บทที่ 1 งานแต่งที่นองเลือด
by ลาวจินเหมา
11:50,Dec 14,2020
เมืองเหอตง โรงแรมตี้หาว
รถหรูจอดอยู่เต็มประตูทางเข้า วันนี้เป็นวันแต่งงานของลูกสาวเย่ไท่มหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งของเมือง โดยมีการเช่าทั้งโรงแรม
หลัวชุนที่อยู่ในชุดเจ้าบ่าว ได้เดินไปชนแก้วกับแขกอยู่บ่อยๆ
วันนี้เป็นวันมงคลของเขา แต่เขากลับไม่มีความสุข
เย่ปิงหรงอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบางเบาแบบกระโปรงที่เข้ารูปพอดี ดูวสวยสดใส ในใจหลัวชุนยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ เธอสวยขึ้นกว่าหกปีก่อนมาก เพียงแต่เธอไม่ได้เต็มใจแต่งงานกับเขา เพราะเธอยังชอบคนอื่น.
เย่ปิงหรงและเขาเป็นเหมือนความรักในวัยเด็ก แต่หลังจากที่เขาได้เข้ากองทัพไปตั้งแต่อายุสิบหก ทั้งสองก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย เมื่อกลับมาในครั้งนี้เขาพบว่าน้องปิงหรงคนนั้นเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ถ้าไม่ใช่เพราะพินัยกรรมแม่ของเขาที่บอกว่าเขาต้องแต่งงานกับเย่ปิงหรง วันนี้เขาก็คงไม่มาแต่งงาน คนที่ทำให้คนทั้งตะวันออกกลางกลัวเมื่อได้ยินชื่อ “มือปืนผี” อย่างเขา ทำไมถึงต้องมาได้รับความอยุติธรรมแบบนี้ด้วย
แม้แต่แขกบางคนก็ยังแอบกระซิบกันว่า ไม่คิดว่าสาวสวยอย่างเธอจะได้แต่งงานกับนายทหารธรรมดาคนนี้
"นายเข้าไปในกองทัพตั้งแต่อายุสิบกว่าปี ไม่ได้มีธรรมเนียมอะไร ต่อไปก็เรียนรู้จากเย่ปิงหรงให้มากๆ เพื่อจะได้เจริญก้าวหน้า อย่ามัวแต่เกียจคร้านและไม่ทำอะไรเลย ตระกูลเย่ของเราไม่ได้เลี้ยงดูคนที่ไร้ประโยชน์"
เย่ปิงหรงสีหน้าเยือกเย็น เป็นสีหน้าของความไม่เต็มใจ และคำพูดของแม่ยายในตอนนี้ดูเหมือนจะยังก้องอยู่ในหูของหลัวชุน
หลัวชุนรู้สึกผิดหวังมาก เขาไม่ใช่คนที่สร้างปัญา หากทั้งสองฝ่ายไม่เต็มใจ การแต่งงานครั้งนี้ยังจะมีความหมายอะไร
เขากลับมาแต่งงาน เพียงเพื่อทำตามความปรารถนาสุดท้ายของแม่ แต่ไม่ได้มาเลียแข่งเลียขา
"ปิงหรง มีความสุขหน่อย ยังมีพวกเราอยู่นะ"
แขกจำนวนไม่น้อยเป็นเพื่อนของเย่ปิงหรง พวกเขาไม่ใส่ใจหลัวชุน บางคนก็มองเขาอย่างชิงชัง แสดงถึงการดูถูกดูแคลน
หลัวชุนถูกแม่ยายและแขกในงานทำให้อับอายอย่างตามอำเภอใจ วันนี้เขาเป็นเจ้าบ่าว แต่เขากลายเป็นเป้าหมายของการเยาะเย้ย
"กัปตัน ผมและเสี่ยวหลินขอดื่มให้คุณ"
คู่สามีภรรยาโต๊ะข้างๆคู่หนึ่งยืนขึ้น ชายหนุ่มมีรูปร่างกำยำ หญิงสาวตัวเล็กและน่ารัก ทั้งสองยกแก้วไวน์พร้อมกันเพื่อส่งสัญญาณให้หลัวชุน
ในที่สุดใบหน้าของหลัวชุนก็เผยรอยยิ้ม เขาหยิบขวดไวน์ขึ้นมาและพูดว่า "ผิงจือ คำพูดทั้งหมดจะอยู่ในไวน์ ดื่ม!"
ทั้งสองเป็นสหายที่ผ่านสมรภูมิรบมาด้วยกัน ในงานนี้หลัวชุนเชิญแค่เขาที่เป็นเพื่อนมาเท่านั้น พวกเขาดื่มไวน์ขาวไปหนึ่งขวด เหมือนกับที่ทั้งสองคนทำตอนอยู่ในกองทัพ
โต๊ะอื่นๆล้วนเป็นคนหนุ่มคนสาว พวกเขาสวมใส่ชุดแบรนด์เนมชื่อดัง แต่งตัวดูดี ดูเหมือนว่าพวกเขาล้วนเป็นทายาทของครอบครัวเศรษฐีที่ร่ำรวย
หลัวชุนไม่ชอบผูกมิตรกับคนเหล่านี้ เขาจึงเตรียมที่จะดื่มไวน์กันเล็กน้อยแล้วกล่าวลา แต่ไม่คิดว่าชายหนุ่มที่นั่งตรงกลางจะตบโต๊ะแล้วพูดว่า "นี่มันอะไรกัน เมื่อกี้นายดื่มไวน์กับคนอื่นเป็นขวดๆ ตอนนี้มาดื่มกับเราแค่แก้เดียว ทำไม นายดูถูกพวกเราใช่ไหม"
"มา เอาขวดนี้ไปดื่ม” คนคนหนึ่งผลักไวน์ขาวทั้งขวดให้ไปอยู่ตรงหน้าหลัวชุน หัวเราะพลางมองหลัวชุน ราวกับกำลังมองละครลิง
หลัวชุนยิ้มและหยิบขวดขึ้นมาพร้อมพูดว่า "ได้ครับ ใครจะมาดื่มกับผม"
คนคนหนึ่งพูดอย่างดูถูก “ดูเหมือนว่าคุณจะไม่เข้าใจ คุณชายหานหมายถึงว่าเขาขอให้คุณดื่มไวน์ทั้งขวดด้วยตัวเองอีกครั้งให้พวกเราดู วันมงคลแบบนี้ แม้แต่การที่จะแสดงความรื่นเริงในงานก็ไม่เข้าใจเหรอ "
ชายหนุ่มที่นั่งไขว้ขาอย่างสงบและไม่พูดอะไรอยู่ตรงกลางก่อนหน้านี้ น่าจะเป็นชายหนุ่มที่พวกเขาเรียกว่าคุณชายหาน
หลัวชุนมองเขาสักพักหนึ่งแล้วพูดว่า "คุณคือคุณชายหานใช่ไหม อย่ามัวมาร่ำไรกันอยู่เลย ถ้าคุณกล้ามาดวลกับผมสักขวด"
ทันใดนั้นหานเคอสีหน้าเปลี่ยนไป เขายกแก้วไวน์ขึ้นมาและสาดใส่หน้าหลัวชุน พร้อมกับพูดอย่างดูถูกว่า " นายเป็นใคร ที่จะมาดื่มกับฉัน ปิงหรงน่าจะตาบอดจริงๆ ทำไมถึงได้แต่งงานกับคนบ้านนอกอย่างนาย"
คนอื่น ๆในโต๊ะต่างก็มองหลัวชุนอย่างขำขัน เห็นได้ชัดว่าแผนการนี้มีการไตร่ตรองไว้นานแล้ว ผู้คนที่อยู่ใกล้ ๆถูกดึงดูดด้วยเสียงให้เข้ามา เมื่อเห็นท่าทางลำบากใจของเจ้าบ่าว พวกเขาก็แอบหัวเราะ
แต่ปิงหรงยังคงเฉยเมย ราวกับว่ามันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอเลย
เห็นได้ชัดว่าทั้งเธอและแม่ของเธอไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่ปล่อยหลัวชุนต้องอับอายต่อหน้าให้คนจำนวนมาก คิดว่าพวกเขาน่าจะคาดหวังว่าถ้าหลัวชุนทนต่อความอัปยศอดสูนี้ไม่ได้ก็จะขอหย่าเอง
หลัวชุนมองไปที่หานเคอและพูดนิ่งๆ ว่า "ถ้าคุณขอโทษผม ผมจะไม่ถือสาคุณ"
หานเคอหัวเราะเยาะ"พวกคุณได้ยินไหม ไอ้โง่คนนี้ดื่มจนเมาไปแล้วรึเปล่า เขาจะให้ฉันขอโทษเขาเหรอ"
ทุกคนในโต๊ะหัวเราะ และมองหลัวชุนเป็นเหมือนคนโง่
หานเคอพูดดูถูกอีกครั้ง " นายไม่ดูตัวเองเลยใช่ไหมว่าตัวเองเป็นใคร หรือถือตนว่าตัวเองเป็นลูกเขยของตระกูลเย่จริงๆ นายมันก็แค่เป็นสุนัขของตระกูลเย่ เข้าใจไหม ไอ้ขยะ "
หลัวชุนมองกลับไปที่เย่ปิงหรงและพูดว่า "นี่เพื่อนของคุณเหรอ"
เย่ปิงหรงพูดอย่างเหลืออด "ไปกันเถอะ อย่ามาสร้างความอับอายตรงนี้เลย"
สร้างความอับอายเหรอ
หัวใจของหลัวชุนถูกต่อยอย่างรุนแรง ในตอนนี้เขาหมดความอดทนกับเย่ปิงหรงแล้ว เขายิ้มและทันใดนั้นเขาก็หยิบขวดไวน์ขึ้นมาจากโต๊ะและตีทุบหัวหานเคอ
เสียงขวดแตกดังสนั่น ศรีษะของหานเคอเต็มไปด้วยเลือด มันสร้างความอับอายจนถึงขีดสุด
คนที่นั่งอยู่ร่วมโต๊ะกับหานเคอ ตบโต๊ะและยืนขึ้นพร้อมกับตะโกนว่า "เห้ย มึงอยากตายเหรอ"
"คนที่มาทำร้ายคุณชายหานแล้วคิดว่าจะมีชีวิตหรอดเหรอ ฆ่ามัน!!!!"
คนกลุ่มหนึ่งหยิบขวดไวน์ขึ้นมาและรีบวิ่งไปที่หลัวชุน ทันใดนั้นก็มีคนคนหนึ่งวิ่งออกมาอยู่ข้างๆเขา
เสียงปึงปังดังขึ้นหลายครั้ง พร้อมกับเสียงกร๊อปแกร๊ปของกระดูก กลุ่มคนล้มลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด ซึ่งบางคนก็ถูกทุบจนแขนหัก และบางคนก็ถูกตีจนขาหัก
มือของหลี่ผิงที่ไม่รู้ว่าไปจับขาโต๊ะที่ไหนมา ตะโกนว่า "อย่าขยับ"
ตอนอยู่ต่างประเทศเขาทำเรื่องพวกนี้มามากแล้ว แต่ในเวลานั้นเขาถือปืน ผู้ก่อการร้ายคนไหนที่ไม่เชื่อฟังก็จะถูกยิงหัวปลิดชีวิต
หลัวชุนยื่นมือออกไปเพื่อจับคอของหานเคอ และพูดอย่างไม่แยแสว่า "คุณมีทางเลือกเพียงสองทาง คุกเข่าลงหรือตาย"
สิ้นเสียงพูด ฝ่ามือของเขาก็เริ่มกำแน่นขึ้น
หานเคอรู้สึกได้ว่าแรงบีบที่คอของเขาเริ่มแรงและหนักขึ้น แม้แต่จะหายใจยังลำบาก
รถหรูจอดอยู่เต็มประตูทางเข้า วันนี้เป็นวันแต่งงานของลูกสาวเย่ไท่มหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งของเมือง โดยมีการเช่าทั้งโรงแรม
หลัวชุนที่อยู่ในชุดเจ้าบ่าว ได้เดินไปชนแก้วกับแขกอยู่บ่อยๆ
วันนี้เป็นวันมงคลของเขา แต่เขากลับไม่มีความสุข
เย่ปิงหรงอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบางเบาแบบกระโปรงที่เข้ารูปพอดี ดูวสวยสดใส ในใจหลัวชุนยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ เธอสวยขึ้นกว่าหกปีก่อนมาก เพียงแต่เธอไม่ได้เต็มใจแต่งงานกับเขา เพราะเธอยังชอบคนอื่น.
เย่ปิงหรงและเขาเป็นเหมือนความรักในวัยเด็ก แต่หลังจากที่เขาได้เข้ากองทัพไปตั้งแต่อายุสิบหก ทั้งสองก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย เมื่อกลับมาในครั้งนี้เขาพบว่าน้องปิงหรงคนนั้นเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ถ้าไม่ใช่เพราะพินัยกรรมแม่ของเขาที่บอกว่าเขาต้องแต่งงานกับเย่ปิงหรง วันนี้เขาก็คงไม่มาแต่งงาน คนที่ทำให้คนทั้งตะวันออกกลางกลัวเมื่อได้ยินชื่อ “มือปืนผี” อย่างเขา ทำไมถึงต้องมาได้รับความอยุติธรรมแบบนี้ด้วย
แม้แต่แขกบางคนก็ยังแอบกระซิบกันว่า ไม่คิดว่าสาวสวยอย่างเธอจะได้แต่งงานกับนายทหารธรรมดาคนนี้
"นายเข้าไปในกองทัพตั้งแต่อายุสิบกว่าปี ไม่ได้มีธรรมเนียมอะไร ต่อไปก็เรียนรู้จากเย่ปิงหรงให้มากๆ เพื่อจะได้เจริญก้าวหน้า อย่ามัวแต่เกียจคร้านและไม่ทำอะไรเลย ตระกูลเย่ของเราไม่ได้เลี้ยงดูคนที่ไร้ประโยชน์"
เย่ปิงหรงสีหน้าเยือกเย็น เป็นสีหน้าของความไม่เต็มใจ และคำพูดของแม่ยายในตอนนี้ดูเหมือนจะยังก้องอยู่ในหูของหลัวชุน
หลัวชุนรู้สึกผิดหวังมาก เขาไม่ใช่คนที่สร้างปัญา หากทั้งสองฝ่ายไม่เต็มใจ การแต่งงานครั้งนี้ยังจะมีความหมายอะไร
เขากลับมาแต่งงาน เพียงเพื่อทำตามความปรารถนาสุดท้ายของแม่ แต่ไม่ได้มาเลียแข่งเลียขา
"ปิงหรง มีความสุขหน่อย ยังมีพวกเราอยู่นะ"
แขกจำนวนไม่น้อยเป็นเพื่อนของเย่ปิงหรง พวกเขาไม่ใส่ใจหลัวชุน บางคนก็มองเขาอย่างชิงชัง แสดงถึงการดูถูกดูแคลน
หลัวชุนถูกแม่ยายและแขกในงานทำให้อับอายอย่างตามอำเภอใจ วันนี้เขาเป็นเจ้าบ่าว แต่เขากลายเป็นเป้าหมายของการเยาะเย้ย
"กัปตัน ผมและเสี่ยวหลินขอดื่มให้คุณ"
คู่สามีภรรยาโต๊ะข้างๆคู่หนึ่งยืนขึ้น ชายหนุ่มมีรูปร่างกำยำ หญิงสาวตัวเล็กและน่ารัก ทั้งสองยกแก้วไวน์พร้อมกันเพื่อส่งสัญญาณให้หลัวชุน
ในที่สุดใบหน้าของหลัวชุนก็เผยรอยยิ้ม เขาหยิบขวดไวน์ขึ้นมาและพูดว่า "ผิงจือ คำพูดทั้งหมดจะอยู่ในไวน์ ดื่ม!"
ทั้งสองเป็นสหายที่ผ่านสมรภูมิรบมาด้วยกัน ในงานนี้หลัวชุนเชิญแค่เขาที่เป็นเพื่อนมาเท่านั้น พวกเขาดื่มไวน์ขาวไปหนึ่งขวด เหมือนกับที่ทั้งสองคนทำตอนอยู่ในกองทัพ
โต๊ะอื่นๆล้วนเป็นคนหนุ่มคนสาว พวกเขาสวมใส่ชุดแบรนด์เนมชื่อดัง แต่งตัวดูดี ดูเหมือนว่าพวกเขาล้วนเป็นทายาทของครอบครัวเศรษฐีที่ร่ำรวย
หลัวชุนไม่ชอบผูกมิตรกับคนเหล่านี้ เขาจึงเตรียมที่จะดื่มไวน์กันเล็กน้อยแล้วกล่าวลา แต่ไม่คิดว่าชายหนุ่มที่นั่งตรงกลางจะตบโต๊ะแล้วพูดว่า "นี่มันอะไรกัน เมื่อกี้นายดื่มไวน์กับคนอื่นเป็นขวดๆ ตอนนี้มาดื่มกับเราแค่แก้เดียว ทำไม นายดูถูกพวกเราใช่ไหม"
"มา เอาขวดนี้ไปดื่ม” คนคนหนึ่งผลักไวน์ขาวทั้งขวดให้ไปอยู่ตรงหน้าหลัวชุน หัวเราะพลางมองหลัวชุน ราวกับกำลังมองละครลิง
หลัวชุนยิ้มและหยิบขวดขึ้นมาพร้อมพูดว่า "ได้ครับ ใครจะมาดื่มกับผม"
คนคนหนึ่งพูดอย่างดูถูก “ดูเหมือนว่าคุณจะไม่เข้าใจ คุณชายหานหมายถึงว่าเขาขอให้คุณดื่มไวน์ทั้งขวดด้วยตัวเองอีกครั้งให้พวกเราดู วันมงคลแบบนี้ แม้แต่การที่จะแสดงความรื่นเริงในงานก็ไม่เข้าใจเหรอ "
ชายหนุ่มที่นั่งไขว้ขาอย่างสงบและไม่พูดอะไรอยู่ตรงกลางก่อนหน้านี้ น่าจะเป็นชายหนุ่มที่พวกเขาเรียกว่าคุณชายหาน
หลัวชุนมองเขาสักพักหนึ่งแล้วพูดว่า "คุณคือคุณชายหานใช่ไหม อย่ามัวมาร่ำไรกันอยู่เลย ถ้าคุณกล้ามาดวลกับผมสักขวด"
ทันใดนั้นหานเคอสีหน้าเปลี่ยนไป เขายกแก้วไวน์ขึ้นมาและสาดใส่หน้าหลัวชุน พร้อมกับพูดอย่างดูถูกว่า " นายเป็นใคร ที่จะมาดื่มกับฉัน ปิงหรงน่าจะตาบอดจริงๆ ทำไมถึงได้แต่งงานกับคนบ้านนอกอย่างนาย"
คนอื่น ๆในโต๊ะต่างก็มองหลัวชุนอย่างขำขัน เห็นได้ชัดว่าแผนการนี้มีการไตร่ตรองไว้นานแล้ว ผู้คนที่อยู่ใกล้ ๆถูกดึงดูดด้วยเสียงให้เข้ามา เมื่อเห็นท่าทางลำบากใจของเจ้าบ่าว พวกเขาก็แอบหัวเราะ
แต่ปิงหรงยังคงเฉยเมย ราวกับว่ามันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอเลย
เห็นได้ชัดว่าทั้งเธอและแม่ของเธอไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่ปล่อยหลัวชุนต้องอับอายต่อหน้าให้คนจำนวนมาก คิดว่าพวกเขาน่าจะคาดหวังว่าถ้าหลัวชุนทนต่อความอัปยศอดสูนี้ไม่ได้ก็จะขอหย่าเอง
หลัวชุนมองไปที่หานเคอและพูดนิ่งๆ ว่า "ถ้าคุณขอโทษผม ผมจะไม่ถือสาคุณ"
หานเคอหัวเราะเยาะ"พวกคุณได้ยินไหม ไอ้โง่คนนี้ดื่มจนเมาไปแล้วรึเปล่า เขาจะให้ฉันขอโทษเขาเหรอ"
ทุกคนในโต๊ะหัวเราะ และมองหลัวชุนเป็นเหมือนคนโง่
หานเคอพูดดูถูกอีกครั้ง " นายไม่ดูตัวเองเลยใช่ไหมว่าตัวเองเป็นใคร หรือถือตนว่าตัวเองเป็นลูกเขยของตระกูลเย่จริงๆ นายมันก็แค่เป็นสุนัขของตระกูลเย่ เข้าใจไหม ไอ้ขยะ "
หลัวชุนมองกลับไปที่เย่ปิงหรงและพูดว่า "นี่เพื่อนของคุณเหรอ"
เย่ปิงหรงพูดอย่างเหลืออด "ไปกันเถอะ อย่ามาสร้างความอับอายตรงนี้เลย"
สร้างความอับอายเหรอ
หัวใจของหลัวชุนถูกต่อยอย่างรุนแรง ในตอนนี้เขาหมดความอดทนกับเย่ปิงหรงแล้ว เขายิ้มและทันใดนั้นเขาก็หยิบขวดไวน์ขึ้นมาจากโต๊ะและตีทุบหัวหานเคอ
เสียงขวดแตกดังสนั่น ศรีษะของหานเคอเต็มไปด้วยเลือด มันสร้างความอับอายจนถึงขีดสุด
คนที่นั่งอยู่ร่วมโต๊ะกับหานเคอ ตบโต๊ะและยืนขึ้นพร้อมกับตะโกนว่า "เห้ย มึงอยากตายเหรอ"
"คนที่มาทำร้ายคุณชายหานแล้วคิดว่าจะมีชีวิตหรอดเหรอ ฆ่ามัน!!!!"
คนกลุ่มหนึ่งหยิบขวดไวน์ขึ้นมาและรีบวิ่งไปที่หลัวชุน ทันใดนั้นก็มีคนคนหนึ่งวิ่งออกมาอยู่ข้างๆเขา
เสียงปึงปังดังขึ้นหลายครั้ง พร้อมกับเสียงกร๊อปแกร๊ปของกระดูก กลุ่มคนล้มลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด ซึ่งบางคนก็ถูกทุบจนแขนหัก และบางคนก็ถูกตีจนขาหัก
มือของหลี่ผิงที่ไม่รู้ว่าไปจับขาโต๊ะที่ไหนมา ตะโกนว่า "อย่าขยับ"
ตอนอยู่ต่างประเทศเขาทำเรื่องพวกนี้มามากแล้ว แต่ในเวลานั้นเขาถือปืน ผู้ก่อการร้ายคนไหนที่ไม่เชื่อฟังก็จะถูกยิงหัวปลิดชีวิต
หลัวชุนยื่นมือออกไปเพื่อจับคอของหานเคอ และพูดอย่างไม่แยแสว่า "คุณมีทางเลือกเพียงสองทาง คุกเข่าลงหรือตาย"
สิ้นเสียงพูด ฝ่ามือของเขาก็เริ่มกำแน่นขึ้น
หานเคอรู้สึกได้ว่าแรงบีบที่คอของเขาเริ่มแรงและหนักขึ้น แม้แต่จะหายใจยังลำบาก
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved