บทที่ 2 ผู้ฝึกฝนวิญญาณ (๒)

ร่างวิญญาณที่อยู่ในร่างกายของผู้ฝึกฝนวิญญาณถูกเรียกตามชื่อธารตุองค์ประกอบ อย่างเช่นผู้ฝึกฝนวิญญาณอัคคีก็จะเรียกว่าร่างวิญญาณอัคคี หลังวิญญาณสามารถรวมกับพลังวิญญาณและธาตุองค์ประกอบเพื่อระเบิดพลังที่ทรงพลังยิ่งขึ้น

ส่วนร่างวิญญาณของผู้ฝึกฝนวิญญาณเงาถูกเรียกว่าเรื่องวิญญาณเงา ซึ่งเกิดจากพลังวิญญาณและพลังจิตที่ควบแน่น ทำให้สามารถใช้พลังเวทย์มนต์เพื่อสร้างภาพลวงตา ทำให้คนจมอยู่ในภวังค์ยากที่จะหลุดพ้น

ฝึกฝนวิญญาณเงาที่แข็งแกร่งสามารถทำให้คนคนหนึ่งจมอยู่ในภวังค์ดินแดนภาพลวงตาที่เขาสร้างขึ้นมาจนกระทั่งเสียชีวิต เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูสามารถสร้างภาพลวงตาขึ้นมาโจมตีความอ่อนแอทางจิตใจของอีกฝ่าย ทำให้คู่ต่อสู้ไม่มีโอกาสแม้แต่จะป้องกัน ซึ่งถือว่าน่ากลัวอย่างยิ่ง

นอกจากทั้งเก้าประเภทแล้ว บนโลกใบนี้ยังมีผู้ฝึกฝนวิญญาณอีกหลายประเภทที่หาได้ยากและแข็งแกร่งมากเหมือนกัน และปรากฏตัวของผู้ฝึกฝนวิญญาณเหล่านี้ล้วนแต่มีเงื่อนไขที่เหมือนกัน นั่นก็คือเกิดมาพร้อมกับร่างวิญญาณ!

ผู้ฝึกฝนวิญญาณเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่มีจำนวนน้อยนิด โดยเฉพาะผู้ฝึกฝนวิญญาณที่แข็งแกร่งยิ่งน้อยเข้าไปอีก

ในหมู่ของคนธรรมดา คนที่สามารถกลายเป็นผู้ฝึกฝนวิญญาณขั้นสูงมีเพียงโอกาสหนึ่งในหนึ่งพัน เพื่อที่จะเพิ่มความน่าจะเป็นไปได้ของโอกาสนี้ ตั้งแต่ในอดีต เหล่าผู้ฝึกฝนวิญญาณได้เริ่มเลือกที่จะแต่งงานกับผู้ฝึกฝนวิญญาณด้วยกันเพื่อสืบทอดลูกหลาน ด้วยวิธีแบบนี้ เด็กที่เกิดจากตระกูลของผู้ฝึกฝนวิญญาณก็จะมีโอกาสสูงขึ้น

ตระกูลผู้ฝึกฝนวิญญาณมีสายเลือดที่สืบทอดต่อกันมาโดยตรง ย่อมมีพรสวรรค์และโอกาสมากกว่าคนทั่วไป โอกาสที่จะกลายเป็นผู้ฝึกฝนวิญญาณขั้นสูงก็จะสูงขึ้น หรือแม้กระทั่งจำนวนของยอดฝีมือก็จะมีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ตระกูลฉินของฉินเฟิงก็เป็นตระกูลผู้ฝึกฝนวิญญาณแบบนี้ โดยเน้นธาตุไม้และธาตุปฐวีเป็นหลัก

พ่อแม่ของเขาเป็นผู้ฝึกฝนวิญญาณไม้ ตามหลักการแล้วมีโอกาสสูงมากที่เขาจะกลายเป็นผู้ฝึกฝนวิญญาณธาตุไม้ขั้นสูง

แต่ว่าอนาคตยากที่จะคาดเดา ตอนเด็กแสดงพรสวรรค์ที่น่าตกใจ ทุกคนต่างบอกว่าเขาจะต้องกลายเป็นผู้ฝึกฝนวิญญาณธาตุไม้ขั้นสูง

ฉินเฟิงเริ่มฝึกฝนตั้งแต่ตอนอายุหกขวบเหมือนกับเด็กคนอื่นทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้น่าแปลกใจคือเขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณอย่างชัดเจน ซึ่งอธิบายได้ว่าเขามีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดา

ในวันที่เริ่มฝึกสามารถสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของพลังวิญญาณ ในคืนนั้นสามารถดูดซับพลังวิญญาณเข้าสู่ร่างกายได้สำเร็จ กลายเป็นผู้ฝึกฝนวิญญาณขั้นฝึกหัด หลังจากนั้นหนึ่งปีกับอีกสามเดือนบรรลุผู้ฝึกฝนวิญญาณขั้นกลาง ใช้เวลาอีกสองปีในการบรรลุถึงผู้ฝึกฝนวิญญาณขั้นกลางระดับสูง

หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือเขาใช้เวลาสามปีกว่า เปลี่ยนจากเด็กธรรมดาทั่วไปกลายเป็นผู้ฝึกฝนวิญญาณข้างกลางระดับสูง

และโดยทั่วไปแล้วเด็กคนหนึ่งสามารถบรรลุถึงระดับผู้ฝึกฝนวิญญาณขั้นกลาง อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสี่ปี สามารถบรรลุผู้ฝึกฝนวิญญาณขั้นกลางระดับสูงตั้งแต่ตอนอายุสิบสี่ถือว่าเป็นอัจฉริยะ

และยังฉินเฟิงที่เกิดมาพร้อมกับร่างวิญญาณ สามารถยกย่องให้เขาเป็นวายร้ายระดับมหากาฬ

แต่เหมือนสวรรค์จะล้อเล่นกับชะตาชีวิตของฉินเฟิง ทำเรื่องตลกที่ไม่ว่าใครก็ยากที่จะรับได้ บุคคลที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่น่าตกใจแบบนี้กลับมีร่างกายที่ต่อต้านธาตุองค์ประกอบ ทั้งชีวิตต้องติดอยู่ในระดับผู้ฝึกฝนวิญญาณขั้นกลาง

"ปัง!"

มีเสียงที่น่าอึดอัดใจดังขึ้นจากในห้องของฉินเฟิง เห็นเพียงพลังวิญญาณควบแน่นโดยรอบที่ก่อตัวเกิดการระเบิดของก๊าซ เตียงที่อยู่ใต้ร่างกายของเขาส่งเสียงดังเอี๊ยดออกมา

พลังวิญญาณที่โปร่งใสสะท้อนแสงจางๆออกมาจากร่างกายของฉินเฟิง ความเร็วในการดูดซับพลังวิญญาณของเขาน่าตกใจมากราวกับปลาวาฬที่กลืนกินน้ำ พลังวิญญาณซึมซับเข้าไปในร่างกายของเขาอย่างบ้าคลั่งและรวดเร็ว พลังวิญญาณพวกนี้เหมือนกับผู้ที่หลงทางอยู่บนทะเลทราย ทันใดนั้นก็ค้นพบโอเอซิสอย่างกะทันหันและรีบวิ่งตรงเข้าไปอย่างบ้าคลั่งทันที

และการดูดซับพลังวิญญาณระดับนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกฝนวิญญาณขั้นกลางทั่วไปจะสามารถทำได้ เกรงว่าแม้แต่ผู้ฝึกฝนวิญญาณขั้นสูงก็ยังต้องรู้สึกละอายใจ

ฉินเฟิงที่สัมผัสได้ถึงปรากฏการณ์นี้หยุดดูดซับพลังวิญญาณ ลืมตาขึ้นอย่างกะทันหันพร้อมกับพูดเสียงเบา "ธาตุไม้ แสดง!"

หลังจากสิ้นเสียงของเขา เห็นเพียงแสงสีฟ้าเริ่มปรากฏขึ้นโดยรอบ และมีกลิ่นของพืชพรรณจางๆลอยอยู่กลางอากาศ

ใบหน้าที่เยาว์วัยของฉินเฟิงไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกมา ดวงตาทั้งคู่ของเขาปิดลงอีกครั้ง ร่างกายปลดปล่อยแรงดึงดูดที่แปลกประหลาดออกมา แสงสีฟ้าที่อยู่โดยรอบเริ่มลอยเข้าไปหาเขา

แสงสีฟ้านับสิบสายลอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทันทีที่สัมผัสโดนผิวหนังของฉินเฟิง มันถูกดีดออกเหมือนกับโดนไฟช็อต หลังจากนั้นรีบลอยออกไปไม่กล้าเข้าใกล้อีก

สีหน้าของฉินเฟิงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ปรากฏการณ์แบบนี้เขาเจอมาครั้งนับไม่ถ้วน เขาเริ่มลองสัมผัสธาตุไม้ที่อยู่โดยรอบอีกครั้งโดยไม่รู้สึกท้อแท้

สักพัก แสงสีฟ้านับสิบสายเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ในตอนแรกทุกอย่างก็เหมือนจะผ่านพ้นไปด้วยดี แต่หลังจากที่สัมผัสโดนร่างกายของฉินเฟิง แสงสีฟ้าพวกนั้นเริ่มทยอยถอยออกไปไม่ยอมเข้าใกล้ฉินเฟิง

เป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้ง ไม่ว่าแสงสีฟ้าสายไหนที่โชคดีสามารถผ่านพ้นเข้าไปในร่างกาย แต่วินาทีต่อมาร่างกายของเขาก็จะขับแสงสีฟ้าออกมาราวกับร่างกายของเขาต่อต้าน

ปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมายาวนานนับปีแล้ว เขาเคยลองดูดทรัพย์ธาตุองค์ประกอบอย่างอื่น แต่น่าเสียดายไม่ว่าเขาจะทำยังไง นอกจากธาตุไม้เขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของธาตุอย่างอื่น ส่วนพลังจิตของเขา ถึงแม้ว่าจะแข็งแกร่งกว่าคนปกติทั่วไปเล็กน้อย แต่กลับไม่บรรลุตรงตามเงื่อนไขของผู้ฝึกฝนวิญญาณเงา

ท้ายที่สุดเมื่อสิบวันก่อน บรรพบุรุษตระกูลฉินผู้ไม่เคยสนใจโลกภายนอก ออกจากการบำเพ็ญที่เก็บตัวฝึกฝนมายาวนานนับปี เห็นแก่พรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาของฉินเฟิง เขาใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อยาที่ช่วยในการรวบรวมธาตุมาหนึ่งเม็ด และใช้พลังของเขาช่วยดึงธาตุไม้เข้าไปในร่างกายของฉินเฟิง

แต่น่าเสียดาย ผลสุดท้ายก็ล้มเหลวเหมือนเคย สุดท้ายเขาเดินจากไปอย่างผิดหวังหลังจากที่บรรพบุรุษบอกว่าฉินเฟิงคือผู้ที่เกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ต่อต้านธาตุองค์ประกอบ

และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา คนในตระกูลที่เคยยกย่องและชื่นชมฉินเฟิงเริ่มพูดจาเยาะเย้ยและใช้สายตาที่ดูถูกมองเขา ในขณะเดียวกันภาพของบรรพบุรุษตระกูลฉินที่ถอนหายใจแล้วเดินจากไปยังคงตราบตรึงอยู่ในใจของเขามาโดยตลอด

"การสัมผัสถึงพลังวิญญาณไม่ใช่เรื่องยากสำหรับฉัน แต่กลับไม่สามารถดูดซับเข้าไปในร่างกาย น่าเจ็บใจชะมัด!"

ฉินเฟิงถอนหายใจยาวในใจพร้อมกับความโศกเศร้าและความโกรธที่ไม่มีสิ้นสุด

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงแค่พริบตาเดียวก็ใกล้จะเที่ยง ไม่รู้ว่าฉินเฟิงลองดูกี่ครั้งแล้ว แต่ผลสุดท้ายก็เป็นอย่างที่คาดเดา ไม่มีปาฏิหาริย์ปรากฏให้เห็น

ฉินเฟิงกำหมัดทั้งคู่แน่น ขมวดคิ้ว เดิมทีเด็กน้อยที่ควรดูไร้เดียงสาและน่ารักกลับให้ความรู้สึกที่น่ากลัว

"เห้อ ฉินเฟิง เด็กคนนี้ถือว่าจบสิ้นแล้ว น่าเสียดาย น่าเสียดาย! ถ้าหากเขาไม่ใช่ร่างต่อต้านธาตุองค์ประกอบ ในอนาคตจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และเขาจะกลายเป็นกองกำลังสำคัญส่วนหนึ่งของเรา!"

ในส่วนลึกของคฤหาสน์ตระกูลฉิน สถานที่เงียบสงบแห่งหนึ่งที่ถูกคนของตระกูลฉินมองเป็นเขตหวงห้าม มีเสียงถอนหายใจยาวดังขึ้น

ทวีปเทียนหลินมีอาณาเขตที่กว้างใหญ่ไพศาล ทรัพยากรมากมาย มีของวิเศษล้นหลาม ถูกยกย่องให้เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์

และในทวีปเทียนหลินถูกแบ่งออกเป็นหลายอาณาจักร อาณาจักรเล็กใหญ่รวมกันทั้งหมดมีหลายสิบกว่าประเทศ ถูกเรียกว่าผู้แบ่งแยกดินแดน

ที่ใดมีคนที่นั่นย่อมมีการแย่งชิง ในทวีปเทียนหลินมักจะเกิดการต่อสู้และสงครามอยู่บ่อยครั้งในทุกปี แทบจะทุกสองสามปีจะอาณาจักรที่ล่มสลายหรือไม่ก็มีอาณาจักรที่ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่

แต่ในใจกลางของทวีปมีอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ซึ่งมีความเจริญรุ่งเรืองมากตั้งอยู่ที่นั่น และไม่เคยมีใครกล้ารุกรานอาณาจักรแห่งนั้น

ชื่อของอาณาจักรแห่งนี้คืออาณาจักรเซย์โรอาร์หรือที่ผู้คนยกย่องให้เป็นอาณาจักรศูนย์กลาง!

อาณาจักรเซย์โรอาร์ไม่เพียงแต่ครอบครองพื้นที่เกือบหนึ่งในสี่ของพื้นที่ทั้งหมดของทวีปเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นอาณาจักรที่แข็งแกร่งมาก เศรษฐกิจคล่องตัว และมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้ฝึกฝนวิญญาณชั้นนำส่วนใหญ่ล้วนแต่อยู่ในอาณาจักรเซย์โรอาร์

ทั้งทวีปต้องยำเกรง และถึงขั้นสามารถเรียกได้ว่าเป็นผู้ปกครองทวีปเทียนหลิน มีตำแหน่งที่ไม่มีวันสั่นคลอน

ภายใต้ผู้ฝึกฝนวิญญาณที่แข็งแกร่งและมีการแพร่หลายมากขึ้น ผู้มีอำนาจส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นผู้ฝึกฝนวิญญาณระดับสูงทั้งนั้น มีเพียงไม่กี่คนที่เป็นคนธรรมดา

และก็เพราะเหตุนี้ ผู้คนมากมายในทวีปต่างก็พยายามฝึกฝนตั้งแต่เด็ก พวกเขามุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองให้กลายเป็นผู้ฝึกฝนวิญญาณขั้นสูงเพื่อบรรลุผู้ฝึกฝนวิญญาณที่แท้จริงและมีสถานะที่แน่ชัด

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

130