บทที่ 13 ไพร่ชั้นต่ำ

หญิงสาวคนนี้มีหน้าตาสะสวยและแต่งตัวตามแฟชั่น

ตอนนี้เธอกำลังเกาะชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งอยู่และคนทั้งสองก็ดูใกล้ชิดสนิทสนมราวกับเป็นคู่ที่รักกันมาก

"มองอะไร ฉันพูดอะไรผิด?"

หญิงสาวพูดด้วยความอารมณ์เสีย

หลินเทียนฉีไม่ได้ตอบและมองอยู่เงียบ ๆ

ที่เขามองนั้นเขาไม่ได้คิดว่าผู้หญิงคนนี้หน้าตาดีหรืออย่างไร แต่เขารู้สึกคุ้นหน้าเธอแต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยพบเจอที่ไหน เขาจึงเหลือบมองอีกสองสามครั้ง

"หึ ไอ้พวกขี้แพ้ที่ทั้งกระจอกทั้งยากจนทั้งสอง รีบหลบไปให้พ้นทางฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะให้ที่รักของฉันมอบบทเรียนให้พวกแก!"

หญิงสาวเดินเข้าไปหาหลินเทียนฉีอย่างดุดันและตะโกนอย่างอวดดี

สีหน้าของหลินเทียนฉีเคร่งขรึมขึ้นทันที "ทางเดินก็ออกจะกว้าง ทำไมต้องบอกให้พวกเราหลบด้วย เธอนี่ทำอะไรไม่มีเหตุผลจริงๆ"

"เหตุผล?"

หญิงสาวหัวเราะเยาะ

"คุยกับคนช้ำต่ำอย่างพวกแกคงไม่ต้องใช้เหตุผลอะไรหรอก ดูจากท่าทางยากจนข้นแค้นของพวกแกแล้ว บรรพบุรุษของพวกแกคงเป็นชาวนามาหลายชั่วโคตรล่ะสิ?"

"ดูแล้วคงไม่ค่อยได้พบเจอโลกภายนอกสินะ แกคิดว่าใครจะเข้ามาในสำนักงานของภูเขาหลงเถิงก็ได้งั้นเหรอ?"

"รีบออกไปก่อนที่รปภ.จะมาไล่พวกแกออกไป!"

"ที่รัก อย่าเสียเวลากับขอทานสองคนนี้เลย เธออยากได้บ้านแบบไหน ฉันจะพาเธอไปดู"

ในตอนนั้นเองชายหนุ่มข้างกายเธอก็พูดขึ้น

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าโหดเหี้ยมของหญิงสาวก็เปลี่ยนเป็นออดอ้อนทันที เธอกอดชายหนุ่มและหอมแก้มเขาไปอีกหลายครั้ง

"ที่รัก ขอบคุณนะคะ!"

ทันใดนั้น ดูเหมือนว่าเธอจะคิดอะไรได้บางอย่าง ก่อนจะชี้ไปที่วิลล่าบนยอดเขาแล้วพูดว่า "ตัวเอง ตัวเองอยากได้วิลล่าหลังนั้นมั้ย?"

สีหน้าของชายหนุ่มรูปงามเปลี่ยนไปเป็นตกตะลึงทันที

นี่ล้อกันเล่นรึเปล่า เมื่อครู่นี้เธอเป็นคนพูดเองว่าแม้แต่คนที่รวยที่สุดในเจียงเฉิงยังไม่สามารถซื้อวิลล่านี้ได้ ถึงแม้ว่าครอบครัวของเขาจะรวย แต่ก็เทียบกับเศรษฐีเบอร์หนึ่งในเจียงเฉิงไม่ได้อยู่ดี!

โดยธรรมชาติแล้วผู้หญิงส่วนใหญ่จะไม่สร้างเรื่องโดยไม่มีเหตุผล เธอโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูชายหนุ่มสองสามคำ เมื่อชายหนุ่มได้ฟัง เขาก็เข้าใจทันที

"คุณผู้หญิงคนนั้นสะดวกพาเราไปดูบ้านมั้ย?"

ชายหนุ่มตะโกนเรียกพนักงานขายสาวที่ยืนอยู่ด้านข้าง

"ได้เลยค่ะ ยินดีรับใช้ท่านค่ะ"

พนักงานขายสาวก้าวมาข้างหน้าทันที ก่อนจะพูดพร้อมโค้งคำนับ

"เราต้องการดูวิลล่าหลังนี้ คุณพาเราไปดูรอบๆ หน่อยสิ"

ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับชี้ไปที่วิลล่าหลังเดียวบนยอดเขา

สีหน้าของพนักงานขายเปลี่ยนไปทันทีและเธอกำลังจะบอกเขาว่าวิลล่าได้ถูกขายไปแล้ว

แต่ชายหนุ่มได้หยิบธนบัตรสองสามใบออกจากกระเป๋าของตนอย่างลับๆ

"โอเค ได้ค่ะ ฉันจะพาพวกคุณไปชมบ้าน"

พนักงานขายยิ้มและพูดอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าวิลล่าหลังนั้นจะขายไปแล้วแต่เจ้าของวิลล่ายังไม่มารับมอบบ้าน แค่เอากุญแจไปเท่านั้น

เธอกะเวลาโดยประมาณว่าเจ้าของบ้านตัวจริงคงไม่ได้จะย้ายเข้าบ้านในเร็วๆ นี้ จึงไม่น่าจะมีปัญหาในการพาคนไปดูสักหน่อย

หลินเทียนฉีและหลงเยว่ยืนเฉยโดยไม่พูดอะไร

พวกเขาทุกคนเห็นการกระทำเมื่อครู่ของชายหนุ่มและไม่มีใครเข้าใจว่าเขาจะทำอะไร

ขณะนั้นเอง หญิงสาวก็บิดเอวคอดๆ ของเธอเดินไปข้างหน้าและกล่าวอย่างอวดดีว่า "นี่ไอ้ไพร่ชั้นต่ำทั้งสอง ฉันจะพาพวกแกขึ้นยอดเขาไปดูวิลล่าด้วยกัน พวกแกจะได้เปิดหูเปิดตาและจะได้ไม่พูดว่าคนในเมืองใหญ่รังแกพวกแก"

ใบหน้าของหลงเยว่มืดมนลงและเขากำลังจะต่อว่าเธอ แต่ก็ถูกสายตาของหลินเทียนฉีหยุดไว้ก่อน

"งั้นก็รบกวนด้วย"

หลินเทียนฉีกล่าวอย่างไม่อ่อนน้อมถ่อมตนหรือเย่อหยิ่งเกินไป

เขาต้องการดูว่าคนเหล่านี้ต้องการทำอะไรกับบ้านของเขา

ผ่านไปไม่นาน คนทั้งสี่ที่นำโดยพนักงานขายก็มาถึงวิลล่าบนยอดเขา

ต้องบอกเลยว่าวิลล่าหลังนี้หรูหราจริงๆ

ที่นี่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตรและตั้งในบริเวณตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่ดีที่สุดในภูเขาหลงเถิง

ลานหน้าบ้านและสนามหลังบ้านมีสระว่ายน้ำและสวนส่วนตัว มีระเบียงกว้างที่ชั้นบนสุดพร้อมกล้องดูดาวราคาแพง

การออกแบบตกแต่งภายในทันสมัยและล้ำยุคมาก

ที่สำคัญที่สุดคือทั้งวิลล่าใช้ระบบพ่อบ้านอัจฉริยะชั้นนำของโลก

ไม่ว่าจะต้องการอะไร แค่กล่าวออกไป พ่อบ้านจะช่วยทำให้เสร็จเอง

พนักงานขายสาวมีความขะมักเขม้นในการแนะนำข้อดีของวิลล่า แต่เธอรู้อยู่แก่ใจว่านี่เป็นเพียงการแสดง หากไม่ใช่เพราะเงินเล็กๆ น้อยๆ นั่น เธอคงไม่ยอมพูดให้เปลืองน้ำลาย

"เห็นชัดรึยัง โลกของคนรวยน่ะ คนชั้นต่ำอย่างพวกแกมีหน้ามาพูดว่าจะซื้อวิลล่าหลังนี้น่ะเหรอ นี่คิดว่าเงินตกลงมาจากท้องฟ้ารึไง?"

"แม้ว่าเงินจะหล่นลงมาจากฟ้าจริงๆ แล้วพวกแกก้มเก็บไปตลอดชีวิต ก็ยังซื้อวิลล่านี้ไม่ได้อยู่ดี!"

หญิงสาวแสยะยิ้มและพูดจาเสียดสีใส่หลินเทียนฉีกับหลงเยว่

การแสดงออกของหลินเทียนฉียังคงเป็นดังเดิม เขาหันมองพนักงานขายสาว "คุณช่วยพาพวกเราเข้าไปข้างในได้ไหม?"

ทันทีที่คำพูดออกมา พนักงานขายและคู่หนุ่มสาวก็เปลี่ยนสีหน้าทันที

ก่อนที่พนักงานขายสาวจะตอบอะไร หญิงสาวคนนั้นก็ทำตัวน่ารังเกียจและก่นด่าออกมาก่อน

"ชาวนาต่ำต้อยสองคนนี้ พวกแกมีคุณสมบัติอะไรที่จะเข้าไปดูข้างในเหรอ? ถ้าพวกแกเข้าไปเหยียนจนพื้นเละเทะมีปัญญารับผิดชอบรึไง!"

"ฉันใจดีแค่ไหนแล้วที่พาพวกแกเข้ามาดูใกล้ๆ ได้เปิดหูเปิดตา ไม่คิดว่าพวกแกจะหน้าด้านขนาดนี้ ได้คืบจะเอาศอก!"

"ไม่น่าแปลกใจที่แกจะเป็นได้แค่ชาวนาที่ต่ำต้อยไปตลอดชีวิต กลับไปที่หมู่บ้านของแกซะ!"

แม้จะต้องเผชิญกับคำพูดที่เลวร้ายเช่นนี้ หลินเทียนฉีก็ไม่โกรธ เพราะเขาไม่ถือสาสุนัขที่กำลังเห่า

หลงเยว่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็แสยะยิ้ม "เธอบอกว่าต้องการให้เราเปิดหูเปิดตาเห็นโลกไม่ใช่เหรอ ตอนนี้พวกเราเห็นโลกภายนอกแล้ว ทำไมพวกเราจะดูข้างในไม่ได้?"

"หรือว่าจริงๆ แล้ว เธอเองก็ไม่มีปัญญาซื้อวิลล่าหลังนี้ แต่ต้องทำเพื่อรักษาหน้าของตัวเองเลยขึ้นมาดูใช่มั้ย?"

"เหลวไหล!"

หญิงสาวกรีดร้องเสียงแหลมราวกับแมวโดนเหยียบหาง "ฉันจะมีปัญญาหรือไม่มีมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับชาวนาต่ำต้อยอย่างพวกแก ถ้าแกกล้าปากมากอีกประโยคเดียว ฉันจะเรียกรปภ.มาลากตัวพวกแกออกไปจากภูเขาหลงเถิง!"

"ภูเขาหลงเถิงกลายเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอมีสิทธิ์อะไรมาไล่คนอื่น?"

"ฉัน…"

ผู้หญิงคนนั้นพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกระทืบเท้าของตัวเองและกอดแขนของชายหนุ่มแล้วเขย่าอย่างแรง

"ที่รักดูสิ พวกมันรังแกฉัน ฉันไม่ยอม คุณต้องช่วยฉันนะคะ!"

ชายหนุ่มรู้สึกลำบากใจไม่น้อย แต่เพื่อเกลี้ยกล่อมหญิงสาว เขาจึงขยิบตาให้พนักงานขายสาวที่อยู่ข้างๆ

พนักงานขายสาวเข้าใจความหมายแฝงในการกระทำนี้ได้ทันที เธอจึงเดินเข้าไปหาหลินเทียนฉีและกล่าวเสียงเย็น "พวกคุณสองคนจะออกไปดีๆ หรือจะให้ฉันเรียกคนมาไล่พวกคุณออกไป"

"คุณแน่ใจหรอว่าจะไล่พวกเราออกไป?"

หลินเทียนฉีกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา

"คุณไม่มีหูหรือแกล้งทำเป็นหูหนวกเป็นใบ้ ฉันบอกให้คุณออกไปจากที่นี่!"

พนักงานขายสาวเริ่มทนไม่ไหว เธอจึงหยิบเครื่องมือสื่อสารออกมาและเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของภูเขาหลงเถิงให้ขึ้นมาไล่คนทั้งสอง

ในตอนนั้นเอง หลินเทียนฉีก็มองไปยังหลงเยว่

หลงเยว่เข้าใจทันที เขาหยิบสมาร์ทชิปออกมาจากกระเป๋าแล้วเสียบเข้าไปในเครื่องระบุตัวตนที่หน้าประตูวิลล่า

ทันใดนั้นไฟทั้งหมดในวิลล่าก็สว่างขึ้นในชั่วพริบตาและมีเสียงเพลงที่ไพเราะดังคลอขึ้นเบาๆ

จากนั้นเสียงหวานของหญิงสาวก็ดังขึ้น "ยินดีต้อนรับคุณหลินกลับบ้าน ดิฉันคือเสี่ยวโหยว แม่บ้านอัจฉิรยะในวิลล่า ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้บริการคุณ"

ในเวลานี้ พนักงานขายสาวและหนุ่มสาวทั้งสองต่างตกตะลึงและมีสีหน้าตื่นตาตื่นใจ

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

486