บทที่ 6 สอบถามความเป็นมาของไป๋ฉี
by หว่านหลิงเซิง
09:36,Jul 04,2022
“อะไร นายพูดว่าอันหรูอี้ถูกไป๋ฉือคนนั้นช่วยให้มีชีวิตรอดแล้ว?”กู่เฉิงได้ยินทันใดนั้นก็ตกใจมากฟังน้ำเสียงของเขาดูเหมือนเดิมทีอันหรูอี้ก็ไม่ควรมีชีวิตขึ้นมาอย่างนั้น
แม่งเอ๊ย นี่……เป็นไปได้ยังไงกระทั่งแม่ของอันหรูอี้ต่างก็ตัดสินว่าลูกสาวของตัวเองได้ตายแล้ว หล่อนจะถูกคนขอทานคนหนึ่งที่เหมือนคนปัญญาอ่อนช่วยให้มีชีวิตขึ้นมาได้ยังไงล่ะ?
คนเหล่าน้้นที่อยู่โต๊ะด้านข้างต่างก็มองกู่เฉิงอยู่อย่างตกใจมาก
ลูกน้องทางมือถือทางนั้นพูดว่า“ใช่ คุณอันถูกช่วยให้มีชีวิตฟื้นขึ้นมาแล้วจริง ๆ !”
“เอ่อ……อันหรูอี้เวลานี้อยู่ที่ไหน?”กู่เฉิงถาม
ลูกน้องพูด“คุณอันตามแม่กลับบ้านไปแล้ว!”
กู่เฉิงก็นึกปัญหาที่สำคัญหนึ่งขึ้นมาได้อีกทันทีถามว่า“ไป๋ฉือคนนั้นล่ะ?”
ลูกน้องพูดอย่างตะกุกตะกักว่า“เอ่อ……ไป๋ฉือนั่นพูดว่าคุณอันเป็นแฟนสาวของเขาตามหล่อนไปที่บ้านของหล่อนแล้ว!”
“โอเคร ฉันรู้แล้ว!”กู่เฉิงวางสายมือถือด้วยสีหน้าที่ไม่ดีทันที
หน้าแผลเป็นถาม“พี่กู่ สรุปแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
กู่เฉิงทำหน้าขรึมอยู่นานมากเขาถึงได้เอาเรื่องที่เกิดขึ้นพูดออกไป
“แม่ง ไป๋ฉือนั่นก็มีความกล้ามากไปแล้วคิดไม่ถึงว่าจะกล้าแย่งแฟนกับพี่กู่ของพวกเรา นี่ไม่ใช่หาเรื่องตายเหรอ?”หน้าแผลเป็นพูดอย่างใส่ไฟ
นานมากก็ส่งเสียงเย็นชาออกมาจากในปากของกู่เฉิงเสียงหนึ่งว่า“ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ เซี่ยปี้เหอนั่นคือคิดยังไงทำไมเอาไป๋ฉือนั่นกลับไปที่บ้านแล้ว ให้เงินเขาไปสักหน่อยก็ถือว่าให้หน้าเขาแล้ว!”
“พี่กู่ พี่คิดจะจัดการเรื่องนี้?”มีคนถามอีก
กู่เฉิงครุ่นคิดเล็กน้อยพูดว่า“ในเมืองจงไห่ใครต่างก็รู้ว่าอันหรูอี้นั่นเป็นผู้หญิงของฉันถ้าหากให้คนปัญญาอ่อนคนหนึ่งแย่งจากในมือของฉันไปแล้วนี่ไม่เพียงขายหน้าฉันก็จะตบหน้าตระกูลกู่ของฉันอย่างแรง ฮึ เดี๋ยวฉันจะไปบ้านตระกูลอันสักหน่อยในเมื่อหรูอี้ฟื้นมีชีวิตแล้วหล่อนก็คือคนของฉัน!”
……
สามีของเซี่ยปี้เหอตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ทำธุรกิจถึงแม้หลายปีก่อนตายเพราะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์แต่ก็ทิ้งบ้านหรูหลังหนึ่งไว่ให้ลูกและภรรยา สวนใหญ่หน้าประตูบ้านของวิลล่าสามชั้นตกแต่งอย่างสวยงามหรูหราเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมโบราณเห็นได้ชัดว่ามีสไตล์การสร้างของสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงของประเทศจีน
และในเวลานี้ไป๋ฉีได้อาบน้ำแล้วเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าใหม่ที่สามีของเซี่ยปี้เหอทิ้งไว้ตอนยังมีชีวิตอยู่และกำลังนั่งในห้องรับแขกของบ้านตระกูลอันอย่างดูมีสภาพที่ดีชิมชาหอมที่หวังมาชงมาอยู่
เหมือนอย่างที่คำสุภาษิตพูดคนคือแต่งตัวใส่เสื้อผ้าก็สามารถเพิ่มความสวยงาม ไป๋ฉีอาบน้ำใส่เสื้อผ้าอย่างนี้ก็เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคนแล้วในทันทีดูเป็นหนุ่มสดชื่นสบาย ๆ บุคลิกไม่ธรรมดากระทั่งอันหรูอี้ตอนที่มองเขาก็มีความรู้สึกที่ตกใจเล็กน้อย!
“คุณไป๋ คุณสามารถบอกฉันได้ไหมว่าคุณเป็นคนที่ไหน?”เวลานี้เซี่ยปี้เหอที่นั่งอยู่ตรงข้ามไป๋ฉีถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เสียงของเซี่ยปี้เหอไม่ดังซ่อนไปด้วยความมั่นคงที่สะสมมาตามกาลเวลาอ่อนโยนเล็กน้อยฟังแล้วไพเราะมาก
สำหรับในเรื่องที่ลูกสาวถูกช่วยให้ฟื้นมีชีวิตนี้ เซี่ยปี้เหอขอบคุณต่อไป๋ฉีอย่างใจจริงมาก ๆ กระทั่งเขาพูดออกมาเต็มปากว่าลูกสาวเป็นแฟนของเขา ถึงแม้หล่อนฟังขึ้นมาแล้วแปลกมากแต่ก็ไม่สะดวกที่จะพูดอะไรยังไงนี่คือเป็นสิ่งที่หล่อนสัญญาต่อหน้าเขาด้วยตัวเอง
ที่ทำให้หล่อนเป็นห่วงมากที่สุดคือถ้าหากเรื่องที่ลูกสาวถูกช่วยให้ฟื้นมีชีวิตขึ้นมาไปถึงหูของกู่เฉิงแล้วไม่นานเขาจะต้องมาแน่นอนถึงเวลานั้นหล่อนควรจะจัดการกับปัญหานี้ยังไงอีกล่ะ?
ตอนนี้เซี่ยปี้เหออยากที่จะสอบถามความเป็นมาของไป๋ฉีให้เงินเขาสักหน่อยหวังว่าสามารถพูดโน้มน้าวให้เขากลับไปจะได้ไม่ให้กู่เฉิงเจอจัง ๆ กับเขาแล้วประทะกันขึ้นอีก
ต้องรู้ว่าสำหรับพลังของบ้านตระกูลกู่ไม่ใช่คนธรรมดาที่จะสามารถหาเรื่องได้ ถ้าใครหาเรื่องคนของบ้านตระกูลพวกเขาแล้วทำไม่ดีน่าจะกระทั่งตัวเองตายยังไงต่างก็ไม่รู้
พูดจากใจจริงสำหรับเทคนิคการแพทย์ที่น่ามหัศจรรย์นั่นของไป๋ฉี เซี่ยปี้เหอเลื่อมใสจากในใจกระทั่งหล่อนอยากที่จะแนะนำงานในโรงพยาบาลให้เขาแต่หล่อนรู้อีกว่าเขาไม่มีใบรับรองคุณวุฒิทางการแพทย์ใด ๆ เดิมทีก็เป็นไปไม่ได้ อีกทั้งใช้วิธีการจูบมารักษาช่วยคนพูดออกไปนี่ก็แปลกประหลาดมากไปแล้วล่ะ?
หลังฟังคำถามของเซี่ยปี้เหอแล้วไป๋ฉีลูบจมูกแล้วพูดอย่างอาย ๆ เล็กน้อยว่า“คุณน้าเซี่ย ผมเพียงแค่รู้ชื่อของตัวเองเรียกว่าไป๋ฉี คนอื่นก็เรียกผมอีกว่าไป๋ฉือปีนี้อายุยี่สิบสามปีกระทั่งเรื่องอื่น ๆ ผมต่างก็ไม่รู้อะไรจริง ๆ !”
อันหรูอี้ที่นั่งอยู่ด้านข้างถามอย่างแปลกใจว่า“งั้นคุณมาที่เมืองจงไห่ได้ยังไงล่ะ?”
ไป๋ฉีเกาหน้าผากยิ้มพูดว่า“อันนี้เอ่อ……ดูเหมือนผมลอยอยู่ในน้ำก็เหมือนนอนหลับไปอย่างนั้น ตอนที่ตื่นขึ้นมาก็คลานออกมาจากในแม่น่ำขึ้นฝั่งแล้วก็ปรากฏตัวที่พวกคุณที่นี่แล้ว!”
ฟังเขาพูดอย่างนี้เซี่ยปี้เหอและลูกสาวอันหรูอี้สองคนก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน คงจะไม่ใช่มั้งหรือว่าหนุ่มคนนี้จะปัญญาอ่อนจริง ๆ ?
ในความคิดของเซี่ยปี้เหอแม่ลูกสองคนไป๋ฉีที่อยู่ต่อหน้าคนนี้ถึงแม้มีเทคนิคทางการแพทย์ที่มหัศจรรย์แต่ดูจากเรื่องที่เขาพูดมาทั้งหมดเขาก็ดูเหมือนเป็นคนที่ไม่ปกติอีก คนหนึ่งที่โตอย่างนี้แล้วทำไมกระทั่งสถานที่เกิดของตัวเองอีกทั้งมาเมืองจงไห่ได้ยังไงต่างก็พูดไม่ชัดเจนล่ะ
“คุณคงจะไม่ล้อพวกเราเล่นใช่ไหม?”อันหรูอี้ถาม
นึกถึงตัวเองคิดไม่ถึงว่าจะถูกวิธีที่แปลกประหลาดนี้จูบจนฟื้นมีชีวิตแล้ว ใบหน้าสวยของอันหรูอี้อดไม่ได้ที่จะแดงหัวใจเต้นแรงแล้ว
ไป๋ฉีพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง“หรูอี้ คุณเป็นแฟนของผมผมจะล้อเล่นกับพวกคุณได้ยังไงล่ะ ที่ผมพูดทั้งหมดเป็นความจริงทั้งนั้น!”
เซี่ยปี้เหอถามอีก“อิ ๆ งั้นฉันถามคุณ รูปแบบการช่วยคนของคุณนี้เรียนมาจากที่ไหนล่ะ?”
“นี่……”ไป๋ฉีส่ายหน้าอีกพูด“อันนี้ผมก็ไม่ชัดเจนถึงยังไงตอนที่เห็นหรูอี้ในสมองก็มีความคิดหนึ่งออกมา นั่นก็คือผมต้องช่วยหล่อนให้ฟื้นมีชีวิตให้หล่อนเป็นแฟนของผม!”
แม่งเอ๊ย นี่……เป็นไปได้ยังไงกระทั่งแม่ของอันหรูอี้ต่างก็ตัดสินว่าลูกสาวของตัวเองได้ตายแล้ว หล่อนจะถูกคนขอทานคนหนึ่งที่เหมือนคนปัญญาอ่อนช่วยให้มีชีวิตขึ้นมาได้ยังไงล่ะ?
คนเหล่าน้้นที่อยู่โต๊ะด้านข้างต่างก็มองกู่เฉิงอยู่อย่างตกใจมาก
ลูกน้องทางมือถือทางนั้นพูดว่า“ใช่ คุณอันถูกช่วยให้มีชีวิตฟื้นขึ้นมาแล้วจริง ๆ !”
“เอ่อ……อันหรูอี้เวลานี้อยู่ที่ไหน?”กู่เฉิงถาม
ลูกน้องพูด“คุณอันตามแม่กลับบ้านไปแล้ว!”
กู่เฉิงก็นึกปัญหาที่สำคัญหนึ่งขึ้นมาได้อีกทันทีถามว่า“ไป๋ฉือคนนั้นล่ะ?”
ลูกน้องพูดอย่างตะกุกตะกักว่า“เอ่อ……ไป๋ฉือนั่นพูดว่าคุณอันเป็นแฟนสาวของเขาตามหล่อนไปที่บ้านของหล่อนแล้ว!”
“โอเคร ฉันรู้แล้ว!”กู่เฉิงวางสายมือถือด้วยสีหน้าที่ไม่ดีทันที
หน้าแผลเป็นถาม“พี่กู่ สรุปแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
กู่เฉิงทำหน้าขรึมอยู่นานมากเขาถึงได้เอาเรื่องที่เกิดขึ้นพูดออกไป
“แม่ง ไป๋ฉือนั่นก็มีความกล้ามากไปแล้วคิดไม่ถึงว่าจะกล้าแย่งแฟนกับพี่กู่ของพวกเรา นี่ไม่ใช่หาเรื่องตายเหรอ?”หน้าแผลเป็นพูดอย่างใส่ไฟ
นานมากก็ส่งเสียงเย็นชาออกมาจากในปากของกู่เฉิงเสียงหนึ่งว่า“ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ เซี่ยปี้เหอนั่นคือคิดยังไงทำไมเอาไป๋ฉือนั่นกลับไปที่บ้านแล้ว ให้เงินเขาไปสักหน่อยก็ถือว่าให้หน้าเขาแล้ว!”
“พี่กู่ พี่คิดจะจัดการเรื่องนี้?”มีคนถามอีก
กู่เฉิงครุ่นคิดเล็กน้อยพูดว่า“ในเมืองจงไห่ใครต่างก็รู้ว่าอันหรูอี้นั่นเป็นผู้หญิงของฉันถ้าหากให้คนปัญญาอ่อนคนหนึ่งแย่งจากในมือของฉันไปแล้วนี่ไม่เพียงขายหน้าฉันก็จะตบหน้าตระกูลกู่ของฉันอย่างแรง ฮึ เดี๋ยวฉันจะไปบ้านตระกูลอันสักหน่อยในเมื่อหรูอี้ฟื้นมีชีวิตแล้วหล่อนก็คือคนของฉัน!”
……
สามีของเซี่ยปี้เหอตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ทำธุรกิจถึงแม้หลายปีก่อนตายเพราะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์แต่ก็ทิ้งบ้านหรูหลังหนึ่งไว่ให้ลูกและภรรยา สวนใหญ่หน้าประตูบ้านของวิลล่าสามชั้นตกแต่งอย่างสวยงามหรูหราเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมโบราณเห็นได้ชัดว่ามีสไตล์การสร้างของสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงของประเทศจีน
และในเวลานี้ไป๋ฉีได้อาบน้ำแล้วเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าใหม่ที่สามีของเซี่ยปี้เหอทิ้งไว้ตอนยังมีชีวิตอยู่และกำลังนั่งในห้องรับแขกของบ้านตระกูลอันอย่างดูมีสภาพที่ดีชิมชาหอมที่หวังมาชงมาอยู่
เหมือนอย่างที่คำสุภาษิตพูดคนคือแต่งตัวใส่เสื้อผ้าก็สามารถเพิ่มความสวยงาม ไป๋ฉีอาบน้ำใส่เสื้อผ้าอย่างนี้ก็เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคนแล้วในทันทีดูเป็นหนุ่มสดชื่นสบาย ๆ บุคลิกไม่ธรรมดากระทั่งอันหรูอี้ตอนที่มองเขาก็มีความรู้สึกที่ตกใจเล็กน้อย!
“คุณไป๋ คุณสามารถบอกฉันได้ไหมว่าคุณเป็นคนที่ไหน?”เวลานี้เซี่ยปี้เหอที่นั่งอยู่ตรงข้ามไป๋ฉีถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เสียงของเซี่ยปี้เหอไม่ดังซ่อนไปด้วยความมั่นคงที่สะสมมาตามกาลเวลาอ่อนโยนเล็กน้อยฟังแล้วไพเราะมาก
สำหรับในเรื่องที่ลูกสาวถูกช่วยให้ฟื้นมีชีวิตนี้ เซี่ยปี้เหอขอบคุณต่อไป๋ฉีอย่างใจจริงมาก ๆ กระทั่งเขาพูดออกมาเต็มปากว่าลูกสาวเป็นแฟนของเขา ถึงแม้หล่อนฟังขึ้นมาแล้วแปลกมากแต่ก็ไม่สะดวกที่จะพูดอะไรยังไงนี่คือเป็นสิ่งที่หล่อนสัญญาต่อหน้าเขาด้วยตัวเอง
ที่ทำให้หล่อนเป็นห่วงมากที่สุดคือถ้าหากเรื่องที่ลูกสาวถูกช่วยให้ฟื้นมีชีวิตขึ้นมาไปถึงหูของกู่เฉิงแล้วไม่นานเขาจะต้องมาแน่นอนถึงเวลานั้นหล่อนควรจะจัดการกับปัญหานี้ยังไงอีกล่ะ?
ตอนนี้เซี่ยปี้เหออยากที่จะสอบถามความเป็นมาของไป๋ฉีให้เงินเขาสักหน่อยหวังว่าสามารถพูดโน้มน้าวให้เขากลับไปจะได้ไม่ให้กู่เฉิงเจอจัง ๆ กับเขาแล้วประทะกันขึ้นอีก
ต้องรู้ว่าสำหรับพลังของบ้านตระกูลกู่ไม่ใช่คนธรรมดาที่จะสามารถหาเรื่องได้ ถ้าใครหาเรื่องคนของบ้านตระกูลพวกเขาแล้วทำไม่ดีน่าจะกระทั่งตัวเองตายยังไงต่างก็ไม่รู้
พูดจากใจจริงสำหรับเทคนิคการแพทย์ที่น่ามหัศจรรย์นั่นของไป๋ฉี เซี่ยปี้เหอเลื่อมใสจากในใจกระทั่งหล่อนอยากที่จะแนะนำงานในโรงพยาบาลให้เขาแต่หล่อนรู้อีกว่าเขาไม่มีใบรับรองคุณวุฒิทางการแพทย์ใด ๆ เดิมทีก็เป็นไปไม่ได้ อีกทั้งใช้วิธีการจูบมารักษาช่วยคนพูดออกไปนี่ก็แปลกประหลาดมากไปแล้วล่ะ?
หลังฟังคำถามของเซี่ยปี้เหอแล้วไป๋ฉีลูบจมูกแล้วพูดอย่างอาย ๆ เล็กน้อยว่า“คุณน้าเซี่ย ผมเพียงแค่รู้ชื่อของตัวเองเรียกว่าไป๋ฉี คนอื่นก็เรียกผมอีกว่าไป๋ฉือปีนี้อายุยี่สิบสามปีกระทั่งเรื่องอื่น ๆ ผมต่างก็ไม่รู้อะไรจริง ๆ !”
อันหรูอี้ที่นั่งอยู่ด้านข้างถามอย่างแปลกใจว่า“งั้นคุณมาที่เมืองจงไห่ได้ยังไงล่ะ?”
ไป๋ฉีเกาหน้าผากยิ้มพูดว่า“อันนี้เอ่อ……ดูเหมือนผมลอยอยู่ในน้ำก็เหมือนนอนหลับไปอย่างนั้น ตอนที่ตื่นขึ้นมาก็คลานออกมาจากในแม่น่ำขึ้นฝั่งแล้วก็ปรากฏตัวที่พวกคุณที่นี่แล้ว!”
ฟังเขาพูดอย่างนี้เซี่ยปี้เหอและลูกสาวอันหรูอี้สองคนก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน คงจะไม่ใช่มั้งหรือว่าหนุ่มคนนี้จะปัญญาอ่อนจริง ๆ ?
ในความคิดของเซี่ยปี้เหอแม่ลูกสองคนไป๋ฉีที่อยู่ต่อหน้าคนนี้ถึงแม้มีเทคนิคทางการแพทย์ที่มหัศจรรย์แต่ดูจากเรื่องที่เขาพูดมาทั้งหมดเขาก็ดูเหมือนเป็นคนที่ไม่ปกติอีก คนหนึ่งที่โตอย่างนี้แล้วทำไมกระทั่งสถานที่เกิดของตัวเองอีกทั้งมาเมืองจงไห่ได้ยังไงต่างก็พูดไม่ชัดเจนล่ะ
“คุณคงจะไม่ล้อพวกเราเล่นใช่ไหม?”อันหรูอี้ถาม
นึกถึงตัวเองคิดไม่ถึงว่าจะถูกวิธีที่แปลกประหลาดนี้จูบจนฟื้นมีชีวิตแล้ว ใบหน้าสวยของอันหรูอี้อดไม่ได้ที่จะแดงหัวใจเต้นแรงแล้ว
ไป๋ฉีพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง“หรูอี้ คุณเป็นแฟนของผมผมจะล้อเล่นกับพวกคุณได้ยังไงล่ะ ที่ผมพูดทั้งหมดเป็นความจริงทั้งนั้น!”
เซี่ยปี้เหอถามอีก“อิ ๆ งั้นฉันถามคุณ รูปแบบการช่วยคนของคุณนี้เรียนมาจากที่ไหนล่ะ?”
“นี่……”ไป๋ฉีส่ายหน้าอีกพูด“อันนี้ผมก็ไม่ชัดเจนถึงยังไงตอนที่เห็นหรูอี้ในสมองก็มีความคิดหนึ่งออกมา นั่นก็คือผมต้องช่วยหล่อนให้ฟื้นมีชีวิตให้หล่อนเป็นแฟนของผม!”
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved