บทที่ 15 ห้ามเผยพิรุธ
by อี้เป่ยปาเปาชา
10:10,Dec 02,2021
เดิมทีใบหน้าของหลินชิงฮั่นเต็มไปด้วยความสบายใจ แต่พริบตาที่เธอเห็นจางซวน สีหน้าที่สบายใจของเธอก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
แย่แล้ว เธอลืมบอกเขาว่าคืนนี้ไม่ต้องกลับมา! โถ่เอ๊ย จะทำยังไงดีล่ะ! ในเมื่อเป็นแบบนี้ เรื่องที่เธอเล่าให้เพื่อนคนนี้ฟังก็จะถูกเปิดโปงอย่างรวดเร็วไม่ใช่เหรอ!
หลินชิงฮั่นลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารด้วยสีหน้าที่ไม่น่ามองเล็กน้อย และเดินไปหาจางซวน
เมื่อจางซวนเห็นว่าหลินชิงฮั่นมีสีหน้าไม่ค่อยดี เขาจึงถามด้วยความเป็นห่วงว่า "ประธานหลิน คุณรู้สึกไม่สบายเหรอ?"
"ไม่ใช่!" หลินชิงฮั่นพูดกับจางซวนเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม หลังจากนั้นเธอก็จับแขนของจางซวนอย่างเป็นธรรมชาติ "แล้วก็นะ ห้ามเรียกฉันว่าประธานหลิน ฉันบอกเพื่อนคนนั้นว่านายเป็นศิลปิน และนายก็เจอกับฉันที่งานนิทรรศการภาพวาดแห่งหนึ่ง จำได้แล้วหรือยัง?"
เมื่อจางซวนได้ยิน เขาจึงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
"นายหัวเราะอะไร" มือเล็ก ๆ ของหลินชิงฮั่นหยิกไปที่เนื้ออ่อนด้านในต้นแขนของจางซวน ในดวงตาที่งดงามของเธอปรากฏคำเตือนที่หนักแน่นออกมา "ห้ามหัวเราะ! แล้วก็ห้ามเผยพิรุธออกมาด้วย มิฉะนั้นนายตายแน่!"
"โอเค ๆ!" จางซวนรีบขอความเมตตาและโบกไม้โบกมือ "ชิงฮั่นวางใจเถอะ ผมจะไม่เผยพิรุธออกมาอย่างเด็ดขาด!"
เมื่อหลินชิงฮั่นได้ฟังจางซวนพูดแบบนี้ สีหน้าของเธอก็ดูดีขึ้นมาไม่น้อย ขณะเดียวกันเธอก็แสดงสีหน้าที่อ่อนโยนออกมา พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อไม่ให้เพื่อนสนิทของตัวเองมองออก
เมื่อจางซวนเห็นท่าทางที่น่ารักของหลินชิงฮั่น ในใจของเขาก็อดที่จะรู้สึกปลงขึ้นมาไม่ได้ ขอเพียงเป็นผู้หญิงก็ล้วนมีจิตใจที่ฟุ้งเฟ้อด้วยกันทั้งนั้น มีใครบ้างที่ไม่หวังให้สามีของตัวเองเป็นพระเอกขี่ม้าขาว ประธานหลินเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
พวกเขาเพิ่งจะพูดกันเสร็จ ผู้หญิงผมสั้นที่อยู่ในห้องครัวก็เดินประคองขนมเค้กที่ประณีตจานหนึ่งออกมาแล้ว
"โอ้! นี่ใช่จางซวนใช่ไหม" ผู้หญิงคนนั้นวางขนมเค้กลงบนโต๊ะและเดินมาหาจางซวน
