บทที่ 3 คนที่เป็นเพชรอยู่ที่ไหนก็เป็นเพชร
by นักมายากลอัจฉริยะ
09:24,Sep 02,2021
หม่ากงฉีเป็นประธานของตงไห่ไห่เทียนกรุ๊ป มีธุรกิจหลายพันหลานหยวน เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของเมืองตงไห่ มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับคนระดับสูง ภูมิหลังค่อนข้างพิเศษ
ประธานหม่าคนนี้มีความกระตือรือร้นในเรื่องสาธารณะประโยชน์ บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลหลายครั้ง ที่ผ่านมา เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับโรงพยาบาล หัวหน้าอู๋จึงไม่กล้าละเลยอย่างแน่นอน
เพียงแค่เขารู้สึกว่าคุณท่านหม่ายากที่จะรักษาแล้ว เขาก็เลยไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว
การที่เชิญผู้อำนวยการโรงพยาบาลมา เหตุผลที่หนึ่งคือเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเขาให้ความสำคัญกับคุณท่านหม่า ข้อที่สองคือหากเกิดอะไรขึ้น ก็จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาอีก
"จะยืนงงกันอยู่ทำไม ทำไมยังไม่รีบไปช่วยอีก? !"
หัวหน้าอู๋หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ในขณะเดียวกันก็ตะคอกใส่หลัวหยวนและพยาบาลที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น
หัวหน้าพยาบาลรู้ว่าหัวหน้าอู๋จงใจแสดงสีหน้าใส่ทุกๆคน เธอก็เลยดึงหลัวหยวนและพูดเบาๆว่า หลัวหยวน ช่างเถอะ ไปช่วยหน่อยก็แล้วกัน! อย่าปล่อยให้หัวหน้าอู๋ยืมมือคนอื่นฆ่าคน!"
หลัวหยวนจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเขาคิดอะไรอยู่?
ในฐานะที่มีหัวใจความเป็ฯหมอ หลัวหยวนยอมลุกขึ้นไปเพื่อช่วยคุณท่านหม่า
ต่อให้หัวหน้าอู๋จะไม่พอใจก็ช่างมันแล้ว
มากสุดเขาก็แค่ไปจากที่นี่
ขอแค่มีความสามารถ ต่อให้อยู่ที่ไหนก็สามารถช่วยชีวิตคนได้!
เมื่อคิดได้อย่างนี้ หลัวหยวนไม่ลังเลอีกต่อไป เขาพูดด้วยความเคร่งขรึมว่า " ผมบอกแล้วไง ว่าการผ่าตัดมันเสี่ยงมาก และผม มีวิธีที่จะทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้!"
ในขณะที่พูดอยู่นั้น หลัวหยวนก็ใช้มือจับเตียงผู้ป่วยไว้แน่น เพื่อยื้อไม่ให้หัวหน้าพยาบาลเข็ญเตียงไป
"พวกคุณยังงงอะไรอยู่อีก ตกลงจะเอายังไงกันแน่? ! หรือ่าพวกคุณตั้งใจจะยื้อเวลาไว้ จะให้คุณท่านหม่าตายอยู่ตรงนี้หรือไง? ! " ผู้ชายที่ดุร้ายคนนั้นกำหมัดและตะคอกหัวหน้าอู๋ด้วยความโกรธ
เขามองออกแล้วว่า ในบรรดาคนเหล่านี้หัวหน้าอู๋ใหญ่สุด
ถึงแม้หลัวหยวนจะขัดขวางการผ่าตัด แต่ก็เห็นได้ชัดว่า ดูเหมือนเขาจะมีวิธีช่วยชีวิตคุณท่านหม่าไว้ได้
ส่วนคนที่เป็นหัวหน้าอู๋อะไรนี่ ดูเหมือนกำลังผลักความรับผิดชอบ
เขาตัดสินใจแล้ว ต่อให้สิ่งที่เขาตัดสินใจจะจะโชคร้าย เขาก็จะดึงคนเหล่านี้มารับโทษด้วย!
หัวหน้าอู๋เองก็เห็นว่าสถานการณฺไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่ เขาก็เลยรีบพูดอธิบายว่า " เอ่อคือ....อาการของคุณท่านหม่าไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่ มีปอดอักเสบเล็กน้อยและอาจมีภาวะสมองขาดเลือด เกรงว่าต้องรีบรับการผ่าตัด แต่......สภาพร่างกายของเขาไม่ค่อยดีนัก อีกอย่างอายุเยอะแล้ว การรับการผ่าตัดจึงมีความเสี่ยงสูง................."
หัวหน้าอู๋ไม่ได้พูดออกไปว่าอาจจะตาย
ที่จริงต่อให้เข้ารับการผ่าตัด และเชิญรองประธานของโรงพยาบาลที่เป็นผู้เชี่ยวชาญแผนกอายุรกรรมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดมาผ่าตัด เกรงว่าก็ยังไม่พอที่จะมีโอกาสรอด
"แล้วพวกคุณยังไม่รีบไปจัดการอีก! ผมไม่อยากได้ยินเรื่องความเสี่ยงอะไรทั้งนั้น ถ้าวันนี้พวกคุณไม่สามารถช่วยชีวิตคุณท่านหม่าได้ งั้นพรุ่งนี้พวกคุณไม่ต้องคิดจะเปิดโรงพยาบาลอีก!" เมื่อได้ยินคำพูดของหัวหน้าอู๋แล้ว ผู้ชายสวมสร้อยคอทองคนนั้นก็พูดออกมาด้วยความโกรธ
พูดตามตรง เมื่อกี้เขามีความหวังว่าหลัวหยางจะสามารถช่วยชีวิตคุณท่านหม่าได้
แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินหัวหน้าอู๋พูดแบบนี้ เขาก็ลบความคิดนั้นออกไป
เขาจะไม่สนใจความเป็นจริงได้อย่างไร เขาจะเอาความหวังสุดท้ายมามอบไว้กับหมอหนุ่มได้อย่างไรกันหล่ะ? !
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำขู่ของชายหนุ่มสวมสร้อยคอทอง หัวหน้าอู๋เหงื่อไหลท่วมตัว
เขาพูดด้วยความร้อนใจว่า " อย่าตื่นเต้น ได้โปรดอย่าตื่นเต้น! เมื่อกี้ผมแจ้งผู้อำนวยการโรงพยาบาลไปแล้ว คุณหมอเหนียนเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองจะมาทันที เชื่อว่าต้องมีวิธีอย่างแน่นอน"
"ถ้ามีผมอยู่ โรงพยาบาลไม่มีทางได้หยุดทำการ!"
หลัวหยวนพูดขึ้นมาด้วยความมั่นใจ
ผู้ชายสวมสร้อยคอทองหันมามองหลัวหยวนแรงๆ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความขมขื่น
เขาจะไม่ร้อนใจได้อย่างไร?
เขาเป็นคนเสนอให้คุณท่านหม่าไปดูพนันการแข่งขันม้า สรุปเหตุการณ์ออกมาเป็นแบบนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา แน่นอนว่าเขาคงไม่รอดแน่ๆ
แค่ก แค่ก!
จู่ๆคุณท่านหม่าที่อยู่บนเตียงก็ไอย่างรุนแรง และมีน้ำลายฟูมปาก
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด...................
เครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่แปะอยู่บนร่างกายของเขาก็ส่งเสียงร้องออกมา
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยน
ต่อให้ไม่ได้เป็นหมอ ก็สามารถฟังออกว่าเสียงนี้มันหมายความว่าอย่างไร
"รีบช่วยชีวิตเขา เร็ว! ถ้าคุณท่านหม่าเป็นอะไรไป พวกคุณ.......พวกคุณรอตายได้เลย!"
เขาทำหน้าตาน่ากลัวและคำรามอย่างบ้าคลั่ง
หัวหน้าอู๋ไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้
เขามองคุณท่านหม่าที่มีใบหน้าขาวซีดที่นอนอยู่บนเตียง ปากของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น
ถ้ามอบเคสนี้ให้เขาผ่าตัด เกรงว่าคงไม่มีแม้แต่โอกาสรอด!
ต่อให้รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลผู้ที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งในการผ่าตัดของเมืองตงไห่เป็นคนผ่าตัดด้วยตัวเอง อัตราความสำเร็จก็มีน้อยมาก
ในอีกด้านหนึ่ง หลัวหยวนมีสีหน้าเคร่งขรึม เขาวางมือลงบนข้อมือที่เยือกเย็นของคุณท่านหม่า
รู้สึกถึงชีพจรที่อ่อนแอของเขา สีหน้าของหลัวหยวนค่อยๆกลุ้มใจมากขึ้น
มืออีกข้างของเขากดที่หัวของคุณท่านหม่า และเริ่มนวด
ทุกคนต่างมองเขาด้วยความแปลกใจ
ที่นี่คือโรงพยาบาล ไม่ใช่ร้านนวด ตกลงเขาจะทำอะไรกันแน่? !
ในตอนนี้หัวหน้าอู๋ถอยออกมาสองสามก้าว มีสายตาของความโหดร้าย เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกว่าครั้งนี้หลัวหยวนซวยแล้ว
ถ้าเข้ารับการผ่าตัดจริงๆ และต่อใเหนียนเหล่ามาผ่าตัด เขาเองก็ต้องเป็นหมอผู้ช่วยในการผ่าตัด ถึงตอนนั้นตระกูลหม่ามาเอาเรื่อง เขาเองก็ไม่มีทางหนีรอดไปได้
ตอนนี้มีหลัวหยวนมารับชะตากรรมแทนเขา แม้ว่าเขาจะถูกตำหนิ แต่ทุกคนก็เป็นพยานได้ว่าเขาห้ามแล้ว ถ้าคุณท่านหม่าเป็นอะไรไป ไม่สามารถมาโทษเขาได้
หลัวหยวนในตอนนี้ไม่มีเวลาจะมาสนใจเรื่องอื่น เขาช่วยชีวิตคุณท่านหม่าตามความทรงจำที่อยู่ในหัวของเขา
วิธีการแบบนี้มาจากหนังสือลมปราณของฉีโป๋ อ้างตามตำนานบอกว่ามันเป็นชุดของการนวดที่สร้างขึ้นโดยแพทย์นักปราชญ์ฉีโป๋
ว่ากันว่าถ้าฝึกลึกเข้าไปในจิตวิญญาณ จะสามารถมีชีวิตอยู่เยี่ยงคนตาย ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บอะไร
ตอนที่ชายสวมสร้อยคอทองจะเข้ามาขัดขวาง จู่ๆหลัวหยวนก็ยกมือขึ้นมา และเอาไปวางบริเวณปอดของผู้ป่วยและกดลงไป
ขรืด!
มีเสียงหายใจแปลกๆดังขึ้น หมือนเสียงของเครื่องเป่าลมแตก
ผืด!
มืออีกข้างหนึ่งของหลัวหยวนกดลงไปที่หน้าอก ผู้ป่วยคายอะไรซักอย่างออกมาจากปาก
ที่หน้าแปลกใจก็คือ สิ่งนั้นมีสีน้ำตาลเข้มเหมือนลิ่มเลือดในเสมหะ มีกลิ่นเหม็นแปลกๆ ทำให้ทุกคนรู้สึกรังเกียจ
อี๋?
เสียงเตือนของเครื่องวัดหัวใจหยุทำงาน..............
เมื่องมองดูคุณท่านหม่า ก็เห็นว่าใบหน้าที่ขาวซีดของเขากลับมาเป็นใบหน้าที่มีเลือดแล้ว
หลัวหยวนรู้สึกโล่งใจ และก็กลับมาเคร่งขรึมอีกครั้ง เขาทำวิธีเดิมบนร่างกายของคุณท่านม่าอีกสามครั้ง
สีหน้าของคุณท่านหม่าดีขึ้น และค่อยๆหายใจราบรื่นขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากเสียงครางยาวๆดังขึ้น คุณท่านหม่าก็ลืมตาขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์
หลังจากนั้นเขาก็หายใจด้วยปากอย่างรุนแรง ราวกับว่าไม่ได้หายใจสะดวกแบบนี้มาหลายปีแล้ว
เมื่อเห็นว่าวิธีของตนเองได้ผล หลัวหยวนรู้สึกดีใจมาก
ตอนนั้นเอง หลัวหยวนก็พูดกับคุณท่านหม่าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า " คุณท่านหม่าครับ พยายามหายใจให้คงที่ หลังจากนี้ต้องพักผ่อนเยอะๆ ถ้าต้องการอะไรก็มาหาผมได้ที่แผนกฝังเข็ม ผมชื่อหลัวหยวน รหัสประจำตัวผมก็คือ0897"
คุณท่านหม่ามองหลัวหยวน และพยักหน้าด้วยความขอบคุณ และพูดติดๆขัดๆว่า " ขอบคุณครับ คุณหมอหลัว! ช่วงหลายปีนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันสบายใจ ถ้าเป็นแบบนี้ไปตลอด ต่อให้วันไหนตายขึ้นมา ก็คุ้มค่าแล้ว!"
เมื่อหลัวหยวนได้ยินแบบนั้น เขาก็ยิ้มและส่ายหน้า "ศิลปะของการกดจุดลมปราณเน้นความเพียร หลังจากนี้คุณสามารถมาหาผมที่โรงพยาบาลได้บ่อยๆ อ่อใช่ คืนนี้ห้ามดื่มน้ำเด็ดขาด เมื่อกี้เป็นการนวดกดจุดให้ปอดเปิด ถ้าดื่มของเหลวมันง่ายที่จะสำลักน้ำตอนนี้ คุณนอนพักต่ออีกหน่อยเถอะ!"
หลัวหยวนไม่รอให้คุณท่านหม่าพูดอะไรต่อ เขากดจุดนอนหลับที่ไหล่ของคุณท่านหม่า
ศรีศะของคุณท่านหม่าเอียงลง เขาหลับตา และกรนทันที
แน่นอนว่า บางคำพูดหลัวหยวนไมมีทางพูดออกไป
ภาวะสมองขาดเลือดค่อนข้างรุนแรง แต่วันนี้การที่คุณท่านหม่าหมดสติไป นอกจากจะมีภาวะสมองขาดเลือดแล้ว ที่มากไปกว่านั้นก็คือการสะสมของของเหลวในปอดที่เกิดจากภาวะสมองขาดเลือดฉับพลัน
หลังจากผ่านการกดจุดลมปราณมาทั้งสี่ครั้งแล้ว อาการของภาวะสมองขาดเลือดได้รับการแก้ไขเบื้องต้น และวิธีที่ทำเมื่อกี้ช่วยแก้ไขเรื่องปอดของเขา
ส่วนปัญหาเรื่องสมองขาดเลือด มันไม่สามารถรักษาได้ด้วยการนวดกดจุดเพียงอย่างเดียว
เขาต้องกลับไปศึกษาเทคนิคการฝังเข็มอย่างละเอียด และรักษาร่วมกับยาที่เหมาะสม แบบนี้ถึงจะรักษาได้ถึงรากจริงๆ
เมื่อเห็นว่าคุณท่านหม่าไม่เป็นอะไรแล้ว ร่างกายของหลัวหยวนสั่นเล็กน้อย เขารีบเดินจับกำแพงไปเรื่อยๆ และไปนั่งที่เก้าอี้ตรงทางเดิน เขาหลับตาเพื่อพักผ่อน
หลังจากเมื่อกี้ที่เขาได้ผ่านการรักษาที่น่าตื่นเต้นมา และต้องใช้พลังลมปราณภายในตัวของเขาด้วย ดังนั้นเขาจึงสูญเสียพลังงานไปอย่างมาก จำเป็นต้องได้รับการพักผ่อน
ในตอนนี้เอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลและเหนียนเหล่าผู้เชี่ยวชาญต่างก็มาถึง
"สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?" ใครเป็นครับผิดชอบ?"
เมื่อกลุ่มคนเหล่านี้มาถึง ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งมาถึงด้วยเช่นเดียวกัน
ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คนนั้นก็คือหม่ากงฉีประธานแห่งตงไห่ไห่เทียนกรุ๊ป
ผู้หญิงที่หน้าตาเป็นกังวลข้างๆเขาก็คือซูเหม่ยภรรยาของเขา
ส่วนที่เหลือเป็นผู้ชายรูปร่างแข็งแกร่ง ใบหน้าน่ากลัว ดูเหมือนจะเป็นบอดี้การ์ด
"ประธานหม่า เอ่อ.......ยินดีต้อนรับครับ............."
ผู้อำนวยการตื่นเต้นมาก จนหลุดพูดคำนี้ออกมา
หม่ากงฉีขมวดคิ้ว ส่งเสียงหึ่ยออกมา และหันไปมองเขาด้วยความไม่พอใจ
ผู้อำนวยการรู้สึกเสียใจ รับรู้ได้ทันทีถึงความผิดพลาดของตัวเอง
โรงพยาบาลเป็นสถานที่ที่ใครชอบมาบ้างหล่ะ? !
ผู้อำนวยการรีบพยักหน้าและกว่าวว่า " ประธานหม่าสบายใจได้ครับ แพทย์ในโรงพยาบาลของเรามีประสิทธิภสพ อีกอย่างเหนียนเหล่าก็อยู่ คุณท่านต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน"
ผู้อำนวยการถามหัวหน้าอู๋ว่า " คุณท่านหม่าหล่ะ? เป็นอย่างไรบ้าง!"
หัวหน้าอู๋พูดด้วยสีหน้าอายๆว่า " เมื่อกี้สถานการณ์ค่อนข้างน่าเป็นห่วงมาก โชคดีที่ทีมแพทย์และพยาบาลของเราจัดการกับมันอย่างถูกต้อง ตอนนี้คุณท่านหม่าจึงพ้นขีดอันตรายแล้ว!"
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเขา ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ชะงักไป
แต่หัวหน้าอู๋ไม่ได้สนใจและสีหน้าของเขาก็ไม่เปลี่ยนแปลง
"ใครเป็นคนช่วยชีวิตไว้?"ดูเหมือนผู้อำนวยการจะมองออก เขาก็เลยหันหน้าไปถามพี่หวังหัวหน้าพยาบาล
"หลัวหยวน!" พี่หวังลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และรีบพูดออกไป
ถึงแม้จะกลัวอำนาจของหัวหน้าอู๋ แต่วิธีการนวดกดจุดของหลัวหยวนเมื่อกี้มันยอดเยี่ยมมาก เธอลองชั่งน้ำหนักดูแล้ว สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจระงับความกดดันที่มีและพูดความจริงออกไป
"หลัวหยวน............"
เห็นได้ชัดว่าผู้อำนวยการชะงัก
เขานึกไม่ออกว่าหลัวหยวนเป็นหมอคนไหนของโรงพยาบาล
เนื่องจากเมื่อกี้หัวหน้าอู๋ได้โทรรายงานสถานการณ์ไว้ชัดเจนแล้ว ทำให้รู้ว่าคุณท่านหม่ามีโอกาสรอดน้อยมาก
แต่ในตอนนี้ ถึงแม้คุณท่านหม่าจะดูอ่อนแอ แต่สีหน้าดูดีขึ้นมาก ไม่เหมือนกับสิ่งที่หัวหน้าอู๋ได้รายงานทางโทรศัพท์เลย
และบวกกับสีหน้าท่าทางของทุกๆคน ทำให้ผู้อำนวยการพอจะเดาอะไรได้บ้าง
"ไม่ทราบว่าคุณหลัวหยวนคือผู้เชี่ยวชาญท่านไหน?"
ซูเหม่ยเห็นว่าไม่มีใครพูด เธอก็เลยถามขึ้นมา
ในฐานะภรรยาของตระกูลหม่า ซูเหม่ยค่อนข้างสนใจคำพูดของคนอื่น กลัวว่าคนอื่นจะหาว่าเธอไม่กตัญญู
ด้วยเหตุนี้ เธอก็เลยให้ความสำคัญกับสุขภาพของคุณท่าน และรู้ปัญหาสุขภาพของพ่อตาเป็นอย่างดี
จู่ๆครั้งนี้เกิดอาการป่วยขึ้นมา เธอเองก็เลยเตรียมใจไว้บ้างแล้ว
คิดไม่ถึงว่าคุณท่านหม่ายังมีชีวิตรอดมาได้ ทำให้เธอรู้สึกดีใจมาก
และเนื่องด้วยเหตุผลนี้ ทำให้เธอค่อนข้างรู้จักทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลประชาชนเมืองตงไห่
เธอก็เลยอยากที่จะรู้จักแพทย์ที่มีทักษะที่ดีในการรักษาผู้ป่วยที่กำลังจะตาย คนที่ช่วยรักษาชีวิตคุณท่านหม่าไว้ได้
ประธานหม่าคนนี้มีความกระตือรือร้นในเรื่องสาธารณะประโยชน์ บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลหลายครั้ง ที่ผ่านมา เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับโรงพยาบาล หัวหน้าอู๋จึงไม่กล้าละเลยอย่างแน่นอน
เพียงแค่เขารู้สึกว่าคุณท่านหม่ายากที่จะรักษาแล้ว เขาก็เลยไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว
การที่เชิญผู้อำนวยการโรงพยาบาลมา เหตุผลที่หนึ่งคือเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเขาให้ความสำคัญกับคุณท่านหม่า ข้อที่สองคือหากเกิดอะไรขึ้น ก็จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาอีก
"จะยืนงงกันอยู่ทำไม ทำไมยังไม่รีบไปช่วยอีก? !"
หัวหน้าอู๋หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ในขณะเดียวกันก็ตะคอกใส่หลัวหยวนและพยาบาลที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น
หัวหน้าพยาบาลรู้ว่าหัวหน้าอู๋จงใจแสดงสีหน้าใส่ทุกๆคน เธอก็เลยดึงหลัวหยวนและพูดเบาๆว่า หลัวหยวน ช่างเถอะ ไปช่วยหน่อยก็แล้วกัน! อย่าปล่อยให้หัวหน้าอู๋ยืมมือคนอื่นฆ่าคน!"
หลัวหยวนจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเขาคิดอะไรอยู่?
ในฐานะที่มีหัวใจความเป็ฯหมอ หลัวหยวนยอมลุกขึ้นไปเพื่อช่วยคุณท่านหม่า
ต่อให้หัวหน้าอู๋จะไม่พอใจก็ช่างมันแล้ว
มากสุดเขาก็แค่ไปจากที่นี่
ขอแค่มีความสามารถ ต่อให้อยู่ที่ไหนก็สามารถช่วยชีวิตคนได้!
เมื่อคิดได้อย่างนี้ หลัวหยวนไม่ลังเลอีกต่อไป เขาพูดด้วยความเคร่งขรึมว่า " ผมบอกแล้วไง ว่าการผ่าตัดมันเสี่ยงมาก และผม มีวิธีที่จะทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้!"
ในขณะที่พูดอยู่นั้น หลัวหยวนก็ใช้มือจับเตียงผู้ป่วยไว้แน่น เพื่อยื้อไม่ให้หัวหน้าพยาบาลเข็ญเตียงไป
"พวกคุณยังงงอะไรอยู่อีก ตกลงจะเอายังไงกันแน่? ! หรือ่าพวกคุณตั้งใจจะยื้อเวลาไว้ จะให้คุณท่านหม่าตายอยู่ตรงนี้หรือไง? ! " ผู้ชายที่ดุร้ายคนนั้นกำหมัดและตะคอกหัวหน้าอู๋ด้วยความโกรธ
เขามองออกแล้วว่า ในบรรดาคนเหล่านี้หัวหน้าอู๋ใหญ่สุด
ถึงแม้หลัวหยวนจะขัดขวางการผ่าตัด แต่ก็เห็นได้ชัดว่า ดูเหมือนเขาจะมีวิธีช่วยชีวิตคุณท่านหม่าไว้ได้
ส่วนคนที่เป็นหัวหน้าอู๋อะไรนี่ ดูเหมือนกำลังผลักความรับผิดชอบ
เขาตัดสินใจแล้ว ต่อให้สิ่งที่เขาตัดสินใจจะจะโชคร้าย เขาก็จะดึงคนเหล่านี้มารับโทษด้วย!
หัวหน้าอู๋เองก็เห็นว่าสถานการณฺไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่ เขาก็เลยรีบพูดอธิบายว่า " เอ่อคือ....อาการของคุณท่านหม่าไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่ มีปอดอักเสบเล็กน้อยและอาจมีภาวะสมองขาดเลือด เกรงว่าต้องรีบรับการผ่าตัด แต่......สภาพร่างกายของเขาไม่ค่อยดีนัก อีกอย่างอายุเยอะแล้ว การรับการผ่าตัดจึงมีความเสี่ยงสูง................."
หัวหน้าอู๋ไม่ได้พูดออกไปว่าอาจจะตาย
ที่จริงต่อให้เข้ารับการผ่าตัด และเชิญรองประธานของโรงพยาบาลที่เป็นผู้เชี่ยวชาญแผนกอายุรกรรมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดมาผ่าตัด เกรงว่าก็ยังไม่พอที่จะมีโอกาสรอด
"แล้วพวกคุณยังไม่รีบไปจัดการอีก! ผมไม่อยากได้ยินเรื่องความเสี่ยงอะไรทั้งนั้น ถ้าวันนี้พวกคุณไม่สามารถช่วยชีวิตคุณท่านหม่าได้ งั้นพรุ่งนี้พวกคุณไม่ต้องคิดจะเปิดโรงพยาบาลอีก!" เมื่อได้ยินคำพูดของหัวหน้าอู๋แล้ว ผู้ชายสวมสร้อยคอทองคนนั้นก็พูดออกมาด้วยความโกรธ
พูดตามตรง เมื่อกี้เขามีความหวังว่าหลัวหยางจะสามารถช่วยชีวิตคุณท่านหม่าได้
แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินหัวหน้าอู๋พูดแบบนี้ เขาก็ลบความคิดนั้นออกไป
เขาจะไม่สนใจความเป็นจริงได้อย่างไร เขาจะเอาความหวังสุดท้ายมามอบไว้กับหมอหนุ่มได้อย่างไรกันหล่ะ? !
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำขู่ของชายหนุ่มสวมสร้อยคอทอง หัวหน้าอู๋เหงื่อไหลท่วมตัว
เขาพูดด้วยความร้อนใจว่า " อย่าตื่นเต้น ได้โปรดอย่าตื่นเต้น! เมื่อกี้ผมแจ้งผู้อำนวยการโรงพยาบาลไปแล้ว คุณหมอเหนียนเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองจะมาทันที เชื่อว่าต้องมีวิธีอย่างแน่นอน"
"ถ้ามีผมอยู่ โรงพยาบาลไม่มีทางได้หยุดทำการ!"
หลัวหยวนพูดขึ้นมาด้วยความมั่นใจ
ผู้ชายสวมสร้อยคอทองหันมามองหลัวหยวนแรงๆ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความขมขื่น
เขาจะไม่ร้อนใจได้อย่างไร?
เขาเป็นคนเสนอให้คุณท่านหม่าไปดูพนันการแข่งขันม้า สรุปเหตุการณ์ออกมาเป็นแบบนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา แน่นอนว่าเขาคงไม่รอดแน่ๆ
แค่ก แค่ก!
จู่ๆคุณท่านหม่าที่อยู่บนเตียงก็ไอย่างรุนแรง และมีน้ำลายฟูมปาก
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด...................
เครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่แปะอยู่บนร่างกายของเขาก็ส่งเสียงร้องออกมา
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยน
ต่อให้ไม่ได้เป็นหมอ ก็สามารถฟังออกว่าเสียงนี้มันหมายความว่าอย่างไร
"รีบช่วยชีวิตเขา เร็ว! ถ้าคุณท่านหม่าเป็นอะไรไป พวกคุณ.......พวกคุณรอตายได้เลย!"
เขาทำหน้าตาน่ากลัวและคำรามอย่างบ้าคลั่ง
หัวหน้าอู๋ไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้
เขามองคุณท่านหม่าที่มีใบหน้าขาวซีดที่นอนอยู่บนเตียง ปากของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น
ถ้ามอบเคสนี้ให้เขาผ่าตัด เกรงว่าคงไม่มีแม้แต่โอกาสรอด!
ต่อให้รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลผู้ที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งในการผ่าตัดของเมืองตงไห่เป็นคนผ่าตัดด้วยตัวเอง อัตราความสำเร็จก็มีน้อยมาก
ในอีกด้านหนึ่ง หลัวหยวนมีสีหน้าเคร่งขรึม เขาวางมือลงบนข้อมือที่เยือกเย็นของคุณท่านหม่า
รู้สึกถึงชีพจรที่อ่อนแอของเขา สีหน้าของหลัวหยวนค่อยๆกลุ้มใจมากขึ้น
มืออีกข้างของเขากดที่หัวของคุณท่านหม่า และเริ่มนวด
ทุกคนต่างมองเขาด้วยความแปลกใจ
ที่นี่คือโรงพยาบาล ไม่ใช่ร้านนวด ตกลงเขาจะทำอะไรกันแน่? !
ในตอนนี้หัวหน้าอู๋ถอยออกมาสองสามก้าว มีสายตาของความโหดร้าย เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกว่าครั้งนี้หลัวหยวนซวยแล้ว
ถ้าเข้ารับการผ่าตัดจริงๆ และต่อใเหนียนเหล่ามาผ่าตัด เขาเองก็ต้องเป็นหมอผู้ช่วยในการผ่าตัด ถึงตอนนั้นตระกูลหม่ามาเอาเรื่อง เขาเองก็ไม่มีทางหนีรอดไปได้
ตอนนี้มีหลัวหยวนมารับชะตากรรมแทนเขา แม้ว่าเขาจะถูกตำหนิ แต่ทุกคนก็เป็นพยานได้ว่าเขาห้ามแล้ว ถ้าคุณท่านหม่าเป็นอะไรไป ไม่สามารถมาโทษเขาได้
หลัวหยวนในตอนนี้ไม่มีเวลาจะมาสนใจเรื่องอื่น เขาช่วยชีวิตคุณท่านหม่าตามความทรงจำที่อยู่ในหัวของเขา
วิธีการแบบนี้มาจากหนังสือลมปราณของฉีโป๋ อ้างตามตำนานบอกว่ามันเป็นชุดของการนวดที่สร้างขึ้นโดยแพทย์นักปราชญ์ฉีโป๋
ว่ากันว่าถ้าฝึกลึกเข้าไปในจิตวิญญาณ จะสามารถมีชีวิตอยู่เยี่ยงคนตาย ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บอะไร
ตอนที่ชายสวมสร้อยคอทองจะเข้ามาขัดขวาง จู่ๆหลัวหยวนก็ยกมือขึ้นมา และเอาไปวางบริเวณปอดของผู้ป่วยและกดลงไป
ขรืด!
มีเสียงหายใจแปลกๆดังขึ้น หมือนเสียงของเครื่องเป่าลมแตก
ผืด!
มืออีกข้างหนึ่งของหลัวหยวนกดลงไปที่หน้าอก ผู้ป่วยคายอะไรซักอย่างออกมาจากปาก
ที่หน้าแปลกใจก็คือ สิ่งนั้นมีสีน้ำตาลเข้มเหมือนลิ่มเลือดในเสมหะ มีกลิ่นเหม็นแปลกๆ ทำให้ทุกคนรู้สึกรังเกียจ
อี๋?
เสียงเตือนของเครื่องวัดหัวใจหยุทำงาน..............
เมื่องมองดูคุณท่านหม่า ก็เห็นว่าใบหน้าที่ขาวซีดของเขากลับมาเป็นใบหน้าที่มีเลือดแล้ว
หลัวหยวนรู้สึกโล่งใจ และก็กลับมาเคร่งขรึมอีกครั้ง เขาทำวิธีเดิมบนร่างกายของคุณท่านม่าอีกสามครั้ง
สีหน้าของคุณท่านหม่าดีขึ้น และค่อยๆหายใจราบรื่นขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากเสียงครางยาวๆดังขึ้น คุณท่านหม่าก็ลืมตาขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์
หลังจากนั้นเขาก็หายใจด้วยปากอย่างรุนแรง ราวกับว่าไม่ได้หายใจสะดวกแบบนี้มาหลายปีแล้ว
เมื่อเห็นว่าวิธีของตนเองได้ผล หลัวหยวนรู้สึกดีใจมาก
ตอนนั้นเอง หลัวหยวนก็พูดกับคุณท่านหม่าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า " คุณท่านหม่าครับ พยายามหายใจให้คงที่ หลังจากนี้ต้องพักผ่อนเยอะๆ ถ้าต้องการอะไรก็มาหาผมได้ที่แผนกฝังเข็ม ผมชื่อหลัวหยวน รหัสประจำตัวผมก็คือ0897"
คุณท่านหม่ามองหลัวหยวน และพยักหน้าด้วยความขอบคุณ และพูดติดๆขัดๆว่า " ขอบคุณครับ คุณหมอหลัว! ช่วงหลายปีนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันสบายใจ ถ้าเป็นแบบนี้ไปตลอด ต่อให้วันไหนตายขึ้นมา ก็คุ้มค่าแล้ว!"
เมื่อหลัวหยวนได้ยินแบบนั้น เขาก็ยิ้มและส่ายหน้า "ศิลปะของการกดจุดลมปราณเน้นความเพียร หลังจากนี้คุณสามารถมาหาผมที่โรงพยาบาลได้บ่อยๆ อ่อใช่ คืนนี้ห้ามดื่มน้ำเด็ดขาด เมื่อกี้เป็นการนวดกดจุดให้ปอดเปิด ถ้าดื่มของเหลวมันง่ายที่จะสำลักน้ำตอนนี้ คุณนอนพักต่ออีกหน่อยเถอะ!"
หลัวหยวนไม่รอให้คุณท่านหม่าพูดอะไรต่อ เขากดจุดนอนหลับที่ไหล่ของคุณท่านหม่า
ศรีศะของคุณท่านหม่าเอียงลง เขาหลับตา และกรนทันที
แน่นอนว่า บางคำพูดหลัวหยวนไมมีทางพูดออกไป
ภาวะสมองขาดเลือดค่อนข้างรุนแรง แต่วันนี้การที่คุณท่านหม่าหมดสติไป นอกจากจะมีภาวะสมองขาดเลือดแล้ว ที่มากไปกว่านั้นก็คือการสะสมของของเหลวในปอดที่เกิดจากภาวะสมองขาดเลือดฉับพลัน
หลังจากผ่านการกดจุดลมปราณมาทั้งสี่ครั้งแล้ว อาการของภาวะสมองขาดเลือดได้รับการแก้ไขเบื้องต้น และวิธีที่ทำเมื่อกี้ช่วยแก้ไขเรื่องปอดของเขา
ส่วนปัญหาเรื่องสมองขาดเลือด มันไม่สามารถรักษาได้ด้วยการนวดกดจุดเพียงอย่างเดียว
เขาต้องกลับไปศึกษาเทคนิคการฝังเข็มอย่างละเอียด และรักษาร่วมกับยาที่เหมาะสม แบบนี้ถึงจะรักษาได้ถึงรากจริงๆ
เมื่อเห็นว่าคุณท่านหม่าไม่เป็นอะไรแล้ว ร่างกายของหลัวหยวนสั่นเล็กน้อย เขารีบเดินจับกำแพงไปเรื่อยๆ และไปนั่งที่เก้าอี้ตรงทางเดิน เขาหลับตาเพื่อพักผ่อน
หลังจากเมื่อกี้ที่เขาได้ผ่านการรักษาที่น่าตื่นเต้นมา และต้องใช้พลังลมปราณภายในตัวของเขาด้วย ดังนั้นเขาจึงสูญเสียพลังงานไปอย่างมาก จำเป็นต้องได้รับการพักผ่อน
ในตอนนี้เอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลและเหนียนเหล่าผู้เชี่ยวชาญต่างก็มาถึง
"สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?" ใครเป็นครับผิดชอบ?"
เมื่อกลุ่มคนเหล่านี้มาถึง ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งมาถึงด้วยเช่นเดียวกัน
ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คนนั้นก็คือหม่ากงฉีประธานแห่งตงไห่ไห่เทียนกรุ๊ป
ผู้หญิงที่หน้าตาเป็นกังวลข้างๆเขาก็คือซูเหม่ยภรรยาของเขา
ส่วนที่เหลือเป็นผู้ชายรูปร่างแข็งแกร่ง ใบหน้าน่ากลัว ดูเหมือนจะเป็นบอดี้การ์ด
"ประธานหม่า เอ่อ.......ยินดีต้อนรับครับ............."
ผู้อำนวยการตื่นเต้นมาก จนหลุดพูดคำนี้ออกมา
หม่ากงฉีขมวดคิ้ว ส่งเสียงหึ่ยออกมา และหันไปมองเขาด้วยความไม่พอใจ
ผู้อำนวยการรู้สึกเสียใจ รับรู้ได้ทันทีถึงความผิดพลาดของตัวเอง
โรงพยาบาลเป็นสถานที่ที่ใครชอบมาบ้างหล่ะ? !
ผู้อำนวยการรีบพยักหน้าและกว่าวว่า " ประธานหม่าสบายใจได้ครับ แพทย์ในโรงพยาบาลของเรามีประสิทธิภสพ อีกอย่างเหนียนเหล่าก็อยู่ คุณท่านต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน"
ผู้อำนวยการถามหัวหน้าอู๋ว่า " คุณท่านหม่าหล่ะ? เป็นอย่างไรบ้าง!"
หัวหน้าอู๋พูดด้วยสีหน้าอายๆว่า " เมื่อกี้สถานการณ์ค่อนข้างน่าเป็นห่วงมาก โชคดีที่ทีมแพทย์และพยาบาลของเราจัดการกับมันอย่างถูกต้อง ตอนนี้คุณท่านหม่าจึงพ้นขีดอันตรายแล้ว!"
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเขา ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ชะงักไป
แต่หัวหน้าอู๋ไม่ได้สนใจและสีหน้าของเขาก็ไม่เปลี่ยนแปลง
"ใครเป็นคนช่วยชีวิตไว้?"ดูเหมือนผู้อำนวยการจะมองออก เขาก็เลยหันหน้าไปถามพี่หวังหัวหน้าพยาบาล
"หลัวหยวน!" พี่หวังลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และรีบพูดออกไป
ถึงแม้จะกลัวอำนาจของหัวหน้าอู๋ แต่วิธีการนวดกดจุดของหลัวหยวนเมื่อกี้มันยอดเยี่ยมมาก เธอลองชั่งน้ำหนักดูแล้ว สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจระงับความกดดันที่มีและพูดความจริงออกไป
"หลัวหยวน............"
เห็นได้ชัดว่าผู้อำนวยการชะงัก
เขานึกไม่ออกว่าหลัวหยวนเป็นหมอคนไหนของโรงพยาบาล
เนื่องจากเมื่อกี้หัวหน้าอู๋ได้โทรรายงานสถานการณ์ไว้ชัดเจนแล้ว ทำให้รู้ว่าคุณท่านหม่ามีโอกาสรอดน้อยมาก
แต่ในตอนนี้ ถึงแม้คุณท่านหม่าจะดูอ่อนแอ แต่สีหน้าดูดีขึ้นมาก ไม่เหมือนกับสิ่งที่หัวหน้าอู๋ได้รายงานทางโทรศัพท์เลย
และบวกกับสีหน้าท่าทางของทุกๆคน ทำให้ผู้อำนวยการพอจะเดาอะไรได้บ้าง
"ไม่ทราบว่าคุณหลัวหยวนคือผู้เชี่ยวชาญท่านไหน?"
ซูเหม่ยเห็นว่าไม่มีใครพูด เธอก็เลยถามขึ้นมา
ในฐานะภรรยาของตระกูลหม่า ซูเหม่ยค่อนข้างสนใจคำพูดของคนอื่น กลัวว่าคนอื่นจะหาว่าเธอไม่กตัญญู
ด้วยเหตุนี้ เธอก็เลยให้ความสำคัญกับสุขภาพของคุณท่าน และรู้ปัญหาสุขภาพของพ่อตาเป็นอย่างดี
จู่ๆครั้งนี้เกิดอาการป่วยขึ้นมา เธอเองก็เลยเตรียมใจไว้บ้างแล้ว
คิดไม่ถึงว่าคุณท่านหม่ายังมีชีวิตรอดมาได้ ทำให้เธอรู้สึกดีใจมาก
และเนื่องด้วยเหตุผลนี้ ทำให้เธอค่อนข้างรู้จักทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลประชาชนเมืองตงไห่
เธอก็เลยอยากที่จะรู้จักแพทย์ที่มีทักษะที่ดีในการรักษาผู้ป่วยที่กำลังจะตาย คนที่ช่วยรักษาชีวิตคุณท่านหม่าไว้ได้
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved