บทที่ 11 วิธีการรักษา
by เหว่ยไหลเค่อฉี
09:35,Feb 23,2022
หลินเฟิงพยักหน้าพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อย และตอบว่า "แม้ผมจะไม่สามารถรับประกันได้ว่าตัวเองจะสามารถรักษาอาการป่วยของท่านผู้เฒ่าอู๋ให้หายขาดได้ แต่สำหรับวิธีการรักษาอาการป่วยของท่านผู้เฒ่าอู๋ให้หายขาดนั้น ผมกลับมีอยู่สองสามวิธีจริง ๆ แต่......ถ้าอยากจะรู้ว่าผมมีความมั่นใจกี่ส่วนที่จะรักษาโรคของท่านผู้เฒ่าอู๋ให้หายดีได้นั้น ผมยังต้องให้ท่านผู้เฒ่าอู๋ตอบคำถามสองสามข้อของผมก่อน......"
"คำถามเหรอ? ถ้าเพียงแค่ถามก็ไม่เป็นไร และหากมันเกี่ยวกับอาการป่วยของฉันจริง ๆ ฉันก็จะตอบแน่นอน"
เมื่อได้ยินหลินเฟิงบอกว่าโรคประหลาดที่รุมเร้าตัวเองมาหลายปีมีโอกาสที่จะสามารถรักษาให้หายขาดได้ น้ำเสียงของท่านผู้เฒ่าอู๋ก็เริ่มมีความรู้สึกตื่นเต้นปรากฏออกมา
จริง ๆ แล้วก่อนหน้าอาจารย์จังกับหลินเฟิง ท่านผู้เฒ่าอู๋ก็เคยไปหาหมอชื่อดังทั่วประเทศไม่รู้มาตั้งเท่าไหร่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนจีนหรือแพทย์แผนปัจจุบัน ท่านผู้เฒ่าอู๋ก็เคยลองมาหมดแล้ว แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครสามารถรักษาโรคประหลาดของเขาให้หายขาดได้เลย
ถ้าไม่ใช่แพทย์แผนจีนเหมือนกับอาจารย์จังที่เขียนใบสั่งยาจำนวนหนึ่งมารักษาสุขภาพให้เขา แต่จริง ๆ แล้วเกือบจะไม่ช่วยอาการป่วยของเขาเลย ก็เป็นการขอโทษและบอกเขาว่า ร่างกายของเขาไม่มีปัญหาอะไรพร้อมกับโบกมือด้วยความจำใจหลังจากที่ตรวจสอบมาอย่างต่อเนื่อง แถมยังบอกอีกว่าสาเหตุที่เขาเป็นโรคก็อาจจะเป็นเพราะว่าเขาเหนื่อยเกินไป ช่วงนี้ก็ให้เขาพักผ่อนให้ดีและดื่มน้ำอุ่นให้เยอะ ๆ
สรุปก็คือหลังจากที่ไปหาหมอชื่อดังมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ คนที่บอกว่าตัวเองมีความมั่นใจว่าจะสามารถรักษาโรคประหลาดของเขาให้หายได้อย่างเด็ดขาดเช่นนี้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือคนที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้......
หลินเฟิง
แม้ว่าหลินเฟิงจะดูเด็กมาก ๆ และไม่เหมือนกับมีประสบการณ์ทางการแพทย์มากมาย แต่ดูเหมือนว่าท่านผู้เฒ่าอู๋จะยังคงเชื่อว่าชายหนุ่มคนนี้จะมีวิธีการรักษาโรคของเขาให้หายดีได้จริง ๆ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะให้ความร่วมมือตอบคำถามจำนวนหนึ่งอย่างว่าง่าย
แต่สิ่งที่ต้องพูดก็คือ ทุกคำถามที่หลินเฟิงถามหลังจากนั้นล้วนทำให้ความเชื่อในหัวใจของท่านผู้เฒ่าอู๋ยิ่งหนักแน่นขึ้นมา
"ถ้าผมทายไม่ผิดละก็ ร่างกายของท่านผู้เฒ่าอู๋น่าจะเคยได้รับบาดเจ็บภายนอกมาก่อน และมีอะไรบางอย่างหลงเหลืออยู่ในร่างกาย จนกระทั่งผ่านไปช่วงหนึ่งมันถึงได้ถูกเอาออกมา ใช่ไหม?"
แม้จะกำลังถามคำถาม แต่ใบหน้าของหลินเฟิงกลับมีรอยยิ้มที่มั่นใจตั้งแต่ต้นจนจบ และน้ำเสียงของเขาก็สงบราบเรียบ ไม่มีความรู้สึกสงสัยแม้แต่นิดเดียว แถมยังเยือกเย็นราวกับกำลังบรรยายข้อเท็จจริงข้อหนึ่งเสียด้วยซ้ำ
และในความเป็นจริง สิ่งที่หลินเฟิงพูดไปเมื่อกี้ก็เป็นข้อเท็จจริงข้อหนึ่งจริง ๆ
"ไม่ผิด ด้านนี้ของหน้าอกของฉันเคยถูกกระสุนยิงมาก่อน หลังจากที่ปลอกกระสุนปืนฝังอยู่ในร่างกายของฉันช่วงหนึ่ง มันถึงได้ถูกผ่าตัดเอาออกไป"
ท่านผู้เฒ่าอู๋พยักหน้าและพูดออกมา
ใบหน้าของหลินเฟิงไม่ได้มีความรู้สึกประหลาดใจต่อเรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว แต่กลับปรากฏสีหน้าที่มีความหมายว่าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ออกมาแทน
หลังจากนั้นหลินเฟิงก็ถามต่อว่า "ช่วงนี้ท่านผู้เฒ่าอู๋เคยเจ็บป่วยมาก่อนใช่ไหม? ถ้าผมทายไม่ผิดละก็ ช่วงนี้เวลาที่ท่านผู้เฒ่าอู๋อาการกำเริบขึ้นมา เกือบจะเป็นตอนนอนทั้งหมดใช่หรือไม่? กลางวันก็อาจจะเกิดอาการได้ แต่เมื่อเทียบกับเวลากลางคืนแล้ว น่าจะน้อยกว่ามาก......"
"นายพูดได้ถูกต้อง จริง ๆ แล้วไม่ใช่แค่ช่วงนี้เท่านั้น แต่ไหนแต่ไรมาเวลาที่เกิดอาการก็เกือบจะเป็นตอนกลางคืนทั้งหมด ส่วนตอนกลางวันนั้นมีโอกาสน้อยมาก ๆ ดังนั้นเมื่อก่อนฉันจึงไม่รีบร้อนรักษาโรคนี้มาโดยตลอด เพราะไม่ว่ายังไงก็ไม่ได้ถ่วงธุระในตอนกลางวัน และเพียงเจ็บปวดจนยากที่จะทนไหวในตอนกลางคืนเท่านั้น"
"รบกวนท่านผู้เฒ่าอู๋แล้วจริง ๆ จากคำถามสองข้อเมื่อกี้ ผมก็เกือบจะเข้าใจอาการป่วยทั้งหมดของท่านผู้เฒ่าอู๋แล้ว ส่วนเรื่องสาเหตุที่ทำให้อาการป่วยนี้ปรากฏออกมานั้น ผมก็มีความมั่นใจอยู่บ้าง แต่ถ้าอยากจะรู้ว่าแท้จริงแล้วผมมีความมั่นใจกี่ส่วนว่าจะสามารถรักษาโรคประหลาดของท่านผู้เฒ่าอู๋ให้หายขาดได้ ผมก็ยังคงต้องถามคำถามสุดท้าย......"
"คำถามอะไร?"
"ไม่รู้ว่าในด้านวิธีการรักษา ท่านผู้เฒ่าอู๋สามารถยอมรับ......การผ่าตัดได้หรือไม่......"
ท่านผู้เฒ่าอู๋ไม่ได้ตอบคำถามนี้กับหลินเฟิงทันที แต่กลับตกอยู่ในความเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง
สำหรับท่านผู้เฒ่าอู๋ที่คุ้นชินกับการรักษาของแพทย์แผนจีน แม้ว่าเขาจะเคยใช้วิธีการผ่าตัดมาก่อน แต่เมื่อเทียบกับแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมแล้ว วิธีการรักษาที่ดูเหมือนจะอันตรายกว่าไม่น้อยนี้กลับอยู่เหนือกว่าขอบเขตที่ท่านผู้เฒ่าอู๋จะสามารถรับได้อยู่เล็กน้อยจริง ๆ
ดังนั้นการที่จู่ ๆ เวลานี้หลินเฟิงก็เสนอวิธีการแบบนี้ออกมา จึงทำให้ท่านผู้เฒ่าอู๋ตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง
หลังจากผ่านไปสักพัก ท่านผู้เฒ่าอู๋ถึงได้เปิดปากพูดออกมาอย่างช้า ๆ ว่า "ยอมรับน่ะยอมรับได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นการผ่าตัดอะไร การผ่าตัดนี้อันตรายยังไงบ้าง แล้วมีโอกาสที่จะสำเร็จกี่ส่วน......"
เวลานี้ท่าทางที่ระมัดระวังท่านผู้เฒ่าอู๋ดูราวกับเด็กน้อยที่กำลังจะถูกฉีดยา ซึ่งมีความรู้สึกที่หวาดกลัวบางอย่าง นี่ทำให้หลินเฟิงอดที่จะหัวเราะออกมาเบา ๆ ไม่ได้ และหลังจากนั้นเขาก็อธิบายว่า "นี่ต้องพูดถึงสาเหตุที่ปรากฏโรคประหลาดของท่านผู้เฒ่าอู๋ที่ผมคาดเดาเอาไว้สักเล็กน้อยก่อน......"
"เข้าใจอย่างง่าย ๆ ก็คือ......เหมือนอย่างที่ผู้อาวุโสคนนี้พูดเมื่อกี้ มีอะไรบางอย่างอุดอยู่ที่หน้าอกและหัวใจของคุณ ดังนั้นคุณถึงได้มีอาการหายใจลำบากและเจ็บหน้าอกอยู่บ่อย ๆ เพียงแต่......"
"สิ่งที่อุดอยู่ที่หน้าอกและหัวใจไม่ใช่การติดขัดของเลือดลม แต่เป็นสิ่งแปลกปลอมที่เคยอยู่ในร่างกายของท่านผู้เฒ่าอู๋ อย่างเช่นกระสุนปืนที่เคยฝังอยู่ในร่างกายของท่านผู้เฒ่าอู๋เมื่อก่อน หรืออาจจะเป็นสิ่งอื่น ดังนั้นถ้าอยากจะรักษาอาการป่วยของท่านผู้เฒ่าอู๋ให้หายขาด จึงเป็นธรรมดาที่ต้องผ่าตัดเอาสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในร่างกายออกมา"
"ส่วนเรื่องความมั่นใจ......ถ้าผมลงมือผ่าตัดด้วยตัวเอง การผ่าตัดครั้งนี้ผมมีความมั่นใจอย่างน้อย......"
"เก้าส่วน"
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลินเฟิงก็พูดออกมาด้วยความมั่นใจว่า "ถ้าผมลงมือผ่าตัดด้วยตัวเอง ผมมีความมั่นใจอย่างน้อยเก้าส่วนว่าจะสามารถผ่าตัดครั้งนี้ได้สำเร็จ......"
น้ำเสียงที่มั่นใจของหลินเฟิงยังคงดังก้องอยู่ข้าง ๆ หู และเวลานี้จุดสนใจในห้องหนังสือก็ย้ายมาอยู่บนตัวของหลินเฟิงอีกครั้ง
บางทีอาจเป็นเพราะรู้ว่า เป็นไปได้มากว่าหลินเฟิงจะเป็นหมอเทวดาที่เชี่ยวชาญทั้งแพทย์แผนจีนและแผนปัจจุบัน ดังนั้นคุณหลิวที่เดิมทียังคงคิดจะก่อความยุ่งยากให้หลินเฟิงอยู่จึงเงียบลงอย่างถึงที่สุด ยืนตะลึงอยู่ด้านข้าง และไม่กล้าที่จะพูดจาเหลวไหลอะไรอีก
หลินเฟิงในตอนนี้อาจเป็นเพียงไอ้หนูที่ไร้ชื่อคนหนึ่ง แต่ถ้าเขามีวิชาแพทย์ที่ยอดเยี่ยมถึงขนาดที่เพียงอาศัยการสังเกตไกล ๆ และถามคำถามที่ง่าย ๆ สองสามข้อ แล้วรักษาโรคประหลาดของท่านผู้เฒ่าอู๋ให้หายดีได้จริง ๆ เช่นนั้นคุณหลิวก็เชื่อว่าคนแบบนี้ในอนาคตจะต้องเป็นคนที่เขาล่วงเกินไม่ได้แน่นอน
ดังนั้นเวลานี้จึงเป็นธรรมดาที่เขาไม่กล้าที่จะก่อความยุ่งยากอะไรให้หลินเฟิงอีก และในความเป็นจริงเขาไม่เพียงไม่กล้าที่จะก่อความยุ่งยากเท่านั้น ถึงขนาดที่ในใจของคุณหลิวยังเริ่มครุ่นคิดว่าควรจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและคบค้าสมาคมกับหลินเฟิงยังไงขึ้นมาแล้ว
ส่วนนายกเทศมนตรีหยังที่พาหลินเฟิงมาที่นี่ เวลานี้เขาก็ดีใจเป็นบ้าเป็นหลังไปชั่วขณะหนึ่ง
เดิมทีเขาเพียงมีความคิดที่จะลองดูเท่านั้น เขาถึงได้พาหลินเฟิงที่ไม่รู้ว่าใช้วิธีการอะไรรักษาโรคประหลาดของภรรยาของเขาให้หายดีและชุบชีวิตแม่ยายของเขามายังที่นี่ แล้วลองรักษาโรคของท่านผู้เฒ่าอู๋ดู
แต่ใครจะคิดได้ว่า......
"คำถามเหรอ? ถ้าเพียงแค่ถามก็ไม่เป็นไร และหากมันเกี่ยวกับอาการป่วยของฉันจริง ๆ ฉันก็จะตอบแน่นอน"
เมื่อได้ยินหลินเฟิงบอกว่าโรคประหลาดที่รุมเร้าตัวเองมาหลายปีมีโอกาสที่จะสามารถรักษาให้หายขาดได้ น้ำเสียงของท่านผู้เฒ่าอู๋ก็เริ่มมีความรู้สึกตื่นเต้นปรากฏออกมา
จริง ๆ แล้วก่อนหน้าอาจารย์จังกับหลินเฟิง ท่านผู้เฒ่าอู๋ก็เคยไปหาหมอชื่อดังทั่วประเทศไม่รู้มาตั้งเท่าไหร่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนจีนหรือแพทย์แผนปัจจุบัน ท่านผู้เฒ่าอู๋ก็เคยลองมาหมดแล้ว แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครสามารถรักษาโรคประหลาดของเขาให้หายขาดได้เลย
ถ้าไม่ใช่แพทย์แผนจีนเหมือนกับอาจารย์จังที่เขียนใบสั่งยาจำนวนหนึ่งมารักษาสุขภาพให้เขา แต่จริง ๆ แล้วเกือบจะไม่ช่วยอาการป่วยของเขาเลย ก็เป็นการขอโทษและบอกเขาว่า ร่างกายของเขาไม่มีปัญหาอะไรพร้อมกับโบกมือด้วยความจำใจหลังจากที่ตรวจสอบมาอย่างต่อเนื่อง แถมยังบอกอีกว่าสาเหตุที่เขาเป็นโรคก็อาจจะเป็นเพราะว่าเขาเหนื่อยเกินไป ช่วงนี้ก็ให้เขาพักผ่อนให้ดีและดื่มน้ำอุ่นให้เยอะ ๆ
สรุปก็คือหลังจากที่ไปหาหมอชื่อดังมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ คนที่บอกว่าตัวเองมีความมั่นใจว่าจะสามารถรักษาโรคประหลาดของเขาให้หายได้อย่างเด็ดขาดเช่นนี้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือคนที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้......
หลินเฟิง
แม้ว่าหลินเฟิงจะดูเด็กมาก ๆ และไม่เหมือนกับมีประสบการณ์ทางการแพทย์มากมาย แต่ดูเหมือนว่าท่านผู้เฒ่าอู๋จะยังคงเชื่อว่าชายหนุ่มคนนี้จะมีวิธีการรักษาโรคของเขาให้หายดีได้จริง ๆ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะให้ความร่วมมือตอบคำถามจำนวนหนึ่งอย่างว่าง่าย
แต่สิ่งที่ต้องพูดก็คือ ทุกคำถามที่หลินเฟิงถามหลังจากนั้นล้วนทำให้ความเชื่อในหัวใจของท่านผู้เฒ่าอู๋ยิ่งหนักแน่นขึ้นมา
"ถ้าผมทายไม่ผิดละก็ ร่างกายของท่านผู้เฒ่าอู๋น่าจะเคยได้รับบาดเจ็บภายนอกมาก่อน และมีอะไรบางอย่างหลงเหลืออยู่ในร่างกาย จนกระทั่งผ่านไปช่วงหนึ่งมันถึงได้ถูกเอาออกมา ใช่ไหม?"
แม้จะกำลังถามคำถาม แต่ใบหน้าของหลินเฟิงกลับมีรอยยิ้มที่มั่นใจตั้งแต่ต้นจนจบ และน้ำเสียงของเขาก็สงบราบเรียบ ไม่มีความรู้สึกสงสัยแม้แต่นิดเดียว แถมยังเยือกเย็นราวกับกำลังบรรยายข้อเท็จจริงข้อหนึ่งเสียด้วยซ้ำ
และในความเป็นจริง สิ่งที่หลินเฟิงพูดไปเมื่อกี้ก็เป็นข้อเท็จจริงข้อหนึ่งจริง ๆ
"ไม่ผิด ด้านนี้ของหน้าอกของฉันเคยถูกกระสุนยิงมาก่อน หลังจากที่ปลอกกระสุนปืนฝังอยู่ในร่างกายของฉันช่วงหนึ่ง มันถึงได้ถูกผ่าตัดเอาออกไป"
ท่านผู้เฒ่าอู๋พยักหน้าและพูดออกมา
ใบหน้าของหลินเฟิงไม่ได้มีความรู้สึกประหลาดใจต่อเรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว แต่กลับปรากฏสีหน้าที่มีความหมายว่าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ออกมาแทน
หลังจากนั้นหลินเฟิงก็ถามต่อว่า "ช่วงนี้ท่านผู้เฒ่าอู๋เคยเจ็บป่วยมาก่อนใช่ไหม? ถ้าผมทายไม่ผิดละก็ ช่วงนี้เวลาที่ท่านผู้เฒ่าอู๋อาการกำเริบขึ้นมา เกือบจะเป็นตอนนอนทั้งหมดใช่หรือไม่? กลางวันก็อาจจะเกิดอาการได้ แต่เมื่อเทียบกับเวลากลางคืนแล้ว น่าจะน้อยกว่ามาก......"
"นายพูดได้ถูกต้อง จริง ๆ แล้วไม่ใช่แค่ช่วงนี้เท่านั้น แต่ไหนแต่ไรมาเวลาที่เกิดอาการก็เกือบจะเป็นตอนกลางคืนทั้งหมด ส่วนตอนกลางวันนั้นมีโอกาสน้อยมาก ๆ ดังนั้นเมื่อก่อนฉันจึงไม่รีบร้อนรักษาโรคนี้มาโดยตลอด เพราะไม่ว่ายังไงก็ไม่ได้ถ่วงธุระในตอนกลางวัน และเพียงเจ็บปวดจนยากที่จะทนไหวในตอนกลางคืนเท่านั้น"
"รบกวนท่านผู้เฒ่าอู๋แล้วจริง ๆ จากคำถามสองข้อเมื่อกี้ ผมก็เกือบจะเข้าใจอาการป่วยทั้งหมดของท่านผู้เฒ่าอู๋แล้ว ส่วนเรื่องสาเหตุที่ทำให้อาการป่วยนี้ปรากฏออกมานั้น ผมก็มีความมั่นใจอยู่บ้าง แต่ถ้าอยากจะรู้ว่าแท้จริงแล้วผมมีความมั่นใจกี่ส่วนว่าจะสามารถรักษาโรคประหลาดของท่านผู้เฒ่าอู๋ให้หายขาดได้ ผมก็ยังคงต้องถามคำถามสุดท้าย......"
"คำถามอะไร?"
"ไม่รู้ว่าในด้านวิธีการรักษา ท่านผู้เฒ่าอู๋สามารถยอมรับ......การผ่าตัดได้หรือไม่......"
ท่านผู้เฒ่าอู๋ไม่ได้ตอบคำถามนี้กับหลินเฟิงทันที แต่กลับตกอยู่ในความเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง
สำหรับท่านผู้เฒ่าอู๋ที่คุ้นชินกับการรักษาของแพทย์แผนจีน แม้ว่าเขาจะเคยใช้วิธีการผ่าตัดมาก่อน แต่เมื่อเทียบกับแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมแล้ว วิธีการรักษาที่ดูเหมือนจะอันตรายกว่าไม่น้อยนี้กลับอยู่เหนือกว่าขอบเขตที่ท่านผู้เฒ่าอู๋จะสามารถรับได้อยู่เล็กน้อยจริง ๆ
ดังนั้นการที่จู่ ๆ เวลานี้หลินเฟิงก็เสนอวิธีการแบบนี้ออกมา จึงทำให้ท่านผู้เฒ่าอู๋ตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง
หลังจากผ่านไปสักพัก ท่านผู้เฒ่าอู๋ถึงได้เปิดปากพูดออกมาอย่างช้า ๆ ว่า "ยอมรับน่ะยอมรับได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นการผ่าตัดอะไร การผ่าตัดนี้อันตรายยังไงบ้าง แล้วมีโอกาสที่จะสำเร็จกี่ส่วน......"
เวลานี้ท่าทางที่ระมัดระวังท่านผู้เฒ่าอู๋ดูราวกับเด็กน้อยที่กำลังจะถูกฉีดยา ซึ่งมีความรู้สึกที่หวาดกลัวบางอย่าง นี่ทำให้หลินเฟิงอดที่จะหัวเราะออกมาเบา ๆ ไม่ได้ และหลังจากนั้นเขาก็อธิบายว่า "นี่ต้องพูดถึงสาเหตุที่ปรากฏโรคประหลาดของท่านผู้เฒ่าอู๋ที่ผมคาดเดาเอาไว้สักเล็กน้อยก่อน......"
"เข้าใจอย่างง่าย ๆ ก็คือ......เหมือนอย่างที่ผู้อาวุโสคนนี้พูดเมื่อกี้ มีอะไรบางอย่างอุดอยู่ที่หน้าอกและหัวใจของคุณ ดังนั้นคุณถึงได้มีอาการหายใจลำบากและเจ็บหน้าอกอยู่บ่อย ๆ เพียงแต่......"
"สิ่งที่อุดอยู่ที่หน้าอกและหัวใจไม่ใช่การติดขัดของเลือดลม แต่เป็นสิ่งแปลกปลอมที่เคยอยู่ในร่างกายของท่านผู้เฒ่าอู๋ อย่างเช่นกระสุนปืนที่เคยฝังอยู่ในร่างกายของท่านผู้เฒ่าอู๋เมื่อก่อน หรืออาจจะเป็นสิ่งอื่น ดังนั้นถ้าอยากจะรักษาอาการป่วยของท่านผู้เฒ่าอู๋ให้หายขาด จึงเป็นธรรมดาที่ต้องผ่าตัดเอาสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในร่างกายออกมา"
"ส่วนเรื่องความมั่นใจ......ถ้าผมลงมือผ่าตัดด้วยตัวเอง การผ่าตัดครั้งนี้ผมมีความมั่นใจอย่างน้อย......"
"เก้าส่วน"
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลินเฟิงก็พูดออกมาด้วยความมั่นใจว่า "ถ้าผมลงมือผ่าตัดด้วยตัวเอง ผมมีความมั่นใจอย่างน้อยเก้าส่วนว่าจะสามารถผ่าตัดครั้งนี้ได้สำเร็จ......"
น้ำเสียงที่มั่นใจของหลินเฟิงยังคงดังก้องอยู่ข้าง ๆ หู และเวลานี้จุดสนใจในห้องหนังสือก็ย้ายมาอยู่บนตัวของหลินเฟิงอีกครั้ง
บางทีอาจเป็นเพราะรู้ว่า เป็นไปได้มากว่าหลินเฟิงจะเป็นหมอเทวดาที่เชี่ยวชาญทั้งแพทย์แผนจีนและแผนปัจจุบัน ดังนั้นคุณหลิวที่เดิมทียังคงคิดจะก่อความยุ่งยากให้หลินเฟิงอยู่จึงเงียบลงอย่างถึงที่สุด ยืนตะลึงอยู่ด้านข้าง และไม่กล้าที่จะพูดจาเหลวไหลอะไรอีก
หลินเฟิงในตอนนี้อาจเป็นเพียงไอ้หนูที่ไร้ชื่อคนหนึ่ง แต่ถ้าเขามีวิชาแพทย์ที่ยอดเยี่ยมถึงขนาดที่เพียงอาศัยการสังเกตไกล ๆ และถามคำถามที่ง่าย ๆ สองสามข้อ แล้วรักษาโรคประหลาดของท่านผู้เฒ่าอู๋ให้หายดีได้จริง ๆ เช่นนั้นคุณหลิวก็เชื่อว่าคนแบบนี้ในอนาคตจะต้องเป็นคนที่เขาล่วงเกินไม่ได้แน่นอน
ดังนั้นเวลานี้จึงเป็นธรรมดาที่เขาไม่กล้าที่จะก่อความยุ่งยากอะไรให้หลินเฟิงอีก และในความเป็นจริงเขาไม่เพียงไม่กล้าที่จะก่อความยุ่งยากเท่านั้น ถึงขนาดที่ในใจของคุณหลิวยังเริ่มครุ่นคิดว่าควรจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและคบค้าสมาคมกับหลินเฟิงยังไงขึ้นมาแล้ว
ส่วนนายกเทศมนตรีหยังที่พาหลินเฟิงมาที่นี่ เวลานี้เขาก็ดีใจเป็นบ้าเป็นหลังไปชั่วขณะหนึ่ง
เดิมทีเขาเพียงมีความคิดที่จะลองดูเท่านั้น เขาถึงได้พาหลินเฟิงที่ไม่รู้ว่าใช้วิธีการอะไรรักษาโรคประหลาดของภรรยาของเขาให้หายดีและชุบชีวิตแม่ยายของเขามายังที่นี่ แล้วลองรักษาโรคของท่านผู้เฒ่าอู๋ดู
แต่ใครจะคิดได้ว่า......
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved