บทที่ 11 รนหาที่ตาย
by สันเป่าเอ๋อ
10:46,Nov 22,2021
หลินเทียนฉีไม่ได้พูดอะไรและเดินผ่านร่างของฉินหลานเซียงออกไปข้างนอก
เขารู้ว่าตระกูลเหยียนต้องมาที่นี่แน่ ดังนั้นเขาจึงจะอยู่ต่อ
ภายในห้อง ฉู่จิ้งหลีจับมือแม่ของเธอไว้และอ้อนวอนว่า "แม่คะ คุณหนูสองตระกูลเหยียนเรียกรถทุบดินมาเพื่อจะมาทุบบ้านของเรา พอหนูจะไปขวาง เธอก็มาทำร้ายหนู เทียนฉีทำแบบนี้เพื่อปกป้องหนู พวกเราจะละเลยเขาแบบนี้ไม่ได้นะคะ!"
"หลบไปเดี๋ยวนี้!"
ฉินหลานเซียงกล่าวเสียงแหลม "ฉู่จิ้งหลี เมื่อแปดปีที่แล้วเธอทำลายชื่อเสียงของครอบครัวเราจนป่นปี้ ทำร้ายครอบครัวของเราจนย่อยยับ แถมยังทำให้พวกเราทั้งหมดต้องทนทุกข์ทรมานกับเธอมาตั้งแปดปี เธอจะบอกว่าเธอไม่ผิดสักนิดเลยเหรอ?"
"ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง ฉันคงตัดแม่ตัดลูกกับเธอไปนานแล้ว แล้วตอนนี้เธอยังจะทำตัวเป็นภาระจะให้พวกเราไปช่วยไอ้ตัวซวยนั่นอีกเหรอ?"
"ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ แม้ว่าคุณชายเหยียนจะตาย ฉันก็จะให้เธอแต่งงานกับคุณชายหลี่ ถ้าคุณชายหลี่ไม่ชอบเธอก็ยังมีคุณชายกง คุณชายจ้าว คุณชายไห่อีก!"
"ประโยชน์เดียวของเธอในตอนนี้คือแลกตัวเองเพื่อความร่ำรวยและชดเชยความเสียหายที่เราได้รับในช่วงแปดปีที่ผ่านมา!"
เหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อแปดปีที่แล้วได้เปลี่ยนฉินหลานเซียงที่ควรจะได้เป็นคุณนายฉู่ผู้มีสง่าราศีและมั่งคั่ง กลายเป็นหญิงแก่ผมเผ้าฟูไม่น่ามอง
การตกสู่ความตกต่ำครั้งใหญ่นี้ทำให้หัวใจของหล่อนบิดเบี้ยวจนหล่อนไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์แม่ลูกอีก
ด้านนอกของวิลล่าตระกูลฉู่
หลินเทียนฉียืนนิ่งตระหง่านอยู่หน้าวิลล่า เขามองพวกนักเลงกลุ่มใหญ่ด้วยสายตาเย็นชา
ท่ามกลางการต่อสู้ครั้งใหญ่ ไม่มีพวกชอบสอดรู้คนไหนกล้าอยู่ตรงนั้น ส่วนใหญ่ยืนมองดูสถานการณ์ในที่ห่างไกลออกไปกว่าร้อยเมตร
เหยียนมู่ไห่เดินเข้าหาหลินเทียนฉีด้วยสีหน้าโหดเหี้ยมและดวงตาของเขาแทบลุกเป็นไฟ
"หลินเทียนฉี ลูกชายของฉันเพิ่งจะตายไปด้วยน้ำมือของแก แล้วแกยังมาลงมือกับลูกสาวของฉันอีก นี่แกคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลเหยียนของเราจะกลัวแก?"
"ถ้าแกบีบบังคับฉันมากกว่านี้ ฉันก็ไม่สนว่าแกจะมีเบื้องหลังยังไง ถ้าฉันต้องตาย ฉันก็จะลากแกลงนรกไปดด้วย!"
"พูดจบรึยัง?"
น้ำเสียงของหลินเทียนฉีราบเรียบ "ถ้าพูดจบแล้วก็ลงมือสักที ฉันยังมีเรื่องที่ต้องไปทำ"
"แก..แก!"
ร่างกายของเหยียนมู่ไห่สั่นสะท้านด้วยความโกรธ เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงและโบกมือทันที
"ไปฆ่ามัน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นฉันจะรับผิดชอบเอง ฉันจะเอาเลือดของมันไปเคารพศพลูกชายของฉัน!"
นักเลงเหล่านั้นรับคำสั่ง พวกเขาทั้งหมดร้องตะโกนและวิ่งเข้าหาหลินเทียนฉีด้วยดวงตาแดงก่ำ
"คนอย่างพวกแกมีสิทธิ์มาทำอะไรคุณท่านหรือ?"
จู่ๆ หลงเยว่ก็มาปรากฏตัวข้างกายหลินเทียนฉี
เขาวิ่งฝ่าเข้าไปในวงอย่างบ้าคลั่งราวกับเสือดุและล้มพวกนักเลงไปได้ส่วนหนึ่ง
เข้าถึงตัวแล้ว
หมัดเหล็กโบกสะบัดไปมาราวกับพายุพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นไม่หยุด
หลังจากนั้นไม่นาน นักเลงทั้งหมดก็ถูกเล่นงานจนนอนกระอักเลือดหมดสภาพอยู่บนพื้น
ส่วนหลงเยว่นั้นกลับเดินไปหาเหยียนมู่ไห่โดยไม่มีอาการหอบหายใจแม้แต่นิดเดียว
"พวกแก...พวกแกเป็นใครกันแน่?"
เหยียนมู่ไห่ขาอ่อนจนทรุดนั่งลงกับพื้นด้วยความหวาดกลัว
"คุณท่านฆ่าลูกชายของแกเพราะไอ้หมอนั่นคิดชั่วกับภรรยาของเขา มันตายไปก็สมควรแล้ว"
"ถ้าพวกตระกูลเหยียนของแกทำตัวดี มันก็จะไม่มีอะไรเกิดกับพวกแก แต่นี่พวกแกรนหาที่ตายเอง มาท้าทายความยิ่งใหญ่ของคุณท่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า!"
"เพราเหตุนี้ เมืองเจียงเฉิงจึงไม่มีที่สำหรับคนตระกูลเหยียนอีกต่อไป"
เมื่อกล่าวจบ หลงเยว่ก็ยกมือขึ้นและพร้อมจะจบชีวิตเหยียนมู่ไห่
ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามอันน่าเกรงขามดังมาจากอีกด้านหนึ่ง
"กล้าดีจริงๆ ที่มาทำตัวป่าเถื่อนในที่สาธารณะกลางวันแสกๆ แบบนี้!"
หลงเยว่หยุดการกระทำและหันศีรษะกลับมามอง
ภาพที่เขาเห็นคือคนตระกูลหลินกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบทหารคนหนึ่งด้วยความรวดเร็ว
หลงเยว่เหลือบมองหลินเทียนฉี แต่หลินเทียนฉีไม่ได้พูดอะไร
เขาไม่พูด นั่นหมายความว่าไม่จำเป็นต้องหยุด
หลงเยว่ยกมือขึ้นอีกครั้งและออกแรงบีบคอของเหยียนมู่ไห่ทันที
"บังอาจ!"
เมื่อเห็นว่าหลงเยว่ไม่หยุดการกระทำ ชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบก็ระเบิดอารมณ์ออกมา
เขาพุ่งตัวมาข้างหน้าเพื่อหยุดหลงเยว่ แต่มันก็สายเกินไป
เสียง "กร๊อบ" ดังขึ้น
ลำคอของเหยียนมู่ไห่เกิดการบิดงอที่น่ากลัว ตาของเขาเบิกโพลงและสิ้นชีวิตลงทั้งๆ ที่ยังลืมตา
ชายหนุ่มตกตะลึง
คนตระกูลหลินก็ตกตะลึงเช่นกัน
ตระกูลเหยียนเป็นหุ้นส่วนในธุรกิจพนันใต้ดินของตระกูลหลิน
ด้วยความสัมพันธ์อันใกล้ชิดและได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คนตระกูลหลินจึงไม่มีทางยอมให้หลินเทียนฉีทำลายตระกูลเหยียน
ดังนั้นเมื่อพวกเขารู้ว่าเหยียนมู่ไห่กำลังมีปัญหา ตระกูลหลินจึงขอความช่วยเหลือจากแขกผู้มีเกียรติที่คฤหาสน์ทันที
แต่แขกผู้นั้นมีสถานะสูงส่งมากจึงไม่มีทางที่เขาจะมาออกโรงด้วยตัวเอง เขาจึงให้ทหารคู่ใจมากับชาวตระกูลหลินแทน
อย่างไรแล้วหลินเทียนฉีเองก็เป็นนายทหาร แค่เพียงทหารองครักษ์คู่ใจผู้นั้นก็น่าจะสะสางปัญหานี้ได้
แต่ใครจะไปคิดว่าหลินเทียนฉีจะหยิ่งผยองและลงมือกระทำความชั่วต่อหน้าทหารผู้นี้
ทหารผู้นี้จ้องมองหลงเยว่อย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะเดินไปตรงหน้าหลินเทียนฉี "ฉันมาถึงที่นี่ขนาดนี้ แกยังกล้าฆ่าคนอย่างป่าเถื่อนอีก แกนี่มันไม่มีขื่อมีแปจริงๆ !"
หลินเทียนฉีเหลือบมองเขาเบาๆ โดยไม่สนใจที่จะเสวนากับเขาแม้แต่น้อย
หลินเทียนฉีหันหลังกลับเพื่อออกจากตรงนี้และนั่นทำให้ชายหนุ่มโกรธจัด เขาจึงเอื้อมมือไปคว้าไหล่ของหลินเทียนฉีเอาไว้
"กล้าดีนักนะแก!"
หลงเยว่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและตบเข้าที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างแรง "แกเป็นใคร บอกชื่อมาเดี๋ยวนี้!"
หนึ่งในสิบนักรบผู้ยิ่งใหญ่แห่งเทียนกง หากเทียบตำแหน่งในประเทศจีนก็เท่ากับพลตรี
ถ้าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นตรงหน้าหลินเทียนฉี หลงเยว่ก็คงไม่กล้าทำอะไร เพราะด้วยรัศมีรอบกายพลตรีคนนี้จะทำให้ทหารหลายคนรู้สึกหวาดกลัวเขาแทนที่จะกล้าสบประมาทเช่นนี้
"ถึงเวลาตายของพวกแกสองคนแล้ว!"
ชายหนุ่มผู้นี้ไม่เพียงแต่จะไม่เปิดเผยชื่อของตัวเองแล้ว แต่เขายังแสดงสีหน้าเยาะเย้ยออกมาด้วย
"ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นไปทั้งข้องจริงๆ ชื่อเสียงของพวกเราถูกเดนมนุษย์อย่างพวกแกทำให้เน่าเฟะหมดแล้ว!"
หลงเยว่กำลังจะโต้กลับ แต่หลินเทียนฉีกล่าวอย่างใจเย็นขึ้นมาก่อน "หลงเยว่ อย่าไปเถียงกับเขาเลย ฉันรู้แล้วว่าผู้นำของเขาเป็นใคร วันหลังฉันจะไปเยี่ยมเยียนเขาด้วยตัวเอง"
"ครับท่าน!"
หลงเยว่ตอบกลับด้วยความเคารพ จากนั้นเขาก็เตือนชายคนนั้นและเดินออกไปพร้อมกับหลินเทียนฉี
"นายน้อย ท่านจะปล่อยพวกมันไปแบบนี้ไม่ได้!"
หลินเทียนเจียนก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและพูดกับชายหนุ่ม
"ฉันจะทำอะไรไม่ต้องให้คุณมาสอน"
ชายหนุ่มชำเลืองมองเขาและกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่อดทน "ชายผู้นั้นแข็งแกร่งมาก หากฉันดันทุรังจะรั้งเขาไว้ น่าจะต้องใช้พลังไม่น้อย"
"พวกคุณไม่ต้องกังวลหรอก หลินเทียนฉีคนนั้นบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะมาชำระบัญชีแค้นกับตระกูลหลินของพวกคุณในวันมะรืน? ตอนนั้นค่อยจัดการเขาให้สาสมก็ยังไม่สาย"
เมื่อพูดจบ ชายหนุ่มก็เดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมา ดูเหมือนว่าเขาจะไปหาหัวหน้าของเขาเพื่อรายงานสถานการณ์
ในอีกด้านหนึ่ง หลินเทียนฉีไม่ได้กลับไปที่บ้านตระกูลฉู่อีก
ก่อนที่เขาจะสะสางปัญหากับตระกูลหลินให้เสร็จสิ้น ยิ่งเขาเข้าใกล้ตระกูลฉู่มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเพิ่มความเกลียดชังให้ตระกูลฉู่ง่ายขึ้นเท่านั้น
เขาไม่ต้องการให้ฉู่จิ้งหลีได้รับผลกระทบจากเขาอีกแล้ว เขาจึงเลือกที่จะพบเธอให้น้อยลง ถึงอย่างไรก็ยังมีเวลาเจอกันในอนาคต
"คุณท่านครับ ผมซื้อบ้านที่คุณท่านต้องการก่อนหน้านี้มาเรียบร้อยแล้ว ตั้งอยู่ในตำแหน่งสูงสุดของภูเขาหลงเถิง"
หลงเยว่รายงานอยู่ด้านหลังหลินเทียนฉี
"ดี ตอนนี้มีเวลา เราไปดูกันเลยแล้วกัน"
หลินเทียนฉีคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจที่จะดูสักหน่อย
หากเขาต้องการแต่งงานกับฉู่จิ้งหลี เขาไม่สามารถใช้ห้องชุดเพรสซิเดนเชียล สวีทที่โรงแรมตงฮวาเป็นเรือนหอได้ แบบนั้นมันไม่เหมาะสม ดังนั้นเขาจึงไหว้วานให้หลงเยว่ซื้อบ้านเดี่ยวให้
แต่ใครจะไปคิดว่าเพียงแค่ให้หมอนี่ลงมือ เขาจะเล่นใหญ่ฟุ่มเฟือยขนาดถึงขั้นซื้อที่ดินที่แพงที่สุดในเจียงเฉิงทั้งหมด
เขารู้ว่าตระกูลเหยียนต้องมาที่นี่แน่ ดังนั้นเขาจึงจะอยู่ต่อ
ภายในห้อง ฉู่จิ้งหลีจับมือแม่ของเธอไว้และอ้อนวอนว่า "แม่คะ คุณหนูสองตระกูลเหยียนเรียกรถทุบดินมาเพื่อจะมาทุบบ้านของเรา พอหนูจะไปขวาง เธอก็มาทำร้ายหนู เทียนฉีทำแบบนี้เพื่อปกป้องหนู พวกเราจะละเลยเขาแบบนี้ไม่ได้นะคะ!"
"หลบไปเดี๋ยวนี้!"
ฉินหลานเซียงกล่าวเสียงแหลม "ฉู่จิ้งหลี เมื่อแปดปีที่แล้วเธอทำลายชื่อเสียงของครอบครัวเราจนป่นปี้ ทำร้ายครอบครัวของเราจนย่อยยับ แถมยังทำให้พวกเราทั้งหมดต้องทนทุกข์ทรมานกับเธอมาตั้งแปดปี เธอจะบอกว่าเธอไม่ผิดสักนิดเลยเหรอ?"
"ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง ฉันคงตัดแม่ตัดลูกกับเธอไปนานแล้ว แล้วตอนนี้เธอยังจะทำตัวเป็นภาระจะให้พวกเราไปช่วยไอ้ตัวซวยนั่นอีกเหรอ?"
"ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ แม้ว่าคุณชายเหยียนจะตาย ฉันก็จะให้เธอแต่งงานกับคุณชายหลี่ ถ้าคุณชายหลี่ไม่ชอบเธอก็ยังมีคุณชายกง คุณชายจ้าว คุณชายไห่อีก!"
"ประโยชน์เดียวของเธอในตอนนี้คือแลกตัวเองเพื่อความร่ำรวยและชดเชยความเสียหายที่เราได้รับในช่วงแปดปีที่ผ่านมา!"
เหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อแปดปีที่แล้วได้เปลี่ยนฉินหลานเซียงที่ควรจะได้เป็นคุณนายฉู่ผู้มีสง่าราศีและมั่งคั่ง กลายเป็นหญิงแก่ผมเผ้าฟูไม่น่ามอง
การตกสู่ความตกต่ำครั้งใหญ่นี้ทำให้หัวใจของหล่อนบิดเบี้ยวจนหล่อนไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์แม่ลูกอีก
ด้านนอกของวิลล่าตระกูลฉู่
หลินเทียนฉียืนนิ่งตระหง่านอยู่หน้าวิลล่า เขามองพวกนักเลงกลุ่มใหญ่ด้วยสายตาเย็นชา
ท่ามกลางการต่อสู้ครั้งใหญ่ ไม่มีพวกชอบสอดรู้คนไหนกล้าอยู่ตรงนั้น ส่วนใหญ่ยืนมองดูสถานการณ์ในที่ห่างไกลออกไปกว่าร้อยเมตร
เหยียนมู่ไห่เดินเข้าหาหลินเทียนฉีด้วยสีหน้าโหดเหี้ยมและดวงตาของเขาแทบลุกเป็นไฟ
"หลินเทียนฉี ลูกชายของฉันเพิ่งจะตายไปด้วยน้ำมือของแก แล้วแกยังมาลงมือกับลูกสาวของฉันอีก นี่แกคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลเหยียนของเราจะกลัวแก?"
"ถ้าแกบีบบังคับฉันมากกว่านี้ ฉันก็ไม่สนว่าแกจะมีเบื้องหลังยังไง ถ้าฉันต้องตาย ฉันก็จะลากแกลงนรกไปดด้วย!"
"พูดจบรึยัง?"
น้ำเสียงของหลินเทียนฉีราบเรียบ "ถ้าพูดจบแล้วก็ลงมือสักที ฉันยังมีเรื่องที่ต้องไปทำ"
"แก..แก!"
ร่างกายของเหยียนมู่ไห่สั่นสะท้านด้วยความโกรธ เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงและโบกมือทันที
"ไปฆ่ามัน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นฉันจะรับผิดชอบเอง ฉันจะเอาเลือดของมันไปเคารพศพลูกชายของฉัน!"
นักเลงเหล่านั้นรับคำสั่ง พวกเขาทั้งหมดร้องตะโกนและวิ่งเข้าหาหลินเทียนฉีด้วยดวงตาแดงก่ำ
"คนอย่างพวกแกมีสิทธิ์มาทำอะไรคุณท่านหรือ?"
จู่ๆ หลงเยว่ก็มาปรากฏตัวข้างกายหลินเทียนฉี
เขาวิ่งฝ่าเข้าไปในวงอย่างบ้าคลั่งราวกับเสือดุและล้มพวกนักเลงไปได้ส่วนหนึ่ง
เข้าถึงตัวแล้ว
หมัดเหล็กโบกสะบัดไปมาราวกับพายุพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นไม่หยุด
หลังจากนั้นไม่นาน นักเลงทั้งหมดก็ถูกเล่นงานจนนอนกระอักเลือดหมดสภาพอยู่บนพื้น
ส่วนหลงเยว่นั้นกลับเดินไปหาเหยียนมู่ไห่โดยไม่มีอาการหอบหายใจแม้แต่นิดเดียว
"พวกแก...พวกแกเป็นใครกันแน่?"
เหยียนมู่ไห่ขาอ่อนจนทรุดนั่งลงกับพื้นด้วยความหวาดกลัว
"คุณท่านฆ่าลูกชายของแกเพราะไอ้หมอนั่นคิดชั่วกับภรรยาของเขา มันตายไปก็สมควรแล้ว"
"ถ้าพวกตระกูลเหยียนของแกทำตัวดี มันก็จะไม่มีอะไรเกิดกับพวกแก แต่นี่พวกแกรนหาที่ตายเอง มาท้าทายความยิ่งใหญ่ของคุณท่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า!"
"เพราเหตุนี้ เมืองเจียงเฉิงจึงไม่มีที่สำหรับคนตระกูลเหยียนอีกต่อไป"
เมื่อกล่าวจบ หลงเยว่ก็ยกมือขึ้นและพร้อมจะจบชีวิตเหยียนมู่ไห่
ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามอันน่าเกรงขามดังมาจากอีกด้านหนึ่ง
"กล้าดีจริงๆ ที่มาทำตัวป่าเถื่อนในที่สาธารณะกลางวันแสกๆ แบบนี้!"
หลงเยว่หยุดการกระทำและหันศีรษะกลับมามอง
ภาพที่เขาเห็นคือคนตระกูลหลินกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบทหารคนหนึ่งด้วยความรวดเร็ว
หลงเยว่เหลือบมองหลินเทียนฉี แต่หลินเทียนฉีไม่ได้พูดอะไร
เขาไม่พูด นั่นหมายความว่าไม่จำเป็นต้องหยุด
หลงเยว่ยกมือขึ้นอีกครั้งและออกแรงบีบคอของเหยียนมู่ไห่ทันที
"บังอาจ!"
เมื่อเห็นว่าหลงเยว่ไม่หยุดการกระทำ ชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบก็ระเบิดอารมณ์ออกมา
เขาพุ่งตัวมาข้างหน้าเพื่อหยุดหลงเยว่ แต่มันก็สายเกินไป
เสียง "กร๊อบ" ดังขึ้น
ลำคอของเหยียนมู่ไห่เกิดการบิดงอที่น่ากลัว ตาของเขาเบิกโพลงและสิ้นชีวิตลงทั้งๆ ที่ยังลืมตา
ชายหนุ่มตกตะลึง
คนตระกูลหลินก็ตกตะลึงเช่นกัน
ตระกูลเหยียนเป็นหุ้นส่วนในธุรกิจพนันใต้ดินของตระกูลหลิน
ด้วยความสัมพันธ์อันใกล้ชิดและได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คนตระกูลหลินจึงไม่มีทางยอมให้หลินเทียนฉีทำลายตระกูลเหยียน
ดังนั้นเมื่อพวกเขารู้ว่าเหยียนมู่ไห่กำลังมีปัญหา ตระกูลหลินจึงขอความช่วยเหลือจากแขกผู้มีเกียรติที่คฤหาสน์ทันที
แต่แขกผู้นั้นมีสถานะสูงส่งมากจึงไม่มีทางที่เขาจะมาออกโรงด้วยตัวเอง เขาจึงให้ทหารคู่ใจมากับชาวตระกูลหลินแทน
อย่างไรแล้วหลินเทียนฉีเองก็เป็นนายทหาร แค่เพียงทหารองครักษ์คู่ใจผู้นั้นก็น่าจะสะสางปัญหานี้ได้
แต่ใครจะไปคิดว่าหลินเทียนฉีจะหยิ่งผยองและลงมือกระทำความชั่วต่อหน้าทหารผู้นี้
ทหารผู้นี้จ้องมองหลงเยว่อย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะเดินไปตรงหน้าหลินเทียนฉี "ฉันมาถึงที่นี่ขนาดนี้ แกยังกล้าฆ่าคนอย่างป่าเถื่อนอีก แกนี่มันไม่มีขื่อมีแปจริงๆ !"
หลินเทียนฉีเหลือบมองเขาเบาๆ โดยไม่สนใจที่จะเสวนากับเขาแม้แต่น้อย
หลินเทียนฉีหันหลังกลับเพื่อออกจากตรงนี้และนั่นทำให้ชายหนุ่มโกรธจัด เขาจึงเอื้อมมือไปคว้าไหล่ของหลินเทียนฉีเอาไว้
"กล้าดีนักนะแก!"
หลงเยว่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและตบเข้าที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างแรง "แกเป็นใคร บอกชื่อมาเดี๋ยวนี้!"
หนึ่งในสิบนักรบผู้ยิ่งใหญ่แห่งเทียนกง หากเทียบตำแหน่งในประเทศจีนก็เท่ากับพลตรี
ถ้าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นตรงหน้าหลินเทียนฉี หลงเยว่ก็คงไม่กล้าทำอะไร เพราะด้วยรัศมีรอบกายพลตรีคนนี้จะทำให้ทหารหลายคนรู้สึกหวาดกลัวเขาแทนที่จะกล้าสบประมาทเช่นนี้
"ถึงเวลาตายของพวกแกสองคนแล้ว!"
ชายหนุ่มผู้นี้ไม่เพียงแต่จะไม่เปิดเผยชื่อของตัวเองแล้ว แต่เขายังแสดงสีหน้าเยาะเย้ยออกมาด้วย
"ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นไปทั้งข้องจริงๆ ชื่อเสียงของพวกเราถูกเดนมนุษย์อย่างพวกแกทำให้เน่าเฟะหมดแล้ว!"
หลงเยว่กำลังจะโต้กลับ แต่หลินเทียนฉีกล่าวอย่างใจเย็นขึ้นมาก่อน "หลงเยว่ อย่าไปเถียงกับเขาเลย ฉันรู้แล้วว่าผู้นำของเขาเป็นใคร วันหลังฉันจะไปเยี่ยมเยียนเขาด้วยตัวเอง"
"ครับท่าน!"
หลงเยว่ตอบกลับด้วยความเคารพ จากนั้นเขาก็เตือนชายคนนั้นและเดินออกไปพร้อมกับหลินเทียนฉี
"นายน้อย ท่านจะปล่อยพวกมันไปแบบนี้ไม่ได้!"
หลินเทียนเจียนก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและพูดกับชายหนุ่ม
"ฉันจะทำอะไรไม่ต้องให้คุณมาสอน"
ชายหนุ่มชำเลืองมองเขาและกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่อดทน "ชายผู้นั้นแข็งแกร่งมาก หากฉันดันทุรังจะรั้งเขาไว้ น่าจะต้องใช้พลังไม่น้อย"
"พวกคุณไม่ต้องกังวลหรอก หลินเทียนฉีคนนั้นบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะมาชำระบัญชีแค้นกับตระกูลหลินของพวกคุณในวันมะรืน? ตอนนั้นค่อยจัดการเขาให้สาสมก็ยังไม่สาย"
เมื่อพูดจบ ชายหนุ่มก็เดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมา ดูเหมือนว่าเขาจะไปหาหัวหน้าของเขาเพื่อรายงานสถานการณ์
ในอีกด้านหนึ่ง หลินเทียนฉีไม่ได้กลับไปที่บ้านตระกูลฉู่อีก
ก่อนที่เขาจะสะสางปัญหากับตระกูลหลินให้เสร็จสิ้น ยิ่งเขาเข้าใกล้ตระกูลฉู่มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเพิ่มความเกลียดชังให้ตระกูลฉู่ง่ายขึ้นเท่านั้น
เขาไม่ต้องการให้ฉู่จิ้งหลีได้รับผลกระทบจากเขาอีกแล้ว เขาจึงเลือกที่จะพบเธอให้น้อยลง ถึงอย่างไรก็ยังมีเวลาเจอกันในอนาคต
"คุณท่านครับ ผมซื้อบ้านที่คุณท่านต้องการก่อนหน้านี้มาเรียบร้อยแล้ว ตั้งอยู่ในตำแหน่งสูงสุดของภูเขาหลงเถิง"
หลงเยว่รายงานอยู่ด้านหลังหลินเทียนฉี
"ดี ตอนนี้มีเวลา เราไปดูกันเลยแล้วกัน"
หลินเทียนฉีคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจที่จะดูสักหน่อย
หากเขาต้องการแต่งงานกับฉู่จิ้งหลี เขาไม่สามารถใช้ห้องชุดเพรสซิเดนเชียล สวีทที่โรงแรมตงฮวาเป็นเรือนหอได้ แบบนั้นมันไม่เหมาะสม ดังนั้นเขาจึงไหว้วานให้หลงเยว่ซื้อบ้านเดี่ยวให้
แต่ใครจะไปคิดว่าเพียงแค่ให้หมอนี่ลงมือ เขาจะเล่นใหญ่ฟุ่มเฟือยขนาดถึงขั้นซื้อที่ดินที่แพงที่สุดในเจียงเฉิงทั้งหมด
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved