บทที่ 8 ตายอย่างอนาจ
by ลาวจินเหมา
11:51,Dec 14,2020
เขาเชี่ยวชาญในการเลือกเส้นทางผ่านตรอกซอกซอย เพื่อหลีกเลี่ยงกล้องวงจรปิดเป็นอย่างดี เจาเดินผ่านแม่น้ำในชานเมือง เข้าไปในป่า เดินรอบเขา แล้วมาหยุดอยู่ที่พื้นที่ว่างบนยอดเขา
จากตรงนี้สามารถมองเห็นวิวได้เกือบครึ่งเมือง ไม่ไกลจากภูเขาก็คือคฤหาสน์หรู นั่นเป็นบ้านของหานเคอ ภายในมีทั้งสระว่ายน้ำและสนามกอล์ฟ และยังมีทะเลสาปล้อมรอบ ซ้ำยังมีบอดี้การ์ดลานตระเวนไปทั่ว พูดได้เลยว่าการคุ้มกันหนาแน่นมา
หลัวชุนกำจัดวัชพืชใต้เท้าของเขา และเปิดหีบสีดำใบนั้น เมื่อเปิดออกกลิ่นน้ำมันปืนก็ลอยคละคลุ้ง
ด้านในมีเปิดไรเฟิลเอ็ม200วางอยู่ในหีบ
ปืนชนิดนี้เลิกผลิตไปนานแล้ว และราคาก็แพงมาก คนรวยในตะวันออกกลางจะซื้อเพื่อสะสม หลังจากหลี่ผิงยึดไว้ก็ตัดใจส่งคืนไม่ได้ จึงหาให้คนลักลอบนำเข้าประเทศ บางทีเขาแค่คิดว่าอยากจะสะสมไว้ในบ้าน แต่ใครจะคิดว่าจู่ๆมันก็ต้องถูกเอาขึ้นมาใช้สักวัน
หลัวชุนแววตาเยือกเย็น เขาติดตั้งชิ้นส่วนอาวุธปืนด้วยความชำนาญ หลังจากปรับตำแหน่งแล้ว เขาก็นอนบนพื้นว่างและเล็งปืนไปหาหน้าประตูตระกูลหาน
ที่นี่อยู่ห่างจากคฤหาสน์เกินกว่าสองกิโลเมตร แต่เอ็ม200มีความแม่นยำมากที่สุดในโลก บวกกับการมองเห็นที่ยอดเยี่ยมของหลัวชุน จึงสามารถยิงได้ไกลขึ้น
ในยามค่ำคืนบนภูเขาจะมีอากาศหนาวจัด แต่หลัวชุนกลับไม่รู้สึกถึง เขานอนอยู่บนพื้นโดยไม่ขยับเขยือนมาห้าชั่วโมงแล้ว
ในช่วงตีสาม มีรถคันหนึ่งขับเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลหาน หานเคอโอบผู้หญิงสองคนลงมาจากรถ เดินโซซัดโซเซเข้าไปในบ้าน
เดิมทีหลัวชุนสามารถมองเห็นวัตถุได้ในระยะหนึ่งกิโลเมตร บวกกับกล้องของปืนแล้ว แม้แต่คิ้วหานเคอเขาก็มองเห็นได้อย่างชัดเจน
ตอนนี้หานเคอกำลังลูบคลำหญิงสาวทั้งสองคน แล้วหัวเราะตลอดเวลา มองไปแล้วดูมีความสุขมาก
ในสมองของหลัวชุนคิดถึงความตายที่น่าเศร้าของหลี่ผิงและภรรยา คิดว่าถ้าให้หานเคอตายแบบนี้ก็คงจะง่ายเกินไป เครื่องตรวจจับโคลิเมเตอร์จึงเบี่ยงเบนไปที่เสาโทรศัพท์ข้างๆ ซึ่งมีสายไฟฟ้าแรงสูงทอดยาวไปที่คฤหาสน์ตระกูลหาน
สายไฟสีดำจะมองยากมากในเวลากลางคืน แต่สำหรับหลัวชุนไม่มีแรงกดดันในส่วนนี้เลย หลังจากนั้นเขาก็ยิงติดต่อกันสามนัด สายไฟขาดทั้งสามเส้น คฤหาสน์ตระกูลหานตกอยู่ในความมืด
เขาจึงรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งลงจากเขา หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงของมวลอากาศในช่องท้องส่วนล่างแล้ว ความเร็วของหลัวชุนจึงเร็วกว่าเมื่อก่อนอีกเท่าตัว แค่พริบตาเดียวเขาก็วิ่งไปถึงคฤหาสน์แล้ว เขาปีนท้อน้ำทิ้งขึ้นไปบนอาคาร
หานเคอโอบผู้หญิงทั้งสองคนเข้าไปในห้องตัวเอง หัวเราะชอบใจ “พอดีเลยวันนี้ไฟดับ เรามาเล่นอะไรที่น่าตื่นเต้นกันดีกว่า”
”เกลียด” หญิงสาวทั้งสองคนพูดอย่างหมั่นไส้ ทุกคนนอนลงบนเตียง
หานเคอกำลังจะปลดเข็มขัด จู่ๆเขาก็เห็นเงาดำๆยืนอยู่ที่มุมกำแพง เขาจึงร้องออกมาอย่างตกใจ “ใคร”
เสียงพูดเพิ่งออกมาได้แค่ครึ่งคำ คอของเขาก็ถูกฝ่ามือเหล็กกำไว้แน่น
ผู้หญิงสองคนที่จะหันมามอง แต่เงาดำก็สว่างวาบตรงหน้า แล้วพวกเธอก็ถูกตีจนสลบออกไป
”แก..........เป็น..........ใคร.........”หานเคอพูดอยู่ในลำคอ เค้นเสียงที่แหบออกมา
หลัวชุนเดินไปอยู่ต่อหน้าเขา พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “แกส่งของขวัญให้ฉัน ฉันได้รับแล้ว เรามีมารยาท แกก็รับของขวัญชิ้นใหญ่จากฉันเถอะ”
”เป็นแกเหรอ”
เมื่อหานเคอได้ยินเสียง ก็ตกใจจนแทบกระโดด รีบคว้ามือหลัวชุนและพูดว่า “ผมขอร้องปล่อยผมไปเถอะ คุณต้องการเท่าไหร่ผมจะให้”
เงินเท่าไหร่ก็ชดใช้ชีวิตของเพื่อนและภรรยาเขาไม่ได้ คนสารเลวอย่างนายไม่เหมาะที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้” หลัวชุนต่อยเข้าไปที่ท้องของเขา จนหานเคอเจ็บจนพูดไม่ออกลงไปนอนขดตัวอยู่บนพื้น เขารู้สึกเหมือนอวัยวะภายในกำลังจะแตก
”แก........แกฆ่าฉันไม่ได้หรอก พ่อฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่”หานเคอคิดอยากจะตะโกน แต่ทำได้แค่พ่นน้ำลายออกมาด้วยความเจ็บปวด แล้วถอยหลังจนติดกำแพง
”แกควรขอให้ตัวเองตายให้เร็วขึ้น เพราะต่อไป แกตายไปเสียยังจะดีกว่ามีชีวิตอยู่”ใบหน้าหลัวชุนเผยรอยยิ้มที่โหดร้าย เขาหยิบถุงเท้าข้างๆและยัดเข้าปากหานเคอ
แสงส่องจากขอบฟ้า เมืองทั้งเมืองกำลังเริ่มวันใหม่ หลัวชุนถือหีบไว้เดินกลับไปบนดาดฟ้าของคฤหาสน์อย่างเงียบๆ แต่กลับพบว่าเย่ปิงหรงยืนอยู่ที่นั่นแล้ว และไม่รู้ว่าเธอยืนอยู่นานแค่ไหนแล้ว
ร่างกายหลัวชุนเต็มไปด้วยเลือด เย่ปิงหรงสั่นไปทั้งตัว เธอถามด้วยสีหน้าขาวซีด “นายไปทำอะไรมา”
เมื่อเห็นว่าหลัวชุนเงียบไม่พูดอะไร เย่ปิงหรงจึงพูดด้วยเสียงสั่น “นาย นายฆ่าคนเหรอ”
หลัวชุนยังคงไม่พูดอะไร เหมือนอยู่ในเงียบ
เย่ปิงหรงกัดปากแน่น น้ำตาแห่งความสิ้นหวังไหลมาอาบแก้ม ผ่านไปเนิ่นนานแล้วพูดว่า “เราหย่ากันเถอะ ฉันไม่กล้าใช้ชีวิตร่วมกับฆาตกร ไปเสียตั้งแต่ตอนนี้เถอะ”
พูดจบเธอก็หันตัว กลับลงไปชั้นล่าง
หลัวชุนสูดลมหายใจลึก มองท้องฟ้าที่เช้าแล้ว หัวใจรู้สึกสงบอย่างน่าประหลาดใจ รีบหย่าเสียก็ดี
ทั้งสองคนนำบัตรประชาชนของตัวเองออกจากห้องตั้งแต่ยังไม่มีใครตื่น เย่ปิงหรงยื่นบัตรเครดิตใบหนึ่งให้แล้วพูดว่า “ในบัตรมีอยู่สองล้าน นายรับมันไว้แล้วออกนอกประเทศไปเถอะ แล้วไม่ต้องกลับมาอีก”
“ไม่ต้อง ผมไม่ได้คิดจะไป”หลัวชุนหันกลับมา วางเกระเป๋าไว้ที่เบาะหลัง เย่ปิงหรงพูดอย่างรีบร้องว่า “นายอย่าลืมนะว่าแม่นายสั่งไว้ว่ายังไง นายเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลหลัว ถ้านายถูกตัดสินประหารแล้วใครจะมีทายาทสืบต่อตระกูล”
มุมปากของหลัวชุนยิ้มบางๆ “บนโลกใบนี้ คนที่จะจับผมได้มีไม่กี่คน ขึ้นรถเถอะ”
เย่ปิงหรงกระทืบเท้าด้วยความโกรธ “ฉันว่าคนอย่างพวกนายมันโรคจิต คิดว่าตัวเองเป็นเทพเจ้าเหรอ” เธอขึ้นไปนั่งบนรถและปิดประตูอย่างรุนแรง โกรธจนหน้าแดงไปหมด
หลัวชุนเปิดวิทยุ ที่กำลังรายงานข่าวของเมืองนี้ “ข่าวใหญ่ของวันนี้ วันนี้ตอนหกโมงเช้า หานเคอลูกชายคนเดียวของหานจินชวนผู้มั่งคั่งของเมืองนี้เสียชีวิตแล้วในบ้านของตัวเอง เป็นการตายที่น่าสังเวชมาก สันนิธานเบื้องต้นว่าเป็นการฆาตกรรม.........”
เย่ปิงหรงสีหน้าเปลี่ยนไป รีบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คข่าว กลับพบว่าผู้จัดการของบริษัทตัวเองส่งข้อความมา “คุณเย่ จู่ๆหานเคอก็เสียชีวิตแล้ว ตายอย่างน่าอนาจมาก ฉันจะส่งรูปให้คุณดู”
เธอเปิดรูปดูก็เกือบจะอาเจียนออกมา เห็นแค่หานเคอถูกแขวนไว้กับรั้วเหล็กที่กำแพงบ้านตัวเอง ร่างกายถูกทุบตีจนหาส่วนดีไม่ได้ แม้จะเสียชีวิตแล้ว แต่ยังคงเห็นความเจ็บปวดบนใบหน้าของเขา
“นี่นายทำรึเปล่า” เย่ปิงหรงกลั้นอาเจียน ยื่นรูปไปข้างหน้าหลัวชุน หลัวชุนที่กำลังขับรถ เขาเหลือบมองและไม่พูดอะไร เย่ปิงหรงแทบไม่อยากเชื่อ เธอพูดด้วยความโกรธว่า “นายเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ได้ยังไง นายฆ่าคนได้อย่างง่ายดาย วิปริต”
จากตรงนี้สามารถมองเห็นวิวได้เกือบครึ่งเมือง ไม่ไกลจากภูเขาก็คือคฤหาสน์หรู นั่นเป็นบ้านของหานเคอ ภายในมีทั้งสระว่ายน้ำและสนามกอล์ฟ และยังมีทะเลสาปล้อมรอบ ซ้ำยังมีบอดี้การ์ดลานตระเวนไปทั่ว พูดได้เลยว่าการคุ้มกันหนาแน่นมา
หลัวชุนกำจัดวัชพืชใต้เท้าของเขา และเปิดหีบสีดำใบนั้น เมื่อเปิดออกกลิ่นน้ำมันปืนก็ลอยคละคลุ้ง
ด้านในมีเปิดไรเฟิลเอ็ม200วางอยู่ในหีบ
ปืนชนิดนี้เลิกผลิตไปนานแล้ว และราคาก็แพงมาก คนรวยในตะวันออกกลางจะซื้อเพื่อสะสม หลังจากหลี่ผิงยึดไว้ก็ตัดใจส่งคืนไม่ได้ จึงหาให้คนลักลอบนำเข้าประเทศ บางทีเขาแค่คิดว่าอยากจะสะสมไว้ในบ้าน แต่ใครจะคิดว่าจู่ๆมันก็ต้องถูกเอาขึ้นมาใช้สักวัน
หลัวชุนแววตาเยือกเย็น เขาติดตั้งชิ้นส่วนอาวุธปืนด้วยความชำนาญ หลังจากปรับตำแหน่งแล้ว เขาก็นอนบนพื้นว่างและเล็งปืนไปหาหน้าประตูตระกูลหาน
ที่นี่อยู่ห่างจากคฤหาสน์เกินกว่าสองกิโลเมตร แต่เอ็ม200มีความแม่นยำมากที่สุดในโลก บวกกับการมองเห็นที่ยอดเยี่ยมของหลัวชุน จึงสามารถยิงได้ไกลขึ้น
ในยามค่ำคืนบนภูเขาจะมีอากาศหนาวจัด แต่หลัวชุนกลับไม่รู้สึกถึง เขานอนอยู่บนพื้นโดยไม่ขยับเขยือนมาห้าชั่วโมงแล้ว
ในช่วงตีสาม มีรถคันหนึ่งขับเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลหาน หานเคอโอบผู้หญิงสองคนลงมาจากรถ เดินโซซัดโซเซเข้าไปในบ้าน
เดิมทีหลัวชุนสามารถมองเห็นวัตถุได้ในระยะหนึ่งกิโลเมตร บวกกับกล้องของปืนแล้ว แม้แต่คิ้วหานเคอเขาก็มองเห็นได้อย่างชัดเจน
ตอนนี้หานเคอกำลังลูบคลำหญิงสาวทั้งสองคน แล้วหัวเราะตลอดเวลา มองไปแล้วดูมีความสุขมาก
ในสมองของหลัวชุนคิดถึงความตายที่น่าเศร้าของหลี่ผิงและภรรยา คิดว่าถ้าให้หานเคอตายแบบนี้ก็คงจะง่ายเกินไป เครื่องตรวจจับโคลิเมเตอร์จึงเบี่ยงเบนไปที่เสาโทรศัพท์ข้างๆ ซึ่งมีสายไฟฟ้าแรงสูงทอดยาวไปที่คฤหาสน์ตระกูลหาน
สายไฟสีดำจะมองยากมากในเวลากลางคืน แต่สำหรับหลัวชุนไม่มีแรงกดดันในส่วนนี้เลย หลังจากนั้นเขาก็ยิงติดต่อกันสามนัด สายไฟขาดทั้งสามเส้น คฤหาสน์ตระกูลหานตกอยู่ในความมืด
เขาจึงรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งลงจากเขา หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงของมวลอากาศในช่องท้องส่วนล่างแล้ว ความเร็วของหลัวชุนจึงเร็วกว่าเมื่อก่อนอีกเท่าตัว แค่พริบตาเดียวเขาก็วิ่งไปถึงคฤหาสน์แล้ว เขาปีนท้อน้ำทิ้งขึ้นไปบนอาคาร
หานเคอโอบผู้หญิงทั้งสองคนเข้าไปในห้องตัวเอง หัวเราะชอบใจ “พอดีเลยวันนี้ไฟดับ เรามาเล่นอะไรที่น่าตื่นเต้นกันดีกว่า”
”เกลียด” หญิงสาวทั้งสองคนพูดอย่างหมั่นไส้ ทุกคนนอนลงบนเตียง
หานเคอกำลังจะปลดเข็มขัด จู่ๆเขาก็เห็นเงาดำๆยืนอยู่ที่มุมกำแพง เขาจึงร้องออกมาอย่างตกใจ “ใคร”
เสียงพูดเพิ่งออกมาได้แค่ครึ่งคำ คอของเขาก็ถูกฝ่ามือเหล็กกำไว้แน่น
ผู้หญิงสองคนที่จะหันมามอง แต่เงาดำก็สว่างวาบตรงหน้า แล้วพวกเธอก็ถูกตีจนสลบออกไป
”แก..........เป็น..........ใคร.........”หานเคอพูดอยู่ในลำคอ เค้นเสียงที่แหบออกมา
หลัวชุนเดินไปอยู่ต่อหน้าเขา พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “แกส่งของขวัญให้ฉัน ฉันได้รับแล้ว เรามีมารยาท แกก็รับของขวัญชิ้นใหญ่จากฉันเถอะ”
”เป็นแกเหรอ”
เมื่อหานเคอได้ยินเสียง ก็ตกใจจนแทบกระโดด รีบคว้ามือหลัวชุนและพูดว่า “ผมขอร้องปล่อยผมไปเถอะ คุณต้องการเท่าไหร่ผมจะให้”
เงินเท่าไหร่ก็ชดใช้ชีวิตของเพื่อนและภรรยาเขาไม่ได้ คนสารเลวอย่างนายไม่เหมาะที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้” หลัวชุนต่อยเข้าไปที่ท้องของเขา จนหานเคอเจ็บจนพูดไม่ออกลงไปนอนขดตัวอยู่บนพื้น เขารู้สึกเหมือนอวัยวะภายในกำลังจะแตก
”แก........แกฆ่าฉันไม่ได้หรอก พ่อฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่”หานเคอคิดอยากจะตะโกน แต่ทำได้แค่พ่นน้ำลายออกมาด้วยความเจ็บปวด แล้วถอยหลังจนติดกำแพง
”แกควรขอให้ตัวเองตายให้เร็วขึ้น เพราะต่อไป แกตายไปเสียยังจะดีกว่ามีชีวิตอยู่”ใบหน้าหลัวชุนเผยรอยยิ้มที่โหดร้าย เขาหยิบถุงเท้าข้างๆและยัดเข้าปากหานเคอ
แสงส่องจากขอบฟ้า เมืองทั้งเมืองกำลังเริ่มวันใหม่ หลัวชุนถือหีบไว้เดินกลับไปบนดาดฟ้าของคฤหาสน์อย่างเงียบๆ แต่กลับพบว่าเย่ปิงหรงยืนอยู่ที่นั่นแล้ว และไม่รู้ว่าเธอยืนอยู่นานแค่ไหนแล้ว
ร่างกายหลัวชุนเต็มไปด้วยเลือด เย่ปิงหรงสั่นไปทั้งตัว เธอถามด้วยสีหน้าขาวซีด “นายไปทำอะไรมา”
เมื่อเห็นว่าหลัวชุนเงียบไม่พูดอะไร เย่ปิงหรงจึงพูดด้วยเสียงสั่น “นาย นายฆ่าคนเหรอ”
หลัวชุนยังคงไม่พูดอะไร เหมือนอยู่ในเงียบ
เย่ปิงหรงกัดปากแน่น น้ำตาแห่งความสิ้นหวังไหลมาอาบแก้ม ผ่านไปเนิ่นนานแล้วพูดว่า “เราหย่ากันเถอะ ฉันไม่กล้าใช้ชีวิตร่วมกับฆาตกร ไปเสียตั้งแต่ตอนนี้เถอะ”
พูดจบเธอก็หันตัว กลับลงไปชั้นล่าง
หลัวชุนสูดลมหายใจลึก มองท้องฟ้าที่เช้าแล้ว หัวใจรู้สึกสงบอย่างน่าประหลาดใจ รีบหย่าเสียก็ดี
ทั้งสองคนนำบัตรประชาชนของตัวเองออกจากห้องตั้งแต่ยังไม่มีใครตื่น เย่ปิงหรงยื่นบัตรเครดิตใบหนึ่งให้แล้วพูดว่า “ในบัตรมีอยู่สองล้าน นายรับมันไว้แล้วออกนอกประเทศไปเถอะ แล้วไม่ต้องกลับมาอีก”
“ไม่ต้อง ผมไม่ได้คิดจะไป”หลัวชุนหันกลับมา วางเกระเป๋าไว้ที่เบาะหลัง เย่ปิงหรงพูดอย่างรีบร้องว่า “นายอย่าลืมนะว่าแม่นายสั่งไว้ว่ายังไง นายเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลหลัว ถ้านายถูกตัดสินประหารแล้วใครจะมีทายาทสืบต่อตระกูล”
มุมปากของหลัวชุนยิ้มบางๆ “บนโลกใบนี้ คนที่จะจับผมได้มีไม่กี่คน ขึ้นรถเถอะ”
เย่ปิงหรงกระทืบเท้าด้วยความโกรธ “ฉันว่าคนอย่างพวกนายมันโรคจิต คิดว่าตัวเองเป็นเทพเจ้าเหรอ” เธอขึ้นไปนั่งบนรถและปิดประตูอย่างรุนแรง โกรธจนหน้าแดงไปหมด
หลัวชุนเปิดวิทยุ ที่กำลังรายงานข่าวของเมืองนี้ “ข่าวใหญ่ของวันนี้ วันนี้ตอนหกโมงเช้า หานเคอลูกชายคนเดียวของหานจินชวนผู้มั่งคั่งของเมืองนี้เสียชีวิตแล้วในบ้านของตัวเอง เป็นการตายที่น่าสังเวชมาก สันนิธานเบื้องต้นว่าเป็นการฆาตกรรม.........”
เย่ปิงหรงสีหน้าเปลี่ยนไป รีบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คข่าว กลับพบว่าผู้จัดการของบริษัทตัวเองส่งข้อความมา “คุณเย่ จู่ๆหานเคอก็เสียชีวิตแล้ว ตายอย่างน่าอนาจมาก ฉันจะส่งรูปให้คุณดู”
เธอเปิดรูปดูก็เกือบจะอาเจียนออกมา เห็นแค่หานเคอถูกแขวนไว้กับรั้วเหล็กที่กำแพงบ้านตัวเอง ร่างกายถูกทุบตีจนหาส่วนดีไม่ได้ แม้จะเสียชีวิตแล้ว แต่ยังคงเห็นความเจ็บปวดบนใบหน้าของเขา
“นี่นายทำรึเปล่า” เย่ปิงหรงกลั้นอาเจียน ยื่นรูปไปข้างหน้าหลัวชุน หลัวชุนที่กำลังขับรถ เขาเหลือบมองและไม่พูดอะไร เย่ปิงหรงแทบไม่อยากเชื่อ เธอพูดด้วยความโกรธว่า “นายเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ได้ยังไง นายฆ่าคนได้อย่างง่ายดาย วิปริต”
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved