บทที่ 11 บททดสอบ

ภาพนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง และสถานการณ์โดยรอบเงียบลงทันที

เห็นเพียงร่างของคนคนนั้นปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของฉินเฟิง สายตากวาดมองโดยรอบ บนใบหน้ามีรอยแผลเป็นของกระบี่ สีหน้าบิดเบี้ยวทำให้ยิ่งดูน่ากลัว

ผู้มาคือฉินเสี่ยวชาง เห็นมีคนคิดประสงค์ร้ายต่อฉินเฟิง เขากระโดดเข้ามาเตะจนกระเด็นโดยไม่พูดอะไร แค่นี้ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นความแตกต่างระหว่างเขาและหม่าลู่หลง และการลงมือครั้งนี้ทำให้ผู้คนที่อยู่โดยรอบรู้สึกตกใจมาก ทุกอย่างเงียบลงทันที ไม่มีใครไปสนใจความเป็นความตายของหม่าลู่หลง

"กระบี่วายุฉินเสี่ยวฉาง!"

"นี่ นี่มันดาวหายนะคนนั้น หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างวายุคำราม!"

"ฉินเสี่ยวชางทหารรับจ้างสี่ดาว! ใช่แล้ว เขาแซ่ฉิน เป็นคนของตระกูลฉิน!"

"ที่แท้เด็กคนนี้มากับเขา โชคดีที่ฉันไม่ไปยุ่งด้วย ไม่อย่างนั้น…….."

"ทหารรับจ้างสี่ดาวพบเห็นไม่บ่อย แต่ละคนล้วนแต่เป็นยอดฝีมือที่แท้จริง ยิ่งไปกว่านั้นฉินเสี่ยวชางถูกตั้งฉายาว่าเป็นดาวหายนะแบบนี้ก็ย่อมต้องมีเหตุผลของมัน อย่าไปยุ่งด้วยจะดีกว่า"

หลังจากที่เงียบลงสักพัก ในบรรดากลุ่มคนมีคนจำตัวตนของฉินเสี่ยวชางได้ ทุกคนพากันพูดกระซิบกระซาบเกี่ยวกับเรื่องของฉินเสี่ยวชาง ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์รู้จักเขาเป็นอย่างดี และอดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวพร้อมกับความหวาดกลัว

"ลุงสาม" หน้าอกของฉินเฟิงกระพือขึ้นลงหายใจอย่างแรง

"เฟิงเอ๋อ ยังไม่ต้องพูดอะไรตอนนี้ โคจรพลังก่อน" ฉินเสี่ยวชางขมวดคิ้วแล้วพูดพร้อมกับส่งขวดหยกใบหนึ่งให้ฉินเฟิง "กินยาเม็ดที่อยู่ด้านในเข้าไป มันมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ" เขากวาดสายตามองโดยรอบด้วยสายตาที่เย็นชาอีกครั้ง ทำให้ผู้คนที่อยู่โดยรอบรู้สึกหวาดกลัว

ฉินเฟิงพยักหน้า หลังจากนั้นรีบนั่งขัดสมาธิ เปิดฝาขวดแล้วเทยาเม็ดสีเหลืองออกมากลืนลงไปทันที หลังจากนั้นเริ่มหลับตาลงโคจรพลังรักษาอาการบาดเจ็บ มีฉินเสี่ยวชางยืนปกป้องอยู่ข้างหน้า เขาไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย

การเคลื่อนไหวของที่นี่ดึงดูดความสนใจของผู้คน ผู้รับผิดชอบของที่นี่รีบเดินเข้ามาทันที หลังจากนั้นเข้ามาขอโทษฉินเสี่ยวชางด้วยความเคารพอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนผู้คนที่อยู่โดยรอบรีบพากันแยกย้ายไปทำเรื่องของตัวเองทันทีโดยไม่มีใครสนใจหม่ามู่หลง มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังคงมองฉินเสี่ยวชางด้วยความกลัว

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง อาการบาดเจ็บของฉินเฟิงเริ่มบรรเทาลงแล้ว เขาลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า

ทันทีที่ลืมตาขึ้นเขาสังเกตเห็นที่ด้านข้างของฉินเสี่ยวชางมีชายวัยกลางคนคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความเคารพ ในมือถือสมุดคู่มือเล่มเล็กกับตราสีน้ำเงิน ทันทีที่เห็นฉินเฟิงลืมตาขึ้น เขารีบพูดขึ้นทันที "คุณชายฉินเฟิง ก่อนหน้านี้ทำให้คุณได้รับบาดเจ็บล้วนแต่เป็นความผิดของผม นี่คือคู่มือทหารรับจ้างและตราทหารรับจ้างของคุณ เพื่อเป็นการขอโทษ ผมได้ป้อนเหรียญเข้าไปสามร้อยเหรียญเงินให้กับคุณ หวังว่าคุณจะยิ้มรับให้อภัยเรื่องนี้"

เดิมที การที่จะเป็นทหารรับจ้างจำเป็นต้องได้รับการทดสอบความสามารถจากหอคอยสหภาพทหารรับจ้างก่อน แต่เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ส่งผลให้ข้ามขั้นตอนนี้ไป

ฉินเฟิงลุกขึ้นยืนแล้วรับของพวกนั้นมาโดยไม่พูดอะไร

"ไปเถอะ" ฉินเสี่ยวชางโบกมือ ชายวัยกลางคนคนนั้นรีบเดินจากไปราวกับได้รับพระราชทานอภัยโทษ

"เฟิงเอ๋อ ลุงสามช่วยนายลงทะเบียนทหารรับจ้างไร้ดาวแล้ว ส่วนตราอันนั้นเป็นสัญลักษณ์ยืนยันตัวตน ต่อไปถ้าหากมีระดับเพิ่มขึ้นก็แค่ส่งให้กับทางสหภาพช่วยเพิ่มดาวให้ก็พอ ยิ่งไปกว่านั้นตาอันนี้ยังสามารถใช้เก็บเหรียญได้ด้วย ถ้าหากต้องการถอนเหรียญก็แค่เดินทางไปที่หอคอยสาขา ถือว่าช่วยประหยัดเวลาได้เยอะมาก"

"ส่วนคู่มืออันนั้นมีการแนะนำความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับทหารรับจ้าง ยิ่งไปกว่านั้นยังใช้บันทึกภารกิจที่ได้รับ ของสองอย่างนี้ต้องเก็บไว้ให้ดี ห้ามทำหายเด็ดขาด"

ฉินเสี่ยวชางอธิบายบทบาทของตราและคู่มือทหารรับจ้าง ส่วนฉินเฟิงพยักหน้าแล้วเก็บเข้าไปในหน้าอก

ในทวีปเทียนหลิน ถึงแม้ว่าจะมีการแบ่งแยกออกเป็นหลายอาณาจักร แต่ว่าสกุลเงินที่ใช้กับเหมือนกันหมด โดยแบ่งออกเป็น เหรียญทองแดง เหรียญเงิน เหรียญทอง เหรียญอเมทิส หนึ่งเหรียญอเมทิสมีค่าเท่ากับหนึ่งร้อยเหรียญทอง หนึ่งเหรียญทองมีค่าเท่ากับหนึ่งร้อยเหรียญเงิน หนึ่งเหรียญเงินมีค่าเท่ากับหนึ่งร้อยเหรียญทองแดง

ในอาณาจักรเร็กซ์ ครอบครัวธรรมดาทั่วไปจะมีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่เจ็ดสิบแปดเหรียญเงิน ฉินเฟิงได้รับเหรียญเงินสามร้อยในคราวเดียวแบบนี้ถือว่าไม่น้อย

ฉินเสี่ยวชางสะบัดแขนเสื้อแล้วพูด "ไปรับภารกิจกันเถอะ ลุงสามเลือกภารกิจไว้ให้นายแล้ว นี่คือบททดสอบของนาย"

"ครับ"

คนทั้งสองเดินตรงไปที่ช่องหน้าต่างแห่งหนึ่ง ทุกคนพากันแยกเปิดทาง สุดท้ายเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าสุดโดยไม่ต้องเข้าแถว

ในโลกของทหารรับจ้างมีกฎระเบียบที่เข้มงวดมากมาย และกฎที่สำคัญที่สุดคือการให้ความเคารพผู้ที่แข็งแกร่งกว่า ยิ่งไปกว่านั้นฉินเสี่ยวชางมีสถานะเป็นถึงทหารรับจ้างสี่ดาว ย่อมมีสิทธิพิเศษกว่าคนอื่นอยู่แล้ว ดังนั้นการที่ทั้งสองคนแซงคิวจึงไม่มีใครกล้าพูดอะไร

"เฟิงเอ๋อ เอาตราและคู่มือออกมา" หลังจากที่เดินไปหยุดอยู่ตรงช่องหน้าต่าง ฉินเสี่ยวชางพูด

ฉินเฟิงรีบหยิบมันออกมาส่งให้ผู้ชายที่กำลังทำท่าทางหวาดกลัวซึ่งอยู่อีกฝั่งของหน้าต่าง

"รบ รบกวนถามหน่อยครับ พวกคุณ พวกคุณต้องการรับภารกิจระดับไหน?" คนคนนั้นพูดด้วยเสียงที่สั่นเทา

"ภารกิจไร้ดาวระดับสูง ขับไล่ฝูงสัตว์ป่าที่เมืองซังลั่ว"

ภารกิจของทหารรับจ้างก็มีการแบ่งระดับเหมือนกับทหารรับจ้าง ถูกแบ่งออกเป็นระดับไร้ดาวไปจนถึงระดับเก้า และทุกระดับจะมีการแบ่งเป็นระดับต่ำ กลาง สูง สามระดับ

หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้ ผู้ชายคนนั้นรีบก้มหน้าแล้วทำงานทันที ผ่านไปสักพักเขาพูดขึ้น "ภา ภารกิจถูกเพิ่มเข้าไปแล้ว รบ รบกวนเดินทางไปรวมตัวกันที่โรงเตี๊ยมฟู๋ไหลเมืองซังลั่วภายในสามวัน ไม่อย่างนั้นจะถือว่ายกเลิกภารกิจอัตโนมัติ หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจ คุณจะได้รับเงินรางวัลสิบเหรียญทองจากผู้จ้างวาน ต่อจากนั้นไปส่งมอบภารกิจที่หอคอยสาขาไหนก็ได้"

"เฟิงเอ๋อ จำไว้หรือยัง?" ฉินเสี่ยวชางมองฉินเฟิงแล้วถาม

"จำไว้แล้ว" ฉินเฟิงพยักหน้าแล้วพูด

"ดี งั้นไปกันเถอะ กลับไปเก็บข้าวของ พรุ่งนี้ออกเดินทางทันที"

ภายในคฤหาสน์ตระกูลฉิน หลังจากที่ฉินเฟิงกลับมาก็รีบไปเก็บของในห้องทันที นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเอาเดินทางไกล ภายในใจยากที่จะหลีกเลี่ยงความตื่นเต้นและวิตกกังวล แต่อารมณ์เหล่านี้ถูกเขาควบคุมเอาไว้อย่างดี

ส่วนฉินเสี่ยวชางมาหามู่เหลียนที่ห้องนอนของสองสามีภรรยาฉินเสี่ยวหลง

"พี่สะใภ้สอง พรุ่งนี้ผมจะพาเฟิงเอ๋อออกนอกเมือง คงจะอีกสิบกว่าวันถึงจะกลับมา"

"นอกเมือง? ลุงสามจะพาเฟิงเอ๋อไปที่ไหน? แล้วไปทำอะไร?" มู่เหลียนรีบถามขึ้นมาทันที เธอต้องการรู้รายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางของฉินเฟิง

"พี่สะใภ้สองวางใจได้ ผมจะพาเฟิงเอ๋อไปทำธุระที่เมืองซังลั่วนิดหน่อย ผมรับรองว่าปลอดภัยแน่นอน" ฉินเสี่ยวชางตบหน้าอกรับประกัน

มู่เหลียนลังเลอยู่สักพัก ถอนหายใจแล้วพูด "ช่างเถอะ ในไม่ช้าไม่เร็วเฟิงเอ๋อก็ต้องเดินทางออกจากเมืองควินโรไปเปิดหูเปิดตาที่โลกภายนอก มีลุงสามคอยช่วยดูแลฉันก็สบายใจ งั้นต่อจากนี้ต้องรบกวนลุงสามช่วยดูแลแล้ว"

"นั่นมันแน่อยู่แล้ว แต่ว่าผมมีเรื่องหนึ่งที่อยากจะรบกวนพี่สะใภ้สอง" ฉินเสี่ยวชางพูดด้วยท่าทางที่เกรงใจเล็กน้อย "หวังว่าช่วงนี้พี่สะใภ้สองจะช่วยดูแลเหยียนเอ๋อด้วย"

"เหยียนเอ๋อเหรอ? ลุงสามวางใจได้ ยังไงฉันก็ต้องดูแลเธออยู่แล้ว"

"มีพี่สะใภ้สองพูดรับรองแบบนี้ผมก็วางใจ" ฉินเสี่ยวชางยิ้มแล้วพูด ท่าทางของเขาแตกต่างจากดาวหายนะที่ผู้คนพูดถึงกันในโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง ถ้าหากมีใครมาเห็นเข้าคงจะต้องตกใจจนอ้าปากค้างแน่นอน

หลังจากที่จัดการธุระเรียบร้อยฉินเสี่ยวชางเดินจากไปทันที ส่วนฉินเสี่ยวหลงกลับเดินออกมาจากความมืดที่อยู่ด้านหลังห้อง

"เมื่อกี้คุณก็ได้ยินแล้ว ลุงสามจะพาเฟิงเอ๋อออกนอกเมืองหลายวัน คุณว่า…….." มู่เหลียนมองไปทางฉินเสี่ยวหลง ยังไม่ทันพูดจบประโยค ฉินเสี่ยวหลงโบกมือ มีหยกชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้น เขาส่งมันไปให้มู่เหลียน

มันเป็นหยกแจสเปอร์สีเขียวสด ด้านบนถูกแกะสลักเป็นรูปมังกร ในดวงตาของมังกรราวกับกำลังเปล่งแสงที่น่าตกใจออกมา

"คุณเอาของสิ่งนี้ไปให้เฟิงเอ๋อ แต่อย่าพูดถึงผม" หลังจากพูดจบประโยค ฉินเสี่ยวหลงถอยเข้าไปในความมืดแล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอยอีกครั้ง

"นี่คือ……." มู่เหลียนมองหยกที่อยู่ในมือ ภายในใจรู้สึกหวั่นไหว หลังจากนั้นมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนปรากฏขึ้นที่มุมปาก

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

130