บทที่ 6 ในงานเลี้ยงไม่มีงานเลี้ยงที่ดี

เมื่อเห็นว่าหลัวหยวนมีสีหน้าที่ไม่ค่อยดี แววตาของหวังเหล่ยมีรอยยิ้มเย็นชาปรากฎขึ้น

"เแ็นไงบ้าง หลัวหยวน ผ่านมาครึ่งปีแล้ว หรือว่านายยังไม่ผ่านการฝึกงาน?"

หลัวหยวนขมวดคิ้วแน่น

โบราณกล่าวไว้ว่า ในงานเลี้ยงไม่มีงานเลี้ยงที่ดี

ดูท่าทางแล้ว จริงๆเขาไม่ควรจะมา

คิดไม่ถึงว่าหวังเหล่ยคนที่รูปร่างสูงกำยำจะเป็นคนจิตใจคับแคบขนาดนี้ ถึงตอนนี้แล้วเขายังมุ่งเป้ามาที่หลัวหยวนอยู่อีก

เขาแอบชอบเจียงเชี่ยน แค่เพียงเพราะเจียงเชี่ยนรู้สึกดีกับหลัวหยวน ด้วยเหตุนี้เขาก็เลยเห็นหลัวหยวนเป็นศัตรู ถ้ามีโอกาสเขาก็จะใส่ไม่ยั้งทันที

เมื่อหวังเหล่ยพูดจบ ทุกคนก็เริ่มพูดวิพากษ์วิจารณ์

"ไม่หรอกมั้ง เกือบจะครึ่งปีแล้ว ตามหลักแล้วก็ควรเข้าทำงานจริงจังแล้วสิถึงจะถูก!"

"ใช่ไง ปกตินักศึกษาที่ถูกเสนอชื่ออย่างหลัวหยวน ฝึกงานมากสุดก็แค่สองเดือน ยาวหน่อยก็ไม่ควรจะเกินหนึ่งเทอม จะเป็นไปได้อย่างไรที่ผ่านมาครึ่งปีแล้วยังไม่ได้เข้าทำงาน? หลัวหยวน นายคงไม่ได้ไปมีปัญหากับใครใช่มั้ย?"

"เห้ เห้ เห้! พวกนายไม่ต้องพูดไร้สาระแล้ว! เป็นคนไม่ควรพูดถึงเรื่องส่วนตัวของผู้อื่น ! เสี่ยวหลิว นายรู้เรื่องนี้สินะ เพราะนายเองก็ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลนี้! ฉันได้ยินมาว่า..........วันนี้หลัวหยวนถูกย้ายไปอยู่แผนกฝังเข็ม ทุกคนอย่าพูดให้เรื่องมันยิ่งดูแย่เลย!"

"หา? เป็นไปไม่ได้ หลัวหยวนเป็นนักศึกษายอดเยี่ยมของมหาวิทยาลัยของเรา จะถูกย้ายไปอยู่แผนกฝังเข็มได้อย่างไรกัน? ถ้าเป็นฉัน ฉันต้องไปเคลียร์กับคนที่ย้ายฉัน!"

..............

หลัวหยวนรู้ดีว่าทำไมทุกคนถึงดีใจกับเรื่องความหายนะที่เกิดขึ้น

เพราะตอนนั้นตนมีผลการเรียนที่ดี ได้ทุนการศึกษาตลอดระยะเวลาห้าปี แถมยังใช้ชีวิตสันโดษ ไม่ค่อยคบค้าสมาคมกับใคร ด้วยเหตุนี้ก็เลยทำให้เพื่อนหลายๆคนไม่ค่อยชอบตนเท่าไหร่

บวกกับตอนที่เรียนจบ ศาสตราจารย์โอวหยางเสนอชื่อตนให้เขาฝึกงานที่โรงพยาบาลประชาชนเมืองตงไห่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เพื่อนๆหลายคนใฝ่ฝันไว้ ก็เลยยิ่งทำให้พวกเขาอิจฉาริษยาตน

ตอนนี้เมื่อได้ยินว่าตนตกต่ำ การที่มาเหยียบย่ำซ้ำเติมก็เลยไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไร

หลัวหยวนหัวเราะเยาะตัวเอง " ที่ทุกคนได้ยินมาเป็นข่าวเก่าแล้ว"

"ยังไง หรือว่าสุดท้ายหัวหน้าอู๋คนนั้นเปลี่ยนความคิดแล้วหรอ สุดท้ายเขาไม่ได้ให้นายไปอยู่แผนกฝังเข็ม?" คิ้วของหวังเหล่ยเผยอขึ้น เขาถามยิ้มๆ

หลัวหยวนหัวเราะเบาๆ และพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า " หัวหน้าอู๋ยังไม่ได้เปลี่ยนความคิด แต่ฉันเปลี่ยนความคิดแล้ว"

"ยังไง หลัวหยวน นายคงไม่ได้ลาออกแล้วหรอกนะ? " หวังเหล่ยถามต่อ

"นายพูดถูกแล้ว ฉันตั้งใจจะไม่ทำแล้ว"

"ไม่ทำแล้วฦ นั่นมันโรงพยาบาลประชาชนเมืองตงไห่เลยนะ เป็นสถานที่ใฝ่ฝันของใครหลายๆคน ฉันว่า นายลองคิดดูดีดีอีกที ไปอยู่แผนกฝังเข็มก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่นา ไม่ใช่เมื่อก่อนนายชอบพูดว่าแพทย์แผนจีนของประเทศเราแล้วเก่งกาจยอดเยี่ยมมาก จำเป็นต้องมีคนมาสืบทอดต่อหรอ? ฉันได้ยินมาว่าศาตราจารย์ฉินแผนกฝังเข็ม เก่งเรื่องการฝังเข็มและการรมยา ไม่แน่นายอาจจะเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสก็ได้นะ"

คนที่พูดเป็นเพื่อนที่อยู่หอเดียวกันนอนเตียงชั้นบนของหลัวหยวน เขาชื่อเฉินอวู๋

ในระยะเวลาห้าปีที่เรียนหนังสือ คนที่สามารถพูดคุยกับหลัวหยวนได้มีไม่กี่คน เฉินอวู๋คือหนึ่งในนั้น

ศาสตราจารย์ฉินที่เขาพูดถึงมีชื่อว่า ฉินเผิงจวู๋ ตามที่รู้มาเพราะว่าเขามีปัญหากับหัวหน้าอู๋ เขาก็เลยโดนย้ายไปอยู่แผนกฝังเข็ม ทำมาหกปีแล้ว

แต่เขาเป็นคนที่พอใจและมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองได้รับ เขาไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ ทำให้เขาเป็นคนที่โดดเด่นในแผนกฝังเข็ม

"ช่างเถอะ ฉันตัดสินใจเอง ทุกคนไม่ต้องมาสนใจเรื่องของฉันหรอกนะ!"

หลัวหยวนพูดจบ เขาลุกขึ้นมาทำท่าทางขอบคุณทุกๆคน

เขาต้องการจะหาทางลง แต่ก็มีคนที่ไม่ยอมง่ายๆ

ในตอนนี้เองเจียงเชี่ยนก็ยืนขึ้น เธอเดินถือแก้วเหล้ามาข้างๆเขา ยิ้มและพูดว่า " หลัวหยวน นายนี่ก็จริงๆเลยนะ เจอเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไม่พูดบ่นอะไรเลย ถึงแม้ตอนนี้เพื่อนๆจะทำงานกันคนละที่ แต่ไม่แน่อาจจะมีใครสามารถช่วยนายได้ก็ได้นะ?"

หลัวหยวนยิ้มด้วยความไม่สนใจ เขาพูดออกไปว่า " ฉันไม่ต้องการให้เรื่องของฉันมาทำให้งานเลี้ยงของทุกคนไม่สนุก"

"นายพูดอะไรของนาย!" เจียงเชี่ยนพูดด้วยใบหน้าขรึมว่า " หลัวหยวน ยังไงพวกเราก็เป็นเพื่อนกัน ไม่มีทางที่จะไม่ช่วย! เออใช่ ฉันลืมแนะนำให้นายรู้จัก นี่คือแฟนของฉันชื่อหูไห่ฉาว ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพท์ที่เมืองตงไห่ ถือว่ามีชื่อเสียงระดับหนึ่ง"

หลัวหยวนชะงักเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองเจียงเชี่ยนที่พูดอย่างภูมิใจ

หลัวหยวนยิ้มเจื่อนในใจ

ดูท่าทางที่พูดว่าต้องการจะช่วยตนเป็นเรื่องเท็จ แต่การที่จะแนะนำแฟนให้รู้จกคือความจริง

หลัวหยวนก็เลยหันไปมองผู้ชายแปลกหน้าที่เจียงเชี่ยนชี้ไป

เขาเป็นผู้ชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบปี สวมชุดสูทที่ดูดี เป็นลักษณะของคนที่ประสบความสำเร็จ

ถึงแม้ในใจจะรู้สึกเซ็ง แต่หลัวหยวนก็ยังคงหันไปยิ้มด้วยความอ่อนโยนให้ผู้ชายคนนั้น เขายื่นมือออกไป " สวัสดีครับ ผมชื่อหลัวหยวน เป็นเพื่อนของเจียงเชี่ยน"

ผู้ชายวัยกลางคนคนนั้นไม่ได้ยื่นมือมาจับมือของหลัวหยวน เขาพูดยิ้มๆว่า " ขอโทษด้วยจริงๆครับ ผมเป็นคนไม่เคยกลัวอะไร กลัวก็แค่หมอ ต้องขอโทษด้วย ขอโทษด้วยครับ!"

หลัวยื่นดึงมือกลับมาด้วยความอาย

กลัวหมอแล้วเขายังมาที่นี่อีก นี่ไม่ได้เรียกว่าพูดโกหกซึ่งๆหน้าหรอ?

ที่นี่ทุกคนต่างเป็นคนที่เรียนจบคณะแพทย์ ส่วนใหญ่ก็ทำงานทางด้านการแพทย์กันทั้งนั้น

ขนาดเจียงเชี่ยนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ถ้าเขาจำไม่ผิดล่ะก็ เธอเองก็ทำงานบริษัทยาที่ไหนซักแห่ง

"อ่อใช่ " ชายวัยกลางคนเหลือบตาดูถูกหลัวหยวน "ได้ยินมาว่าตอนเรียนมหาวิทยาลัย เจียงเชี่ยนชอบคุณมานาน วันนี้ได้มาเห็น..........ที่แท้คุณเป็นคนผิวพรรณดี เป็นคนที่ดึงดูดให้ผู้หญิงมาชอบ ดูไม่ออกเลยว่าคุณจะเป็นคนจนที่มาจากบ้านนอกเข้ามาทำงานในเมืองใหญ่"

"ที่รัก นั่นมันเรื่องสมัยก่อนแล้ว คุณจะพูดถึงมันทำไม ในตอนนี้สายของฉันก็มีแค่คุณคนเดียวเท่านั้น!"

"แหะ แหะ ผมเชื่อฟังคุณ ไม่พูดถึงแล้ว ไม่พูดแล้ว!"

เมื่อเห็นพวกเขาสองคนคลอเคลียกัน หลัวหยวนก็อดกลั้นความอยากจะอ้วก เขาอยากนั่งลง และอยากนั่งเงียบๆ จนกระทั่งคนเริ่มทอยอยกลับ จนงานเลี้ยงสิ้นสุด

แต่กลับได้ยินเสียงหูไห่ฉ่าวเดินมา เขาพูดยิ้มๆว่า " เออใช่ ในเมื่อเป็นคนรู้จักกันแล้ว เรื่องนั้นของคุณผมช่วยได้นะ"

"เออใช่ ! พี่หูมีเพื่อนคนหนึ่งทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลประชาชนเมืองตงไห่ ชื่อหวังเหวินเจี๋ย หัวหน้าหวังนายรู้จักมั้ย? ลูกชายของผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ผู้อำนวยการฮวาง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลให้เกียรติเขาอยู่นะ เดี๋ยวให้พี่หูโทรไปคุย เรื่องของนายต้องจัดการได้อย่างแน่นอน" เจียงเชี่ยนพูดขึ้นมา

ถ้าในตอนนี้หลัวหยวนยังคงเป็นหมอที่มีทักษะการรักษางั้นๆ เขาก็คงไม่มีทางที่จะปฏิเสธ

แต่ตอนนี้เขามีความมั่นใจ ด้วยความสามารถของตัวเอง เขาไม่จำเป็นต้องใช้คอนเนคชั่น เขาสามารถหางานที่ดีได้อย่างแน่นอน

การช่วยและรักษาชีวิตคน ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่โรงพยาบาลประชาชนเมืองตงไห่ที่เดียว และก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเป็นหมอที่ดีเด่น!

"ต้องขอบคุณน้ำใจของพวกคุณสองคนด้วย แต่เรื่องที่โรงพยาบาลช่างมันเถอะครับ ผมตัดสินใจดีแล้ว" หลัวหยวนปฏิเสธความหวังดีของเจียงเชี่ยนและหูไห่ฉ่าวตรงๆ ด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ

พูดจบ หลัวหยวนก็นั่งลงไปอีกครั้ง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เงียบสงบ

เมื่อเห็นว่าหลัวหยวนไม่สนใจ ทุกคนก็ไม่สนใจเขาอีก ต่างหยิบเครื่องดื่มของกิน และงานเลี้ยงก็คึกคักขึ้นอีกครั้ง

ช่วยโอกาสนี้ หลัวหยวนเดินไปห้องน้ำ

แต่เพิ่งจะได้เดินออกมา เขาก็เจอกับเจียงเชี่ยนที่ข้างๆอ่างล้างมือ

ดูจากท่าทางแล้ว ดูเหมือนเธอจงใจยืนรอพบเขา

"หลัวหยวน นายไม่ต้องฝืนหรอก! ทุกคนต่างเป็นเพื่อนกัน ฉันให้พี่หูช่วยนายพูดดีกว่า?" เจียงเชี่ยนพูดออกมาตรงๆ

"เจียงเชี่ยน ต้องขอบคุณความหวังดีของเธอมากนะ ฉันตัดสินใจแล้ว บางทีโรงพยาบาลแห่งนี้อาจจะไม่เหมาะสมกับฉันก็ได้"

"ฉันอยากฟังความจริง! หลัวหยวน นายบอกความจริงกับฉันมานะ!" เจียงเชี่ยนเอามือมาจับแขนของหลัวหยวน และจ้องตาเขานิ่งๆ

หลัวหยวนดึงมือเจียงเชี่ยนออกเบาๆ เขาพูดยิ้มๆว่า " เจียงเชี่ยน จริงๆ นี่เป็นความคิดจริงๆของผม เธอเองก็น่าจะรู้ ว่าเรื่องอะไรที่ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะไม่เปลี่ยนความคิด"

" เหมือนกับที่นายปฏิเสธฉันหน่ะหรอ? เห่อๆ สิบเอ็ดครั้ง หลัวหยวน นายนี่หัวใจเป็นศิลาจริงๆ ! นายเป็นผู้ชายคนเดียวที่ปฏิเสธฉัน ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาเรียกนายว่าท่อนไม้! " จู่ๆเจียงเชี่ยนก็หัวเราะออกมา

"ไม่ว่ายังไง ฉันก็ต้องขอบคุณเธอมาก " หลังจากที่หลัวหยวนพูดจบเขาก็เดินจากไป

แต่ดูเหมือนเจียงเชี่ยนไม่ต้องการปล่อยเขาไปง่ายๆ เธอเดินไปขวางหน้าเขาไว้และยิ้มตาหรี่

"หลัวหยวน อย่าเพิ่งไป ฉันยังพูดไม่จบเลย!"

"เอ่อ...."

"ทำไม นายยังกลัวอะไรอีก? กลัวว่าฉันจะกินนายเข้าไปหรอ!"

"ฉันกลัวว่าแฟนของเธอเห็นเข้าจะดูไม่ดี" หลัวหยวนฝืนยิ้มออกมา

"นาย................นายเป็นห่วงฉันหรอ?" เจียงเชี่ยนพูดยิ้มๆ เธอกระซิบที่ข้างหูของหลัวหยวนเบาๆว่า " หลัวหยวน พูดตามตรง นายเป็นผู้ชายที่โดดเด่นที่สุดที่ฉันเคยเจอมาในชาตินี้ ฉัน เจียงเชี่ยน คือคนที่ชอบชื่อเสียง เกียรติยศ และเงินทอง แต่นายรู้อะไรมั้ย? สำหรับนาย ฉันเอาจริง! ฉันชอบนายจริงๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอนาย ฉันก็ชอบนายเลย ตอนนี้ก็เช่นเดียวกัน! ขอแค่นายพูดออกมาคำเดียว ฉันจะเลิกกับแฟนทันที ฉันจะบินไปกับนายดีมั้ย? กลับไปที่บ้านเกิดของนาย ไปที่อำเภอเล็กๆ ที่ฉือเหมินใช่มั้ย พวกเราไปเปิดคลินิกของตัวเอง นายเป็นหมอ ฉันเป็นพยาบาล!"

"เจียงเชี่ยน เธอดื่มจนเมาแล้ว !" หลัวหยวนดันเธอออกเบาๆ และพูดด้วยความจริงจัง

"หลัวหยวน ฉันยังไม่เมา ! แต่นาย นายต้องตื่นขึ้นมา!" เจียงเชี่ยนกอดหลัวหยวน "สังคมมันโหดร้าย คนนิสัยอย่างนายอยู่ไม่ได้หรอก ฉันยอมกลับไปกับนาย กลับไปที่อำเภอเล็กๆของนาย ถึงแม้จะเป็นอำเภอเล็กๆก็เถอะ! ฉันมีเก็บเงินมากพอ สองล้านกว่าๆ มากพอให้พวกเราได้ใช้ชีวิตมั่งคงที่อำเภอเล็กๆนั่นแล้ว"

"ความหมายของเธอก็คือ ต้องการเลี้ยงดูฉันหรอ?" หลัวหยวนถาม

"ทำไมจะไม่ได้? หลัวหยวน ตอนนี้มันยุคไหนกันแล้ว พูดตามตรง ฉันกับหูไห่ฉ่าว ฉันก็เห็นแก่เงินของเขา ฉัน เจียงเชี่ยน ใช้ชีวิตอยู่มายี่สิบสามปี นายเป็นผู้ชายคนเดียวที่ทำให้ฉันไม่เคยลืม"

หลัวหยวนมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรักของเจียงเชี่ยน เขานิ่งเงียบทำสงครามเย็น

"เจียงเชี่ยน ขอบคุณเธอมาก! แต่พวกเราไม่เหมาะสมกัน ไม่เหมาะสมกันจริงๆ! กรุณาปล่อยมือ!"

"ครั้งที่สิบสอง! หลัวหยวน ถึงแม้ฉันจะเดาออกว่านายจะปฏิเสธ แต่ยังไงฉันก็ไม่มีทางปล่อยวางอย่างแน่นอน! นายมีเบอร์โทรศัพท์ของฉัน หากนายเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ นายโทรหาฉันได้ตลอดเวลา ไม่ว่านายจะอยู่ที่ไหน เพียงแค่นายโทรมา คำพูดทุกอย่างที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ยังคงเป็นเหมือนเดิม!"

พูดจบ เจียงเชี่ยนก็หอมไปที่แก้มของหลัวหยวน หลังจากนั้นก็ปล่อยเขา และเดินเข้าห้องน้ำไป

หลัวหยวนมองแผ่นหลังของเจียงเชี่ยนจนลับตาไป เขาลูบรอยลิปสติกที่ติดอยู่บนแก้ม ยิ้มเจื่อนในใจ หลังจากนั้นก็เปิดก๊อกน้ำ และค่อยๆล้างรอยนั่นออก

ตอนที่เขากลับไปที่ห้องจัดเลี้ยง เขาก็เห็นความวุ่นวาย

ดูเหมือนทุกคนกำลังล้อมวงดูอะไรอยู่ซักอย่าง

เขาเดินเข้าไป เห็นมีคนนอนอยู่บนพื้น น้ำลายฟูมปาก ร่างกายกระตุก

ในตอนนั้นเอง ในหัวของหลัวหยวนก็ปรากฏขึ้นมาสามคำ..............

โรคลมชัก!

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

755