนให้กล้าหาญเกินไปจนกล้าที่จะมาตะโกนใส่ฉัน? หลังจากนี้ถ้าอย่าให้เกิดขึ้นต่อหน้าฉันอีก ถ้าฉันพบหนึ่งครั้งก็จะเล่นงานหนึ่งครั้ง!”
จางชิวไป๋อารม์ร้อน ตอนนั้นที่ภาคเหนือก็ใช้อารมณ์เป็นหลัก
เขามองไปที่เฉินเหวินเชาอย่างเย็นชาและเพียงแวบเดียวก็ทำให้เขารู้สึกหนาวไปทั้งตัว
เขาเพียงแค่เยาะเย้ยเฉินเมิ่งเหยาเพียงไม่กี่คำก็ถูกจางชิวไป๋ตำหนิอย่างโหดร้าย
"พ่อ ผม..."
ดวงตาของเฉินเหวินเชาเต็มไปด้วยความรูสึกที่ไม่ได้รับความเป็นธรมม
"ไม่ได้ยินที่ผู้บริหารจางพูดหรอ? ตอนนี้ต้องกลับไปคิดให้ดี ก่อนที่จะมาเสียใจทีหลัง”
พวกเขาสงสัยว่าตัวเองฟังผิดไปรึป่าว
จางชิวไป๋กล้าเรียกตัวเองว่านามสกุลจาง?
ล้อเล่นอยู่หรอ!
เฉินหย่งขยี้ตาและหูของเขาฝาดไปรึป่าว
เขาต้องการติดตามเข้าไปด้วย แต่จางชิวไป๋ปิดประตูไปแล้ว
ปัง!
ประตูเกือบชนใบหน้าของเฉินเหวินเชาทำให้เขากลัวกลับไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้สีหน้าของเฉินหย่งไม่แน่ใจและไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ผู้บริหารที่อยู่เบื้องหลังเขาก็มองหน้ากันด้วยความตะลึง
หัวนับไม่ถ้วนยื่นออกมาจากด้านหลังเห็นคนสองสามคนหลังประตูเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ทำไมผู้อำนวยการไม่เข้าไปด้วย
พนักงานเริ่มกระซิบ
ผู้บริหารจางก็คือผู้บริหารจางและเขาก็ให้ผู้อำนวยการไว้นอกประตูมันไม่อยากจะเข้าไปข้างในอย่างกังวลเหรอ?
สามีที่ไร้ประโยชน์ของเฉินเมิ่งเหยายังอยู่ไม่ใช่หรอ
ดูเหมือนเรื่องนี้จะยุ่งยากแล้วแหละ
พวกเขาไม่ได้ยินที่จางชิวไป๋พูด ดังนั้นเลยไม่เข้าใจเหตุการณ์
แต่ว่าการกระทำของจางชิวไป๋ครั้งนี้ก็เป็นการดำเนินความสัมพันธ์ของเฉินเมิ่งเหยาอย่างเป็นทางการ
ในห้องทำงานเฉินเมิง่เหยาลุกขึ้นด้วยความตื่นตระหนกโน้มตัวไปข้างหน้าและพูดว่า "ผู้บริหารจาง ... ทำไมคุณมาที่นี่?"
เธอรู้สึกกังวลมาก ทำไมเฉินหย่งไม่บอกเธอว่าผู้บริหารจางมาที่นี่เธอจะได้ไปพบเขา
เมื่อเห็นเฉินเมิ่งเหยาตื่นตระหนกจางชิวไป๋ก็โค้งคำนับติดต่อกันหลายครั้ง: "คุณเฉิน คุณเกรงผมเกินไปแล้ว ผมไม่กล้าที่จะตีตัวเสมอ ต่อไปนี้เรียกผมว่าเสี่ยวจางได้เลย "
จางชิวไป๋ไม่แสดงอิทธิพลเพราะก่อนหน้านี้เขาไม่รู้สถานะของเฉินเมิ่งเหยาก็ไม่เป็นไร ตอนนี้รู้แล้วว่าต่อให้เขามีความกล้าแค่ไหน เขาก็ไม่กล้าหรอก
หน้าจางชิวไป๋แสดงออกอย่างเคารพเฉินเมิ่งเหยาก็สับสน
ไม่เจอแค่ไม่กี่วัน จางชิวไป๋เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยหรอ
ก่อนหน้านี้ที่เคยทักทายเขา ท่าทีของเขาก็ไม่ได้นับว่าเลวร้ายแต่ว่าหยิ่งมาก แม้กระทั่งในดวงตาของเขายังดูมีความโลภ
แต่ว่าตอนนี้ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความน่าเคารพ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เธอหันกลับมามองเสี่ยวเทียน ไม่รู้จะรับมืออย่างไร
มองตามสายตาของเฉินเมิ่งเหยา จางชิวไป๋พึ่งรู้ว่ามีผู้ชายอีกคนนึงอยู่ที่นี่
เขาเป็นใคร
ทำไมมาอยู่ในห้องทำงานคุณเฉิน
จางชิวไป๋รู้สึกสงสัย นอกจากนั้นเขายังรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้านี้รู้สึกคุ้นตา
“คุณเฉิน นี่คือ...”
ฉันเป็นสามีเธอ!
เสี่ยวเทียนพูดไปอย่างตรงๆ
จางชิวไป๋พอได้ยินเสียงนี้ ร่างสูงใหญ่ปรากฏขึ้นในความคิดของเขา
เขาเอาร่างสูงใหญ่นั้นกับผู้ชายตรงหน้าคนนี้มานึกดูซ้ำๆ
ตู้ม!
เมื่อเอาทั้งสองคนมานึกดูซ้ำๆ ทันใดนั้นรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า เขางงไปหมด!
ทันใดนั้นเขาก็หายใจเร็วขึ้น
ลูกตาเกือบจะหลุดออกจากเบ้า
เขาจำเสี่ยวเทียนได้อย่างชัดเจน
"ผู้บริหารจาง คุณคุยงานกับภรรยาผมไปเถอะ ไม่ค้องสนใจผม” พูดจบ เสี่ยวเทียนก็ไม่พูดอะไรอีก
จางชิวไป๋สะดุ้งเล็กน้อย และเข้าใจความหมายของเสี่ยวเทียนในทันที
เขากัดปากแน่น เขาก็ไม่คิดว่าเฉินเมิ่งเหยาที่แท้เป็น...
"ผู้บริหารจาง เป็นอะไรไป?” เฉินเมิ่งเหยาขมวดคิ้ว มองไปที่หน้าตาตกตะลึงของจางชิวไป๋ โบกมือไปมา
เอ่ออ ขอโทษที่เมื่อกี้ผมเหม่อไปหน่อย
จางชิวไป๋ลดท่าทางกริยาของเขาลง เขาพูดอย่างมีมารยาท “ที่รัก ผมอ่านสัญญาแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเกิดว่าคุณต้องการอะไรเพิ่มบอกได้ตลอดเวลา ผมจะเติมลงไปให้” ไม่ว่าเฉินเมิ่งเหยามีปัญหาอะไร เขาก็ยอมทั้งหมด ถ้าหากเธอมีความสุข ก็แค่เพิ่มเงินเขาก็เต็มใจ
ที่รัก ? เฉินเมิ่งเหยามองจางชิวไป๋ด้วยความสงสัย เมื่อกี้เหมือนเขากำลังเรียกภรรยาของตัวเอง
"ขอโทษครับ พลั้งปากไปหน่อย” จางชิวไป๋ใจสั่น มองไปทางด้านข้างของเสี่ยวเทียนครู่หนึ่ง เห็นเขาไม่พูดจา ถ้าพูดตามใจคงอันตรายมาก
ฟังที่เขาแก้ตัวเฉินเมิ่งเหยาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก และพูดขึ้นว่า “ขอบคุณผู้บริหารจาง ฉันไม่มีอะไรจะเพิ่มเติมแล้ว งั้นเอาตามที่พวกเราคุยกันก่อนที่จะเซ็นสัญญาก็โอเคแล้ว”
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าทำไม่จางชิวไป๋ถึงเปลี่ยนไปได้เยอะขนาดนี้แต่สามารถคว้าโครงการนี้มาได้อย่างราบรื่น เธอดีใจมากกว่าทุกคน
“ผู้บริหารจางนั่งรอสักครู่ ฉันจะไปเอาสัญญามา"
พูดแล้วเฉินเมิ่งเหยาก็ใส่รองเท้าส้นสูงเดินออกไป
เฉินเมิ่งเหยาพึ่งจะผลักประตูเฉินหย่งก็เดินมาล้อมรอบ
เธอขมวดคิ้วและถอยหลังไปสองก้าวอย่างไม่พูดจาและพูดว่า “ผู้บริหารคะ ประธานจางตกลงเซ็นสัญญาแล้ว ให้ที่ปรึกษากฎหมายนำสัญญามาได้เลย”
“ใครก็ได้ไปเอาสัญญามา!” เฉินหย่งตอนนี้ก็ยังคงงงอยู่ว่านี่คุยกันเสร็จแล้วหรอ?”
เข้าไปยังไม่ถึงห้านาทีเลยนะ
เมื่อผู้บริหารระดับสูงได้ยินเฉินหย่งพูดก็รีบวิ่งเหยาะๆไปนำสัญญามา
และในเวลานี้เฉินเหวินเชากลืนน้ำลายตัวเอง พูดอย่างขมขื่นว่า “เหยาเหยา บอกพี่ใหญ่ไปว่าเธอกับผู้บริหารจางที่จริงแล้วมีความสัมพันธ์กันอย่างไร
คำพูดของคนนามสกุลจาง เขาได้ยินมันอย่างชัดเจน
การแสดงออกที่ประจบของจางชิวไป๋เหมือนกับหมาที่ชอบเลีย
เหมือนกับได้เข้าเฝ้าราชินี!
เฉินเมิ่งเหยาขมวดคิ้ว ความสัมพันธ์อะไร? เธอคิดว่าคำพูดนี้มีสองนัย!
ดังนั้นเธอเลือกที่จะเงียบ
ในห้องทำงาน หลังจากที่เฉินเมิ่งเหยาเดินออกไป จางชิวไป๋ลุกขึ้นยืนตรงเหมือนทหารทันที
"จางชิวไป๋เคยเจอเทพแห่งสงคราม!”
"เรื่องวันนี้ทำได้ดี”
เสี่ยวเทียนพูดเบาๆ “แต่ไม่ต้องเปิดเผยตัวตนของฉัน ไม่งั้นจะโดนลงโทษตามกฏทหาร"
เมื่อจางชิวไป๋ได้ยินเช่นนั้นใจสั่นกลัวและรีบยืนตัวตรงเหมือนต้นเสา
"ครับ!”
เขาเป็นทหารของฉินหมิง ตอนนั้นฉินหมิงยังเป็นแค่พันโทแต่เสี่ยวเทียนได้เป็นผู้นำสงครามในดินแดนทางเหนือแล้ว
เขาเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามในความคิดของทหารทุกคนในดินแดนทางเหนือ และเป็นที่นับถือของทุกคน
สามปีก่อน เขาปลดประจำการเนื่องจากบาดเจ็บ เสี่ยวเทียนคือคนที่ช่วยเขาไว้ ไม่มีเสี่ยวเทียนก็ไม่มีจางชิวไป๋
ถ้าพูดได้ว่าพ่อแม่เป็นคนให้ชีวิตเขา งั้นก็สามารถพูดได้ว่าเสี่ยวเทียนก็เป็นพ่อแม่อีกคน
รับรู้ได้ถึงสายตาที่เด็ดเดี่ยวของจางชิวไป๋ เสี่ยวเทียนไม่คิดว่ามีอะไรที่ผิดปกติ
ฉินหมิงพูดกับฉันว่าตอนนี้นายหลบซ่อนอยู่ในเมืองยวิ้นเฉิงได้ดี ต่อจากนี้คงจะมีปัญหา”
จางชิวไป๋ได้ยินแบบนั้นด้วยความกลัวจบเกือบจะคุกเข่าลงกับพื้น “ ท่านผู้นำ ถ้าคุณเก็บผมไว้ ผมสามารถทำสิ่งต่างๆเพื่อคุณได้ก็นับว่าเป็นเกียรติแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นถ้าไม่มีคุณก็จะไม่มีจางชิวไป๋ในวันนี้ ทุกอย่างที่ผมมีในตอนนี้คือ คุณเป็นคนให้มันกับผม”
"อื้ม!”
เสี่ยวเทียนพยักหน้า ถึงแม้ว่าในตอนนั้นฉันจะช่วยเขาโดยไม่หวังผลตอบแทน แต่จางชิวไป๋ก็รู้จักสำนึกบุญคุณ นั่นหมายถึงเขาไม่ได้ช่วยผิดคน
"ตอนนี้ภรรยาของฉันยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของฉัน ดังนั้นฉันไม่สามารถยืนมือไปช่วยเธอได้มาก เธอเป็นคนดี คนในบริษัทนี้ต้องการจะรังแกเธอ คุณรู้ใช่มั้ยว่าต้องทำยังไง
"ครับท่าน...”
เสี่ยวเทียนโบกมือ “ต่อจากนี้เรียนฉันว่าพี่ใหญ่เหมือนฉินหมิง”
จางชิวไป๋ลังเลไปครู่พักหนึ่งเรียกพี่ใหญ่คงดีกว่า แต่ว่าอีกสักหน่อยค่อยบอกพี่หมิง ไม่งั้นเขาตำหนิขึ้นมาและจะทนไม่ได้
ในตอนนี้
ประตูห้องทำงานเปิดออก เฉินเมิ่งเหยามองไปที่จางชิวไป๋ยังคงอยู่ในท่าทางเคารพ เเละคนที่เขากำลังเคารพก็คือเสี่ยวเทียน
"ผู้บริหารจาง นี่คุณ...”
เมื่อเห็นเหตุการณ์เมื่อกี้เฉินเมิ่งเหยารู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก
จางชิวไป๋รีบเอามือวางลง ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณเฉิน เมื่อสักครู่ผมคุยกับสามีคุณ คิดไม่ถึงว่าสามีจะเป็นทหาร ผมก็เคยเป็นทหารเหมือนกัน ผมตื่นเต้นมากเลยทำความเคารพสักหน่อย”
เฉินเมิ่งเหยาข้องใจที่ผู้บริหารจางไม่รู้ว่าลุงหนีทหาร?
การเซ็นสัญญาเป็นไปอย่างรวดเร็ว จางชิวไป๋รับสัญญาไปก็เขียนชื่อของตัวเองไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ได้มองเลยสักนิด
"ผู้บริหารจางคุณแน่ใจหรอว่าจะไม่อ่านสัญญาสักหน่อย?”
จางชิวไป๋หัวเราะ “เราเชื่อใจในตัวคุณเฉิน สัญญาไม่จำเป็นต้องดูแล้วเรื่องของโครงการรบกวนคุณมาก หากมีปํญหาอะไรโทรหาผมได้ตลอดเวลา”
พูดไปก็มองไปที่เสี่ยวเทียนกลัวว่าตัวเองจะพูดอะไรผิดไปทำให้เธอไม่พอใจ โชคดีที่สีหน้าของเสี่ยวเทียนนั้นปกติ นั้นทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
หลังจากที่จางชิวไป๋ออกจากห้องทำงานของเฉินเมิ่งเหยา ก็ถอนหายใจออกมายาวๆ เมื่อกี้ที่อยู่ต่อหน้าเสี่ยวเทียนรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก
แท้กระทั่งหายใจเขายังไม่กล้า
"ผู้บริหารจางคุณเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้วหรือ?”
พอจางชิวไป๋ เฉินหย่งก็รีบมารับและถามด้วยความนอบน้อม
"ผู้อำนวยการเฉิน สัญญาเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าผมมีเรื่องหนึ่งที่จะบอกคุณ โครงการนี้นอกจากคุณเฉินเมิ่งเหยาแล้วใครก็ห้ามมาแย่ง ไม่งั้นอย่าโทษว่าผมไม่ให้โอกาสพวกคุณ”
ในขณะที่เขาพูดเขามองไปที่เฉินเหวินเชาที่กำลังตะโกนอยู่ในตอนนี้: “ต่อจากนี้จำเอาไว้ ว่าไม่ได้สอนให้กล้าหาญเกินไปจนกล้าที่จะมาตะโกนใส่ฉัน? หลังจากนี้ถ้าอย่าให้เกิดขึ้นต่อหน้าฉันอีก ถ้าฉันพบหนึ่งครั้งก็จะเล่นงานหนึ่งครั้ง!”
จางชิวไป๋อารม์ร้อน ตอนนั้นที่ภาคเหนือก็ใช้อารมณ์เป็นหลัก
เขามองไปที่เฉินเหวินเชาอย่างเย็นชาและเพียงแวบเดียวก็ทำให้เขารู้สึกหนาวไปทั้งตัว
เขาเพียงแค่เยาะเย้ยเฉินเมิ่งเหยาเพียงไม่กี่คำก็ถูกจางชิวไป๋ตำหนิอย่างโหดร้าย
"พ่อ ผม..."
ดวงตาของเฉินเหวินเชาเต็มไปด้วยความรูสึกที่ไม่ได้รับความเป็นธรมม
"ไม่ได้ยินที่ผู้บริหารจางพูดหรอ? ตอนนี้ต้องกลับไปคิดให้ดี ก่อนที่จะมาเสียใจทีหลัง”
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved