บทที่ 11 รนหาที่ตาย

หลินเทียนฉีไม่ได้พูดอะไรและเดินผ่านร่างของฉินหลานเซียงออกไปข้างนอก

เขารู้ว่าตระกูลเหยียนต้องมาที่นี่แน่ ดังนั้นเขาจึงจะอยู่ต่อ

ภายในห้อง ฉู่จิ้งหลีจับมือแม่ของเธอไว้และอ้อนวอนว่า "แม่คะ คุณหนูสองตระกูลเหยียนเรียกรถทุบดินมาเพื่อจะมาทุบบ้านของเรา พอหนูจะไปขวาง เธอก็มาทำร้ายหนู เทียนฉีทำแบบนี้เพื่อปกป้องหนู พวกเราจะละเลยเขาแบบนี้ไม่ได้นะคะ!"

"หลบไปเดี๋ยวนี้!"

ฉินหลานเซียงกล่าวเสียงแหลม "ฉู่จิ้งหลี เมื่อแปดปีที่แล้วเธอทำลายชื่อเสียงของครอบครัวเราจนป่นปี้ ทำร้ายครอบครัวของเราจนย่อยยับ แถมยังทำให้พวกเราทั้งหมดต้องทนทุกข์ทรมานกับเธอมาตั้งแปดปี เธอจะบอกว่าเธอไม่ผิดสักนิดเลยเหรอ?"

"ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง ฉันคงตัดแม่ตัดลูกกับเธอไปนานแล้ว แล้วตอนนี้เธอยังจะทำตัวเป็นภาระจะให้พวกเราไปช่วยไอ้ตัวซวยนั่นอีกเหรอ?"

"ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ แม้ว่าคุณชายเหยียนจะตาย ฉันก็จะให้เธอแต่งงานกับคุณชายหลี่ ถ้าคุณชายหลี่ไม่ชอบเธอก็ยังมีคุณชายกง คุณชายจ้าว คุณชายไห่อีก!"

"ประโยชน์เดียวของเธอในตอนนี้คือแลกตัวเองเพื่อความร่ำรวยและชดเชยความเสียหายที่เราได้รับในช่วงแปดปีที่ผ่านมา!"

เหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อแปดปีที่แล้วได้เปลี่ยนฉินหลานเซียงที่ควรจะได้เป็นคุณนายฉู่ผู้มีสง่าราศีและมั่งคั่ง กลายเป็นหญิงแก่ผมเผ้าฟูไม่น่ามอง

การตกสู่ความตกต่ำครั้งใหญ่นี้ทำให้หัวใจของหล่อนบิดเบี้ยวจนหล่อนไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์แม่ลูกอีก

ด้านนอกของวิลล่าตระกูลฉู่

หลินเทียนฉียืนนิ่งตระหง่านอยู่หน้าวิลล่า เขามองพวกนักเลงกลุ่มใหญ่ด้วยสายตาเย็นชา

ท่ามกลางการต่อสู้ครั้งใหญ่ ไม่มีพวกชอบสอดรู้คนไหนกล้าอยู่ตรงนั้น ส่วนใหญ่ยืนมองดูสถานการณ์ในที่ห่างไกลออกไปกว่าร้อยเมตร

เหยียนมู่ไห่เดินเข้าหาหลินเทียนฉีด้วยสีหน้าโหดเหี้ยมและดวงตาของเขาแทบลุกเป็นไฟ

"หลินเทียนฉี ลูกชายของฉันเพิ่งจะตายไปด้วยน้ำมือของแก แล้วแกยังมาลงมือกับลูกสาวของฉันอีก นี่แกคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลเหยียนของเราจะกลัวแก?"

"ถ้าแกบีบบังคับฉันมากกว่านี้ ฉันก็ไม่สนว่าแกจะมีเบื้องหลังยังไง ถ้าฉันต้องตาย ฉันก็จะลากแกลงนรกไปดด้วย!"

"พูดจบรึยัง?"

น้ำเสียงของหลินเทียนฉีราบเรียบ "ถ้าพูดจบแล้วก็ลงมือสักที ฉันยังมีเรื่องที่ต้องไปทำ"

"แก..แก!"

ร่างกายของเหยียนมู่ไห่สั่นสะท้านด้วยความโกรธ เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงและโบกมือทันที

"ไปฆ่ามัน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นฉันจะรับผิดชอบเอง ฉันจะเอาเลือดของมันไปเคารพศพลูกชายของฉัน!"

นักเลงเหล่านั้นรับคำสั่ง พวกเขาทั้งหมดร้องตะโกนและวิ่งเข้าหาหลินเทียนฉีด้วยดวงตาแดงก่ำ

"คนอย่างพวกแกมีสิทธิ์มาทำอะไรคุณท่านหรือ?"

จู่ๆ หลงเยว่ก็มาปรากฏตัวข้างกายหลินเทียนฉี

เขาวิ่งฝ่าเข้าไปในวงอย่างบ้าคลั่งราวกับเสือดุและล้มพวกนักเลงไปได้ส่วนหนึ่ง

เข้าถึงตัวแล้ว

หมัดเหล็กโบกสะบัดไปมาราวกับพายุพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นไม่หยุด

หลังจากนั้นไม่นาน นักเลงทั้งหมดก็ถูกเล่นงานจนนอนกระอักเลือดหมดสภาพอยู่บนพื้น

ส่วนหลงเยว่นั้นกลับเดินไปหาเหยียนมู่ไห่โดยไม่มีอาการหอบหายใจแม้แต่นิดเดียว

"พวกแก...พวกแกเป็นใครกันแน่?"

เหยียนมู่ไห่ขาอ่อนจนทรุดนั่งลงกับพื้นด้วยความหวาดกลัว

"คุณท่านฆ่าลูกชายของแกเพราะไอ้หมอนั่นคิดชั่วกับภรรยาของเขา มันตายไปก็สมควรแล้ว"

"ถ้าพวกตระกูลเหยียนของแกทำตัวดี มันก็จะไม่มีอะไรเกิดกับพวกแก แต่นี่พวกแกรนหาที่ตายเอง มาท้าทายความยิ่งใหญ่ของคุณท่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า!"

"เพราเหตุนี้ เมืองเจียงเฉิงจึงไม่มีที่สำหรับคนตระกูลเหยียนอีกต่อไป"

เมื่อกล่าวจบ หลงเยว่ก็ยกมือขึ้นและพร้อมจะจบชีวิตเหยียนมู่ไห่

ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามอันน่าเกรงขามดังมาจากอีกด้านหนึ่ง

"กล้าดีจริงๆ ที่มาทำตัวป่าเถื่อนในที่สาธารณะกลางวันแสกๆ แบบนี้!"

หลงเยว่หยุดการกระทำและหันศีรษะกลับมามอง

ภาพที่เขาเห็นคือคนตระกูลหลินกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบทหารคนหนึ่งด้วยความรวดเร็ว

หลงเยว่เหลือบมองหลินเทียนฉี แต่หลินเทียนฉีไม่ได้พูดอะไร

เขาไม่พูด นั่นหมายความว่าไม่จำเป็นต้องหยุด

หลงเยว่ยกมือขึ้นอีกครั้งและออกแรงบีบคอของเหยียนมู่ไห่ทันที

"บังอาจ!"

เมื่อเห็นว่าหลงเยว่ไม่หยุดการกระทำ ชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบก็ระเบิดอารมณ์ออกมา

เขาพุ่งตัวมาข้างหน้าเพื่อหยุดหลงเยว่ แต่มันก็สายเกินไป

เสียง "กร๊อบ" ดังขึ้น

ลำคอของเหยียนมู่ไห่เกิดการบิดงอที่น่ากลัว ตาของเขาเบิกโพลงและสิ้นชีวิตลงทั้งๆ ที่ยังลืมตา

ชายหนุ่มตกตะลึง

คนตระกูลหลินก็ตกตะลึงเช่นกัน

ตระกูลเหยียนเป็นหุ้นส่วนในธุรกิจพนันใต้ดินของตระกูลหลิน

ด้วยความสัมพันธ์อันใกล้ชิดและได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คนตระกูลหลินจึงไม่มีทางยอมให้หลินเทียนฉีทำลายตระกูลเหยียน

ดังนั้นเมื่อพวกเขารู้ว่าเหยียนมู่ไห่กำลังมีปัญหา ตระกูลหลินจึงขอความช่วยเหลือจากแขกผู้มีเกียรติที่คฤหาสน์ทันที

แต่แขกผู้นั้นมีสถานะสูงส่งมากจึงไม่มีทางที่เขาจะมาออกโรงด้วยตัวเอง เขาจึงให้ทหารคู่ใจมากับชาวตระกูลหลินแทน

อย่างไรแล้วหลินเทียนฉีเองก็เป็นนายทหาร แค่เพียงทหารองครักษ์คู่ใจผู้นั้นก็น่าจะสะสางปัญหานี้ได้

แต่ใครจะไปคิดว่าหลินเทียนฉีจะหยิ่งผยองและลงมือกระทำความชั่วต่อหน้าทหารผู้นี้

ทหารผู้นี้จ้องมองหลงเยว่อย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะเดินไปตรงหน้าหลินเทียนฉี "ฉันมาถึงที่นี่ขนาดนี้ แกยังกล้าฆ่าคนอย่างป่าเถื่อนอีก แกนี่มันไม่มีขื่อมีแปจริงๆ !"


หลินเทียนฉีเหลือบมองเขาเบาๆ โดยไม่สนใจที่จะเสวนากับเขาแม้แต่น้อย

หลินเทียนฉีหันหลังกลับเพื่อออกจากตรงนี้และนั่นทำให้ชายหนุ่มโกรธจัด เขาจึงเอื้อมมือไปคว้าไหล่ของหลินเทียนฉีเอาไว้

"กล้าดีนักนะแก!"

หลงเยว่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและตบเข้าที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างแรง "แกเป็นใคร บอกชื่อมาเดี๋ยวนี้!"

หนึ่งในสิบนักรบผู้ยิ่งใหญ่แห่งเทียนกง หากเทียบตำแหน่งในประเทศจีนก็เท่ากับพลตรี

ถ้าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นตรงหน้าหลินเทียนฉี หลงเยว่ก็คงไม่กล้าทำอะไร เพราะด้วยรัศมีรอบกายพลตรีคนนี้จะทำให้ทหารหลายคนรู้สึกหวาดกลัวเขาแทนที่จะกล้าสบประมาทเช่นนี้

"ถึงเวลาตายของพวกแกสองคนแล้ว!"

ชายหนุ่มผู้นี้ไม่เพียงแต่จะไม่เปิดเผยชื่อของตัวเองแล้ว แต่เขายังแสดงสีหน้าเยาะเย้ยออกมาด้วย

"ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นไปทั้งข้องจริงๆ ชื่อเสียงของพวกเราถูกเดนมนุษย์อย่างพวกแกทำให้เน่าเฟะหมดแล้ว!"

หลงเยว่กำลังจะโต้กลับ แต่หลินเทียนฉีกล่าวอย่างใจเย็นขึ้นมาก่อน "หลงเยว่ อย่าไปเถียงกับเขาเลย ฉันรู้แล้วว่าผู้นำของเขาเป็นใคร วันหลังฉันจะไปเยี่ยมเยียนเขาด้วยตัวเอง"

"ครับท่าน!"

หลงเยว่ตอบกลับด้วยความเคารพ จากนั้นเขาก็เตือนชายคนนั้นและเดินออกไปพร้อมกับหลินเทียนฉี

"นายน้อย ท่านจะปล่อยพวกมันไปแบบนี้ไม่ได้!"

หลินเทียนเจียนก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและพูดกับชายหนุ่ม

"ฉันจะทำอะไรไม่ต้องให้คุณมาสอน"

ชายหนุ่มชำเลืองมองเขาและกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่อดทน "ชายผู้นั้นแข็งแกร่งมาก หากฉันดันทุรังจะรั้งเขาไว้ น่าจะต้องใช้พลังไม่น้อย"

"พวกคุณไม่ต้องกังวลหรอก หลินเทียนฉีคนนั้นบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะมาชำระบัญชีแค้นกับตระกูลหลินของพวกคุณในวันมะรืน? ตอนนั้นค่อยจัดการเขาให้สาสมก็ยังไม่สาย"

เมื่อพูดจบ ชายหนุ่มก็เดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมา ดูเหมือนว่าเขาจะไปหาหัวหน้าของเขาเพื่อรายงานสถานการณ์

ในอีกด้านหนึ่ง หลินเทียนฉีไม่ได้กลับไปที่บ้านตระกูลฉู่อีก

ก่อนที่เขาจะสะสางปัญหากับตระกูลหลินให้เสร็จสิ้น ยิ่งเขาเข้าใกล้ตระกูลฉู่มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเพิ่มความเกลียดชังให้ตระกูลฉู่ง่ายขึ้นเท่านั้น

เขาไม่ต้องการให้ฉู่จิ้งหลีได้รับผลกระทบจากเขาอีกแล้ว เขาจึงเลือกที่จะพบเธอให้น้อยลง ถึงอย่างไรก็ยังมีเวลาเจอกันในอนาคต

"คุณท่านครับ ผมซื้อบ้านที่คุณท่านต้องการก่อนหน้านี้มาเรียบร้อยแล้ว ตั้งอยู่ในตำแหน่งสูงสุดของภูเขาหลงเถิง"

หลงเยว่รายงานอยู่ด้านหลังหลินเทียนฉี

"ดี ตอนนี้มีเวลา เราไปดูกันเลยแล้วกัน"

หลินเทียนฉีคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจที่จะดูสักหน่อย

หากเขาต้องการแต่งงานกับฉู่จิ้งหลี เขาไม่สามารถใช้ห้องชุดเพรสซิเดนเชียล สวีทที่โรงแรมตงฮวาเป็นเรือนหอได้ แบบนั้นมันไม่เหมาะสม ดังนั้นเขาจึงไหว้วานให้หลงเยว่ซื้อบ้านเดี่ยวให้

แต่ใครจะไปคิดว่าเพียงแค่ให้หมอนี่ลงมือ เขาจะเล่นใหญ่ฟุ่มเฟือยขนาดถึงขั้นซื้อที่ดินที่แพงที่สุดในเจียงเฉิงทั้งหมด

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

486