บทที่ 17 ข่าวคราวญาติพี่น้อง
by สันเป่าเอ๋อ
10:51,Nov 22,2021
แค่เห็นด้านล่างของโรงแรมตงหัว
รถหุ้มเกราะจอดเรียงรายเตรียมพร้อมเรียบร้อย
เงาคนจำนวนนับไม่ถ้วน สูงตระหง่าน เข้าเป็นแถว อยู่ลานด้านล่างของโรงแรม ทั้งหมดยืนกันเต็มถนนบริเวณใกล้เคียง และปิดล้อมไว้อย่างแน่นหนา
ขนาดแผ่นหลังที่มีพลังอันน่าหวาดกลัวเหล่านี้ ที่พวกเขาเห็นอาวุธสงครามก็มีแต่สามารถเห็นได้แค่บนทีวี......
โดยเฉพาะปากกระบอกปืนที่เย็นเฉียบเหล่านั้น กำลังเล็งมาทางพวกเขา ไม่รู้ว่าจะยิงตอนไหน ทำให้ทุกคนในห้องจัดเลี้ยงกลัวจนตัวสั่น ขาทั้งสองข้างสั่นไม่หยุด
"หนึ่ง สิบ ร้อย พัน หมื่น คนเยอะขนาดนี้ได้ยังไง ตกลงนี้มันยังไงกัน?!"
เด็กรุ่นหลังตระกูลหลินคนหนึ่งกล่าว
เฉาฉุนก็เห็นฉากนี้ สีหน้าซีดขาว
นี่มันเกิดอะไรขึ้น!
"หรือว่าแกคือ......."
สายตาของเฉาฉุนหันไปมองหลินเทียนฉี แววตาค่อยๆเพิ่มความหวาดผวา
เขาหลาดจุดสำคัญไปข้อหนึ่ง
เทียนฉีเทพเจ้าแห่งสงครามถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามองค์แรกตลอดการของประเทศจีน ข้อมูลส่วนตัวยังเป็นความลับสุดยอดในกองทัพ
เขาไม่เคยเห็นตัวตนของเทพเจ้าแห่งสงครามเลย เพียงแต่เคยเห็นรูปภาพและข้อความที่หลุดออกมา อีกทั้งมันยังเลือนรางอีกด้วย
ประกอบกับทุกคนคิดว่าเทพเจ้าแห่งสงครามได้สละชีพไปแล้ว เขาเลยไม่ได้คิดกับหลินเทียนฉีไปในทางด้านนั้น
แต่ตอนนี้ จู่ๆเขาพบว่าหลินเทียนฉี กับเทียนฉีเทพเจ้าแห่งสงครามที่เห็นในรูปภาพ มีความคล้ายคลึงกันหลายส่วน
และจะมีแค่เทียนฉีเทพเจ้าแห่งสงครามตัวจริง ถึงจะสามารถระดมกำลังคนจำนวนมากเช่นนี้มาถึงที่นี่ในระยะเวลาอันสั้นได้
ความคิดของเฉาฉุนหมุนเร็วมาก ไม่นานก็คิดออกทั้งหมด
เขารีบเดินเข้าไปหาหลินเทียนฉีีเตรียมจะคำนับ กลับถูกสายตาที่ดุดันของหลินเทียนฉีหยุดยั้งไว้
เฉาฉุนตกใจกลัวมาก เหงื่อแตกชโลมเสื้อผ้าในทันที
เขาไม่ทันอธิบายสถานการณ์ หันกลับแล้วออกไปพร้อมอารักขา
ไม่ว่าคนในตระกูลหลินจะเหนี่ยวรั้งอย่างไรก็ไม่สนใจ ไม่เยิ่นเย้อมากความแม้แต่น้อย
ทุกคนในตระกูลหลินยืนเหลอหลาอยู่ที่เดิม มองทุกสิ่งตรงหน้าอย่างไม่กล้าเชื่อสายตา
แปดปีมานี้ ตกลงแล้วหลินเทียนฉีผ่านอะไรมาบ้าง มันมีสิทธิ์อะไรสามารถระดมกำลังมาขนาดนี้
"ผู้เฒ่า ตอนนี้พวกเราจะสนทนาเงื่อนไขสามข้อนี้ได้แล้วรึยัง?"
หลินเทียนฉีค่อยๆ เข้าไปตรงหน้าของหลินชิงกั๋ว และกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
"แก...."
สีหน้าของหลินชิงกั๋วขาวซีด กระอักเลือดออกมา หมดสติไปแล้ว
พวกคนตระกูลหลินรีบเข้าไปพยุง แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ หลินเทียนฉีก็ไม่คิดจะปล่อยเขาไป
เขายื่นมือออกมา หลงเยว่มอบผ้าไหมสีขาวที่เตรียมไว้ให้ในทันที
เห็นแค่ข้อมือของเขาสะบัดเบาๆ ผ้าไหมสีขาวตกลงตรงหน้าของหลินชิงกั๋วอย่างแม่นยำ
"ผู้เฒ่าอายุมากแล้ว ไม่สะดวกผูกคอตายเอง พวกแกช่วยเขาเถอะ"
หลินเทียนฉีพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย
"แกพูดอะไร แกมันคนเนร......"
หลินเทียนไห่กำลังจะลุกขึ้นมาด่าทอ ก็ถูกหลงเยว่ตบฟาดที่ใบหน้าหนึ่งที ฟันร่วงหลุดไปเกินครึ่ง
"กล้าดูหมิ่นคุณผู้ชาย ฝ่ามือนี้เป็นการตักเตือน"
คนในตระกูลหลินคนอื่นตกใจกลัว เดิมทีพวกเขาก็คิดที่จะสู้กับหลินเทียนฉี แต่เมื่อคิดถึงฝีมือที่น่าหวาดกลัวของหลงเยว่ พวกเขากลับไปยืนอย่างเชื่อฟังอีกครั้ง
"ฉันเคยพูดแล้ว ทำเงื่อนไขข้อแรกไม่สำเร็จ เทียนหังกรุ๊ปเจ๊ง"
"ทำเงื่อนไขข้อที่สองไม่สำเร็จ ตระกูลหลินล้มละลาย"
"ทำเงื่อนไขข้อที่สามไม่สำเร็จ ทุกคนในตระกูลหลิน ทั้งหมดจะถูกฝังทั้งเป็นไปพร้อมกับพ่อแม่ฉัน"
"พวกแกคิดว่า ฉันกำลังพูดเล่นใช่มั้ย"
"ตอนนี้จะให้พวกแกเลือกอย่างหนึ่ง ไม่งั้นให้มันตาย หรือไม่ก็พวกแกตาย"
หลังจากพูดคำพูดนี้เสร็จ หลินเทียนฉีปิดตาทั้งสองข้าง ไม่พูดสักคำ
ออร่าความหนาวเย็นแผ่ออกจากบนตัวเขา เหมือนก้อนน้ำแข็งที่ทำให้คนหนาวสั่น ไม่มีคนกล้าเข้าใกล้
กลุ่มตระกูลหลิวนั้นกลัวจนพูดไม่ออกไปตั้งแต่แรกแล้ว ยืนอยู่ในซอกลับตาคนอย่างทำอะไรไม่ถูก
พวกเขาไม่เข้าใจเลยสักนิด งานเลี้ยงวันเกิดที่สนุกสนาน กลายเป็นอย่างนี้ได้ยังไงกัน?
หลินเทียนไห่หยิบผ้าไหมสีขาวไว้ในมือ สีหน้ายุ่งเหยิงไปหมด
"ดูเหมือนว่า พวกแกยังไม่เข้าใจสถานการณ์ของตัวเอง"
หลินเทียนฉีแสยะยิ้ม
เวลาต่อมา ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินลงมาด้านล่างอย่างเป็นระเบียบ
กลุ่มพลังอันน่าหวาดกลัว อารักขามุ่งเข้ามาห้องจัดเลี้ยงด้วยท่าทีเคารพอย่างสูงปากกระบอกปืนที่เย็นเฉียบเล็งไปที่คนในตระกูลหลินทุกคน
แก๊กแก๊ก....
เสียงโหลดกระสุนปืนดังขึ้นพร้อมเพรียง
สีหน้าของคนในตระกูลหลินทุกคนซีดขาว พวกขี้ขลาดที่ถึงขนาดกลั้นไม่อยู่ ทันใดนั้นทั้งห้องจัดเลี้ยงคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหม็นคาว
"ลุงสี่ ปู่มีชีวิตมานานพอแล้ว พวกเรายังอายุน้อยนะ"
ในที่สุด มีเด็กรุ่นหลังของตระกูลหลินคนหนึ่งทนไม่ไหว ร้องไห้ตะโกนเสียงดังอย่างขมขื่น
ดวงตาทั้งสองข้างของหลินเจี้ยนไห่เบิกตาโพลง เสียงยิ่งดังขึ้นอีก
"ใช่ลุงสี่ เด็กอย่างพวกเราพึ่งจะเกิด พวกเราตายไม่ได้หรอก"
"และแท้ที่จริงในเวลานั้นเฒ่าแก่ผู้นี้ก็ถูกครอบงำจนจิตใจมืดบอด ก่อให้เกิดหายนะ ทำไมต้องให้พวกเราตายไปพร้อมเขาด้วย?!"
"สองสามวันนี้มาผมอยากไปเซ่นไหว้ลุงรองและภรรยา ไม่ใช่พวกคุณบอกว่าไม่ต้องสนหลินเทียนฉี ทั้งหมดเป็นความผิดของพวกคุณ พวกคุณสมควรตาย พวกเราไม่อยากตายนะ"
ทันใดนั้น คนในตระกูลหลินเปิดฉากปะทะกันภายในครอบครัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เสียงการประณามและการด่ากระทบทุกประเภทดังขึ้น บางคนมีโทสะใจร้อนถึงขนาดลงไม้ลงมือกันตรงนั้นเลย ทุบตีกันเลือดออกเต็มหน้า
"จบแล้ว ตระกูลหลินจบเห่แล้ว....."
หลินเจี้ยนไห่ร้องไห้อย่างโศกเศร้า เขารู้ว่าตระกูลหลินไม่รอดแล้ว
หลังจากผ่านเรื่องนี้ไป แม้ว่าพวกเขาโชคดีอยู่รอดต่อไป ตระกูลหลินจะไม่สามัคคีเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป แต่ว่ากระจัดกระจายกันไปเท่านั้น
เวลานี้ เขาติดอยู่ในใจเฒ่าแก่ขมวดคิ้ว ค่อยๆ ลืมตา
หลินชิงกั๋วจ้องมองหลินเทียนฉี ด้วยสายตาที่สลับซับซ้อน
หลังจากนั้นครู่ใหญ่ เขาพูดว่า "หลินเทียนฉี ฉันต้องการใช้ความลับอย่างหนึ่งทำการแลกเปลี่ยนกับแก ขอร้องแค่แกปล่อยตระกูลหลินไป ส่วนฉัน จะไปแขวนคอที่หอบรรพบุรุษทันทีหลังจากที่เรื่องราวสิ้นสุดลงแล้ว"
"พูดมาให้ฟังสิ"
หลินเทียนฉีพูดอย่างเมินเฉย
ขอเพียงแค่หลินชิงกั๋วคนต้นคิดผู้นี้ได้รับผลกรรม ความเคียดแค้นในใจของเขาปลดปล่อยไปเกินครึ่งแล้ว
ส่วนคนเหล่านี้ที่เหลืออยู่ ไม่มีการคุ้มครองจากตระกูลหลินแล้ว พวกมันไม่มีค่าอะไรเลย พวกมันมีชีวิตอยู่ดีกินดีจนเคยชิน เป็นการทำโทษที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
"ฉันรู้ร่องรอยของน้องสาวแก"
หลินชิงกั๋วจ้องเขม็งหลินเทียนฉี ต้องการที่จะจับสังเกตการเปลี่ยนแปลงท่าทีของมัน
เป็นตามที่คาดไว้ เมื่อได้ยิน "น้องสาว" สองคำนนี้ ท่าทีของหลินเทียนฉีก็เปลี่ยนไปในทันที
"น้องสางของฉันอยู่ที่ไหน?"
"จริงๆ แล้ว…."
หลินชิงกั๋วยิ้มอย่างขมขื่น
"แม่บุญธรรมของแกเซียวเฉียนยวู เป็นคนของตระกูลเซียวตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองเจียง เพียงแต่เวลานั้นเธอถูกใจพ่อบุญธรรมของแก ตัดสินใจแน่วแน่ว่าต้องการอยู่กับเขา ทำให้ตระกูลเซียวโกรธ ตระกูลเซียวจึงตัดความสัมพันธ์กับเธออย่างเด็ดขาด"
"ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ตระกูลเซียวก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กับเธอจริงๆ จนกระทั่งหลังจากเธอตายไป ตระกูลเซียงถึงได้ส่งคนตามหาศพของเธอ ถือโอกาสพาน้องสาวของแกไปด้วย เพราะว่าในตัวของเธอมีสายเลือดของตระกูลเซียวอยู่ครึ่งหนึ่ง"
"คาดไม่ถึงว่าเป็นอย่างนี้"
หลินเทียนฉีรู้สึกประหลาดใจ
ไม่แปลกเลยที่เขาอยากรู้มาตลอด ทำไมมองดูพ่อที่รูปร่างสูงใหญ่ดูแข็งแรงบึกบึน สามารถแต่งกับแม่ของเขา ผู้หญิงภายในใจที่แพร่ความฉลาดหลักแหลมและสง่างามได้
แม่ของเธอ แม้ว่าจะต้องทำการเกษตรก็ตาม ง่วนทำงานบ้าน ไม่เคยเผยนิสัยมักง่ายออกมาเลย ยังคงเหมือนกุลสตรีที่มาจากตระกูลใหญ่มีฐานะ
"ตระกูลเซียวใช่มั้ย........."
"หลงเยว่ เตรียมรถ ฉันจะไปบ้านตระกูลเซียว!"
รถหุ้มเกราะจอดเรียงรายเตรียมพร้อมเรียบร้อย
เงาคนจำนวนนับไม่ถ้วน สูงตระหง่าน เข้าเป็นแถว อยู่ลานด้านล่างของโรงแรม ทั้งหมดยืนกันเต็มถนนบริเวณใกล้เคียง และปิดล้อมไว้อย่างแน่นหนา
ขนาดแผ่นหลังที่มีพลังอันน่าหวาดกลัวเหล่านี้ ที่พวกเขาเห็นอาวุธสงครามก็มีแต่สามารถเห็นได้แค่บนทีวี......
โดยเฉพาะปากกระบอกปืนที่เย็นเฉียบเหล่านั้น กำลังเล็งมาทางพวกเขา ไม่รู้ว่าจะยิงตอนไหน ทำให้ทุกคนในห้องจัดเลี้ยงกลัวจนตัวสั่น ขาทั้งสองข้างสั่นไม่หยุด
"หนึ่ง สิบ ร้อย พัน หมื่น คนเยอะขนาดนี้ได้ยังไง ตกลงนี้มันยังไงกัน?!"
เด็กรุ่นหลังตระกูลหลินคนหนึ่งกล่าว
เฉาฉุนก็เห็นฉากนี้ สีหน้าซีดขาว
นี่มันเกิดอะไรขึ้น!
"หรือว่าแกคือ......."
สายตาของเฉาฉุนหันไปมองหลินเทียนฉี แววตาค่อยๆเพิ่มความหวาดผวา
เขาหลาดจุดสำคัญไปข้อหนึ่ง
เทียนฉีเทพเจ้าแห่งสงครามถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามองค์แรกตลอดการของประเทศจีน ข้อมูลส่วนตัวยังเป็นความลับสุดยอดในกองทัพ
เขาไม่เคยเห็นตัวตนของเทพเจ้าแห่งสงครามเลย เพียงแต่เคยเห็นรูปภาพและข้อความที่หลุดออกมา อีกทั้งมันยังเลือนรางอีกด้วย
ประกอบกับทุกคนคิดว่าเทพเจ้าแห่งสงครามได้สละชีพไปแล้ว เขาเลยไม่ได้คิดกับหลินเทียนฉีไปในทางด้านนั้น
แต่ตอนนี้ จู่ๆเขาพบว่าหลินเทียนฉี กับเทียนฉีเทพเจ้าแห่งสงครามที่เห็นในรูปภาพ มีความคล้ายคลึงกันหลายส่วน
และจะมีแค่เทียนฉีเทพเจ้าแห่งสงครามตัวจริง ถึงจะสามารถระดมกำลังคนจำนวนมากเช่นนี้มาถึงที่นี่ในระยะเวลาอันสั้นได้
ความคิดของเฉาฉุนหมุนเร็วมาก ไม่นานก็คิดออกทั้งหมด
เขารีบเดินเข้าไปหาหลินเทียนฉีีเตรียมจะคำนับ กลับถูกสายตาที่ดุดันของหลินเทียนฉีหยุดยั้งไว้
เฉาฉุนตกใจกลัวมาก เหงื่อแตกชโลมเสื้อผ้าในทันที
เขาไม่ทันอธิบายสถานการณ์ หันกลับแล้วออกไปพร้อมอารักขา
ไม่ว่าคนในตระกูลหลินจะเหนี่ยวรั้งอย่างไรก็ไม่สนใจ ไม่เยิ่นเย้อมากความแม้แต่น้อย
ทุกคนในตระกูลหลินยืนเหลอหลาอยู่ที่เดิม มองทุกสิ่งตรงหน้าอย่างไม่กล้าเชื่อสายตา
แปดปีมานี้ ตกลงแล้วหลินเทียนฉีผ่านอะไรมาบ้าง มันมีสิทธิ์อะไรสามารถระดมกำลังมาขนาดนี้
"ผู้เฒ่า ตอนนี้พวกเราจะสนทนาเงื่อนไขสามข้อนี้ได้แล้วรึยัง?"
หลินเทียนฉีค่อยๆ เข้าไปตรงหน้าของหลินชิงกั๋ว และกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
"แก...."
สีหน้าของหลินชิงกั๋วขาวซีด กระอักเลือดออกมา หมดสติไปแล้ว
พวกคนตระกูลหลินรีบเข้าไปพยุง แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ หลินเทียนฉีก็ไม่คิดจะปล่อยเขาไป
เขายื่นมือออกมา หลงเยว่มอบผ้าไหมสีขาวที่เตรียมไว้ให้ในทันที
เห็นแค่ข้อมือของเขาสะบัดเบาๆ ผ้าไหมสีขาวตกลงตรงหน้าของหลินชิงกั๋วอย่างแม่นยำ
"ผู้เฒ่าอายุมากแล้ว ไม่สะดวกผูกคอตายเอง พวกแกช่วยเขาเถอะ"
หลินเทียนฉีพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย
"แกพูดอะไร แกมันคนเนร......"
หลินเทียนไห่กำลังจะลุกขึ้นมาด่าทอ ก็ถูกหลงเยว่ตบฟาดที่ใบหน้าหนึ่งที ฟันร่วงหลุดไปเกินครึ่ง
"กล้าดูหมิ่นคุณผู้ชาย ฝ่ามือนี้เป็นการตักเตือน"
คนในตระกูลหลินคนอื่นตกใจกลัว เดิมทีพวกเขาก็คิดที่จะสู้กับหลินเทียนฉี แต่เมื่อคิดถึงฝีมือที่น่าหวาดกลัวของหลงเยว่ พวกเขากลับไปยืนอย่างเชื่อฟังอีกครั้ง
"ฉันเคยพูดแล้ว ทำเงื่อนไขข้อแรกไม่สำเร็จ เทียนหังกรุ๊ปเจ๊ง"
"ทำเงื่อนไขข้อที่สองไม่สำเร็จ ตระกูลหลินล้มละลาย"
"ทำเงื่อนไขข้อที่สามไม่สำเร็จ ทุกคนในตระกูลหลิน ทั้งหมดจะถูกฝังทั้งเป็นไปพร้อมกับพ่อแม่ฉัน"
"พวกแกคิดว่า ฉันกำลังพูดเล่นใช่มั้ย"
"ตอนนี้จะให้พวกแกเลือกอย่างหนึ่ง ไม่งั้นให้มันตาย หรือไม่ก็พวกแกตาย"
หลังจากพูดคำพูดนี้เสร็จ หลินเทียนฉีปิดตาทั้งสองข้าง ไม่พูดสักคำ
ออร่าความหนาวเย็นแผ่ออกจากบนตัวเขา เหมือนก้อนน้ำแข็งที่ทำให้คนหนาวสั่น ไม่มีคนกล้าเข้าใกล้
กลุ่มตระกูลหลิวนั้นกลัวจนพูดไม่ออกไปตั้งแต่แรกแล้ว ยืนอยู่ในซอกลับตาคนอย่างทำอะไรไม่ถูก
พวกเขาไม่เข้าใจเลยสักนิด งานเลี้ยงวันเกิดที่สนุกสนาน กลายเป็นอย่างนี้ได้ยังไงกัน?
หลินเทียนไห่หยิบผ้าไหมสีขาวไว้ในมือ สีหน้ายุ่งเหยิงไปหมด
"ดูเหมือนว่า พวกแกยังไม่เข้าใจสถานการณ์ของตัวเอง"
หลินเทียนฉีแสยะยิ้ม
เวลาต่อมา ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินลงมาด้านล่างอย่างเป็นระเบียบ
กลุ่มพลังอันน่าหวาดกลัว อารักขามุ่งเข้ามาห้องจัดเลี้ยงด้วยท่าทีเคารพอย่างสูงปากกระบอกปืนที่เย็นเฉียบเล็งไปที่คนในตระกูลหลินทุกคน
แก๊กแก๊ก....
เสียงโหลดกระสุนปืนดังขึ้นพร้อมเพรียง
สีหน้าของคนในตระกูลหลินทุกคนซีดขาว พวกขี้ขลาดที่ถึงขนาดกลั้นไม่อยู่ ทันใดนั้นทั้งห้องจัดเลี้ยงคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหม็นคาว
"ลุงสี่ ปู่มีชีวิตมานานพอแล้ว พวกเรายังอายุน้อยนะ"
ในที่สุด มีเด็กรุ่นหลังของตระกูลหลินคนหนึ่งทนไม่ไหว ร้องไห้ตะโกนเสียงดังอย่างขมขื่น
ดวงตาทั้งสองข้างของหลินเจี้ยนไห่เบิกตาโพลง เสียงยิ่งดังขึ้นอีก
"ใช่ลุงสี่ เด็กอย่างพวกเราพึ่งจะเกิด พวกเราตายไม่ได้หรอก"
"และแท้ที่จริงในเวลานั้นเฒ่าแก่ผู้นี้ก็ถูกครอบงำจนจิตใจมืดบอด ก่อให้เกิดหายนะ ทำไมต้องให้พวกเราตายไปพร้อมเขาด้วย?!"
"สองสามวันนี้มาผมอยากไปเซ่นไหว้ลุงรองและภรรยา ไม่ใช่พวกคุณบอกว่าไม่ต้องสนหลินเทียนฉี ทั้งหมดเป็นความผิดของพวกคุณ พวกคุณสมควรตาย พวกเราไม่อยากตายนะ"
ทันใดนั้น คนในตระกูลหลินเปิดฉากปะทะกันภายในครอบครัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เสียงการประณามและการด่ากระทบทุกประเภทดังขึ้น บางคนมีโทสะใจร้อนถึงขนาดลงไม้ลงมือกันตรงนั้นเลย ทุบตีกันเลือดออกเต็มหน้า
"จบแล้ว ตระกูลหลินจบเห่แล้ว....."
หลินเจี้ยนไห่ร้องไห้อย่างโศกเศร้า เขารู้ว่าตระกูลหลินไม่รอดแล้ว
หลังจากผ่านเรื่องนี้ไป แม้ว่าพวกเขาโชคดีอยู่รอดต่อไป ตระกูลหลินจะไม่สามัคคีเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป แต่ว่ากระจัดกระจายกันไปเท่านั้น
เวลานี้ เขาติดอยู่ในใจเฒ่าแก่ขมวดคิ้ว ค่อยๆ ลืมตา
หลินชิงกั๋วจ้องมองหลินเทียนฉี ด้วยสายตาที่สลับซับซ้อน
หลังจากนั้นครู่ใหญ่ เขาพูดว่า "หลินเทียนฉี ฉันต้องการใช้ความลับอย่างหนึ่งทำการแลกเปลี่ยนกับแก ขอร้องแค่แกปล่อยตระกูลหลินไป ส่วนฉัน จะไปแขวนคอที่หอบรรพบุรุษทันทีหลังจากที่เรื่องราวสิ้นสุดลงแล้ว"
"พูดมาให้ฟังสิ"
หลินเทียนฉีพูดอย่างเมินเฉย
ขอเพียงแค่หลินชิงกั๋วคนต้นคิดผู้นี้ได้รับผลกรรม ความเคียดแค้นในใจของเขาปลดปล่อยไปเกินครึ่งแล้ว
ส่วนคนเหล่านี้ที่เหลืออยู่ ไม่มีการคุ้มครองจากตระกูลหลินแล้ว พวกมันไม่มีค่าอะไรเลย พวกมันมีชีวิตอยู่ดีกินดีจนเคยชิน เป็นการทำโทษที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
"ฉันรู้ร่องรอยของน้องสาวแก"
หลินชิงกั๋วจ้องเขม็งหลินเทียนฉี ต้องการที่จะจับสังเกตการเปลี่ยนแปลงท่าทีของมัน
เป็นตามที่คาดไว้ เมื่อได้ยิน "น้องสาว" สองคำนนี้ ท่าทีของหลินเทียนฉีก็เปลี่ยนไปในทันที
"น้องสางของฉันอยู่ที่ไหน?"
"จริงๆ แล้ว…."
หลินชิงกั๋วยิ้มอย่างขมขื่น
"แม่บุญธรรมของแกเซียวเฉียนยวู เป็นคนของตระกูลเซียวตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองเจียง เพียงแต่เวลานั้นเธอถูกใจพ่อบุญธรรมของแก ตัดสินใจแน่วแน่ว่าต้องการอยู่กับเขา ทำให้ตระกูลเซียวโกรธ ตระกูลเซียวจึงตัดความสัมพันธ์กับเธออย่างเด็ดขาด"
"ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ตระกูลเซียวก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กับเธอจริงๆ จนกระทั่งหลังจากเธอตายไป ตระกูลเซียงถึงได้ส่งคนตามหาศพของเธอ ถือโอกาสพาน้องสาวของแกไปด้วย เพราะว่าในตัวของเธอมีสายเลือดของตระกูลเซียวอยู่ครึ่งหนึ่ง"
"คาดไม่ถึงว่าเป็นอย่างนี้"
หลินเทียนฉีรู้สึกประหลาดใจ
ไม่แปลกเลยที่เขาอยากรู้มาตลอด ทำไมมองดูพ่อที่รูปร่างสูงใหญ่ดูแข็งแรงบึกบึน สามารถแต่งกับแม่ของเขา ผู้หญิงภายในใจที่แพร่ความฉลาดหลักแหลมและสง่างามได้
แม่ของเธอ แม้ว่าจะต้องทำการเกษตรก็ตาม ง่วนทำงานบ้าน ไม่เคยเผยนิสัยมักง่ายออกมาเลย ยังคงเหมือนกุลสตรีที่มาจากตระกูลใหญ่มีฐานะ
"ตระกูลเซียวใช่มั้ย........."
"หลงเยว่ เตรียมรถ ฉันจะไปบ้านตระกูลเซียว!"
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved