บทที่ 7 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

ตอนที่เซี่ยปี้เหอแม่ลูกสองคนมองเห็นดวงตาที่สว่างไสวคู่นั้นของไป๋ฉีแล้วพบว่าเดิมทีเขาก็ไม่เหมือนคนพูดโหก

มองเห็นล้วงเรื่องจริงอะไรออกมาไม่ได้จากในตัวของไป๋ฉีแล้วเซี่ยปี้เหอทำได้เพียงพูดเข้าประเด็นหลักว่า“คุณไป๋ หรือว่าคุณอยากที่จะให้ลูกสาวของฉันเป็นแฟนของคุณจริง ๆ ?”

ไป๋ฉีพยักหน้าด้วยใบหน้าที่จริงจังอีกพูดว่า“ใช่ คุณน้าเซี่ยผมอยากให้หรูอี้เป็นแฟนของผมจริง ๆ ผมต้องการให้คนอื่นรู้สาวงามที่ขึ้นแท่นสาวสวยที่เลืองลือในเมืองจงไห่ถูกผมไป๋ฉีแย่งไปได้แล้ว!”

ฟังคำพูดของไป๋ฉีแล้วแม่ลูกสองคนอดไม่ได้ที่จะพูดไม่ออกในทันทีขึ้นมา หรือว่าเขาหาแฟนก็คือเพื่อให้คนอื่นดู?

หลังถูกไป๋ฉีช่วยให้ฟื้นมีชีวิตแล้วที่สวนสาธารณะไว่ทาน อันหรูอี้ได้รู้จากในปากของผู้ที่ล้อมดูเหล่านั้นแล้วเพราะอะไรกู่เฉิงถึงได้ออกจากในเหตุการณ์แล้ว

สำหรับการออกไปของกู่เฉิงในใจของอันหรูอี้โมโหมากอย่างเขาที่เป็นลูกเศรษฐีเล่นไปวัน ๆ ชนิดนั้นหล่อนจะไม่เข้าใจแผนการเล็ก ๆ ที่อยู่ในใจของเขาได้ที่ไหน ก็เพราะเหตุนี้หล่อนก็เย็นชาต่อการกระทำของเขาในทันที

และสำหรับคำพูดของไป๋ฉีที่อยู่ต่อหน้านี้อันหรูอี้ถึงแม้รู้สึกน่าขำเล็กน้อยแต่ก็ไม่ตัดออกไปกลับกันหล่อนยังรู้สึกว่าคนนี้น่าสนุกมาก

แต่กระทั่งเป็นแฟนของไป๋ฉีหล่อนไม่มีความคิดนี้ อีกอย่างสำหรับผู้ชายที่มีประวัติความเป็นมาที่ไม่ชัดเจนอย่างนี้คนหนึ่งหล่อนเดิมทีก็ไม่สามารถจะเป็นแฟนของเขาได้

มองใบหน้าที่มีความกล้าหาญซื่อ ๆ นั่นของไป๋ฉีอยู่ อันหรูอี้พูดยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ว่า“ไป๋ฉี ขอบคุณคุณมาก ๆ ที่มีบุญคุณช่วยชีวิตฉันแต่คุณให้ฉันเป็นแฟนของคุณก็ไม่ใช่ไม่ได้ แต่อันดับแรกฉันต้องทำความเข้าใจคุณก่อนถึงจะได้คุณเข้าใจความหมายของฉันไหม?”

ไป๋ฉีพูด“เข้าใจ ความหมายของคุณคือพวกเราลองคบกันดูก่อนสักพักหนึ่งใช่ไหม?”

อันหรูอี้พูด“ใช่สิ คุณคิดว่าไงล่ะ?”

ไป๋ฉีพูด“ได้สิ ถึงยังไงข้างกายของผมขอแค่มีคุณอยู่ผมก็ดีใจแล้ว!”

แต่เซี่ยปี้เหอที่อยู่ด้านข้างกลับร้อนรนแล้วรีบส่งซิกสายตาไปทางลูกสาวแล้วพูดว่า“หรูอี้ แม่กลัวว่าเรื่องนี้ไปถึงหูของกู่เฉิงที่นั่นจะอธิบายไม่ได้ ถึงเวลานั้นจะหาเรื่องวุ่นวายให้กับคุณไป๋นะ!”

ได้ยินแม่เอ่ยชื่อของกู่เฉิงบนหน้าสวยของอันหรูอี้ก็เหมือนปิดด้วยชั้นน้ำแข็งแล้วทันทีพูดเสียงเยือกเย็นว่า“อย่าพูดถึงคนแซ่กู่คนนั้นกับหนูอีกจากเรื่องนี้หนูถือว่ามองเขาอย่างทะลุปรุโปร่งแล้วอย่างสิ้นเชิง วันหลังหนูจะไม่ไปมาหาสู่กับเขาอีกแล้ว!”

“หรูอี้ เรื่องไม่ได้ง่ายอย่างที่หนูคิดอย่างนั้นหรอก บ้านตระกูลกู่นั่นไม่ใช่ใครที่จะสามารถหาเรื่องได้นะ……”

ยังไม่รอให้เซี่ยปี้เหอพูดจบไป๋ฉีก็พูดแทรกว่า“คุณน้าเซี่ย ในเมื่อหรูอี้ไม่อยากไปมาหาสู่กับคนแซ่กู่แล้วคุณก็อย่าขัดขวางหล่อนเลย บ้านตระกูลกู่มาหาถึงที่จริง ๆ มีผมค้ำไว้อยู่!”

ฟังคำพูดของไป๋ฉีแล้วเซี่ยปี้เหอแอบถอนใจเฮือกหนึ่ง บ้านตระกูลกู่นี้คือสร้างตระกูลจากสังคมมืดขึ้นมาในเมืองจงไห่พลังแข็งแกร่งพลังทรัพย์มากมาย พ่อของกู่เฉิงคือกู่ป้าเทียนยิ่งมีชื่อเสียงในเรื่องจิตใจโหดร้ายลงมือโหดเหี้ยมแถบนี้แทบจะไม่มีใครกล้าล่วงเกินบ้านตระกูลกู่อาศัยคุณสามารถรับมือไหวเหรอ?

เซี่ยปี้เหอจะรู้ที่ไหนวันนี้ตอนที่ไป๋ฉีช่วยลูกสาวของหล่อนนั้นเดิมทีเขามีวิธีอื่นแต่เขาตั้งใจใช้รูปแบบของการจูบ เป้าหมายก็คือให้คนอื่นเอาเรื่องนี้กระจายออกไปให้กู่เฉิงโกรธ

หลังนับจากแสงสีแดงนั่นเข้าร่างกายนอกจากหลังร่างกายของไป๋ฉีเกิดการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดกระทั่งนิสัยก็เปลี่ยนไปอย่างชั่วร้ายแล้ว วันนี้ตอนกลางวันเผชิญหน้ากับท่าทางที่หยิ่งผยองนั่นของกู่เฉิงแล้วเขาก็ไม่ชอบนานแล้ว

ด้วยเหตุนี้ไป๋ฉีมีความต้องการจะท้าทายกับกู่เฉิง เป้าหมายก็คืออยากที่จะหลอกล่อให้เขามาติดกับดักสู้กับเขาหน่อย

“พอแล้ว พวกเธอคุยไปก่อนแล้วกัน ฉันกับหวังมาไปทำอาหารในครัวแล้ว!”ดูเวลาก็สายแล้วเซี่ยปี้เหอเข้าในห้องครัวอย่างหนักใจแล้ว

ถึงแม้ไป๋ฉีช่วยลูกสาวของตัวเองให้ฟื้นมีชีวิตแล้วมีบุญคุณยิ่งใหญ่ แต่ให้เซี่ยปี้เหอกลัดกลุ้มใจคือตอนนี้จะให้เขาออกไปได้ยังไงให้หล่อนปวดหัวก็คือหมอนี่คิดไม่ถึงว่ากระทั่งบ้านของตัวเองสรุปแล้วอยู่ที่ไหนต่างก็พูดไม่ชัดเจน

เซี่ยปี้เหอไม่ใช่คนที่ลืมบุญคุณคนชนิดนั้นแน่นอน ปัญหาคือบ้านตระกลกู่นี้หาเรื่องไม้ได้จริง ๆ บ้านตระกูลกู่มาหาถึงที่จริง ๆ หล่อนและลูกสาวกลับหาข้ออ้างไม่รับผิดชอบได้ง่าย ๆ แต่สำหรับไป๋ฉีแล้วเป็นภัยวิบัติหนึ่งแน่นอน

ไป๋ฉีพูดออกมาเต็มปากว่าต้องการให้อันหรูอี้เป็นแฟนของเขาสำหรับนิสัยของกู่เฉิงชนิดนั้นเขาจะไม่ปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน

ไม่นานเซี่ยปี้เหอก็เอาอาหารยกมาวางบนโต๊ะเวลานี้ไป๋ฉีกำลังหิวพอดี ไม่ต้องเชิญก็เดินมานั่งข้างโต๊ะอาหารแล้วถือถ้วยข้าวกินอย่างรีบร้อนขึ้นมา

กินไปด้วยไป๋ฉีก็พูดชมไปด้วยว่า“คุณน้าเซี่ย หวังมา พวกคุณทำอาหารได้อร่อยจริง ๆ ตั้งแต่เด็กจนโตผมไม่เคยได้ลิ้มลองรสชาติที่ดีอย่างนี้เลย!”

“ในเมื่ออร่อยงั้นคุณก็กินให้มาก ๆ สักหน่อยสิ!”อันหรูอี้ใช้ตะเกียบคีบอาหารให้ไป๋ฉีอย่างต่อเนื่อง

มองเห็นฉากนี้เซี่ยปี้เหอก็ไม่กล้าเชื่อตาของตัวเองเล็กน้อย ไม่มีใครเข้าใจลูกสาวมากกว่าตัวเองลูกสาวที่ตัวเองเลี้ยงดูมาหล่อนรู้ว่าอันหรูอี้ตั้งแต่ไหนมาเป็นคนที่เย่อหยิ่งสายตาแหลมคม วันนี้นี่เพิ่งรู้จักกับไป๋ฉีหล่อนทำไมกระตือรือร้นต่อเขาอย่างนั้น?

ความกระตือรือร้นนี้เหมือนจะมากไปหน่อยแล้วนี่ก็ไม่เหมือนสไตล์ลูกสาวที่เป็นเวลาปกติ

หรือว่านี่เพียงแค่เพราะบุญคุณที่ไป๋ฉีช่วยชีวิต?แต่ดูไปแล้วก็ไม่เหมือนนะ!

ปัง ๆ ๆ ……

กำลังกินข้าวอยู่ก็มีเสียงเคาะประตูส่งมาจากด้านนอกประตูสวน เซี่ยปี้เหอตะลึงพูดต่อหวังมาว่า“หวังมา คุณดูหน่อยใครมาแล้วไปเปิดประตูหน่อย!”

หวังมาออกไปไม่นานก็พาชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาในบ้านแล้ว คนนี้ก็คือกู่เฉิงเพียงเห็นในมือของเขาถือช่อดอกไม้สดมาเดินมาถึงด้านหน้าอันหรูอี้แล้วด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม……

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

71