บทที่ 9 เพียงพอหรือยัง?
by อี้เป่ยปาเปาชา
10:08,Dec 02,2021
ชายหนุ่มชุดสูทที่ขาหักทั้งสองข้าง "ตุ้มตั้ม"เสียงคุกเข่าดังขึ้น มือทั้งคู่ห้อยลงโดยไม่มีแรง ใบหน้าที่ยิ้มจางๆของเขาหายไปตั้งนานแล้ว กลายเป็นความตื่นตระหนก บนหน้าผากของเขา มีเหงื่อเย็นไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง
จางซวนสังเกตเห็นด้านหลังของชายในชุดสูท มีรอยสักตื้นๆ
จางซวนขมวดคิ้ว "นักฆ่าแห่งยามราตรี? ใครเป็นคนส่งแกมา"
เมื่อชายในชุดสูทได้ยินจางซวนพูดคำว่ายามราตรี กลืนน้ำลายอย่างแรงหนึ่งที มีคนน้อยอย่างมากที่สามารถพูดชื่อขององค์กรนี้ออกมาได้
"คาดไม่ถึงว่าแกรู้จักยามราตรีด้วย!"ชายชุดสูทเบิกตากว้างทั้งคู่
"ลึกลับมากเลยเหรอ?" จางซวนถามหนึ่งประโยค "พูดมา ใครเป็นคนส่งแกมา ฉันสามารถเหลือศพของแกไว้อย่างสมบูรณ์"
"ฮ่า ฮ่าๆๆ!" ชายหนุ่มชุดสูทสูดลมหายใจ หัวเราะเสียงดัง "ในเมื่อแกรู้จักยามราตรี อย่างนั้นก็น่าจะเข้าใจ นักฆ่าแห่งยามราตรีอย่างพวกเรา ต่อให้ต้องตาย ล้วนแล้วไม่เคยเปิดเผยตัวตนของนายจ้าง"
จางซวนเอียงศีรษะและคิดเป็นเวลาสองวินาที จากนั้นเปิดปากพูด "ก็ถูก กฎยังคงต้องปฏิบัติตาม ดูรอยสักที่หลังคอของแก น่าจะเป็นหนึ่งในสิบสามคนของบุตรแห่งยามราตรีใช่ไหม? ได้ยินมาว่าพี่น้องสิบสามคนแห่งยามราตรีรักกันมากใช่ไหม ตอนนี้ฉันจะให้แกหนึ่งทางเลือก หรือไม่ก็ละเมิดกฎองค์กรของพวกแกสะ บอกมาว่าใครเป็นคนว่าจ้าง หรือไม่ก็ฉันจะไปฆ่าพี่น้องอีกสิบสองคนที่เหลือของแกสะ"
"บ้าระห่ำ!" ชายหนุ่มชุดสูทคุกเข่าอยู่บนพื้น "ฉันยอมรับ แกร้ายกาจอย่างมาก ฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแกเลยด้วยซ้ำ แต่แกคิดจริงๆเหรอว่าแกสามารถลงมือกับพี่น้องสิบสามคนแห่งยามราตรีได้? บนโลกใบนี้ จะมีสักกี่คนที่กล้าพูดคำพูดแบบนี้ออกมา?"
"ใช่มีไม่มาก แต่ฉันเป็นหนึ่งในนั้น" จางซวนพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบอย่างมาก
"แกเอาความมั่นใจมาจากไหน? ก็แค่แกสามารถเอาชนะฉันได้เหรอ?" ชายหนุ่มชุดสูทหัวเราะอย่างเย็นชา
"เอามาจากตรงนี้ไง" จางซวนหยิบของจากกระเป๋ากางเกงชายหาดของตัวเอง หยิบแหวนทองเข้มออกมาหนึ่งวง เลิกคิ้วเบาๆ "เพียงพอหรือยัง?"
ทันทีที่มองเห็นแหวนวงนี้ รูม่านตาของชายในชุดสูทหดเกร็ง เสียงพูดของเขาล้วนแล้วกำลังสั่น
"แหวน.....แหวนศักดิ์สิทธิ์! เป็นแก! เป็นแก! คาดไม่ถึงว่าจะเป็นแก!"
ร่างกายของชายหนุ่มชุดสูท ล้วนแล้วสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าเขาเพิ่งพูดถึงความตาย ล้วนแล้วไม่มีการแสดงท่าทางแบบนี้ออกมา
"เป็นยังไง ตอนนี้เชื่อหรือยัง?" จางซวนใส่แหวนกลับเข้าไปในกระเป๋ากางเกง มองดูชายหนุ่มชุดสูท
"คิดไม่ถึงเลย ว่าฉันจะโชคดีแบบนี้ ต่อสู้กับซาตานในตำนาน ฮ่าๆๆๆ! เยี่ยม ฉันสามารถบอกแกได้ว่าใครเป็นคนว่าจ้าง แต่แกต้องสัญญา แกจะไม่มีการลงมือกับพี่น้องของฉัน"
"แกไม่มีสิทธิ์คุยเงื่อนไขกับฉัน!" เสียงของจางซวนเต็มไปด้วยความเยือกเย็น "สามวินาที บอกฉันมาว่าใครเป็นคนว่าจ้าง หลังจากนั้นตาย"
ชายหนุ่มชุดสูดหัวเราะหนึ่งที "คนว่าจางมีนามสกุลซู เป็นคนเมืองเหยี่ยนจิง"
พูดจบ ชายในชุดสูทขยี้ยาพิษที่ซ่อนอยู่หลังฟัน ตำดำพลิกขึ้น คนทั้งตัวล้มไปข้างหน้า ล้มลงต่อหน้าจางซวน
"นามสกุลซู? เป็นคนเมืองเหยี่ยนจิง?" จางซวนไม่มองชายชุดสูทที่ตายไปด้วยซ้ำ บ่นพึมพำ หลังจากนั้นส่งข้อความ
จางซวนลากศพนี้ขึ้น ออกไปทางประตูทิศเหนือของห้องนั่งเล่น มาที่สวนหลังบ้าน โบกมือในอากาศ มีเงาสีดำร่างหนึ่งโผล่ออกมา แบกศพขึ้น ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว หายตัวไปอีกครั้ง
จางซวนกลับมาที่ห้องนั่งเล่น ยืนยันสักพัก ภายในบ้านไม่มีการทิ้งร่องรอยของการต่อสู้อะไร จากนั้นค่อยเดินไปที่ทางเข้าหลักทางทิศใต้ของห้องนั่งเล่น หลินชิงฮั่นและเจียงจิ้งก็เดินเข้ามาทางประตูพอดี
ใบหน้าสวยของหลินชิงฮั่น เต็มไปด้วยความเยือกเย็น รูปลักษณ์ที่ขี้ขลาดของจางซวนในเมื่อกี้ เธอมองเห็นได้อย่างชัดเจน
"แหะแหะ ประธานหลิน น้ำชาเตรียมเอาไว้ให้คุณแล้ว รีบดื่มได้แล้ว" จางซวนนำถ้วยชาที่ชงมาให้หลินชิงฮั่นหนึ่งแก้ว
หลินชิงฮั่นเหลือบมองจางซวนอย่างเย็นชา ไม่พูดอะไรเลยด้วยซ้ำ และไม่รับน้ำชาที่เขายื่นมาให้ เธอกับจางซวนไม่มีอะไรที่ต้องพูดกันอีกแล้ว เรื่องของวันนี้ ทำให้เธอตัดสินใจแล้ว โทรศัพท์หาพ่อของตัวเองทันที ให้คนๆนี้ไสหัวออกไปสะ!
เจียงจิ้งมองดูจางซวนด้วยสายตาแห่งความรังเกียจบางอย่าง เป็นถึงผู้ชายคนหนึ่ง ช่วงเวลาที่ภรรยาของตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย วิ่งหนีก่อนเหรอ?
เมื่อจางซวนเห็นว่าหลินชิงฮั่นอารมณ์ไม่ดี หัวเราะอย่างสั่นๆแล้วกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง เขาโทรศัพท์หาชายหนุ่มรูปหล่อ บอกกับชายหนุ่มรูปหล่อว่า ให้เขาไปตรวจสอบคนที่มีนามสกุลซูทั้งหมดออกมา!
หลังจากที่จางซวนจัดการเรื่องเหล่านี้เสร็จแล้ว เจียงจิ้งก็มีการตรวจสอบวิลล่าหนึ่งรอบเช่นกัน สิ่งที่ทำให้หลินชิงฮั่นอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อยคือ ไม่มีการติดตั้งเครื่องดักฟังอะไรพวกนี้เลย
อันที่จริงแล้ว ของเหล่านี้ หนึ่งเดือนก่อนหน้า ถูกจางซวนจัดการไปตั้งนานแล้ว
หลินชิงฮั่นนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น ยิ่งนึกถึงท่าทางของจางซวนในเมื่อกี้ ภายในใจยิ่งรู้สึกหงุดหงิด เมื่อกี้เธอเตรียมโทรศัพท์หาพ่อของตัวเอง บอกพ่อเกี่ยวกับท่าทางที่มีความขี้ขลาดของจางซวนในเมื่อกี้ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นแล้ว เป็นพ่อของเธอโทรเข้ามา
"ชิงฮั่นเอ๊ย ตอนนี้เธอกับจางซวนช่วยมาที่ตี๋เซิ่งเท่อหนึ่งรอบ ก็คือร้านอาหารฝรั่งเศสที่เพิ่งเปิดใหม่ร้านนั้น เจิ้งฉู่เด็กคนนี้กลับมาจากที่อื่นแล้ว ลุงเจิ้งและน้าเจิ้งล้วนแล้วมีการเชิญพวกเธอมาด้วยนะ"
หลินชิงฮั่นได้ยินคำพูดของพ่อจากทางโทรศัพท์ กลืนคำพูดที่ต้องการให้จางซวนไสหัวออกไปลงไป ถ้าหากพูดออกไป หลินชิงฮั่นมีความไม่พอใจนับร้อยครั้งกับจางซวน อย่างนั้นเธอกับเจิ้งฉู่คนนั้น คงมีความไม่พอใจนับพันครั้งแล้ว!
ตระกูลเจิ้งและตระกูลหลินเป็นเพื่อนกันในครอบครัว รูปลักษณ์ที่โดดเด่นของหลินชิงฮั่น แต่หลินชิงฮั่นมันทัศนคติต่อเจิ้งฉู่ นั่นก็คือไม่มีความสนใจอะไรเลย นี่คือสิ่งที่บรรพบุรุษทำให้คนรุ่นที่สองมีนิสัยเสีย ตั้งแต่ที่หลินชิงฮั่นรู้ว่า ตอนที่เจิ้งฉู่อายุสิบห้าปีเคยมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับครูฝึกสอนที่มาสอนที่บ้าน ตอนที่เป็นนักศึกษา เจิ้งฉู่มีอะไรกับคนอื่นจนท้อง ขับไล่คนอื่นทิ้งโดยตรง หลังจากนั้นชีวิตในอนาคตมีความวุ่นวายอย่างมาก
สิ่งเหล่านี้ พ่อแม่ของเจิ้งฉู่ไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่เห็นหลินชิงฮั่น พวกเขายังกล่าวอีกว่าทั้งสองครอบครัวจะกลายเป็นคู่ครองในอนาคต
ทันทีที่หลินชิงฮั่นได้ยินเจิ้งฉู่และพ่อแม่ของเขา ล้วนแล้วรู้ว่าพวกเขาจะทำอะไร
ระหว่างจางซวนและเจิ้งฉู่ เห็นได้ชัดว่าหลินชิงฮั่นยอมรับจางซวนได้มากกว่า แม้ว่าคนจะมีความขี้ขลาดนิดหน่อย ไร้ค่านิดหน่อย แต่อย่างน้อยๆเรื่องที่ทำ ไม่ทำให้คนรู้สึกอยากจะอ้วก
ร้านอาหารฝรั่งเศสตี๋เซิ่งเท่อเรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหยินโจวในปีที่ผ่านมา รสชาติที่มีความดั้งเดิม ให้คนสัมผัสถึงลักษณะของสไตล์อีนาเมลแบบล้ำลึกที่สุด ร้านอาหารเต็มไปด้วยสไตล์อีนาเมลตั้งแต่สไตล์การตกแต่งไปจนถึงพนักงานบริการ
หลินชิงฮั่นสุ่มเลือกซูเปอร์คาร์ที่อยู่ตรงลานบ้านหนึ่งคัน พาจางซวนมาถึงที่นี่
ทันทีที่ลงรถ จางซวนยังไม่ทันพูดอะไรออกมา ก็รู้สึกได้ถึงแขนที่ขาวราวกับหิมะข้างหนึ่งกอดแขนของตัวเองเอาไว้ เมื่อเห็นหลินชิงฮั่นยืนอยู่ข้างตัวเองด้วยรูปลักษณ์ที่อ่อนโยน ไม่เห็นความเย็นชาตอนอยู่ที่บ้านทั้งหมด เพียงแค่ดูการเคลื่อนไหวและการแสดงออกของหลินชิงฮั่นในเวลานี้ มันทำให้คนคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ในอ้อมแขนของสามีจริงๆ
จางซวนยื่นมือออกไปโดยสัญชาตญาณ กอดเอวหลินชิงฮั่น ทันทีที่สัมผัสโดน สัมผัสได้ถึงความเรียวและนุ่มละมุน
ร่างกายของหลินชิงฮั่นสั่นเล็กน้อย รอยยิ้มบนใบหน้าที่ไม่เป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง "เอามือของนายออกไป"
"อ้อ" จางซวนจับจมูก เอามือใหญ่ออกจากเอวของหลินชิงฮั่นอย่างเชื่อฟัง
หลินชิงฮั่นเหลือบมองจางซวนหนึ่งที แม้ว่าบนใบหน้าจะยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่ในคำพูดยังคงมีความเย็นชา "อีกสักพักเข้าไปแล้วไม่ต้องพูดอะไรมาก นายกับฉันพยายามแสดงให้รักกันหน่อย ตอนที่สั่งอาหารฉันถามนายต้องการอะไร นายแค่พูดว่าให้ฉันตัดสินใจก็พอแล้ว เข้าใจไหม?"
จางซวนพยักหน้า ยกมือขึ้นหนึ่งข้าง "รับประกันว่างานที่ประธานหลินมอบหมายสำเร็จแน่นอน!"
จางซวนสังเกตเห็นด้านหลังของชายในชุดสูท มีรอยสักตื้นๆ
จางซวนขมวดคิ้ว "นักฆ่าแห่งยามราตรี? ใครเป็นคนส่งแกมา"
เมื่อชายในชุดสูทได้ยินจางซวนพูดคำว่ายามราตรี กลืนน้ำลายอย่างแรงหนึ่งที มีคนน้อยอย่างมากที่สามารถพูดชื่อขององค์กรนี้ออกมาได้
"คาดไม่ถึงว่าแกรู้จักยามราตรีด้วย!"ชายชุดสูทเบิกตากว้างทั้งคู่
"ลึกลับมากเลยเหรอ?" จางซวนถามหนึ่งประโยค "พูดมา ใครเป็นคนส่งแกมา ฉันสามารถเหลือศพของแกไว้อย่างสมบูรณ์"
"ฮ่า ฮ่าๆๆ!" ชายหนุ่มชุดสูทสูดลมหายใจ หัวเราะเสียงดัง "ในเมื่อแกรู้จักยามราตรี อย่างนั้นก็น่าจะเข้าใจ นักฆ่าแห่งยามราตรีอย่างพวกเรา ต่อให้ต้องตาย ล้วนแล้วไม่เคยเปิดเผยตัวตนของนายจ้าง"
จางซวนเอียงศีรษะและคิดเป็นเวลาสองวินาที จากนั้นเปิดปากพูด "ก็ถูก กฎยังคงต้องปฏิบัติตาม ดูรอยสักที่หลังคอของแก น่าจะเป็นหนึ่งในสิบสามคนของบุตรแห่งยามราตรีใช่ไหม? ได้ยินมาว่าพี่น้องสิบสามคนแห่งยามราตรีรักกันมากใช่ไหม ตอนนี้ฉันจะให้แกหนึ่งทางเลือก หรือไม่ก็ละเมิดกฎองค์กรของพวกแกสะ บอกมาว่าใครเป็นคนว่าจ้าง หรือไม่ก็ฉันจะไปฆ่าพี่น้องอีกสิบสองคนที่เหลือของแกสะ"
"บ้าระห่ำ!" ชายหนุ่มชุดสูทคุกเข่าอยู่บนพื้น "ฉันยอมรับ แกร้ายกาจอย่างมาก ฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแกเลยด้วยซ้ำ แต่แกคิดจริงๆเหรอว่าแกสามารถลงมือกับพี่น้องสิบสามคนแห่งยามราตรีได้? บนโลกใบนี้ จะมีสักกี่คนที่กล้าพูดคำพูดแบบนี้ออกมา?"
"ใช่มีไม่มาก แต่ฉันเป็นหนึ่งในนั้น" จางซวนพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบอย่างมาก
"แกเอาความมั่นใจมาจากไหน? ก็แค่แกสามารถเอาชนะฉันได้เหรอ?" ชายหนุ่มชุดสูทหัวเราะอย่างเย็นชา
"เอามาจากตรงนี้ไง" จางซวนหยิบของจากกระเป๋ากางเกงชายหาดของตัวเอง หยิบแหวนทองเข้มออกมาหนึ่งวง เลิกคิ้วเบาๆ "เพียงพอหรือยัง?"
ทันทีที่มองเห็นแหวนวงนี้ รูม่านตาของชายในชุดสูทหดเกร็ง เสียงพูดของเขาล้วนแล้วกำลังสั่น
"แหวน.....แหวนศักดิ์สิทธิ์! เป็นแก! เป็นแก! คาดไม่ถึงว่าจะเป็นแก!"
ร่างกายของชายหนุ่มชุดสูท ล้วนแล้วสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าเขาเพิ่งพูดถึงความตาย ล้วนแล้วไม่มีการแสดงท่าทางแบบนี้ออกมา
"เป็นยังไง ตอนนี้เชื่อหรือยัง?" จางซวนใส่แหวนกลับเข้าไปในกระเป๋ากางเกง มองดูชายหนุ่มชุดสูท
"คิดไม่ถึงเลย ว่าฉันจะโชคดีแบบนี้ ต่อสู้กับซาตานในตำนาน ฮ่าๆๆๆ! เยี่ยม ฉันสามารถบอกแกได้ว่าใครเป็นคนว่าจ้าง แต่แกต้องสัญญา แกจะไม่มีการลงมือกับพี่น้องของฉัน"
"แกไม่มีสิทธิ์คุยเงื่อนไขกับฉัน!" เสียงของจางซวนเต็มไปด้วยความเยือกเย็น "สามวินาที บอกฉันมาว่าใครเป็นคนว่าจ้าง หลังจากนั้นตาย"
ชายหนุ่มชุดสูดหัวเราะหนึ่งที "คนว่าจางมีนามสกุลซู เป็นคนเมืองเหยี่ยนจิง"
พูดจบ ชายในชุดสูทขยี้ยาพิษที่ซ่อนอยู่หลังฟัน ตำดำพลิกขึ้น คนทั้งตัวล้มไปข้างหน้า ล้มลงต่อหน้าจางซวน
"นามสกุลซู? เป็นคนเมืองเหยี่ยนจิง?" จางซวนไม่มองชายชุดสูทที่ตายไปด้วยซ้ำ บ่นพึมพำ หลังจากนั้นส่งข้อความ
จางซวนลากศพนี้ขึ้น ออกไปทางประตูทิศเหนือของห้องนั่งเล่น มาที่สวนหลังบ้าน โบกมือในอากาศ มีเงาสีดำร่างหนึ่งโผล่ออกมา แบกศพขึ้น ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว หายตัวไปอีกครั้ง
จางซวนกลับมาที่ห้องนั่งเล่น ยืนยันสักพัก ภายในบ้านไม่มีการทิ้งร่องรอยของการต่อสู้อะไร จากนั้นค่อยเดินไปที่ทางเข้าหลักทางทิศใต้ของห้องนั่งเล่น หลินชิงฮั่นและเจียงจิ้งก็เดินเข้ามาทางประตูพอดี
ใบหน้าสวยของหลินชิงฮั่น เต็มไปด้วยความเยือกเย็น รูปลักษณ์ที่ขี้ขลาดของจางซวนในเมื่อกี้ เธอมองเห็นได้อย่างชัดเจน
"แหะแหะ ประธานหลิน น้ำชาเตรียมเอาไว้ให้คุณแล้ว รีบดื่มได้แล้ว" จางซวนนำถ้วยชาที่ชงมาให้หลินชิงฮั่นหนึ่งแก้ว
หลินชิงฮั่นเหลือบมองจางซวนอย่างเย็นชา ไม่พูดอะไรเลยด้วยซ้ำ และไม่รับน้ำชาที่เขายื่นมาให้ เธอกับจางซวนไม่มีอะไรที่ต้องพูดกันอีกแล้ว เรื่องของวันนี้ ทำให้เธอตัดสินใจแล้ว โทรศัพท์หาพ่อของตัวเองทันที ให้คนๆนี้ไสหัวออกไปสะ!
เจียงจิ้งมองดูจางซวนด้วยสายตาแห่งความรังเกียจบางอย่าง เป็นถึงผู้ชายคนหนึ่ง ช่วงเวลาที่ภรรยาของตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย วิ่งหนีก่อนเหรอ?
เมื่อจางซวนเห็นว่าหลินชิงฮั่นอารมณ์ไม่ดี หัวเราะอย่างสั่นๆแล้วกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง เขาโทรศัพท์หาชายหนุ่มรูปหล่อ บอกกับชายหนุ่มรูปหล่อว่า ให้เขาไปตรวจสอบคนที่มีนามสกุลซูทั้งหมดออกมา!
หลังจากที่จางซวนจัดการเรื่องเหล่านี้เสร็จแล้ว เจียงจิ้งก็มีการตรวจสอบวิลล่าหนึ่งรอบเช่นกัน สิ่งที่ทำให้หลินชิงฮั่นอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อยคือ ไม่มีการติดตั้งเครื่องดักฟังอะไรพวกนี้เลย
อันที่จริงแล้ว ของเหล่านี้ หนึ่งเดือนก่อนหน้า ถูกจางซวนจัดการไปตั้งนานแล้ว
หลินชิงฮั่นนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น ยิ่งนึกถึงท่าทางของจางซวนในเมื่อกี้ ภายในใจยิ่งรู้สึกหงุดหงิด เมื่อกี้เธอเตรียมโทรศัพท์หาพ่อของตัวเอง บอกพ่อเกี่ยวกับท่าทางที่มีความขี้ขลาดของจางซวนในเมื่อกี้ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นแล้ว เป็นพ่อของเธอโทรเข้ามา
"ชิงฮั่นเอ๊ย ตอนนี้เธอกับจางซวนช่วยมาที่ตี๋เซิ่งเท่อหนึ่งรอบ ก็คือร้านอาหารฝรั่งเศสที่เพิ่งเปิดใหม่ร้านนั้น เจิ้งฉู่เด็กคนนี้กลับมาจากที่อื่นแล้ว ลุงเจิ้งและน้าเจิ้งล้วนแล้วมีการเชิญพวกเธอมาด้วยนะ"
หลินชิงฮั่นได้ยินคำพูดของพ่อจากทางโทรศัพท์ กลืนคำพูดที่ต้องการให้จางซวนไสหัวออกไปลงไป ถ้าหากพูดออกไป หลินชิงฮั่นมีความไม่พอใจนับร้อยครั้งกับจางซวน อย่างนั้นเธอกับเจิ้งฉู่คนนั้น คงมีความไม่พอใจนับพันครั้งแล้ว!
ตระกูลเจิ้งและตระกูลหลินเป็นเพื่อนกันในครอบครัว รูปลักษณ์ที่โดดเด่นของหลินชิงฮั่น แต่หลินชิงฮั่นมันทัศนคติต่อเจิ้งฉู่ นั่นก็คือไม่มีความสนใจอะไรเลย นี่คือสิ่งที่บรรพบุรุษทำให้คนรุ่นที่สองมีนิสัยเสีย ตั้งแต่ที่หลินชิงฮั่นรู้ว่า ตอนที่เจิ้งฉู่อายุสิบห้าปีเคยมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับครูฝึกสอนที่มาสอนที่บ้าน ตอนที่เป็นนักศึกษา เจิ้งฉู่มีอะไรกับคนอื่นจนท้อง ขับไล่คนอื่นทิ้งโดยตรง หลังจากนั้นชีวิตในอนาคตมีความวุ่นวายอย่างมาก
สิ่งเหล่านี้ พ่อแม่ของเจิ้งฉู่ไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่เห็นหลินชิงฮั่น พวกเขายังกล่าวอีกว่าทั้งสองครอบครัวจะกลายเป็นคู่ครองในอนาคต
ทันทีที่หลินชิงฮั่นได้ยินเจิ้งฉู่และพ่อแม่ของเขา ล้วนแล้วรู้ว่าพวกเขาจะทำอะไร
ระหว่างจางซวนและเจิ้งฉู่ เห็นได้ชัดว่าหลินชิงฮั่นยอมรับจางซวนได้มากกว่า แม้ว่าคนจะมีความขี้ขลาดนิดหน่อย ไร้ค่านิดหน่อย แต่อย่างน้อยๆเรื่องที่ทำ ไม่ทำให้คนรู้สึกอยากจะอ้วก
ร้านอาหารฝรั่งเศสตี๋เซิ่งเท่อเรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหยินโจวในปีที่ผ่านมา รสชาติที่มีความดั้งเดิม ให้คนสัมผัสถึงลักษณะของสไตล์อีนาเมลแบบล้ำลึกที่สุด ร้านอาหารเต็มไปด้วยสไตล์อีนาเมลตั้งแต่สไตล์การตกแต่งไปจนถึงพนักงานบริการ
หลินชิงฮั่นสุ่มเลือกซูเปอร์คาร์ที่อยู่ตรงลานบ้านหนึ่งคัน พาจางซวนมาถึงที่นี่
ทันทีที่ลงรถ จางซวนยังไม่ทันพูดอะไรออกมา ก็รู้สึกได้ถึงแขนที่ขาวราวกับหิมะข้างหนึ่งกอดแขนของตัวเองเอาไว้ เมื่อเห็นหลินชิงฮั่นยืนอยู่ข้างตัวเองด้วยรูปลักษณ์ที่อ่อนโยน ไม่เห็นความเย็นชาตอนอยู่ที่บ้านทั้งหมด เพียงแค่ดูการเคลื่อนไหวและการแสดงออกของหลินชิงฮั่นในเวลานี้ มันทำให้คนคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ในอ้อมแขนของสามีจริงๆ
จางซวนยื่นมือออกไปโดยสัญชาตญาณ กอดเอวหลินชิงฮั่น ทันทีที่สัมผัสโดน สัมผัสได้ถึงความเรียวและนุ่มละมุน
ร่างกายของหลินชิงฮั่นสั่นเล็กน้อย รอยยิ้มบนใบหน้าที่ไม่เป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง "เอามือของนายออกไป"
"อ้อ" จางซวนจับจมูก เอามือใหญ่ออกจากเอวของหลินชิงฮั่นอย่างเชื่อฟัง
หลินชิงฮั่นเหลือบมองจางซวนหนึ่งที แม้ว่าบนใบหน้าจะยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่ในคำพูดยังคงมีความเย็นชา "อีกสักพักเข้าไปแล้วไม่ต้องพูดอะไรมาก นายกับฉันพยายามแสดงให้รักกันหน่อย ตอนที่สั่งอาหารฉันถามนายต้องการอะไร นายแค่พูดว่าให้ฉันตัดสินใจก็พอแล้ว เข้าใจไหม?"
จางซวนพยักหน้า ยกมือขึ้นหนึ่งข้าง "รับประกันว่างานที่ประธานหลินมอบหมายสำเร็จแน่นอน!"
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved