บทที่ 14 กลุ่มโจร

"ฮึ่ม ไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่ขนยังขึ้นไม่ครบ" ชายที่แบกขวานไว้บนหลังเห็นฉินเฟิงเดินออกมา เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที

"ฮ่าฮ่า พี่ใหญ่ ครั้งนี้ปล่อยให้ผมเป็นคนจัดการไอ้เด็กคนนี้เอง" ผู้ชายที่ผอมแห้งคนนั้นพูดติดตลก

"ได้ พี่น้องทุกคนตามฉันมาจัดการผู้ชายคนนั้น หลังจากปล้นครั้งนี้พวกเราคงอยู่ได้อีกเป็นเดือน"

หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้ กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังยี่สิบกว่าคนตามผู้ชายตัวใหญ่คนนั้นพุ่งออกมาทันที

สายตาของฉินเฟิงเป็นประกาย จับจ้องการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายทุกย่างก้าว

ในตอนที่ผู้ชายร่างใหญ่คนนั้นพุ่งออกมา ฉินเฟิงเคลื่อนไหวทันที เขาก้าวเท้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับกระบี่พุ่งตรงเข้าไปหาผู้ชายตัวใหญ่คนนั้น

ผู้ชายร่างใหญ่คนนั้นเห็นสถานการณ์หน้าถอดสี รีบเหวี่ยงขวานของตัวเองเพื่อสกัดกั้น

ดวงตาทั้งคู่ของฉินเฟิงควบแน่น ยกกระบี่ขึ้นมาต้านทานแต่ไม่ใช้แรงทั้งหมด ร่างกายของเขาเอียงไปด้านข้าง ถือว่าช่วยลดแรงต้านไปไม่น้อย

ประกายไฟสาดกระเด็น ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก

เห็นได้ชัดว่าผู้ชายตัวใหญ่คนนั้นคิดไม่ถึงว่าเด็กอย่างฉินเฟิงจะมีความสามารถที่ไม่ธรรมดาแบบนี้ ในขณะที่เขากำลังตกตะลึง ด้านฉินเฟิงใช้กระบี่ต้านรับขวาน ส่วนอีกด้านหนึ่งก็ยกเท้าขึ้นถีบใส่ทองของผู้ชายร่างใหญ่อย่างไร

"ปัง!"

"อ่า!"

ได้ยินเพียงเสียงที่น่าอึดอัดใจดังขึ้น หลังจากนั้นตามมาด้วยเสียงร้องที่เจ็บปวด

ผู้ชายร่างใหญ่คนนั้นโดนฉินเฟิงถีบออกไปไกลหลายเมตร ร่างกายของเขากระแทกใส่ต้นไม้ขนาดใหญ่จนสั่นไหวถึงจะหยุดลง

ภาพนี้ทำให้ทุกคนตกใจมาก พวกกลุ่มคนที่พุ่งออกมาข้างหน้าในตอนแรกหยุดฝีเทาอย่างกะทันหัน ต่างจ้องมองฉินเฟิงด้วยความหวาดกลัว

"ไอ้ ไอ้เด็กคนนี้มันไม่ใช่คน ถึงขั้นสามารถถีบพี่ใหญ่ม๋านนิ๋วจนลอยกระเด็น!"

"แม่เจ้า เจอผีแล้ว! ไอ้เด็กคนนี้ดูยังไงก็น่าจะอายุสิบสี่สิบห้า แต่ทำไมถึงแข็งแกร่งขนาดนี้!"

"บ้าจริง แม้แต่พี่ใหญ่ม๋านนิ๋วก็รับลูกถีบของมันไม่ไหว แล้วพวกเราจะเอาอะไรไปสู้?"

"เร็วเข้า! รีบหนีเร็ว! ไอ้เด็กคนนี้มันไม่ใช่คน!"

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดประโยคนี้ขึ้นมา แต่ทุกคนเริ่มพากันถอยหลัง

ผู้ชายผอมแห้งคนนั้นกำลังมองตาอ้าปากค้าง เขามองไปทางฉินเฟิงอย่างเหลือเชื่อ เขารู้ดีว่าม๋านนิ๋วหนักเท่าไหร่ บวกกับขวานขนาดใหญ่ของเขา มันไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถเคลื่อนย้ายได้

แต่ว่าตอนนี้เขากลับโดนฉินเฟิงถีบจนกระเด็นออกไปได้อย่างง่ายดาย

เรื่องนี้ไม่ได้บ่งบอกระหว่างม๋านนิ๋วและฉินเฟิงมีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่เป็นเพราะว่าม๋านนิ๋วดูถูกฉินเฟิงมากเกินไป ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ได้โคจรพลัง บวกกับพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งในร่างกายของฉินเฟิง เพราะแบบนี้จึงมีผลที่น่าตกใจแบบนี้ออกมา

"ไอ้เวรเอ้ย เจ็บชะมัด!" ในตอนนั้นเอง ผู้ชายร่างใหญ่คนนั้นดิ้นรนลุกขึ้นจากคืน เขายกแขนขึ้นมาบีบต้นคอของตัวเองแล้วสบถด่า

"พี่ใหญ่"

"ฮึ่ม ฉันประมาทมากเกินไป ไอ้เด็กคนนี้น่าสนใจ มาเริ่มใหม่!" ผู้ชายร่างใหญ่ม๋านนิ๋วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา หลังจากนั้นยกขวานขึ้นมาแล้วพุ่งเข้าไปหาฉินเฟิงอีกครั้ง

"คิดไม่ถึงว่าจะมองข้ามไอ้เด็กคนนี้มากเกินไป ฉันไม่เชื่อหรอกว่าการเคลื่อนไหวของแกจะเร็วกว่าฉัน" ดวงตาของผู้ชายผอมแห้งคนนั้นเป็นประกาย เขากำมีดสั้นที่อยู่ในมือแน่นพร้อมกับวิ่งแยกออกไปทางซ้ายมือ

ฉินเฟิงเหลือบมองแว๊บหนึ่งสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของคนคนนั้น หลังจากนั้นมองไปทางผู้ชายร่างใหญ่ เลิกคิ้วขึ้นแล้วพุ่งออกไปโดยตรง

"กระบี่เฉียนจุน"

ในขณะที่กำลังเคลื่อนไหว ฉินเฟิงยกกระบี่ขึ้นพร้อมกับพูดเสียงเบา โคจรพลังวิญญาณทั้งหมดในร่างกายไปรวมกันที่มือทั้งสองข้างแล้วฟันออกไปอย่างแรง

มีกระแสลมที่มองไม่เห็นสายหนึ่งถูกฟันออกไป แต่กลับเห็นมีเงาของกระบี่ขนาดใหญ่ผ่าทำลายพื้นดินตรงเข้าไปหาม๋านนิ๋ว

"ผู้ฝึกฝนกระบี่ขั้นกลาง! ทักษะกระบี่!" ผู้ชายร่างใหญ่เบิกตากว้าง ภายในใจตกใจมาก เขารีบยกขวานขึ้นมาพร้อมกับตะโกนเสียงดัง "วงล้อสวรรค์!"

เป็นเพียงเขาเหวี่ยงขวานของตัวเองอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นภาพเงาวงกลม ราวกับสามารถผ่าทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางกั้นอยู่ตรงหน้า

"บูมบูม" เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ครั้งนี้ทั้งสองคนเผชิญหน้ากันโดยตรง อีกเพียงนิดเดียวก็กำลังจะปะทะเข้าหากันแล้ว

แววตาของฉินเฟิงลุกวาวเป็นประกาย เขาล้มเลิกความคิดที่จะอาศัยเงาดาบพุ่งตรงเข้าไปหาถอยหลังใหญ่ หลังจากนั้นใช้ก้าวเจ็ดดาวพุ่งเข้าไปหาผู้ชายที่ร่างผอมแห้งคนนั้นแทน

เดิมทีผู้ชายผอมแห้งคนนั้นได้ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านซ้ายมือของฉินเฟิงแล้ว ในขณะที่เขากำลังจะลงมือ แต่คิดไม่ถึงว่าภาพตรงหน้าจะมัว ฉินเฟิงมาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของเขาแล้ว

"แย่แล้ว การเคลื่อนไหวของไอ้เด็กคนนี้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ เจอของแข็งเข้าแล้ว" ผู้ชายผอมแห้งคนนั้นคิดในใจ หลังจากนั้นรีบตะโกนใส่กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลัง "จะยืนบื้ออยู่ทำไม ยังไม่รีบเข้ามาช่วยอีก!"

กลุ่มโจรที่เกิดความคิดจะหนีตั้งแต่ในตอนแรกสบตากัน ลังเลอยู่สักพักใหญ่ ในที่สุดก็ตัดสินใจวิ่งเข้ามาล้อมฉินเฟิงไว้ตรงกลาง

ฉินเฟิงใช้หางตาเหลือบมองทุกคนโดยไม่รู้สึกตื่นตระหนก เขาเคยมีประสบการณ์ที่โดนฝูงสัตว์ป่าปิดล้อม ถือว่าพอมีประสบการณ์บ้างแล้ว

และในตอนนั้นเองมีเสียงปังดังสนั่นดังขึ้น เงากระบี่พุ่งชนเข้าใส่วงล้อ

เสียงดังก้องไปทั่ว ฝุ่นควันลอยตลบ

ฉินเฟิงไม่สนใจและไม่หันไปมองผลลัพธ์ ตอนนี้สมาธิของเขาจดจ่ออยู่กับผู้ชายผอมแห้งที่อยู่ตรงหน้า

ส่วนผู้ชายคนนั้นยิ้มอย่างเย็นชาแล้วเคลื่อนไหวทันที ร่างกายของเขากระพริบไปมา

ฉินเฟิงยกเท้าขึ้นก้าวออกไป รวบรวมพลังทั้งหมดเตรียมโจมตีด้วยความเร็วสายฟ้า

"ลิงน้อย ฆ่ามันให้ได้!" มีเสียงตะคอกด้วยความโกรธดังออกมาจากในฝุ่นควัน

ผู้ชายผอมแห้งคนนั้นได้ยินคำพูดประโยคนี้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที การเคลื่อนไหวของเขาเร็วขึ้น และสลับตำแหน่งไปมาไม่หยุด

ส่วนกลุ่มโจรที่เหลือได้เข้ามาปิดล้อมฉินเฟิงไว้ตรงกลางแล้ว

"ฮึ่ม ถึงแม้ว่าแกจะเก่งแค่ไหน แต่สุดท้ายก็เป็นแค่ไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม อีกอย่างฉันไม่เชื่อหรอกว่าแกจะสามารถรับมือกับคนยี่สิบกว่าคนพร้อมกัน" ผู้ชายร่างผอมแห้งที่ชื่อลิงน้อยคิดในใจพร้อมกับยิ้มอย่างเย็นชา

ตั้งแต่เริ่มจนจบสีหน้าของฉินเฟิงดูเฉยเมย หลังจากที่ใช้เคล็ดวิชาก้าวเจ็ดดาวเดินตามตำแหน่งของดวงดาวทั้งเจ็ด ร่างกายของเขาพริ้วไหวไปมาเห็นเพียงแค่เงา เจ็ดดาวสังหาร

เห็นเพียงเขาพุ่งเข้าไปในกลุ่มโจร อาศัยความพริ้วไหวและลึกลับของก้าวเจ็ดดาวแหวกว่ายไปมาพร้อมกับร่ายรำกระบี่ มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"บัดซบ! ฆ่ามัน!"

"ระวัง ไอ้เด็กคนนี้เคลื่อนไหวเร็วมาก!"

"ทุกคนลุยพร้อมกัน! มันมีแค่คนเดียว!"

ทุกคนวิ่งรวมกันเข้าไปทันทีพร้อมกับเสียงร้องตะโกน ศัตรูวิ่งเข้ามาจากทุกสารทิศ ชั่วขณะหรือว่าสามารถทำให้การเคลื่อนไหวของฉินเฟิงช้าลง

เขารีบอาศัยก้าวเจ็ดดาวและการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของตัวเองก้าวออกมาจากวงล้อม

"ฮึ่ม ไอ้หนู คิดจะหนีเหรอ!" แต่ว่าในตอนนั้นเองที่ลิงน้อยปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เขาขวางเส้นทางถอยของฉินเฟิง

ส่วนอีกด้านหนึ่ง ม๋านนิ๋วสามารถฝ่าทำลายพลังทำลายล้างของกระบี่เฉียนจุน เขาพุ่งมาทางนี้พร้อมกับเสียงคำรามด้วยความโกรธ

สถานการณ์ในตอนนี้ถือว่าอันตรายมาก ฉินเฟิงถึงกับหน้าถอดสี เขานึกถึงแหวนวิญญาณปฐวีที่อยู่บนมือซ้ายของตัวเองโดยไม่รู้ตัว แหวนวิญญาณปฐวีเป็นสมบัติเวทมนตร์ระดับหก มีทักษะการป้องกันในรัศมีวงกว้าง เพียงพอที่จะตั้งรับการโจมตีของคนพวกนี้

แต่ว่าในขณะที่เขากำลังคิดแบบนี้ มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากด้านข้าง "เฟิงเอ๋อ ยังคำพูดในตอนที่ฉันให้แหวนกับนายได้หรือเปล่า?"

หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้ ฉินเฟิงล้มเลิกความคิดนั้น เขารู้ดีว่าฉินเสี่ยวชางกำลังให้บททดสอบกับตัวเอง เกรงว่าในอนาคตภารกิจของทหารรับจ้างจะยากยิ่งกว่านี้ ถ้าหากเขาไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ที่คับขันนี้ด้วยตัวเอง คงจะต้องทำให้ฉินเสี่ยวชางผิดหวังมากอย่างแน่นอน

"ทักษะกระบี่ซานชิง คลื่นน้ำพริ้วไหว ขยายไร้ขอบเขต!"

ฉินเฟิงพูดขึ้นอย่างกะทันหัน ยกกระบี่ขึ้นร่ายรำด้วยท่าทางที่แปลกประหลาดและดูพิเศษจนมีคลื่นของกระบี่ที่มองไม่เห็นปั่นป่วนไปทั่ว เหมือนกับระลอกคลื่นที่ขยายเป็นวงกว้างอย่างต่อเนื่อง

"พู่!"

กลุ่มคนที่กำลังปิดล้อมเขาโดนการโจมตีจากคลื่นที่มองไม่เห็นจนกระอักเลือดถอยออกไป

แต่ว่าทั้งหมดยังไม่จบเพียงแค่นั้น พลังทำลายล้างของระลอกคลื่นรุนแรงมากขึ้นจนกลายเป็นคลื่นที่น่าสะพรึงกลัว ถาโถมเข้าไปหาทุกคนที่อยู่โดยรอบราวกับไม่มีวันสิ้นสุด

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

130