บทที่ 3 เอาคืน

ทุกคนต่างอ้าปากค้างในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เฉินเหวินเชาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า

ในตระกูลเฉินเขาเป็นหลานสุดที่รัก อนาคตก็คือทายาทสืบทอดตระกูล ใครก็ต่างให้เกียรติเขา แต่ในวันนี้กลับโดนเขยที่พึ่งแต่งเข้าตระกูลเมื่อไม่นานนี้ตบเข้า

แถมยังเป็นตบที่แรงมากด้วย

ถูกดูถูกแบบนี้ใครจะทนได้!

เฉินเชี่ยนและเฉินเมิ่งเหยาต่างก็ยืนงุนงงอยู่ที่เดิม ไม่มีใครคาดคิดว่าเสี่ยวเทียนจะกล้าทำ

แค่คำโมโหคำเดียวของเฉินเมิ่งเหยา แต่ใครจะไปรู้ว่าเสี่ยวเทียนกลับทำตามอย่างที่ตนบอกจริงๆ แถมยังไปทำหลานคนโตของตระกูลอีก

เธอหน้าซีดชั่วขณะ

“เสี่ยวเทียน นี่คุณบ้าไปแล้วหรอ ทำไมถึงไปตบเขาจริงๆ?”

เสี่ยวเทียนตอบอย่างอ่อนโยน: “เพราะว่าตอนนี้เธอเป็นภรรยาฉันแล้ว ฉันไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมารังแกเธอทั้งนั้น!”

ลุงคนนี้ บ้าไปแล้วหรอ?

ถึงแม้วันนี้พวกเราจะแต่งงานกัน

แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นทหารหนีสงครามมาอยู่ดี
ตอนนี้เขาได้ตบหลานชายคนโตของตระกูลเฉิน ด้วยนิสัยของเฉินเหวินเฉา แน่นอนว่าไม่คำนึงถึงชีวิตของเขาอยู่แล้ว !

จบแล้ว!

จบแล้วจริงๆ!

"ให้ตายเถอะ แกนี่รนหาที่ตายจริงๆ"

“เป็นแค่ไอ้ลูกเขยที่ไร้ค่า กล้าดียังไงถึงมาทำอย่างนี้กับฉัน แกคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วสินะ!”

เพื่อที่จะทวงศักดิ์ศรีกลับมา เฉินเหวินเชาร้อนใจ เตรียมจะง้างหมัดพุ่งตรงไปยังเสี่ยวเทียน

แต่เสี่ยวเทียนขึ้นชื่อว่าเป็นเทพแห่งสงครามเหนือแค่นี้ทำไมจะรับไม่ได้

แกระ

แค่แปปเดียว

หมัดของเฉินเหวินเชายังไม่ทันโดนตัวเสี่ยวเทียน เขาก็ได้หักแขนของเฉินเหวินเชา

"อ๊ากก! "

เขาร้องเสียงหลง

เฉินเหวินเฉากระทืบเท้าด้วยความเจ็บ และใบหน้าของเขาก็เริ่มซีดด้วยความเจ็บ

หลานชายคนโตผู้ซึ่งอยู่ในตระกูลเฉินเจียเหยามาโดยตลอด ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้รับความอัปยศอดสูครั้งใหญ่อย่างเช่นวันนี้

“พวกแกคอยดู ฉันจะเอาคืนพวกแกให้สาสม โดยเฉพาะเธอ เฉินเมิ่งเหยา ฉันจะทำลายครบครัวเธอให้หมด!”

เฉินเหวินเชาพูดออกไปด้วยความเครียดแค้น เขาจับมือที่เจ็บของตัวเองแล้วเดินจากไป

ดินแดนที่หรูหราแห่งหนึ่ง

บ้านใหญ่ตระกูลเฉิน

หลังจากที่ย่าตระกูลเฉินและลูกชายตนร่วมงานแต่งหลานสาวเสร็จ ก็ได้รับโทรศัพท์หุ้นส่วนทางธุรกิจ พวกเขาก็ได้รีบไปที่บริษัทแล้วปรึกษาหารือกันทั้งสองฝ่าย

"คุณย่าครับ คุณพ่อครับ"

เฉินเหวินเชาร้อนใจ เขาจึงรีบเปิดประตูห้องประชุมเข้าไปด้วยอาการเจ็บที่แขน

คุณย่าที่กำลังประชุมนั้น ตกใจกับท่าทางลุกลี้ลุกลนของหลานชาย ที่จู่ๆเข้ามาด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก

"ทำไมทำแบบนี้ ไม่เห็นหรอว่าตอนนี้เรามีแขกอยู่ ไม่มีมารยาทเลยนะ!"

ผู้เป็นย่าพูดด้วยอย่างเสียงแข็ง

เมื่อเห็นว่าแม่ของตัวเองกำลังโกรธ เฉินหยงรีบลุกขึ้นแล้วด่าออกไปว่า :“ยังยืนทำอะำรอยู่อีก ออกไปก่อนไป!”

เฉินเหวินเชาถอนหายใจออกมาด้วยความโกรธที่มีอยู่ แต่ก็ทำได้แค่ทนไว้ แล้วถอยออกมารอยู่ข้างนอก

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป การประชุมก็ได้เสร็จสิ้นลง

เฉินเหวินเชาถึงได้กล้าเดินเข้าไป

แค่เดินเข้าไป ก็ร้องไห้ออกมา

“คุณย่า คุณย่า ต้องจัดการให้ผมนะครับ ผมโดนคนตบมา ทั้งเจ็บแขน และเหมือนมันกำลังจะหักเลย……”

ลูกโดนตบมา?

เฉินหยงได้ยินดังนั้น ก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ลูกชายคนเดียวของเขา แม้แต่เขาก็ไม่เคยตบตีเลยซักครั้ง ใครมันช่างกล้า?

"อะไรนะ!โดนตบมา? ใครมันเป็นคนทำ? "

เฉินหยงทนไม่ไหวจนต้องรีบถามออกไป

ฝั่งคุณย่าของตระกูลเฉินก็เป็นห่วงไม่แพ้กัน

“ไหน หลานรักของย่า มาให้ให้ย่าดูซิ เจ็บมากไหม หวังว่ามือคงไม่เป็นอะไรนะ ไหน บอกย่ามาเร็ว ว่าเกิดอะไรขึ้น?”

“คุณย่าครับ คุณพ่อครับ คนที่ทำผมก็คือสามีของเฉินเมิ่งเหยา”

"คุณย่าต้องคืนความยุติธรรมให้ผมนะครับ! "

เฉินเหวินเชายังร้องไห้ไม่หยุด

เสี่ยวเทียน???

ผู้เป็นย่าย่าขมวดคิ้วไม่อยากจะเชื่อ

ลูกเขยคนนี้ไม่มีมารยาทถึงขนาดนี้เลยหรอ?

เฉินเหวินเชา หลานโตสุดในตระกูล อนาคตจะเป็นผู้สืบทอดตระกูล เขามีสิทธิ์อะไรมาทำอย่างนี้?

คุณย่ากระทบไม้เท้าตัวเองกับพื้นด้วยความโมโห

“มันช่างกล้า หลานย่า เล่ามาให้ย่าฟังให้หมด ตกลงเรื่องราวมันเป็นยังไงกัน?”

เฉินเหวินเชาพอได้ยินย่าพูดออกมาด้วยความเป็นห่วงตัวเองมากถึงขนาดนี้ แล้วเขากระหยิ่มยิ้มย่องในใจ ครั้งนี้เขาต้องชนะแน่ๆ

“คุณย่าครับ เป็นเพราะเฉินเมิ่งเหยา มันใช้ให้เสี่ยวเทียนมาตบผม”

พอคุณย่าฟังจบ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยและเริ่มลังเล

แม้ว่าเธอจะปฏิบัติต่อหลานสาวคนนี้ยังไง ตอนเด็กๆก็ไม่ชอบ แต่ว่าเธอก็มีความสามารถที่ดูแลธุรกิจ และแถมเธอยังจบจากมหาวิทลัยที่มีชื่อเสียงอีกด้วย และยังได้ทำงานใน Fuguang Real Estate เป็นเวลาตั้งสองปี และเธอได้รับผิดชอบโครงการสำคัญมากมาย!

เฉินหยงเห็นแม่ตัวเองแสดงอาการออกมาแบบนี้ ก็รู้เลยว่าแม่ของตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่

เพราะสองปีที่เฉินเมิ่งเหยาได้เข้ามาทำงานที่บริษัท บริษัทก็พ้ัฒนาขึ้นเยอะมากทำให้เป็นภัยต่อพวกเขา

ที่ลูกเขาโดนตบมาครั้งน้ี มันก็เป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วที่เขาจะกำจัดเฉินเมิ่งเหยาออกไปให้พ้นทาง

“แม่ครับ แม่ต้องจัดการให้หลานนะ เฉินเมิ่งเหยานี่ชักจะเอาใหญ่แล้ว เห็นว่าตัวเองทำประโยชน์ให้เราหน่อยก็ไม่เห็นเหวินเชาในสายตา เขาเป็นถึงหลานรักคุณแม่นะครับ ! ”

คุณญิงแห่งตระกูลเฉินกำลังคิดหนัก

จะจัดการยังไงดี!

ตอนนี้เศรษฐกิจกำลังแย่ เรื่องที่ดินก็ยังมีปัญหา ตอนนี้ครอบครัวเรากำลังอยู่ในขั้นดำเนินงานเซ็นต์สัญญากับบริษัทจื่อจิน จะมีข้อผิดพลาดไม่ได้ ซึ่งงานนี้เฉินเมิ่งเหยากำลังช่วยเจรจาอยู่

เธอกำลังกำลังกังวล เพราะหากลงโทษหลานสาวคนนี้ อาจมีผลต่องานนี้ได้

“เหวินเชา งั้นย่าขอถามหน่อย หลานอยากให้ย่าจัดการยังไง?” คุณหญิงเฉินถามหลานรักออกมา

“ผมอยากให้คุณย่าไล่เฉินเมิ่งเหยาและครอบครัวออกไปจากตระูลเฉินของเราครับ” เฉินเหวินเหยากัดฟันพูดออกมา

“คำขอนี้ย่าไม่ได้คัดค้านอะไร แต่หลานจะต้องทำอะไรบางอย่างให้ย่า คือหลานจะต้องทำสัญญาโครงการที่เราจะร่วมมือกับบริษัทจือจินให้สำเร็จและไมมีข้อผิดพลาด“ คุณหญิงตระกูลเฉินกล่าว

คำพูดนี้ของคุณย่า

ทำให้เฉินเหวินเชาเริ่มรู้สึกละอายเล็กน้อย

เพราะนอกจากเขาจะใช้อำนาจที่เป็นหลานคนโต ในด้านธุรกิจเขาก็ถือว่ายังใหม่อยู่

แต่นี่คือโอกาสดีที่ที่เขาจะเล่นงานเฉินเมิ่งเหยา

เขาไม่อยากพลาด!

โปรเจกต์นี้ก่อนหน้านี้เขาเคยศึกษาแล้ว คงไม่ได้ยากอะไร เพราะตอนนี้เฉินเมิ่งเหยาก็ได้เจรจาเรียบร้อยแล้ว เหลือก็แค่ลายเซ็นต์เท่านั้น

อาทิตย์ก่อนหน้านั้นก็เกือบเสร็จแล้วนี่ ขาดก็แค่ลายเซ็นต์เท่านั้นไหม?

“คุณย่าครับ ผมตกลง ผมจะทำตามที่คุณย่าบอกครับ แค่ปลายปากกาที่จะเซ็นแค่นี้ ผมทำได้อยู่แล้ว!” เฉินเหวินเฉาพูดด้วยความมั่นใจ

"ดีมาก ย่าชื่นชมในความกล้าหาญนี้ แต่ย่าขอเตือนนะ ถ้างานนี้เซ็นต์สัญญาไม่สำเร็จ ย่าจะไม่ใจอ่อน ถึงแม้จะเป็นหลานก็เถอะ ! "

ในเวลาเดียวกัน

เฉินเมิ่งเหยาและเสี่ยวเทียนกลับมาถึงบ้าน

เมื่อถึงประตูหน้าบ้าน

ก็มีเสียงทะเลาะกันลอยมาออกมาจากในบ้าน

เฉินเมิ่งเหยารู้ ว่าพ่อแม่กำลังทะเลาะเรื่องงานแต่งตนอีกแล้ว

“แม่ หนูกลับมาแล้วนะ” เฉินเมิ่งเหยาตะโกนเข้าไป

ฉินยวี่เหลียนเดินไปเปิดประตูเพื่อที่จะให้ลูกเข้ามา ดวงตาของเธอแดงก่ำเพราะการร้องไห้อย่างหนัก แต่ในขณะที่สายตาของเธฮสบเข้ากับเสี่ยวเทียนสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที

“เมิ่งเหยา ลูกรีบเข้ามา แต่ส่วนเขา ไสหัวไปจากบ้านนี้ซะ!”

"บ้านนี้ ไม่ต้อนรับขยะแบบนาย !"

"ถึงแม้จะเป็นลูกเขยที่คุณย่าหามาให้ แต่ฉันไม่ยอมรับแกเป็นเขยหรอกนะ ฉันไม่อยากให้ลูกสาวฉันเป็นถูกนินทาทั่วเมืองยวิ๋่นเฉิง!"

เมิ่งเหยากเม้มปากแน่น “แม่คะ แม่พูดแรงเกินไปรึเปล่า”

“แล้วจะให้ฉันพูดยังไง เขาแก่กว่าแกตั้งสิบกว่าปีนี่ฉันพอยอมรับได้ แต่เขาเป็นทหารหนีจากสงครามมานี่สิจะว่าไง แม่ไม่อยากให้ลูกถูกนินทาหรอกนะ ออกไป ออกไปให้พ้น!”

ฉินยวี่เหลียนทั้งร้องทั้งด่า

เสี่ยวเทียนไม่แสดงออก ไม่พูดอะไร และกำลังจะหันหน้าแล้วเดินออกไป

แต่เฉินเมิ่งเหยาก็ได้จับปลายเสื้อเสี่ยวเทียนเอาไว้

“แม่คะ ให้เขาเข้าบ้านเถอะนะคะ”

“เมิ่งเหยา เดี๋ยวนี้ไม่ฟังที่แม่พูดแล้วหรอ แกคิดอะไรอยู่?”

“ไม่ได้คิดอะไรนะแม่ เขา ตอนนี้เขาเป็นสามีหนูแล้วนะคะ”

สามี???

เสี่ยวเทียนรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก

ยัยเด็กโง่ ยี่สิบปีผ่านมาแล้วนะ ทำไมถึงแสนดีไม่เปลี่ยนเลย.........

แม้ว่าจะรู้สึกเสียใจ แต่ก็ยังเป็นห่วงเป็นใยผู้อื่น

ผู้เป็นแม่ได้ยินที่ลูกแบบนั้น โกรธจนไม่รู้จะทำยังไง “ได้ ถ้าแกคิดแบบนี้ ต่อไปนี้แกจะทำอะไร ฉันก็จะไม่สนทั้งสิ้น!”

ทันทีที่ผู้เป็นแม่พูดจบ ก็ได้ปิดประตูลงอย่างเสียงดังด้วยความไม่พอใจ


















Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

358