บทที่ 5 ประธานจางมาหรือยัง?

"ยัยเด็กโง่ แม่ไม่เชื่อหรอกว่าคุณย่าท่านจะใจร้ายแบบนี้ แม่ต้องไปถามคุณย่าให้รู้เรื่อง!“

ฉินยวี่เหลียนกระทืบเท้าด้วยความโกรธ ด่าชุดใหญ่ ”เรื่องนี้ไม่แน่อาจจะเป็นฝีมือของสองพ่อลูกนั่น พูดใส่ร้ายป้ายสีต่อหน้าคุณย่า“

เห็นว่าภรรยาจะออกไปข้างนอก คนที่ฟังลาดราวอย่างเฉินเฉียงก็รีบดึงเอาไว้และพูดว่า ”ยวี่เหลียน เรื่องนี้คุณแม่ตัดสินใจแล้วคุณไปโวยวายมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก “

"มีประโยชน์อะไร? ทุกครั้งเราต้องยอมหรอ? หรือว่าครอบครัวเราจะให้ใครมาข่มเหงก็ได้งั้นสิ? เฉินเฉียง ไม่ว่าอย่างไรคุณก็เป็นผู้ชายที่ไรประโยชน์จนถึงที่สุดจริงๆ“ ฉินยวี่เหลียนตะคอกอย่างสุดกำลัง

เฉินเฉียงเริ่มกลัวจนไม่กล้าเอ่ยปาก

เฉินเมิ่งเหยาพูดได้เพียง“แม่ พ่อพูดถูกแล้ว ถ้าแม่ไปมันคงไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอก”

ทำไมเฉินเมิ่งเหยายอมแพ้ง่ายๆ?

แต่เรื่องบุคลากรกรของอสังหาริมทรัพย์ฟู่หัวคุณย่าเป็นคนตัดสินใจ ถ้าไม่ยอม ก็คงทำทำได้แค่อดทนอยู่เงียบๆรับชะตากรรม

ทันใดนั้นเสี่ยวเทียนได้แต่งตัว และลุกขึ้นยืนจากที่นอน

“สาวน้อย เธอสบายใจได้ โปรเจ็คนี้ นอกจากเธอก็ไม่มีใครรับผิดชอบได้อีก”

ยวี่เหลียนฟังคำพูดของเสี่ยวเทียนก้โกรธขึ้นมาทันที พูดด้วยวาเย็นชา “เหอะ! นี่มันเป็นเรื่องของครอบครัวเรา เกี่ยวอะไรกับคนหนีทหารอย่างแก แกไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่าเป็นใบ้หรอกนะ”

เห็นแม่ปฏิบัติต่อเสี่ยวเทียนแบบนี้แถมยังพูดจาหยาบคายใส่

“แม่ อย่าพูดกับลุงแบบนี้ได้มั้ย เขาเป็นคนดี ไม่ใช่คิดชั่วร้าย ที่เขาพูดแบบนี้ก็เพราะเขาหวังดีต่อหนู พ่อแม่ไม่ต้องเถียงกันเรื่องนี้ได้แล้ว หนูจะคิดวิธีของหนูเอง”เฉินเมิ่งเหยาพูด

ฉินยวี่เหยียนยังคงโกรธ จึงคิดจะต่อว่าเสี่ยวเทียนต่อ แต่ถูกเฉินฉียงลากออกไปจากห้อง

เฉินเมิ่งเหยาเดินมาถึงประตูรีบปิดและเดินไปข้างหน้าเสี่ยวเทียน พูดว่า “ลุง ฉันขอโทษแม่ก็พุดๆไปงั้น คุณอย่าคิดมากนะ”

“เธอวางใจได้ ถ้าฉันแคร์ ฉันคงไม่แต่งเข้าบ้านนี้หรอก”

บ้าน?

เมิ่งเหยาได้ยินสองคำนั้น เธอรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

คุณลุงเห็นว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเองหรอ?

“คุณโดนดูถูกทุกวันขนาดนี้ ไม่รู้สึกอะไรเลยหรอ? เมิ่งเหยาถามด้วยความสงสัย

“เธอโดนมาหนักกว่าฉันอีก จะไปเทียบกับที่เธอโดนได้ไง”

พอได้ยินคำนั้นเธอยืนอยู่ที่เดิมน้ำตาก็ไหลออกมา

นี่คุณลุงทนทุกอย่างเพราะฉันหรอ?

วันถัดมา อสังหาริมทรัพย์ฟู่หัว

เฉินเหวินเชาสวมสูทแบรนด์กุชชี่ ยืนเชื่องๆเหมือนสุนัขอยุ่หน้าบริษัท เพื่อรอจางชิวไป๋ประธานบริษัทจื่อจินในการเซ็นต์สัญญา

แม้ว่าการเจรจาจะเป็นไปได้ด้วยดี ตอนนี้เหลือแค่เซ็นต์สัญญา เป้าหมายของวันนี้คือการเซ็นต์สัญญาอย่างเป็นทางการ ที่สำคัญกว่านั้นก็คือทำให้จางชิวไป๋ยอมรับเรื่องการเปลี่ยนผู้รับผิดชอบ

เฉินเหวินเชามีความมั่นใจในตัวเองมาก ตัวเองเป็นถึงหลานชายคนโตของตระกูล คนที่จะรับช่วงต่ออสังหาริมทรัพย์ฟู่หัวนั้นฐานะของเฉินเมิ่งเหยาไม่อาจจะเทียบเขาได้

รถโรลส์รอยซ์สีดำคันหนึ่งขับเข้ามา

เฉินเหวินเชาแค่เห็นเขารู้ได้ทันทีว่าเป็นรถของจางชิวไป๋ประธานบริษัทจื่อจิน เขารีบไปประจบอย่างรวดเร็ว เสแสร้งทำเป็นสุภาพบุรุษ แล้วพูดอย่างกระตือรือล้นว่า “สวัสดีครับพี่ชิวไป๋ ผมชื่อเฉินเหวินเชา เป็นผู้ดูแลโปรเจ็คนี้ของตระกูลเฉินครับ”

จางชิวไป๋ยื่นมือมาจับ

เฉินเหวินแอบยิ้มในใจ โปรเจ็กครั้งนี้จะต้องสำเร็จแน่ๆ ที่จริงมันก็ดูไม่ได้ยากอะไร สงสัยที่เฉินเมิ่งเหยาคุยงานได้อย่างราบรื่น คงเป็นเพราะแค่โชคช่วยแน่ๆ เหวินเชาคิดเข้าข้างตนเอง

“คุณเมิ่งเหยาล่ะ?” จางชิวไป๋ถาม

เฉินเหวินเชาดีใจดุเหมือนจะสำเร็จไปครึ่งนึงแล้ว จางชิวไป่ต้องยอมรับเรื่องการเปลี่ยนแปลงผู้รับผิดชอบแล้วแน่ๆ ดูเหมือนว่าเฉินเมิ่งเหยาจะโชคดีที่เจรจาความร่วมมือนี้ได้ไม่ยากนัก
“คุณเฉินหล่ะ?” จางชิวไป๋จ้องมองแล้วถามอย่างเรียบๆ

เหวินเชาคิดว่าจางชิวไป๋แค่คงถามไปงั้นๆ ก็เลยสร้างเรื่องขึ้นมาเอง“เฉินเมิ่งเหยาช่วงนี้เธอไม่ค่อยสบาย ในช่วงนี้ผมจะรับช่วงต่องานนี้เองครับ”

จางชิวไป๋ฟังเสร็จก็พยักหน้า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นรอให้คุณเฉินเมิ่งเหยาหายดีก่อน แล้วเราค่อยมาคุยกันใหม่’

พูดจบจางชิวไป๋ก้เตรียมตัวขึ้นรถและจากไป

เฉินเหวินเชาอึ้งที่เห็นจางชิวไป๋จากไป เขารีบตามไป ”พี่ชิวไปครับ เรื่องนี้ใครรับผิดชอบก็เหมือนกัน ท่านวางใจได้ ผมเชื่อว่าความสามารถผมมีมากกว่าเมิ่งเหยาแน่นอน การที่ผมได้ร่วมมือกับบริษัทท่าน.......... “

พูดยังไม่ทันจบก็ถูกประธานจางพูดแทรกขึ้น ยืนอยู่ข้างรถ “ในเมืองเจียงโจวมีบริษัทอีกตั้งมากมายที่อยากร่วมงานกับบริษัทจื่อจิน ในเมื่อตระกูลเฉินไม่จริงใจ ฉันคงต้องพิจารณางานการร่วมงานนี้ใหม่อีกครั้ง‘

มองตามรถจางชิวไป๋หายไปสุดสายตา

เฉินเหวินเชายืนอยู่ที่เดิม เดิมทีคิดว่าเขาไม่สนใจเรื่องนี้ แต่คิดไม่ถึงส่าท่าทีเขาจะเปลี่ยนไปในพริบตา

จะเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวเช่นนี้

การร่วมงานครั้งนี้ต้องพิจารณาใหม่!!!

แค่ประโยคสั้นๆก็ทำให้เฉินเหวินเชากลัวได้

ตระกูลเฉินเดิมทีเป็นตระกูลอันดับสองในเจียงโจวมีทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งร้อยล้าน สามารถร่วมมือกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์หมื่นล้านได้เป้นเรื่องที่ยากมาก ถ้าความร่วมมือนี้ถูกทำลายลงในมือของเขาเอง หญิงชราจะต้องฆ่าเขาตายอย่างแน่นอน

จะทำยังไงดี?

มีคำสั่งทหารออกมาแล้ว

ถ้าคุณย่ารู้เรื่องนี้ ด้วยความโกรธของเธอไม่อยากจะคิดถึงผลที่ตามมา

หรือว่าต้องให้เฉินเมิ่งเหยานังแรดนั่นออกหน้าแก้ปัญหา

เขาไม่ยอม เมื่อวานเย็นในโทรศัพท์นั้นพูดโอ้อวดกับเธอไว้ซะเยอะ และไล่เธออกจากบริษัทของตระกูล ถ้าต้องไปขอร้องให้เอกลับมาเก็บเรื่องยุ่งๆนี่ จะไม่เสียชื่อเสียของตระกูลหรอ?

ในขณะนี้โทรศัพท์ของเขาได้ดังขึ้น เฉินหย่งพ่อของเขาโทรมา

“เหวินเชา คุณย่ากำลังรออยู่ที่ห้องประชุมชั้นสาม จางชิวไป๋ประธานบริษัทจื่อจินยังไม่ถึงอีกหรอ” เฉินหย่งถามด้วยความได้ใจ

ตาแก่คนนี้แผนสูง ไล่เฉินเมิ่งเหยาออกจากบริษัท หวังจะให้ลูกชายตัวเองใช้การร่วมงานในครั้งนี้สร้างตำแหน่งในบริษัทให้ตัวเอง แค่ทำเรื่องนี้ให้ดี ในอนาคตครอบครัวตนจะต้องได้ดูแลธุรกิจตระกูลอย่างแน่นอน

เมื่อได้ฟังคำพูดของพ่อ เฉินเหวินเชาก็หวาดกลัวและพูดอย่างเสียงสั่น “พ่อ ผมกำลังจะขึ้นไป”

อสังหาริมทรัพย์ฟู่หัว ห้องประชุมชั้นสาม

ญาติผู้บริหารระดับสูงล้วนอยู่ที่นี่กันครบ นี่คือความร่วมมือครั้งสำคัญกับบริษัทจื่อจินซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำในเจียงโจว การมีผู้คนเข้าร่มจำนวนมากนั่นแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของตระกูลเฉิน

คุณย่านั่งที่เก้าอี้ประธาน ทันทีที่เห็นเฉินเหวินเชาเดินเข้ามาก็เอ่ยปากถามทันที “เหวินเชา ท่านประธานมาถึงหรือยัง?’



Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

358