บทที่ 15 แขกคนสำคัญของตระกูลหลิน
by สันเป่าเอ๋อ
10:46,Nov 22,2021
"รีบเรียกคนมาช่วยเร็ว เร็วเข้า!"
ใบหน้าของหลินเจี้ยนซานบิดเบี้ยวและได้แต่คำรามอย่างคลุ้มคลั่ง
หลินเทียนเจี้ยนหวาดกลัวมาก ขณะที่ร้องตะโกนบอกให้คนเรียกหมอมา เขาก็วิ่งขึ้นไปชั้นบนเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโส
ขณะเดียวกันภายในลิฟต์ หลิ่วเชียนยี่มองหลินเทียนฉีด้วยใบหน้าแดงระเรื่อและกล่าวว่า "เทียนฉี งานปาร์ตี้ครั้งก่อนฉันเข้าใจนายผิดไป ฉันขอโทษนายจริงๆ "
"ไม่เป็นไร"
หลินเทียนฉีโบกมือเบาๆ เขาไม่ได้เก็บเรื่องเล็กน้อยนี้มาใส่ใจเลย
ทั้งสองมาถึงชั้นหกแล้วและหลิ่วเชียนยี่ก็กล่าวขึ้นว่า "เทียนฉี เพื่อนของนายคนเมื่อกี้ไม่ขึ้นมาด้วยหรอ แล้วเขาจะมีปัญหาอะไรกับตระกูลหลินรึเปล่า?"
"นายไม่ได้กลับมาที่นี่นานคงไม่รู้ว่าตอนนี้ตระกูลหลินยิ่งใหญ่มากในเมืองเจียง ไม่มีใครเอาชนะพวกเขาได้หรอก หรือจะให้ฉันบอกให้คุณปู่ช่วยมาเคลียร์ปัญหาให้ดีมั้ย?"
"ไม่จำเป็น"
หลินเทียนฉียังคงนิ่งสงบดังเดิม หลิ่วเชียนยี่จึงอดไม่ได้ที่จะทำปากจู๋
ขณะที่เธอกำลังจะชวนหลินเทียนฉีคุยต่อ เขาก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่งและเดินตามไปอย่างรวดเร็ว
หลิ่วเชียนยี่กระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิดและรีบเดินตามไป
"ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้ทำอะไร วันนี้เป็นวันเกิดของน้องสาวฉัน แต่คุณหาของขวัญที่ฉันให้คุณเตรียมไว้ล่วงหน้าไม่ได้ แต่กลับซื้อขยะอะไรมาก็ไม่รู้!"
ที่มุมของห้องจัดเลี้ยง ผู้หญิงที่แต่งตัวตามแฟชั่นกำลังตะโกนใส่ผู้ชายคนหนึ่งด้วยท่าทางรังเกียจอย่างสุดจะพรรณนา แถมยังกระแทกกล่องของขวัญที่ชายคนนั้นยื่นให้ใส่พื้นอย่างแรง ทำให้กำไลหยกที่อยู่ในกล่องแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
สัมผัสของความปวดใจปรากฏบนใบหน้าของชายผู้นั้น แต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไร ทำแค่เพียงก้มศีรษะและปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นดุด่าต่อว่าเขา
ผู้หญิงคนนี้คือหลิ่วเชียนเชียนที่เขาเพิ่งเจอบนภูเขาหลงเถิง ส่วนผู้ชายก็คือน้องชายของหมาป่าจู่โจม
"ที่รัก ความจริงแล้วฉันตั้งใจเตรียมสิ่งนี้มาอย่างดี ฉันใช้เงินค่าขนมกว่าครึ่งปีเพื่อซื้อกำไลหยกนี่ ฉัน...ฉันไม่มีเงินแล้ว"
ชายคนนั้นตอบอ้ำๆ อึ้งๆ
"ไอ้คนไร้ค่า ฉันรู้ว่าคุณเป็นชนชั้นต่ำที่พึ่งพาไม่ได้ ไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมตอนนั้นปู่ของฉันถึงหน้ามืดตามัวอยากจะได้คุณเข้าตระกูลของเรา แถมยังให้ฉันแต่งงานกับคุณจนฉันต้องทนกับความซวยนี้ไปตลอดชีวิต!"
หลิ่วเชียนเชียนโบกมือตบหน้าชายผู้นั้นเต็มแรง
ชายคนนั้นกุมหน้าของเขาไว้และไม่กล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว
แต่ยิ่งเห็นภาพนั้นหลิ่วเชียนเชียนก็ยิ่งโกรธมากขึ้น ทันทีที่เธอยกมือขึ้นเพื่อจะตบชายคนนั้นอีกครั้ง จู่ๆ ก็มีมือหนึ่งยื่นออกมาขวางเธอไว้ก่อน
"พวกไพร่ชั้นต่ำคนไหนกล้ามายุ่งเรื่องของฉัน!"
หลิ่วเชียนเชียนโกรธจัดและกำลังจะสั่งสอนคนที่ทำให้เธอเสียเรื่อง แต่เมื่อหันกลับมา เธอก็พบกับใบหน้าเย็นชาของหลินเทียนฉี
"คุณ...คุณเองเหรอ!"
ดวงตาของหลิ่วเชียนเชียนเบิกโพลงราวกับเห็นผีและความกลัวก็ค่อยๆ คืบคลานสู่จิตใจของเธอ
เธอคิดว่าหลินเทียนฉีมาหาเธอเพื่อชำระบัญชี เพราะเรื่องที่เธอดูถูกเขาเมื่อวานนั้น ไม่ว่าเป็นใครก็ต้องโกรธ
แต่หลินเทียนฉีนั้นไม่ได้สนใจเรื่องของเมื่อวานเลย เขาถามเพียงว่า "เธอตบเขาทำไม?"
ขุนศึกทั้งสิบแห่งเทียนกงเป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายของเขา น้องชายของหมาป่าจู่โจมก็ถือว่าเป็นน้องชายของเขาด้วยเช่นกัน เขาจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมารังแกญาติมิตรของเขาต่อหน้าเขา
"ฉัน ฉัน…"
หลิ่วเชียนเชียนกลัวจนหน้าซีดเผือดและไม่สามารถเอ่ยคำพูดออกมาได้
เธอกลัวที่จะหาเรื่องคนใหญ่คนโตแบบหลินเทียนฉี แล้วเธอก็กังวลว่าหลินเทียนฉีจะพูดเรื่องที่คบชู้ด้วย
หากเป็นแบบนั้นปู่ของเธอคงไม่ปล่อยเธอไปแน่ เพราะกฎของตระกูลหลิ่วนั้นเข้มงวดมากทีเดียว
"สหาย เธอไม่ได้ตบฉัน เธอแค่สัมผัสเบาๆ เท่านั้นเอง"
ชายผู้นั้นรีบเข้ามาแก้ตัวให้ภรรยาของเขา
หลินเทียนฉีจ้องมาที่เขา "คุณชื่ออะไร?"
ชายคนนั้นยิ้มอย่างประดักประเดิดและกล่าวว่า "ฉันชื่อซุนหู"
"ซุนหลางเป็นพี่ชายของคุณใช่มั้ย?" หลินเทียนฉีถามอีกครั้ง
ซุนหูพูดอย่างไม่แน่ใจ "ฉันมีพี่ชายชื่อซุนหลาง แต่เขาเสียชีวิตไปแล้วเมื่อแปดปีก่อนในการต่อสู้ คุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง..."
ก่อนที่เขาจะพูดจบ หลินเทียนฉีก็กล่าวว่า "ฉันจะบอกคุณว่าซุนหลางยังไม่ตาย แต่เขาทำงานอยู่ภายใต้อำนาจของฉัน คุณอยากจะทำงานให้ฉันร่วมกับพี่ชายของคุณไหม?"
"คุณว่ายังไงนะ?"
ราวกับว่าซุนหูได้ยินเรื่องล้อเล่นครั้งใหญ่และได้แต่งุนงงอยู่ตรงนั้น
หลินเทียนฉีไม่ได้พูดต่อ เขารู้ว่าซุนหูต้องใช้เวลาทำความเข้าใจเรื่องนี้และเขาไม่จำเป็นต้องเชื่อใจตน แต่เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว เขาจะรับไว้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับซุนหูเอง
สองพี่น้องหลิ่วเชียนยี่และหลิ่วเชียนเชียนที่อยู่ด้านข้างต่างตกใจกับคำบอกเล่าอันกะทันหันของหลินเทียนฉี
ขณะที่พวกเธอกำลังจะเอ่ยปากถาม คนกลุ่มหนึ่งก็กรูเข้ามาที่ประตูห้องจัดเลี้ยง
เมื่อแขกเหรื่อในห้องจัดเลี้ยงมองดูภาพตรงหน้า สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปในทันใด
"นั่นคือคนตระกูลหลินที่อยู่ชั้นบนไม่ใช่เหรอ ทำไมพวกเขาถึงลงมาที่นี่?"
"ไม่รู้สิ อาจจะมาร่วมฉลองวันเกิดให้คุณหนูสองตระกูลหลิ่วรึเปล่า? แต่มากันเยอะไปไหมเนี่ย ผู้เฒ่าผู้ใหญ่ของตระกูลหลินก็มาที่นี่กันหมดเลย!"
แขกหลายคนเริ่มกระซิบด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
คนตระกูลหลิ่วเองก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่หลิ่วฉงซาน ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหลิ่วก็รีบเข้าไปทักทายพวกนั้นทันที
"ท่านจากตระกูลหลินทั้งหลาย ไม่ทราบว่ามาทำอะไรกันหรือ?"
แม้ว่าอำนาจของตระกูลหลิ่วจะไม่แข็งแกร่งเท่าตระกูลหลิน แต่พวกเขามีรากฐานมาจากอุตสาหกรรมการขนส่งมาหลายปี ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องคำนับตระกูลหลิน
"ฮึ่ม ตาเฒ่าหลิ่ว บอกให้หลานสาวของคุณส่งตัวคนสกุลหลินมาเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะจัดการตระกูลหลิ่วของคุณด้วย แล้วอย่ามาโทษตระกูลหลินของเราแล้วกัน"
ในกลุ่มคนตระกูลหลิน สุนัขจิ้งจอกที่แอบอ้างบารมีเสือคนหนึ่งตะโกนใส่หลิ่วฉงซาน
ทุกคนในตระกูลหลิ่วต่างโกรธเกรี้ยวและกำลังจะโต้ตอบ แต่หลิ่วฉงซานก็หยุดพวกเขาไว้
"คุณหมายถึงอะไร?"
หลิ่วฉงซานหรี่ตา "ตระกูลหลินของพวกคุณไม่อยู่ต้อนรับแขกในงานเลี้ยงของพวกคุณที่ชั้นบน แต่กลับแห่กันมาที่งานเลี้ยงของตระกูลหลิ่วของฉันเพื่อตามหาคนสกุลหลิน น่าสนใจจริงๆ พูดออกมานี่ไม่กลัวตระกูลหลินขายหน้าบ้างหรือ!"
"นอกจากนี้ พวกคุณคิดว่าตระกูลหลิ่วของฉันอ่อนแอจนตระกูลหลินของพวกคุณจะบีบเค้นอย่างไรก็ได้งั้นหรือ?"
"งั้นก็มาสู้กันให้ตายไปข้าง คนอื่นอาจจะกลัวตระกูลหลินของพวกคุณ แต่ตระกูลหลิ่วของเราไม่กลัว!"
"ได้!"
คำพูดที่แน่วแน่ ไม่ยอมแพ้ทำให้แขกจำนวนมากปรบมือและส่งเสียงเชียร์
แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียงที่สุขุมเสียงหนึ่งดังมาจากข้างนอก "คำพูดของผู้เฒ่าหลิ่วช่างฮึกเหิมซะจริง แต่ถ้าฉันออกโรงด้วยตัวเอง ผู้เฒ่าหลิ่วจะยอมทำตามง่ายๆ หรือไม่?"
ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น ทั่วทั้งสถานที่นี้ก็ตกอยู่ในความเงียบงัน
แม้แต่การแสดงออกของหลิ่วฉงซานเองก็เคร่งขรึมขึ้นมาก เขาจ้องมองไปที่ทางเข้าของงานเลี้ยง
ในวินาทีถัดมา ชายวัยกลางคนที่สวมเครื่องแบบทหารเดินเข้ามาพร้อมทหารองครักษ์และหลินชิ่งกั๋วด้วยท่วงท่ายิ่งใหญ่และสง่างาม
"นี่คือ...นี่คือพันตรีเฉา!"
แขกคนหนึ่งจำคนนั้นได้และอุทานออกมาเสียงดัง
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไป
ไม่มีใครคิดว่าแขกผู้มีเกียรติคนนั้นของตระกูลหลินจะเป็นพันตรีเฉาและยังเป็นนายทหารระดับพันตรีที่มีอำนาจในการรักษาชายแดนตลอดเวลา!
แม้แต่นายพลในพื้นที่สงบก็ไม่กล้ายั่วโมโหคนประเภทนี้
เพียงเพราะผลงานของพวกเขา พวกเขาทำงานหนักในแนวหน้าและยอมเสี่ยงเลือดเนื้อ เทียบไม่ได้กับพวกฝ่ายธุรการที่ทำงานอยู่แนวหลัง
"ผู้เฒ่าหลิ่ว คุณยินยอมหรือเปล่า?"
เฉาฉวินเดินไปตรงหน้าหลิ่วฉงซานและพูดด้วยรอยยิ้ม
ใบหน้าของหลิ่วฉงซานซีดขาว เขาเปิดปากของเขาแต่พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการที่จะถูกตระกูลหลินเหยียบย่ำ แต่เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่งคนยศพันตรีเช่นนี้!
ในตอนที่เขากำลังหมดหนทางและอยากจะยอมแพ้
เสียงอันสุขุมนุ่มลึกก็ดังขึ้น "ไม่จำเป็นต้องให้คุณท่านอาวุโสหลิ่วยอมถอยหรอก ฉันอยู่ที่นี่แล้ว"
ใบหน้าของหลินเจี้ยนซานบิดเบี้ยวและได้แต่คำรามอย่างคลุ้มคลั่ง
หลินเทียนเจี้ยนหวาดกลัวมาก ขณะที่ร้องตะโกนบอกให้คนเรียกหมอมา เขาก็วิ่งขึ้นไปชั้นบนเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโส
ขณะเดียวกันภายในลิฟต์ หลิ่วเชียนยี่มองหลินเทียนฉีด้วยใบหน้าแดงระเรื่อและกล่าวว่า "เทียนฉี งานปาร์ตี้ครั้งก่อนฉันเข้าใจนายผิดไป ฉันขอโทษนายจริงๆ "
"ไม่เป็นไร"
หลินเทียนฉีโบกมือเบาๆ เขาไม่ได้เก็บเรื่องเล็กน้อยนี้มาใส่ใจเลย
ทั้งสองมาถึงชั้นหกแล้วและหลิ่วเชียนยี่ก็กล่าวขึ้นว่า "เทียนฉี เพื่อนของนายคนเมื่อกี้ไม่ขึ้นมาด้วยหรอ แล้วเขาจะมีปัญหาอะไรกับตระกูลหลินรึเปล่า?"
"นายไม่ได้กลับมาที่นี่นานคงไม่รู้ว่าตอนนี้ตระกูลหลินยิ่งใหญ่มากในเมืองเจียง ไม่มีใครเอาชนะพวกเขาได้หรอก หรือจะให้ฉันบอกให้คุณปู่ช่วยมาเคลียร์ปัญหาให้ดีมั้ย?"
"ไม่จำเป็น"
หลินเทียนฉียังคงนิ่งสงบดังเดิม หลิ่วเชียนยี่จึงอดไม่ได้ที่จะทำปากจู๋
ขณะที่เธอกำลังจะชวนหลินเทียนฉีคุยต่อ เขาก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่งและเดินตามไปอย่างรวดเร็ว
หลิ่วเชียนยี่กระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิดและรีบเดินตามไป
"ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้ทำอะไร วันนี้เป็นวันเกิดของน้องสาวฉัน แต่คุณหาของขวัญที่ฉันให้คุณเตรียมไว้ล่วงหน้าไม่ได้ แต่กลับซื้อขยะอะไรมาก็ไม่รู้!"
ที่มุมของห้องจัดเลี้ยง ผู้หญิงที่แต่งตัวตามแฟชั่นกำลังตะโกนใส่ผู้ชายคนหนึ่งด้วยท่าทางรังเกียจอย่างสุดจะพรรณนา แถมยังกระแทกกล่องของขวัญที่ชายคนนั้นยื่นให้ใส่พื้นอย่างแรง ทำให้กำไลหยกที่อยู่ในกล่องแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
สัมผัสของความปวดใจปรากฏบนใบหน้าของชายผู้นั้น แต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไร ทำแค่เพียงก้มศีรษะและปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นดุด่าต่อว่าเขา
ผู้หญิงคนนี้คือหลิ่วเชียนเชียนที่เขาเพิ่งเจอบนภูเขาหลงเถิง ส่วนผู้ชายก็คือน้องชายของหมาป่าจู่โจม
"ที่รัก ความจริงแล้วฉันตั้งใจเตรียมสิ่งนี้มาอย่างดี ฉันใช้เงินค่าขนมกว่าครึ่งปีเพื่อซื้อกำไลหยกนี่ ฉัน...ฉันไม่มีเงินแล้ว"
ชายคนนั้นตอบอ้ำๆ อึ้งๆ
"ไอ้คนไร้ค่า ฉันรู้ว่าคุณเป็นชนชั้นต่ำที่พึ่งพาไม่ได้ ไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมตอนนั้นปู่ของฉันถึงหน้ามืดตามัวอยากจะได้คุณเข้าตระกูลของเรา แถมยังให้ฉันแต่งงานกับคุณจนฉันต้องทนกับความซวยนี้ไปตลอดชีวิต!"
หลิ่วเชียนเชียนโบกมือตบหน้าชายผู้นั้นเต็มแรง
ชายคนนั้นกุมหน้าของเขาไว้และไม่กล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว
แต่ยิ่งเห็นภาพนั้นหลิ่วเชียนเชียนก็ยิ่งโกรธมากขึ้น ทันทีที่เธอยกมือขึ้นเพื่อจะตบชายคนนั้นอีกครั้ง จู่ๆ ก็มีมือหนึ่งยื่นออกมาขวางเธอไว้ก่อน
"พวกไพร่ชั้นต่ำคนไหนกล้ามายุ่งเรื่องของฉัน!"
หลิ่วเชียนเชียนโกรธจัดและกำลังจะสั่งสอนคนที่ทำให้เธอเสียเรื่อง แต่เมื่อหันกลับมา เธอก็พบกับใบหน้าเย็นชาของหลินเทียนฉี
"คุณ...คุณเองเหรอ!"
ดวงตาของหลิ่วเชียนเชียนเบิกโพลงราวกับเห็นผีและความกลัวก็ค่อยๆ คืบคลานสู่จิตใจของเธอ
เธอคิดว่าหลินเทียนฉีมาหาเธอเพื่อชำระบัญชี เพราะเรื่องที่เธอดูถูกเขาเมื่อวานนั้น ไม่ว่าเป็นใครก็ต้องโกรธ
แต่หลินเทียนฉีนั้นไม่ได้สนใจเรื่องของเมื่อวานเลย เขาถามเพียงว่า "เธอตบเขาทำไม?"
ขุนศึกทั้งสิบแห่งเทียนกงเป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายของเขา น้องชายของหมาป่าจู่โจมก็ถือว่าเป็นน้องชายของเขาด้วยเช่นกัน เขาจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมารังแกญาติมิตรของเขาต่อหน้าเขา
"ฉัน ฉัน…"
หลิ่วเชียนเชียนกลัวจนหน้าซีดเผือดและไม่สามารถเอ่ยคำพูดออกมาได้
เธอกลัวที่จะหาเรื่องคนใหญ่คนโตแบบหลินเทียนฉี แล้วเธอก็กังวลว่าหลินเทียนฉีจะพูดเรื่องที่คบชู้ด้วย
หากเป็นแบบนั้นปู่ของเธอคงไม่ปล่อยเธอไปแน่ เพราะกฎของตระกูลหลิ่วนั้นเข้มงวดมากทีเดียว
"สหาย เธอไม่ได้ตบฉัน เธอแค่สัมผัสเบาๆ เท่านั้นเอง"
ชายผู้นั้นรีบเข้ามาแก้ตัวให้ภรรยาของเขา
หลินเทียนฉีจ้องมาที่เขา "คุณชื่ออะไร?"
ชายคนนั้นยิ้มอย่างประดักประเดิดและกล่าวว่า "ฉันชื่อซุนหู"
"ซุนหลางเป็นพี่ชายของคุณใช่มั้ย?" หลินเทียนฉีถามอีกครั้ง
ซุนหูพูดอย่างไม่แน่ใจ "ฉันมีพี่ชายชื่อซุนหลาง แต่เขาเสียชีวิตไปแล้วเมื่อแปดปีก่อนในการต่อสู้ คุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง..."
ก่อนที่เขาจะพูดจบ หลินเทียนฉีก็กล่าวว่า "ฉันจะบอกคุณว่าซุนหลางยังไม่ตาย แต่เขาทำงานอยู่ภายใต้อำนาจของฉัน คุณอยากจะทำงานให้ฉันร่วมกับพี่ชายของคุณไหม?"
"คุณว่ายังไงนะ?"
ราวกับว่าซุนหูได้ยินเรื่องล้อเล่นครั้งใหญ่และได้แต่งุนงงอยู่ตรงนั้น
หลินเทียนฉีไม่ได้พูดต่อ เขารู้ว่าซุนหูต้องใช้เวลาทำความเข้าใจเรื่องนี้และเขาไม่จำเป็นต้องเชื่อใจตน แต่เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว เขาจะรับไว้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับซุนหูเอง
สองพี่น้องหลิ่วเชียนยี่และหลิ่วเชียนเชียนที่อยู่ด้านข้างต่างตกใจกับคำบอกเล่าอันกะทันหันของหลินเทียนฉี
ขณะที่พวกเธอกำลังจะเอ่ยปากถาม คนกลุ่มหนึ่งก็กรูเข้ามาที่ประตูห้องจัดเลี้ยง
เมื่อแขกเหรื่อในห้องจัดเลี้ยงมองดูภาพตรงหน้า สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปในทันใด
"นั่นคือคนตระกูลหลินที่อยู่ชั้นบนไม่ใช่เหรอ ทำไมพวกเขาถึงลงมาที่นี่?"
"ไม่รู้สิ อาจจะมาร่วมฉลองวันเกิดให้คุณหนูสองตระกูลหลิ่วรึเปล่า? แต่มากันเยอะไปไหมเนี่ย ผู้เฒ่าผู้ใหญ่ของตระกูลหลินก็มาที่นี่กันหมดเลย!"
แขกหลายคนเริ่มกระซิบด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
คนตระกูลหลิ่วเองก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่หลิ่วฉงซาน ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหลิ่วก็รีบเข้าไปทักทายพวกนั้นทันที
"ท่านจากตระกูลหลินทั้งหลาย ไม่ทราบว่ามาทำอะไรกันหรือ?"
แม้ว่าอำนาจของตระกูลหลิ่วจะไม่แข็งแกร่งเท่าตระกูลหลิน แต่พวกเขามีรากฐานมาจากอุตสาหกรรมการขนส่งมาหลายปี ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องคำนับตระกูลหลิน
"ฮึ่ม ตาเฒ่าหลิ่ว บอกให้หลานสาวของคุณส่งตัวคนสกุลหลินมาเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะจัดการตระกูลหลิ่วของคุณด้วย แล้วอย่ามาโทษตระกูลหลินของเราแล้วกัน"
ในกลุ่มคนตระกูลหลิน สุนัขจิ้งจอกที่แอบอ้างบารมีเสือคนหนึ่งตะโกนใส่หลิ่วฉงซาน
ทุกคนในตระกูลหลิ่วต่างโกรธเกรี้ยวและกำลังจะโต้ตอบ แต่หลิ่วฉงซานก็หยุดพวกเขาไว้
"คุณหมายถึงอะไร?"
หลิ่วฉงซานหรี่ตา "ตระกูลหลินของพวกคุณไม่อยู่ต้อนรับแขกในงานเลี้ยงของพวกคุณที่ชั้นบน แต่กลับแห่กันมาที่งานเลี้ยงของตระกูลหลิ่วของฉันเพื่อตามหาคนสกุลหลิน น่าสนใจจริงๆ พูดออกมานี่ไม่กลัวตระกูลหลินขายหน้าบ้างหรือ!"
"นอกจากนี้ พวกคุณคิดว่าตระกูลหลิ่วของฉันอ่อนแอจนตระกูลหลินของพวกคุณจะบีบเค้นอย่างไรก็ได้งั้นหรือ?"
"งั้นก็มาสู้กันให้ตายไปข้าง คนอื่นอาจจะกลัวตระกูลหลินของพวกคุณ แต่ตระกูลหลิ่วของเราไม่กลัว!"
"ได้!"
คำพูดที่แน่วแน่ ไม่ยอมแพ้ทำให้แขกจำนวนมากปรบมือและส่งเสียงเชียร์
แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียงที่สุขุมเสียงหนึ่งดังมาจากข้างนอก "คำพูดของผู้เฒ่าหลิ่วช่างฮึกเหิมซะจริง แต่ถ้าฉันออกโรงด้วยตัวเอง ผู้เฒ่าหลิ่วจะยอมทำตามง่ายๆ หรือไม่?"
ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น ทั่วทั้งสถานที่นี้ก็ตกอยู่ในความเงียบงัน
แม้แต่การแสดงออกของหลิ่วฉงซานเองก็เคร่งขรึมขึ้นมาก เขาจ้องมองไปที่ทางเข้าของงานเลี้ยง
ในวินาทีถัดมา ชายวัยกลางคนที่สวมเครื่องแบบทหารเดินเข้ามาพร้อมทหารองครักษ์และหลินชิ่งกั๋วด้วยท่วงท่ายิ่งใหญ่และสง่างาม
"นี่คือ...นี่คือพันตรีเฉา!"
แขกคนหนึ่งจำคนนั้นได้และอุทานออกมาเสียงดัง
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไป
ไม่มีใครคิดว่าแขกผู้มีเกียรติคนนั้นของตระกูลหลินจะเป็นพันตรีเฉาและยังเป็นนายทหารระดับพันตรีที่มีอำนาจในการรักษาชายแดนตลอดเวลา!
แม้แต่นายพลในพื้นที่สงบก็ไม่กล้ายั่วโมโหคนประเภทนี้
เพียงเพราะผลงานของพวกเขา พวกเขาทำงานหนักในแนวหน้าและยอมเสี่ยงเลือดเนื้อ เทียบไม่ได้กับพวกฝ่ายธุรการที่ทำงานอยู่แนวหลัง
"ผู้เฒ่าหลิ่ว คุณยินยอมหรือเปล่า?"
เฉาฉวินเดินไปตรงหน้าหลิ่วฉงซานและพูดด้วยรอยยิ้ม
ใบหน้าของหลิ่วฉงซานซีดขาว เขาเปิดปากของเขาแต่พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการที่จะถูกตระกูลหลินเหยียบย่ำ แต่เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่งคนยศพันตรีเช่นนี้!
ในตอนที่เขากำลังหมดหนทางและอยากจะยอมแพ้
เสียงอันสุขุมนุ่มลึกก็ดังขึ้น "ไม่จำเป็นต้องให้คุณท่านอาวุโสหลิ่วยอมถอยหรอก ฉันอยู่ที่นี่แล้ว"
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved