บทที่ 2 มรดกลึกลับ

"คุณหมอหลัว คุณหมอหลัว คุณ..............คุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?"

คำถามด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นของหญิงชราดึงหลัวหยวนกลับสู่ความเป็นจริง เขาระงับความประหลาดใจและรีบตอบออกไปว่า " ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เป็นอะไร แค่น้ำตาลในเลือดต่ำ อาการเดิมๆ ผมทำให้คุณป้าต้องตกใจสินะ"

"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว คุณทำให้ฉันตกใจมากเลย!" หญิงชรายิ้มอย่างอ่อนโยน

บนใบหน้าของเธอ ไม่มีความเศร้าโศกที่มรดกตกทอดของตระกูลเพิ่งถูกทำลายไปเมื่อกี้อีกแล้ว

หลัวหยวนตัดสินใจแล้วว่า เขาจะใช้ความรู้ทั้งหมดที่เขาได้ร่ำเรียนมา เพื่อมาช่วยรักษาความทนทุกข์ทรมานของคุณลุงเจียง

เหตุผลแรกก็เพื่อเป็นการชดเชยกับสิ่งของที่เสียหายไปของคุณป้าหลิว

เหตุผลที่เพราะหลัวหยวนมักจะยึดมั่นในความเมตตากรุณาของโลก

"คุณหมอหลัว เมื่อกี้ฉันวัดน้ำตาลในเลือดให้แล้ว และฉีดกลูโคสให้คุณแล้ว คุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?"

พยาบาลที่อยู่ข้างๆถามด้วยความเป็นห่วง

"ผมไม่เป็นอะไร ขอบคุณมากๆครับ พี่หวังครับ เอาใบนั่นมาให้ผมเถอะ เดี๋ยวผมจะไปจ่ายเงิน!"

หลังจากไปชำระเงินเสร็จแล้ว หลัวหยวนก็กลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง และขังตัวเองอยู่ในห้องนั้น
ชิ้นส่วนความทรงจำต่างๆที่อยู่ในสมองของเขาเป็นเหมือนน้ำเดือด ที่ผุดขึ้นมาในหัวไม่หยุด

เภสัชวิทยาทางการแพทย์ ภูมิศาสตร์ดาราศาสตร์ คำทำนายสิ่งลึกลับ.................

มีแม้กระทั่งวิธีการที่ยอดเยี่ยมที่เรียกว่าเก้าการเปลี่ยนแปลงของไหมเทพพระเจ้า!

หนึ่งในนั้นมีด้านเภสัชวิทยาทางการแพทย์ ครอบคลุมไปด้วยหนังสือชิงหนาง หนังสือลมปรานของฉีโป๋ หนังสือจักรพรรดิหวังตี้ซูเวิ้นหลิงซู และหนังสือหนานจิง ซึ่งเป็นหนังสือที่มีคุณค่าของการแพทย์โบราณในหลายทศวรรษที่ผ่านมา

ในฐานะที่หลัวหยวนเป็นคนขยันเรียนอย่างหนัก ทำให้เขาเป็นผู้ปฏิบัติงานทางการแพทย์ที่เคารพบูชาการแพทย์ของมาตุภูมิ ถึงแม้เขาจะเรียนการแพทย์ตะวันตก แต่เขาก็มีความรู้ในหนังสือชิงหนาง

หนังสือชิงหนางเป็นหนึ่งในผลงานของฮัวถัว ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ผู้มีความรู้การแพทย์โบราณในประเทศจีน

ฮัวถัวทุ่มเทชีวิตของเขาให้กับหนังสือเล่มนี้ การบันทึกประสบการณ์ทางการแพทย์.................เนื่องจากลูกศิษย์ดูแลไม่ดี ทำให้สูญหาย

แต่ในตอนนี้เนื้อหาทั้งหมดที่อยู่ในหนังสือชิงหนางอยู่ในสมองของหลัวหยวนหมดแล้ว!

ถ้าเทียบกัน ภูมิหลังของหนังสือลมปราณของฉีโป๋ยิ่งใหญ่กว่าหนังสือชิงหนาง

ตามคำบอกเล่าสมัยโบราณ แพทย์ที่มีชื่อเสียงที่มีชื่อว่าฉีโป๋พยายามก่อตั้งเทคนิควิชาลมปราณและผลักดันให้ผ่านพระราชวัง

หนังสือจักรพรรดิหวังตี้ซูเวิ้นหลิงซู และหนังสือหนานจิง จะเป็นการรวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับการฝังเข็มและการรมยาโบราณ เป็นการริเริ่มของการฝังเข็ม

เมื่อหลัวหยางรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองแล้ว เขาก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

หนังสือทางการแพทย์โบราณเหล่านี้ที่รวบรวมสาระสําคัญของการแพทย์จีน

หนึ่งในหนังสือที่ถูกส่งผ่านออกไป ก่อให้เกิดการสั่นสะเทือนทั้งวงการการแพทย์ของจีนและระดับโลก

คนที่ฉลาดและมีความสามารถมักได้รับความเดือดร้อน!

หลัวหยวนตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

จนกว่าเขาจะมีความสามารถที่เพียงพอ เขาจะไม่เปิดเผยวิชาความรู้ที่น่าประหลาดใจของบรรพบุรุษเหล่านี้

หลังจากที่เขาได้เรียนรู้และพิสูจน์ตัวเองแล้ว เขาจะถ่ายทอดวิชาความรู้พวกนี้ให้คนรุ่นหลัง

ไม่นานการแพทย์แผนจีนจะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งหนึ่ง!

ส่วนเรื่องเก้าการเปลี่ยนแปลงของไหมเทพพระเจ้า เป็นเรื่องที่หลัวหยวนรู้สึกมันน่าเหลือเชื่อมากๆ

ถ้าหนังสือทั้งสี่เล่มนั้นเป็นความลับ งั้นเรื่องเก้าการเปลี่ยนแปลงของไหมเทพพระเจ้าก็เป็นทักษะพิเศษ

ใช่แล้ว ทักษะพิเศษ!

ต้องเป็นทักษะพิเศษแน่ๆ!

ตามที่อธิบายไว้ข้างต้น เพียงแค่หาไหมเก้าชนิดที่ไม่เหมือนกัน หลังจากที่ดูดซับแล้ว สามารถล้างกระดูกตัดไขกระดูกเปลี่ยนร่างกายได้

ซักวันหนึ่งในอนาคต การเป็นเทพก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

เพียงแค่มีปัญหาอยู่สองข้อ

ข้อแรก ไหมเทพพระเจ้าเก้าชนิด หลัวหยวนไม่เคยได้ยินมาก่อน ไม่รู้ว่าหายสาบสูญไปหมดแล้วหรือยัง

นอกจากนั้น การดูดซับไหมเทพพระเจ้าไม่ได้เป็นเรื่องทำกันง่ายๆ

ต้องดูดซับพลังของจักรวาล เก็บไว้ในพระราชวังของพระเจ้า แบบนึ้งถึงจะสามารถดูดซับพลังที่มีประสิทธิภาพของไหมเทพพระเจ้าได้

การดูดซับด้วยอำนาจจิตเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก

มันต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่่องเพื่อช่วยชีวิต และได้รับความซาบซึ้งความชื่นชมของมนุษย์ถึงจะสามารถดูดซับได้

และยังมีวิธีการรวบรวมพลังอำนาจจิต มันคือการดูดซับโดยตรงจากวัตถุโบราณที่มีอำนาจจิตที่มีประสิทธิภาพ

แน่นอนว่า วิธีที่สองมันไม่ได้ง่ายเลย

วัตถุโบราณที่มีพลังอำนาจจิตในโลกนี้ยังหายาก ไม่ได้กาเจอได้ง่ายๆ มันมักจะต้องมีจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม

แสดงว่าการที่หลัวหยวนสืบทอดความทรงจำเหล่านี้ได้ ที่จริงแล้วเกิดจากหนึ่งในบรรพบุรุษสูงส่งที่ประทับอำนาจจิตลงบนเครื่องลายคราม และเขาก็ได้มีจังหวะและโอกาสมาพบเจอโดยบังเอิญ

แต่หลัวหยวนไม่ได้สนใจเรื่องนี้

ในมุมมองของเขา หมอที่ยอดเยี่ยม พลังการรักษาที่ยิ่งใหญ่ จะขาดแคลนผู้ป่วยที่ซาบซึ้งในคุณความดีหรอ?

ขอเพียงแค่ตัวเขาเองทำด้วยความเต็มใจอย่างที่สุด พลังที่ได้รับจากเครื่องลายครามจะถูกรวมเข้าด้วยกัน แบ[นี้ก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมพลังไม่เพียงพอ!

จู่ๆ ก็มีความวุ่นวายในทางเดินด้านนอก

"หัวหน้าพยาบาล มีคนเป็นลมในห้องตรวจ ! ผู้ป่วยที่มีประวัติของนิ่วในไตและมีปอดอักเสบเล็กน้อย..............."

เป็นเสียงวิตกกังวลของพยาบาลเสี่ยวหลิว

แรกเริ่มหลัวหยวนตกใจมาก ต่อมาก็สงบนิ่งลง

ปกติห้องพักกันเสียงได้ค่อนข้างดี ไม่ค่อยจะได้ยินเสียงภายนอกซักเท่าไหร่

ตอนนี้ประตูห้องถูกปิดอยู่สองชั้น แต่เขาก็ยังได้ยินเสียงข้างนอก..............

มีเพียงสิ่งเดียวที่อาจจะเป็นไปได้ นั่นก็คือการที่เขาได้รับพลังเหล่านี้ ทำให้การฟังของเขาแข็งแกร่งขึ้น!

การช่วยคนต้องมาก่อน!

หลัวหยวนไม่คิดอะไรมาก เขารีบลุกขึ้นและวิ่งออกไปที่ห้องตรวจ

"จังหวะการเต้นของหัวใจปกติ ดวงตาหดลงเล็กน้อย มีการหลั่งของเหงื่อ ตาแดง ที่ขามีบาดแผลเก่า กระดูกหักมาแล้วสองครั้ง ที่ฝ่าเท้าครั้งหนึ่ง และที่น่องอีกครั้งหนึ่ง ผู้ป่วยกำลังเป็นตะคริว..............."

พยาบาลเสี่ยวหยากำลังอ่านข้อมูลประวัติการรักษาอย่างเบาๆ

"ให้ออกซิเจน ให้น้ำเกลือ.............."

พี่หวังหัวหน้าพยาบาลยังไม่ทันพูดจบ ก็ได้ยินพยาบาลเสี่ยวหยุนพูดขึ้ว่า " ห้อง093 มีถุงลมโป่งพองเฉียบพลันและอาจมีภาวะสมองขาดเลือด หัวหน้าพยาบาลคะ เตรียมผ่าตัดเลยมั้ยคะ?"

เมื่อได้ยินคำถามนี้ หัวหน้าพยาบาลส่ายหน้า และพูดว่า " รีบแจ้งญาติๆ อาการแบบนี้ต่อให้เข้ารับการผ่าตัด อัตราความสำเร็จมีน้อยมาก แต่ถ้าสมองขาดเลือดจริงๆอาจทำให้เกิดอัมพาตและกลายเป็นเจ้าชายนิทราได้"

"ผู้ป่วยมีอาการอย่างไรบ้าง?"

ในตอนนี้เอง มีเสียงถามดังขึ้นมาจากด้านหลัง

เมื่อหัวหน้าพยาบาลได้ยิน เธอก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร เธอรีบหันหน้ากลับไปตอบทันทีว่า "หัวหน้าอู๋ ผู้ป่วยมีความซับซ้อนมาก นี่เป็นรายงานการตรวจและการรักษา"

หัวหน้าอู๋ไม่ได้อ่านรายงานการรักษา เขาอ่านรายงานผลตรวจ เขาขมวดคิ้วและพูดว่า "ในเมื่อเป็นถุงลมโป่งพองเฉียบพลัน งั้นจะรออะไรอีก รีบเตรียมผ่าตัด"

"หัวหน้าอู๋คะ ฉันได้แจ้งแพทย์ฉุกเฉินที่ปฎิบัติหน้าที่เรียบร้อยแล้ว"

เมื่อหัวหน้าอู๋ได้ยินดังนั้น เขาก็พยักหน้าด้วยความพอใจ

ตอนที่เขากำลังจะพูดอะไรซักอย่างอยู่นั้น ก็มีเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

"ผ่าตัดไม่ได้ ดูจากอาการของผู้ป่วยในตอนนี้ ถ้าผ่าตัดจะเสี่ยงเกินไป!"

คนที่พูดก็คือหลัวหยวน

หัวหน้าอู๋สายตาเย็นชา เขายิ้มเจื่อนและพูดว่า " หลัวหยวน ทำไมถึงเป็นคุณอีก? ! ไม่ใช่บอกให้คุณไปทำงานที่แผนกฝังเข็มหรอ? ทำไมยังมายุ่งวุ่นวายที่นี่อีก!"

"หัวหน้าอู๋ครับ คุณบอกให้ผมไปรายงานตัวพรุ่งนี้ วันนี้เพิ่งจะบ่ายสามเองนะ!" หลัวหยวนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

"หึ่ย! ผมไม่สนว่าตอนนี้กี่โมง ! คุณก็แค่แพทย์ฝึกหัดจะไปรู้อะไร?! รีบไปให้พ้น อย่ามาทำให้ผู้ป่วยต้องเสียเวลา คุณช่วยอะไรไม่ได้ก็รีบไปซะ!" หัวหน้าอู๋ตะคอก

หลัวหยวนขมวดคิ้ว

รู้ว่าเกลียดขี้หน้ากัน แต่คิดไม่ถึงว่าถึงตอนนี้แล้วหัวหน้าอู๋ยังทำได้ลง

ดูจากสถานการณ์แล้ว เขาคงไม่ยอมมอบผู้ป่วยคนนี้ให้ตัวเองแน่ๆ

แต่จากการวินิจฉัยของเขา แน่นอนว่าต้องทำการผ่าตัด แม้ว่าผู้ป่วยจะยังโชคดีมีชีวิตอยู่ต่อ แต่สุดท้ายก็ต้องเป็นอัมพาต จนถึงขันต้องเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ดี

การช่วยชีวิตคนต้องมาเป็นที่หนึ่ง!

ไม่สามารถมองดูผู้ป่วยต้องพลาดวิธีการรักษาที่ดีที่สุด!

หลัวหยวนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบที่สุดว่า " หัวหน้าอู๋ครับ สภาพอาการป่วยของคนไข้ค่อนข้างพิเศษ ยังไงก็ไม่ควรทำการผ่าตัด! ไม่งั้น อาจจะรักษาชีวิตไว้ไม่ได้"

ตรงตามที่คิดไว้ เมื่อหลัวหยวนพูดออกไป สีหน้าขอหัวหน้าอู๋ก็เย็นชามากขึ้น

"หลัวหยวน ใครให้คุณมีความกล้าขนาดนี้? ! เป็นแค่แพทย์ฝึกหัดตัวเล็กๆ กล้ามาต่อรองและสงสัยในการวินิจฉัยของผม? ! คุณต้องรู้ก่อนว่า ที่นี่ใครกันแน่ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ! หึ่ย คนที่มั่นใจในตัวเองมากอย่างคุณ ชาตินี้ไม่ต้องคิดที่จะผ่านโปรได้เข้ามาทำงาน!"

หลังจากที่ด่าหลัวหยวนเสร็จแล้ว สายตาของหัวหน้าอู๋ก็หันไปมองพยาบาลสองสามคนที่ยืนอยู่ข้างๆ และตะโกนด้วยความโกรธว่า " คุณ คุณ คุณ...และคุณจะยืนงงอะไรกันอยู่? ! โง่ไปแล้วหรอ? ยังไม่รีบพาผู้ป่วยไปเตรียมตัวผ่าตัดอีก!"

"หัวหน้าอู๋ครับ!" หลัวหยวนเกือบจะตะโกนออกมา "ต่อหน้าผู้ป่วยไม่มีสูงต่ำ การตัดสินทางการแพทย์ทั้งหมดจะต้องอยู่บนพื้นฐานของสุขภาพของผู้ป่วย ผมเองก็เป็นหมอ ผมมีสิทธิ์ที่จะเสนอความคิดของผม!"

สายตาขุ่มมัวของหัวหน้าอู๋จางหายไป

หลังจากนั้น จู่ๆเขาก็เผยรอยยิ้มที่ทุกคนคาดไม่ถึงออกมา

"โอเค คุณหมอหลัว คุณบอกว่าถ้าผู้ป่วยไม่ผ่าตัด แล้วจะมีวิธีไหนที่จะทำให้เขาฟื้นตัวโดยเร็วที่สุด? ! คุณรู้มั้ยว่า ถ้าสมองขาดเลือดแล้วไม่ทำการผ่่าตัด จะรักษาได้ยากมาก ในตอนนี้ผู้ป่วยเหมือนไฟที่ขาดน้ำมัน ถ้าคุณไม่ต่อสู้เพื่อลมหายใจสุดท้าย เกรงว่าเขาอาจจะไม่มีแม้โอกาสที่จะได้เป็นเจ้าชายนิทรา"

หลัวหยวนหัวเราะเย็นชา และพูดออกไปว่า " ผม มีวิธีทำให้เขาฟื้นตัว!"

พูดจบ หลัวหยวนไม่สนใจหัวหน้าอู๋ที่ยืนตกตะลึงอยู่ข้างๆอีกแล้ว เขาหันหน้าไปพูดกับพยาบาลที่อยู่ข้างๆว่า " ช่วยถอดเสื้อของเขาให้หน่อยครับ เชื่อผม! พี่หวัง!"

หัวหน้าพยาบาลลังเลอยู่ครูหนึ่ง เธอไม่หันไปมองหัวหน้าอู๋อีก เธอถอดเสื้อผ้าผู้ป่วยด้วยตัวเอง

ในตอนนี้เอง ก็มีเสียงดังขึ้น ประตูแผนกฉุกเฉินถูกผลักออก

ทันใดนั้น มีชายหนุ่มแต่งตัวดีเดินเข้ามา ตะโกนเสียงดังว่า " ผมไม่สนว่าใครเป็นหมอ ต้องรีบรักษาคุณท่านหม่าทันที! ถ้าเกิดคุณท่านเป็นอะไรขึ้นมา พวกคุณไม่มีทางรอดไปได้แน่!"

ตอนที่เขาพูด สร้อยคอทองหนาเท่าปลายนิ้วสั่นด้วยความตื่นเต้น

"คุณท่านหม่า ใครคือคุณท่านหม่า?" หัวหน้าอู๋ได้สติคืนมา ถามออกไปด้วยความสงสัย

"หึ่ย! ยังจะมีคุณท่านหม่าที่ไหนอีก? ! แน่นอนว่าต้องเป็นคุณพ่อของคุณหม่ากงฉีสิ!"

อะไร? !

คุณหม่ากงฉี............

หัวหน้าอู๋ตื่นเต้น เขารีบหันไปตะโกนกับพยาบาลว่า " เร็ว เร็ว! รีบพาคุณท่านหม่าไปที่ห้องICU ผม..............เอ่อ ผมจะรีบติดต่อผู้อำนวยการโรงพยาบาล"

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

755