วินาทีก่อนจางซวนยังคงทำหน้าทะเล้นอยู่ แต่ในเวลานี้สีหน้าและท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปแล้ว แผ่นหลังของเขาตั้งตรงและเป็นฝ่ายยื่นมือออกไปเอง "สวัสดี ผมจางซวน ขออภัยที่ผมต้องพูดตรง ๆ นอกจากภรรยาของผมแล้ว คุณเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา"
คำพูดของจางซวนเต็มไปด้วยมารยาทของสุภาพบุรุษชาวตะวันตก เขาเพียงมองผู้หญิงผมสั้นคนนี้ครั้งหนึ่งเท่านั้นก็ได้ข้อสรุปออกมาแล้ว อีกฝ่ายจะต้องเป็นคนที่กลับมาจากต่างประเทศอย่างแน่นอน
เป็นอย่างที่เขาคิดจริง ๆ ผู้หญิงผมสั้นคนนั้นถูกคำพูดของจางซวนหยอกเย้าจนต้องหัวเราะออกมา และเธอก็ยื่นมือออกมาจับมือของจางซวนเบา ๆ "คุณจาง คุณนี่น่าสนใจจริง ๆ ฉันชื่อหมี่หลาน เป็นเพื่อนสนิทของชิงฮั่น"
"ผมได้ยินชิงฮั่นพูดถึงคุณอยู่บ่อย ๆ" จางซวนเพียงจับข้อต่อที่สองบนนิ้วมือสี่นิ้วของหมี่หลานเท่านั้น
"คุณจาง ชิงฮั่นบอกฉันว่าคุณทำงานศิลปะและเชี่ยวชาญวัฒนธรรมของหลาย ๆ ประเทศ และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ด้วย มารยาทแบบตะวันตกของคุณได้มาตรฐานกว่าพวกผู้ดีที่ฉันเคยเจอเหล่านั้นเสียอีก" หมี่หลานพูดชมด้วยความจริงใจออกมาครั้งหนึ่ง "รีบนั่งลงกันเถอะ อาหารใกล้จะเสร็จแล้ว"
พูดจบหมี่หลานก็หมุนตัวจนเกิดกลิ่นหอมลอยออกมา และเดินเข้าไปยังห้องครัว
จางซวนกับหลินชิงฮั่นนั่งลงตรงโต๊ะอาหาร เขาเห็นว่าในดวงตาของเธอมีความสงสัยอยู่ จึงเป็นฝ่ายอธิบายให้เธอฟังว่า "เมื่อก่อนตอนที่ผมเคยทำงานเป็นพนักงานบริการในร้านอาหารฝรั่งเศส ผมเคยได้รับการปลูกฝังด้านนี้มาก่อน"
อาหารจานแล้วจานเล่าถูกหมี่หลานยกมาวางบนโต๊ะ แค่หอยนางรมสด จางซวนก็เห็นว่ามียี่สิบกว่าชนิดแล้ว
"หอยนางรมเหรอ ผมไม่ได้ดื่มด่ำมันมานานมากแล้วจริง ๆ" จางซวนถอนใจออกมาเสียงหนึ่ง
หลินชิงฮั่นนั่งอยู่ข้าง ๆ จางซวน เธอถือโอกาสตอนที่จางซวนไม่ได้สนใจแอบกลืนน้ำลาย ท่าทางของเธอช่างดูน่ารักเหลือเกิน
นอกจากหอยนางรมสดแล้ว อาหารที่หมี่หลานยกมาก็ยังมีเนื้อวัวและเป็ดทั้งตัว รูปแบบที่ประณีตนี้ทำให้คนเห็นแล้วต้องเจริญอาหารมากขึ้นแน่นอน
"คุณจาง ฉันได้ยินชิงฮั่นบอกว่าคุณเข้าใจวัฒนธรรมอาหารฝรั่งเศสเป็นอย่างดี" หลังจากหมี่หลานยกเป็ดทั้งตัวจานนั้นวางลงบนโต๊ะแล้ว เธอก็นั่งลงตรงข้ามจางซวนกับหลินชิงฮั่น
หลินชิงฮั่นมองอาหารทั้งหมดบนโต๊ะนี้ เมื่อเทียบกับอาหารที่หมี่หลานทำ อาหารในร้านอาหารฝรั่งเศสตี๋เซิ่งเท่อจัดอยู่ในระดับต่ำกว่าจริง ๆ และวัฒนธรรมอาหารก็ยิ่งดูมีระดับมากขึ้นไปอีก จางซวนเพียงทำงานเป็นพนักงานบริการเท่านั้น ไหนเลยจะเคยสัมผัสสิ่งเหล่านี้ เธอกำลังจะพูดกู้หน้าให้จางซวนโดยบอกว่าเขาเพียงอ่านผ่าน ๆ ตามาเท่านั้น แต่เสียงของจางซวนก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
"หอยนางรมของฝรั่งเศส หลากหลายกว่าวัตถุดิบประเภทเดียวกัน เมื่อเห็นหอยนางรมสดที่อยู่ตรงหน้าเหล่านี้ ก็คิดว่าน่าจะเป็นวัตถุดิบสดที่คุณหมี่หลานตั้งในนำมาโดยเฉพาะ หลังจากที่ปรุงเสร็จแล้ว สามารถทำให้คนรู้สึกถึงเสน่ห์ต้น กลางและท้ายได้ รสอร่อยติดลิ้นไม่มีที่สิ้นสุด และมีดุดันในช่วงท้ายอีกด้วย แต่มันกลับไม่เหมาะจะเป็นอาหารจานแรก ตอนที่คุณหมี่หลานยกหอยนางรมจานนี้เข้ามา ผมคิดว่าคุณคงจะต้องการทดสอบผม"
จางซวนยิ้มออกมาน้อย ๆ และมองไปยังเนื้อวัวจานนั้น "สเต็กทาร์ทาร์ วิธีการทำโดยปกติก็คือคลุกเกลือ พริกไทยและซอสให้ทั่ว ๆ และบางครั้งก็มีการคลุกเคล้าไข่ไก่เพิ่มเข้าไปด้วย แต่ดูจากวิธีการทำของคุณหมี่หลานแล้ว ในนี้น่าจะมีการเพิ่มไข่นกกระทาเข้าไปสองถึงสี่ฟอง และไข่นกกระทาในนี้ก็น่าจะเป็นวัตถุดิบที่เตรียมมาเพื่อเพิ่มรสชาติ โดยการทานคู่กันกับหอยนางรมจานนั้น สำหรับเป็ดกงฟีชิ้นนี้ ผมคิดว่าน่าจะเป็นอาหารที่ชิงฮั่นชอบทาน และภายใต้การประกอบกันนี้ก็ไม่น่าจะมีเป็ดกงฟีถึงจะถูกต้อง"
จางซวนเพิ่งจะพูดจบ เสียงปรบมือของหมี่หลานก็ดังขึ้นมาทันที
"แปะ ๆๆ!"
"คุณจาง ต้องยอมรับเลยว่าความเข้าใจต่ออาหารฝรั่งเศสของคุณนั้นลึกซึ้งเหมือนกับที่ชิงฮั่นพูดเอาไว้จริง ๆ"
"คุณหมี่หลานชมเกินไปแล้ว ผมเพียงแค่อ่านผ่าน ๆ ตามาเท่านั้น" เขายิ้มออกมาเล็กน้อย และการแสดงออกของเขาก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับสุภาพบุรุษอย่างถึงที่สุด
หลินชิงฮั่นมองท่าทางของผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ ทุกการกระทำของเขาล้วนเต็มไปด้วยมารยาท และทุกคำพูดของเขาก็ไม่มีที่ติ นี่ทำให้เธอรู้สึกสงสัยว่าผู้ชายคนนี้ใช่ผู้ชายไร้ศักดิ์ศรีที่เธอรู้จักอยู่หรือเปล่า? ถ้าเขาสวมชุดสูทและปรากฏตัวในสถานที่ระดับสูง คาดว่าทุกคนคงจะคิดว่าเขาเป็นผู้ดีที่มาจากทางตะวันตกอย่างแน่นอน!"
เมื่อความคิดนี้ของหลินชิงฮั่นผุดขึ้นมา เธอก็รู้สึกว่ามือเล็ก ๆ ที่วางอยู่ใต้โต๊ะของตัวเองถูกความอบอุ่นโอบล้อมเอาไว้ เธอจึงมองไปยังจางซวน และเขาก็ขยิบตาให้เธอหนึ่งครั้ง เหมือนกับกำลังพูดว่า เป็นยังไง การแสดงของผมโอเคใช่ไหม
หลินชิงฮั่นส่งเสียงฮึออกมาเบา ๆ ครั้งหนึ่ง เธอดึงมือเล็ก ๆ ของตัวเองออกจากมือของจางซวนและยื่นมือไปจับเป็ดกงฟีชิ้นนั้น
ส่วนจางซวนก็คีบเนื้อวัวชิ้นขึ้นมาชิ้นหนึ่ง เขาทาน้ำมัสตาร์ดเล็กน้อยและใส่มันเข้าไปในปาก รอสามวินาทีถึงค่อยเริ่มเคี้ยว
หมี่หลานที่นั่งอยู่ตรงข้ามจางซวน การกระทำของเธอเหมือนกันกับจางซวนไม่มีผิดเพี้ยน นี่เป็นวิธีการกินที่เป็นมาตรฐานที่สุด และยังเป็นวิธีการกินที่สามารถรักษารสชาติได้ดีที่สุดอีกด้วย ก่อนที่จางซวนจะแสดงการกระทำแบบนี้ออกมา หมี่หลานก็ให้ความสนใจจางซวนเป็นพิเศษอยู่ก่อนแล้ว
ในระหว่างทานอาหาร หลินชิงฮั่นก็หาหัวข้อสนทนาสำหรับผู้หญิงขึ้นมาคุยกับหมี่หลาน และตอนที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน จู่ ๆ หมี่หลานก็ถามจางซวนขึ้นมาอย่างกะทันหัน "คุณจาง ได้ยินชิงฮั่นบอกว่าพวกคุณสองคนรู้จักกันในงานนิทรรศการแสดงภาพวาดเหรอ?"
หลินชิงฮั่นใจเต้นตึกตักขึ้นมาเล็กน้อย เธอคิดไม่ถึงว่าหมี่หลานจะถามคำถามเหล่านี้ออกมา จางซวนเคยทำงานเป็นพนักงานในร้านอาหารฝรั่งเศสพอดี เขาจึงยังพอเข้าใจในเรื่องอาหารฝรั่งเศสและมารยาทแบบตะวันตกอยู่บ้าง แต่สำหรับเรื่องงานนิทรรศการแสดงภาพวาด เขาจะไปเข้าใจอะไรกัน!
"หมี่หลาน เธอกำลังตรวจสำมะโนครัวของจางซวนบ้านฉันอยู่เหรอ?" หลินชิงฮั่นบ่นพึมพำขึ้นมา
"ใช่แล้ว นี่ก็คือการตรวจสำมะโนครัว ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าจางซวนของบ้านเธอใช้วิธีการอะไรถึงหลอกประธานหญิงภูเขาน้ำแข็งของพวกเรามาไว้ในมือได้" หมี่หลานมองจางซวนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
หลินชิงฮั่นยื่นมือเล็ก ๆ ออกไปดึงแขนของจางซวน ส่งสายตาให้เขาอย่างต่อเนื่องในมุมที่หมี่หลานมองไม่เห็น และพูดกับเขาว่า "จางซวน นายไม่ต้องไปไม่สนใจเธอหรอก"
"พี่สาว เธอไม่ได้กำลังหลอกฉันเล่นอยู่ใช่ไหม?" หมี่หลานแสดงท่าทางที่บอกว่าฉันไม่ได้หลอกได้ง่าย ๆ หรอกนะออกมา
"ไม่ใช่แน่นอน!" ใบหน้าเล็ก ๆ ของหลินชิงฮั่นกระวนกระวายเล็กน้อย "พวกเราสองคน พวกเราสองคน......"
แย่แล้ว เธอลืมบอกเขาว่าคืนนี้ไม่ต้องกลับมา! โถ่เอ๊ย จะทำยังไงดีล่ะ! ในเมื่อเป็นแบบนี้ เรื่องที่เธอเล่าให้เพื่อนคนนี้ฟังก็จะถูกเปิดโปงอย่างรวดเร็วไม่ใช่เหรอ!
หลินชิงฮั่นลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารด้วยสีหน้าที่ไม่น่ามองเล็กน้อย และเดินไปหาจางซวน
เมื่อจางซวนเห็นว่าหลินชิงฮั่นมีสีหน้าไม่ค่อยดี เขาจึงถามด้วยความเป็นห่วงว่า "ประธานหลิน คุณรู้สึกไม่สบายเหรอ?"
"ไม่ใช่!" หลินชิงฮั่นพูดกับจางซวนเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม หลังจากนั้นเธอก็จับแขนของจางซวนอย่างเป็นธรรมชาติ "แล้วก็นะ ห้ามเรียกฉันว่าประธานหลิน ฉันบอกเพื่อนคนนั้นว่านายเป็นศิลปิน และนายก็เจอกับฉันที่งานนิทรรศการภาพวาดแห่งหนึ่ง จำได้แล้วหรือยัง?"
เมื่อจางซวนได้ยิน เขาจึงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
"นายหัวเราะอะไร" มือเล็ก ๆ ของหลินชิงฮั่นหยิกไปที่เนื้ออ่อนด้านในต้นแขนของจางซวน ในดวงตาที่งดงามของเธอปรากฏคำเตือนที่หนักแน่นออกมา "ห้ามหัวเราะ! แล้วก็ห้ามเผยพิรุธออกมาด้วย มิฉะนั้นนายตายแน่!"
"โอเค ๆ!" จางซวนรีบขอความเมตตาและโบกไม้โบกมือ "ชิงฮั่นวางใจเถอะ ผมจะไม่เผยพิรุธออกมาอย่างเด็ดขาด!"
เมื่อหลินชิงฮั่นได้ฟังจางซวนพูดแบบนี้ สีหน้าของเธอก็ดูดีขึ้นมาไม่น้อย ขณะเดียวกันเธอก็แสดงสีหน้าที่อ่อนโยนออกมา พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อไม่ให้เพื่อนสนิทของตัวเองมองออก
เมื่อจางซวนเห็นท่าทางที่น่ารักของหลินชิงฮั่น ในใจของเขาก็อดที่จะรู้สึกปลงขึ้นมาไม่ได้ ขอเพียงเป็นผู้หญิงก็ล้วนมีจิตใจที่ฟุ้งเฟ้อด้วยกันทั้งนั้น มีใครบ้างที่ไม่หวังให้สามีของตัวเองเป็นพระเอกขี่ม้าขาว ประธานหลินเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
พวกเขาเพิ่งจะพูดกันเสร็จ ผู้หญิงผมสั้นที่อยู่ในห้องครัวก็เดินประคองขนมเค้กที่ประณีตจานหนึ่งออกมาแล้ว
"โอ้! นี่ใช่จางซวนใช่ไหม" ผู้หญิงคนนั้นวางขนมเค้กลงบนโต๊ะและเดินมาหาจางซวน
วินาทีก่อนจางซวนยังคงทำหน้าทะเล้นอยู่ แต่ในเวลานี้สีหน้าและท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปแล้ว แผ่นหลังของเขาตั้งตรงและเป็นฝ่ายยื่นมือออกไปเอง "สวัสดี ผมจางซวน ขออภัยที่ผมต้องพูดตรง ๆ นอกจากภรรยาของผมแล้ว คุณเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา"
คำพูดของจางซวนเต็มไปด้วยมารยาทของสุภาพบุรุษชาวตะวันตก เขาเพียงมองผู้หญิงผมสั้นคนนี้ครั้งหนึ่งเท่านั้นก็ได้ข้อสรุปออกมาแล้ว อีกฝ่ายจะต้องเป็นคนที่กลับมาจากต่างประเทศอย่างแน่นอน
เป็นอย่างที่เขาคิดจริง ๆ ผู้หญิงผมสั้นคนนั้นถูกคำพูดของจางซวนหยอกเย้าจนต้องหัวเราะออกมา และเธอก็ยื่นมือออกมาจับมือของจางซวนเบา ๆ "คุณจาง คุณนี่น่าสนใจจริง ๆ ฉันชื่อหมี่หลาน เป็นเพื่อนสนิทของชิงฮั่น"
"ผมได้ยินชิงฮั่นพูดถึงคุณอยู่บ่อย ๆ" จางซวนเพียงจับข้อต่อที่สองบนนิ้วมือสี่นิ้วของหมี่หลานเท่านั้น
"คุณจาง ชิงฮั่นบอกฉันว่าคุณทำงานศิลปะและเชี่ยวชาญวัฒนธรรมของหลาย ๆ ประเทศ และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ด้วย มารยาทแบบตะวันตกของคุณได้มาตรฐานกว่าพวกผู้ดีที่ฉันเคยเจอเหล่านั้นเสียอีก" หมี่หลานพูดชมด้วยความจริงใจออกมาครั้งหนึ่ง "รีบนั่งลงกันเถอะ อาหารใกล้จะเสร็จแล้ว"
พูดจบหมี่หลานก็หมุนตัวจนเกิดกลิ่นหอมลอยออกมา และเดินเข้าไปยังห้องครัว
จางซวนกับหลินชิงฮั่นนั่งลงตรงโต๊ะอาหาร เขาเห็นว่าในดวงตาของเธอมีความสงสัยอยู่ จึงเป็นฝ่ายอธิบายให้เธอฟังว่า "เมื่อก่อนตอนที่ผมเคยทำงานเป็นพนักงานบริการในร้านอาหารฝรั่งเศส ผมเคยได้รับการปลูกฝังด้านนี้มาก่อน"
อาหารจานแล้วจานเล่าถูกหมี่หลานยกมาวางบนโต๊ะ แค่หอยนางรมสด จางซวนก็เห็นว่ามียี่สิบกว่าชนิดแล้ว
"หอยนางรมเหรอ ผมไม่ได้ดื่มด่ำมันมานานมากแล้วจริง ๆ" จางซวนถอนใจออกมาเสียงหนึ่ง
หลินชิงฮั่นนั่งอยู่ข้าง ๆ จางซวน เธอถือโอกาสตอนที่จางซวนไม่ได้สนใจแอบกลืนน้ำลาย ท่าทางของเธอช่างดูน่ารักเหลือเกิน
นอกจากหอยนางรมสดแล้ว อาหารที่หมี่หลานยกมาก็ยังมีเนื้อวัวและเป็ดทั้งตัว รูปแบบที่ประณีตนี้ทำให้คนเห็นแล้วต้องเจริญอาหารมากขึ้นแน่นอน
"คุณจาง ฉันได้ยินชิงฮั่นบอกว่าคุณเข้าใจวัฒนธรรมอาหารฝรั่งเศสเป็นอย่างดี" หลังจากหมี่หลานยกเป็ดทั้งตัวจานนั้นวางลงบนโต๊ะแล้ว เธอก็นั่งลงตรงข้ามจางซวนกับหลินชิงฮั่น
หลินชิงฮั่นมองอาหารทั้งหมดบนโต๊ะนี้ เมื่อเทียบกับอาหารที่หมี่หลานทำ อาหารในร้านอาหารฝรั่งเศสตี๋เซิ่งเท่อจัดอยู่ในระดับต่ำกว่าจริง ๆ และวัฒนธรรมอาหารก็ยิ่งดูมีระดับมากขึ้นไปอีก จางซวนเพียงทำงานเป็นพนักงานบริการเท่านั้น ไหนเลยจะเคยสัมผัสสิ่งเหล่านี้ เธอกำลังจะพูดกู้หน้าให้จางซวนโดยบอกว่าเขาเพียงอ่านผ่าน ๆ ตามาเท่านั้น แต่เสียงของจางซวนก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
"หอยนางรมของฝรั่งเศส หลากหลายกว่าวัตถุดิบประเภทเดียวกัน เมื่อเห็นหอยนางรมสดที่อยู่ตรงหน้าเหล่านี้ ก็คิดว่าน่าจะเป็นวัตถุดิบสดที่คุณหมี่หลานตั้งในนำมาโดยเฉพาะ หลังจากที่ปรุงเสร็จแล้ว สามารถทำให้คนรู้สึกถึงเสน่ห์ต้น กลางและท้ายได้ รสอร่อยติดลิ้นไม่มีที่สิ้นสุด และมีดุดันในช่วงท้ายอีกด้วย แต่มันกลับไม่เหมาะจะเป็นอาหารจานแรก ตอนที่คุณหมี่หลานยกหอยนางรมจานนี้เข้ามา ผมคิดว่าคุณคงจะต้องการทดสอบผม"
จางซวนยิ้มออกมาน้อย ๆ และมองไปยังเนื้อวัวจานนั้น "สเต็กทาร์ทาร์ วิธีการทำโดยปกติก็คือคลุกเกลือ พริกไทยและซอสให้ทั่ว ๆ และบางครั้งก็มีการคลุกเคล้าไข่ไก่เพิ่มเข้าไปด้วย แต่ดูจากวิธีการทำของคุณหมี่หลานแล้ว ในนี้น่าจะมีการเพิ่มไข่นกกระทาเข้าไปสองถึงสี่ฟอง และไข่นกกระทาในนี้ก็น่าจะเป็นวัตถุดิบที่เตรียมมาเพื่อเพิ่มรสชาติ โดยการทานคู่กันกับหอยนางรมจานนั้น สำหรับเป็ดกงฟีชิ้นนี้ ผมคิดว่าน่าจะเป็นอาหารที่ชิงฮั่นชอบทาน และภายใต้การประกอบกันนี้ก็ไม่น่าจะมีเป็ดกงฟีถึงจะถูกต้อง"
จางซวนเพิ่งจะพูดจบ เสียงปรบมือของหมี่หลานก็ดังขึ้นมาทันที
"แปะ ๆๆ!"
"คุณจาง ต้องยอมรับเลยว่าความเข้าใจต่ออาหารฝรั่งเศสของคุณนั้นลึกซึ้งเหมือนกับที่ชิงฮั่นพูดเอาไว้จริง ๆ"
"คุณหมี่หลานชมเกินไปแล้ว ผมเพียงแค่อ่านผ่าน ๆ ตามาเท่านั้น" เขายิ้มออกมาเล็กน้อย และการแสดงออกของเขาก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับสุภาพบุรุษอย่างถึงที่สุด
หลินชิงฮั่นมองท่าทางของผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ ทุกการกระทำของเขาล้วนเต็มไปด้วยมารยาท และทุกคำพูดของเขาก็ไม่มีที่ติ นี่ทำให้เธอรู้สึกสงสัยว่าผู้ชายคนนี้ใช่ผู้ชายไร้ศักดิ์ศรีที่เธอรู้จักอยู่หรือเปล่า? ถ้าเขาสวมชุดสูทและปรากฏตัวในสถานที่ระดับสูง คาดว่าทุกคนคงจะคิดว่าเขาเป็นผู้ดีที่มาจากทางตะวันตกอย่างแน่นอน!"
เมื่อความคิดนี้ของหลินชิงฮั่นผุดขึ้นมา เธอก็รู้สึกว่ามือเล็ก ๆ ที่วางอยู่ใต้โต๊ะของตัวเองถูกความอบอุ่นโอบล้อมเอาไว้ เธอจึงมองไปยังจางซวน และเขาก็ขยิบตาให้เธอหนึ่งครั้ง เหมือนกับกำลังพูดว่า เป็นยังไง การแสดงของผมโอเคใช่ไหม
หลินชิงฮั่นส่งเสียงฮึออกมาเบา ๆ ครั้งหนึ่ง เธอดึงมือเล็ก ๆ ของตัวเองออกจากมือของจางซวนและยื่นมือไปจับเป็ดกงฟีชิ้นนั้น
ส่วนจางซวนก็คีบเนื้อวัวชิ้นขึ้นมาชิ้นหนึ่ง เขาทาน้ำมัสตาร์ดเล็กน้อยและใส่มันเข้าไปในปาก รอสามวินาทีถึงค่อยเริ่มเคี้ยว
หมี่หลานที่นั่งอยู่ตรงข้ามจางซวน การกระทำของเธอเหมือนกันกับจางซวนไม่มีผิดเพี้ยน นี่เป็นวิธีการกินที่เป็นมาตรฐานที่สุด และยังเป็นวิธีการกินที่สามารถรักษารสชาติได้ดีที่สุดอีกด้วย ก่อนที่จางซวนจะแสดงการกระทำแบบนี้ออกมา หมี่หลานก็ให้ความสนใจจางซวนเป็นพิเศษอยู่ก่อนแล้ว
ในระหว่างทานอาหาร หลินชิงฮั่นก็หาหัวข้อสนทนาสำหรับผู้หญิงขึ้นมาคุยกับหมี่หลาน และตอนที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน จู่ ๆ หมี่หลานก็ถามจางซวนขึ้นมาอย่างกะทันหัน "คุณจาง ได้ยินชิงฮั่นบอกว่าพวกคุณสองคนรู้จักกันในงานนิทรรศการแสดงภาพวาดเหรอ?"
หลินชิงฮั่นใจเต้นตึกตักขึ้นมาเล็กน้อย เธอคิดไม่ถึงว่าหมี่หลานจะถามคำถามเหล่านี้ออกมา จางซวนเคยทำงานเป็นพนักงานในร้านอาหารฝรั่งเศสพอดี เขาจึงยังพอเข้าใจในเรื่องอาหารฝรั่งเศสและมารยาทแบบตะวันตกอยู่บ้าง แต่สำหรับเรื่องงานนิทรรศการแสดงภาพวาด เขาจะไปเข้าใจอะไรกัน!
"หมี่หลาน เธอกำลังตรวจสำมะโนครัวของจางซวนบ้านฉันอยู่เหรอ?" หลินชิงฮั่นบ่นพึมพำขึ้นมา
"ใช่แล้ว นี่ก็คือการตรวจสำมะโนครัว ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าจางซวนของบ้านเธอใช้วิธีการอะไรถึงหลอกประธานหญิงภูเขาน้ำแข็งของพวกเรามาไว้ในมือได้" หมี่หลานมองจางซวนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
หลินชิงฮั่นยื่นมือเล็ก ๆ ออกไปดึงแขนของจางซวน ส่งสายตาให้เขาอย่างต่อเนื่องในมุมที่หมี่หลานมองไม่เห็น และพูดกับเขาว่า "จางซวน นายไม่ต้องไปไม่สนใจเธอหรอก"
"พี่สาว เธอไม่ได้กำลังหลอกฉันเล่นอยู่ใช่ไหม?" หมี่หลานแสดงท่าทางที่บอกว่าฉันไม่ได้หลอกได้ง่าย ๆ หรอกนะออกมา
"ไม่ใช่แน่นอน!" ใบหน้าเล็ก ๆ ของหลินชิงฮั่นกระวนกระวายเล็กน้อย "พวกเราสองคน พวกเราสองคน......"
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved