บทที่ 15 เหยียบย่ำตระกูลหาน

หลังจากที่เย่ปิงหรงรู้ว่าตัวเองถูกจับมาซึ่งวันนี้ก็คงไม่มีคนคุ้มกันแล้ว เพราะเธอไม่เคยเห็นคนที่สามารถปีนลงบันไดชั้นที่สิบแปดได้ และอาศัยเพียงการกระแทกของมือเปล่าบนราวบันไดเพื่อชะลอความเร็วและกันชน และอีกอย่างยังมีคนอยู่กับเธออีกหนึ่งคน

เธอคิดเสมอว่าโลกรอบตัวเธอสงบสุข ทุกคนเป็นคนธรรมดา ตราบใดที่คุณมีความสามารถเพียงพอที่จะโดดเด่น เป็นคนดีกว่าคนอื่น แต่ตนนี้แนวคิดเหล่านี้แตกสลายไปหมดแล้ว ในที่สุดเธอก็รู้ว่าเหตุใดหานจินฉวนจึงสามารถครองอำนาจได้โดยไม่มีความกังวลและความกลัว ซึ่งปรากฎว่ามีร่างที่น่ากลัวซ่อนอยู่ข้างๆเขา

“พี่เขย ผมพาคนมาแล้ว” เมื่อเกาเฟยเข้าไปก็ผลักเย่ปิงหรงลงบนโซฟา พูดอย่างตื่นเต้น “ท่านเชิญก่อนเลย ผมแค่ได้ลิ้มลองนิดหน่อยก็พอแล้ว”

หานจินฉวนพยักหน้าอย่างพอใจ ฉีกเทปที่ติดอยู่บนหน้าของเย่ปิงหรงออก เดินเข้าไปหาเธอด้วยแววตาของสัตว์ร้าย ต้องยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้สวยจริงๆ แม้แต่เขาก็อดไม่ได้ที่อยากจะลิ้มลอง

เกาเฟยหัวเราะเสียงดัง “ไอ้ชาติหมานั้นก็ถือว่าโชคดีนะ ที่ได้แต่งงานกับผู้หญิงสวยๆแบบนี้ พวกเราฆ่าเธอไม่ได้ ให้เธอมีชีวิตอยู่ก่อน ค่อยๆเล่นกับเธอ เล่นไปจนเธอทนไม่ไหว”

หานจินฉวนคิดถึงภาพหน้าขายหน้าของเมื่อวานตอนค่ำ ในใจก็โกรธขึ้นมา จึงตบหน้าเย่ปิงหรงไปหนึ่งครั้ง ใบหน้าของเขาแสดงออกว่าทั้งขมขื่แนละตื่นเต้น “แกยังรอให้ไอ้บ้านนอกนั้นมาช่วยแกอีกเหรอ มันถูกหลอกให้ไปที่สวนอุตสาหกรรมนานแล้ว มีเพียงปืนเท่านั้นที่จะรอทักทายมัน น่าเสียดายจริงๆที่มันจะไม่ได้เห็นเมียตัวเองเล่นสนุกกับทุกคน แต่แกวางใจได้เลย พวกเราจะถ่ายคลิปไว้ให้และส่งให้ญาติกับเพื่อนของแกได้รับชม”

สีหน้าเย่ปิงหรงหวาดกลัวมาก มองไปทั่วห้องโถงก็เห็นชายร่างใหญ่หลายสิบคน ราวกับว่าวันสิ้นโลกจะมาถึง เธอรู้สึกสิ้นหวังและหมดหนทาง เธอไม่คิดเลยว่าเรื่องที่เกิดกับคนอื่นเมื่อหลายวันก่อน จะต้องมาเกิดกับเธอเร็วขนาดนี้ เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่หลัวชุนพูดกับเธอในวันนั้น “คุณคิดว่าคนพวกนั้นไร้เดียงสาเหรอ”

ไม่ไร้เดียงสา ไม่มีความไร้เดียงสาเลยสักนิด ตอนนี้ในสายตาของเธอหานจินฉวนเป็นเหมือนปีศาจที่จะกินคน

”ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้ว ขอโทษ หลัวชุน............”เย่ปิงหรงร้องไห้อยู่ในใจ เมื่อเห็นหานจินฉวนยื่นมือออกมาฉีกเสื้อผ้าเธอ จนเธออดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เธอจ้องมองไปที่หานจินฉวน “สามีฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่”

เกาเฟยหัวเราะ “อย่าไร้เดียงสานักเลย มึงคิดว่ามันยังจะมาได้เหรอ เกรงว่าตอนนี้ก็ถูกยิงจน..................”

”หานจินฉวน มึงตายซะ”

ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามอึกทึกอยู่ด้านนอกคฤหาสน์ หานจินฉวนและเกาเฟยสีหน้าเปลี่ยนไป เย่ปิงหรงดวงตาแดงก่ำ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา

”มันมาที่นี่ได้ยังไง” เกาเฟยอดสงสัยไม่ได้ หานจินฉวนยิ้มอย่างเยือกเย็น “มาแล้วก็ดี ฉันจะทำให้มันได้รับรู้ถึงความรู้สึกว่าตายทั้งเป็นมันเป็นยังไง”เขาหันไปมองตรงมุม “ลุงเก่อ ต้องลำบากลุงอีกแล้ว”

ชายชราปรากฏตัวขึ้นที่มุมอย่างเงียบๆ ดวงหน้าสีแดง เต็มไปด้วยพลังงาน เขาหัวเราะพร้อมพูดว่า “นักฆ่าด้านนอกก็เพียงพอที่จะจัดการเขาแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเขาจะเจาะเข้ามาได้ไหม”

ในใจเย่ปิงหรงก็เป็นกังวลขึ้นมา เมื่อกี้ชายชราคนนี้ก็ลักพาตัวเธอมา เลยไม่รู้ว่าหลัวชุนจะรับมือไหวไหม

เธอมองออกไปนอกประตู จากตรงนี้สามารถมองเห็นภาพในสนามได้ ที่นั่นเต็มไปด้วยกลุ่มคน ผู้คนในชุดดำนับไม่ถ้วนถือมีดคมในมือ ตะโกนและวิ่งออกไปที่ประตู

คนในห้องกำลังเฝ้าดูการเคลื่อนไหวข้างนอกด้วยลมหายใจที่สุขสม พร้อมกับที่ได้ยินเพียงเสียงร้องจากนอกคฤหาสน์ เลือดสาดเต็มท้องฟ้า กลุ่มชายชุดดำวิ่งเข้าไปร่วมการต่อสู้ในสนาม

เย่ปิงหรงกังวลขึ้นเรื่อยๆ มือและหน้าผากเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ

ทันใดนั้นสายตาของเธอก็หยุดลง ปากเปิดเล็กน้อย เธอเห็นภาพที่ลืมไม่ลง คือเห็นร่างสีแดงปรากฎขึ้นบนทางบลูสโตน ทุกคนตกใจมากจนทิ้งมีดลงแล้ววิ่งหนี บนพื้นเต็มไปด้วยชายชุดดำ บางคนก็ตายแล้ว บางคนใช้มือปกปิดแขนและขาที่เต็มไปด้วยเลือดของตัวเองและร้องโหยหวน ตอนนี้ราวกับว่าเป็นนรกบนดิน

ร่างกายหลัวชุนเต็มไปด้วยเลือด เขาถือมีดไว้ในมือ ก้าวเข้ามาในคฤหาสน์ทีละก้าวทีละก้าว

เกาเฟยตกใจจนก้าวถอยหลังไปหลายก้าว และเรียกชื่อ “ลุงเก่อ ลุงเก่อขัดขวางเขาไว้เร็ว”

”ตกใจอะไร”

ลุงเก่อเดินไปที่ประตูอย่างช้าๆ วางตัวและพูดว่า “พ่อหนุ่ม แม้แกจะมีความสามารถ แต่ใช้กับคนผิด ฉันแนะนำให้แก..........”
เขาไม่รอให้จบประโยค หลัวชุนก็เขวี้ยงมีดในมือออกไป ลุงเก่อรีบก้มหัวหลบ มีดผ่านเข้าไปในห้องโถง ตัดหัวคนคนหนึ่ง แล้วไปปักอยู่บนผนักหินแกรนิต

”ไอ้หนุ่มมึงหาเรื่องตายแล้ว”ลุงเก่อพูดด้วยความโกรธ “วันนี้ฉันจะทำให้มึงรู้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า และยังมีคนเหนือคน”

เขาพุ่งตัวเข้าไปหาหลัวชุน
เกาเฟยที่อยู่ในห้องพูดอย่างอิจฉา “ลุงเก่อเป็นสุดยอดของมวยแปดกระบวนท่า ถ้าฉันสามารถเรียนรู้ความสามารถของเขาได้ สักสิบเปอร์เซ็นฉันก็เต็มใจ”

จากนั้นก็ปลายสายตามามองเย่ปิงหรงที่อยู่บนโซฟา พร้อมหัวเราะเสียงดัง “รอให้ลุงเก่อจัดการมันก่อน ฉันอยากเล่นอะไรสนุกๆต่อหน้าเขา ให้เขารู้ว่าพี่เขยมีอำนาจที่สุดในเหอตง”

ความเกลียดชังแวบเข้ามาในแววตาหานจินฉวน และในสมองก็คิดหาวิธีทรมานคน

ความเร็วของลุงเก่อเร็วมาก แต่ในสายตาของหลัวชุนยังคงเป็นภาพที่ช้าอยู่ เขาสามารถเข้าใจวิถีหมัดของคู่ต่อสู้ได้อย่างชัดเจน โดยไม่ต้องรอให้เขาเข้ามาใกล้ เขาย่อตัวลง และต่อยไปกลางหน้าอกของลุงเก่อ

ลุงเก่อยังไม่ได้ปล่อยหมัดแปดกระบวนท่าไปสักหมัด เขาก็กระอักเลือดออกมาแล้ว เขาล้มลงบนพื้นใช้มือกุมอกด้วยความเจ็บปวด

“ลุงเก่อ”

หานจินฉวนและทุกคนต่างตกใจ ลุงเก่อโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เพราะการบาดเจ็บจากการกระแทกอย่างรุนแรง เขาเด้งตัวขึ้นมาจากพื้น โดยใช้สองมือค้ำขึ้นมา ยกข้อศอกทุบไปที่หลัวชุน

หลัวชุนแปลกใจเล็กน้อย เขาคิดว่าความเร็วของตัวเองมีมากกว่าคนอื่นแล้ว ไม่คิดว่าชายชราคนนี้ก็มีพลังด้วย และเป็นพลังที่มากขนาดนี้

แต่น่าเสียดายที่เขาเผชิญหน้ากับหลัวชุน ความเร็วที่ยากที่จะแยกแยะด้วยตาเปล่าในสายตาของหลัวชุนก็ธรรมดา

ทั้งสองแลกหมัดกันนับสิบหมัดภายในพริบตา หลัวชุนตะโกนออกมาครั้งหนึ่ง มวลอากาศในช่องท้องส่วนล่างพุ่งไปที่ฝ่ามือทันที เกิดเสียงหวีดในอากาศ สีหน้าลุงเก่อเปลี่ยนไปมาก อยากจะก้าวถอย แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว

หลัวชุนทุบไหล่ของคู่ต่อสู้ด้วยหมัดเดียว ลุงเก่อกระเด็นออกไปอีกครั้ง กระดูกหักเป็นสองท่อน เขากระอักเลือดหลังจากล้มลงกับพื้น พลางชี้ไปที่หลัวชุน “นาย..........นายมีปรมาจารย์ด้านวิญญาณ............ฉันเป็นสาวกของมวยแปดกระบวนท่าของชางโจว ยกโทษให้ฉันได้ไหม.............”

”ช่วยคนเลวทำความชั่ว ฉันให้อภัยไม่ได้” หลัวชุนก้าวออกมา ฟาดหัวลุงเก่อลงไปเหมือนลูกแตงโม

เกาเฟยร้องเสียงดัง “ตายซะ”ยกปืนขึ้นมา ก่อนที่จะเหนี่ยวไกปืน แขนเขาก็ขาดจนกระเด็นห่างออกไปไกลกว่าห้าเมตร

หลัวชุนตบเขาจนศีรษะเขาบิดไปมาหลายครั้ง หายใจไม่ออก ส่วนหานจินฉวนนั่งปวกเปียกอยู่กับพื่น สีหน้าอมทุกข์

หลัวชุนถามด้วยรอยยิ้ม “ยังจำที่ผมเคยพูดกับคุณก่อนหน้านี้ได้ไหม”


























Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

173