บทที่ 9 ลักพาตัว
by ลาวจินเหมา
11:51,Dec 14,2020
หลัวชุนหัวเราะ แต่สีหน้าไร้รอยยิ้มโดยสิ้นเชิง “หานเคอพาคนสิบเจ็ดคนไปรุมย่ำยีเสี่ยวหลินต่อหน้าสหายของผม คนพวกนี้จะถือเป็นอะไรได้อีก ทั้งคู่ทำใจให้สงบอย่างยากลำบาก เตรียมที่จะไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ที่บ้านเกิด แต่หานเหอกลับไม่ยอมเปิดทางให้เลย แบบนี้หมายความว่ายังไง ถ้าวันใดวันหนึ่งคุณต้องเจอแบบที่เสี่ยวหลินเจอล่ะ คุณยังรู้สึกว่าคนพวกนี้ไร้เดียงสาอยู่ไหม เขาเป็นอิสระมาหลายปีแล้ว ทำร้ายคนมามากเท่าไหร่คุณรู้ดีกว่าผม คนสารเลวพวกนี้ไม่มีคนจัดการ ผมจัดการเอง หานจินฉวนไม่มีใครกล้าลงโทษ ผมจะลงโทษให้เอง แม้ต้องตาย ผมก็ไม่เสียใจ”
เย่ปิงหรงตกใจกับความโกรธของเขา เธอคิดอยู่นาน และถอนหายใจยาว เธอหยิบบัตรเครดิตใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อหลัวชุนและพูดว่า “งั้นนายยิ่งต้องไม่ให้คนจับตัวได้ ฉันจะจองไฟท์บินที่เร็วที่สุดให้นาย รีบไปเถอะ”
และในตอนนี้ช่องข่าวก็ยังคงรายงานต่อ “...........ไม่พบร่องรอยหรือนิ้วมือในที่เกิดเหตุ กล้องวงจรปิดก็หยุดทำงานไปก่อนหน้านี้ ไม่มีหลักฐานอะไรเลย ตำรวจระบุว่าผู้ร้ายมีความชำนาญในการหลบหลีกการตรวจจับ คดีนี้จึงหยุดชะงัก........”
หลัวชุนพูดอย่างไม่แยแส “ผมสามารถเขาออกทำเนียบขาวได้สบายๆ ยิ่งคนพวกนี้จะเจอหลักฐานอะไรล่ะ คดีต้องว่าด้วยหลักฐาน คุณว่าไง ที่นี่เป็นสังคมที่มีกฎหมาย ไม่มีใครจะจับผมได้”
เย่ปิงหรงมองเขานิ่งๆ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเวลาผ่านไปหลายปี เธอไม่เคยเข้าใจผู้ชายคนนี้เลย
รถแล่นมาถึงประตูสำนักงานเขต
”ถึงแล้ว ลงรถเถอะ”
หลัวชุนลงจากรถแล้วเดินไปที่สำนักงานเขต และเย่ปิงหรงก็ตามเขาไป อย่างวิตกกังวล
คนมาหย่ามีไม่เยอะ ห้องโถงค่อนข้างมีความเยือกเย็น เจ้าพนักงานเป็นคุณป้าท่านหนึ่ง มองคนทั้งสองอยู่นาน โดยเฉพาะจ้องมองตาเย่ปิงหรงอยู่หลายครั้ง และถามว่า “เกิดอะไรขึ้น ภรรยาสวยขนาดนี้ ทำไมถึงจะหย่า พูดตามตรงนะ ทำงานมาตั้งหลายปี ภรรยาที่สวยๆแบบนี้ของคุณฉันเพิ่งเจอเป็นครั้งแรก ป้าแนะนำให้นะว่าควรทะนุถนอมเธอไว้”
หลัวชุนยิ้มอย่างขมขื่น แล้วเซ็นชื่อของตัวเอง พร้อมประทับลายนิ้วมือ
เย่ปิงหรงค่อนข้างลังเล เธอจับปากกาด้วยความลังเล และจู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอรับสายและฟัง สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที เธอรีบลุกขึ้นพร้อมกับพูดว่า “ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” พูดจบเธอก็วางสายไป มือเธอสั่นแรงมากจนโทรศัพท์ร่วงจากมือหลนลงพื้น
หลัวชุนรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและถามว่า “เป็นอะไร เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ”
ปิงเผิงถูกลักพาตัว” เย่ปิงหรงตกใจจนน้ำเสียงเปลี่ยนไป น้ำตาไหลมาเป็นสาย “ทำยังไงดี............”
อย่าตื่นตระหนก”หลัวชุนหยิบกระเป๋าเธอขึ้นมาแล้วลากเธอออกนอกประตูไป “เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนไหน มีเบาะแสอะไรไหม”
”ฉันไม่รู้..........เมื่อวานเธอไม่กลับมาบ้านเลยทั้งคืน น่าจะเป็นเพื่อนเหล่านั้นของเธอ ฉันก็ไม่รู้ พ่อบอกว่าเขาจะฆ่าตัวประกันถ้าไม่ได้เงินสามร้อยล้านก่อนเที่ยง” ตอนนี้เย่ปิงหรงสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สมองยุ่งเหยิงจนไหลมารวมกัน
”ถ้าต้องการเงินก็ไม่ต้องรีบร้อน”หลัวชุนจึงวางใจลงถ้าเป็นการแก้แค้นของหานจินฉวนจริงๆ แม้จะจับตัวเย่ปิงเผิงไปแล้ว ก็คงไม่ต้องการเงินง่ายๆขนาดนี้ เมื่อมองนาฬิกาแล้ว ยังเหลือเวลากว่าจะเที่ยง เขาจึงพาเย่ปิงหรงขึ้นรถแล้วพูดว่า “กลับไปแล้วค่อยพูดเถอะ”
”พวกเราแจ้งความดีไหม”เย่ปิงหรงที่อยู่ในรถสีหน้าซีดขาวมาก เธอตื่นตระหนกเหมือนแมลงวันไร้หัว
หลัวชุนคิดในใจว่าถ้าผมเจอเรื่องแบบนี้ด้วย ไม่รู้ว่าคุณจะเป็นห่วงแบบนี้ไหม ความคิดนี้แค่แวบเข้ามาเท่านั้น เขาส่งน้ำให้เธอขวดหนึ่งพร้อมพูดว่า “ดื่มน้ำให้ใจเย็นก่อน ก่อนเที่ยงเย่ปิงเผิงต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน พวกลักพาตัวพวกนี้ผมจัดการมาเยอะแล้ว แค่ให้เงินไปก็ไม่มีปัญหาแล้ว ถ้าไม่มั่นใจจัดลูกปืนให้พวกเขา วางใจเถอะ เธอจะไม่เป็นอะไร”
”จริงเหรอ” ในที่สุดสายตาเย่ปิงหรงก็มีประกายขึ้นมา มองไปที่หลัวชุนอย่างมีความหวัง
หลัวชุนสบตาเธอ แล้วใจอ่อน ยื่นมือไปกุมมือเธอไว้และพูดว่า “แน่นอน”เย่ปิงหรงรู้สึกว่ามือที่เย็นเฉียบของเธอก็อบอุ่นขึ้นในทันที ราวกับว่าเรือที่ลอยเคว้งอยู่สามารถเข้าจอดเทียบท่าได้ “ขอบคุณนะ ขอบคุณ”
เมื่อรู้ว่าหลัวชุนต่อสู้ในสนามรบมา บางทีเรื่องแบบนี้เขาคนเดียวก็แก้ไขได้
ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเธอต้องการผู้ชายคนนี้มาก เธออธิษฐานในใจว่าขอแค่ให้น้องสาวปลอดภัย ตัวเองไม่ได้หย่าก็ไม่เป็นไร
ไม่นานรถก็แล่นมาถึงหน้าคฤหาสน์ ทั้งสองคนเพิ่งจะลงจากรถก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังออกมา เมื่อเข้าไปในบ้านก็พบว่าถางฉานกำลังนั่งร้องไห้ไม่หยุดอยู่บนโซฟา “เป็นเพราะคุณ คุณต้องใส่ใจลูก ไม่งั้นลูกจะถูกลักพาตัวไปไหม”
เย่ไท่ด่ากลับ “ยังไม่โทษตัวเองอีกเหรอผมตีเธอไปกี่ครั้งแต่เธอก็ไม่จำ กลับยังไปอยู่กับพวกเพื่อนไร้สาระพวกนั้น ตอนนี้เป็นไง ถูกลักพาตัวไปแล้ว แบบนี้จะได้ให้เธอจดจำไปนานๆ”
”ฉันไม่สน ฉันต้องการแค่ลูกสาวของฉัน”ถางฉานร้องห่มร้องไห้ ไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น
หลัวชุนส่ายหน้า และถามว่า “เตรียมเงินไว้รึยังครับ แจ้งตำรวจรึเปล่า”
เมื่อเห็นหลัวชุน เย่ไท่ก็สงบลงเล็กน้อย “ต้องไปถอนเงินก่อน สามร้อยล้านไม่ใช้เงินจำนวนน้อยๆ แล้วก็ไม่กล้าแจ้งความด้วย ฉันกลัวว่าหานจินฉวนจะทำให้เสียไปเสียก่อน ฉันจะเอาเงินไปให้ด้วยตัวเอง เอาระเบิดไปด้วย ถ้าพวกมันกล้าทำอะไรลูกสาวฉัน กูจะตายไปพร้อมกับมันเอง”
เย่ไท่ก็เป็นทหาร หนังเหนียว กลัวว่าจะกล้าทำเรื่องนี้ขึ้นมาจริงๆ หลัวชุนจึงพูดด้วยเสียงด้วยรอยยิ้มจางๆว่า “ไม่ต้องครับ คุณลุงแค่ส่งเงินมาก็พอแล้ว ส่งหน้าที่นี้มาให้ผม ผมรับรองว่าเย่ปิงเผิงจะกลับมาอย่างปลอดภัย
สิบเอ็ดนาฬิกา เงินทั้งหมดถูกนำมาไว้ที่คฤหาสน์ตระกูลเย่เก็บไว้เต็มรถขนาดเล็ก
เงินก็เตรียมพร้อมแล้ว เย่ไท่มองตาภรรยาและลูกสาวตัวเอง สายตาสับสนมาก เขาลูบหัวเย่ปิงหรงและพูดว่า “ถ้าพ่อไม่กลับมา ลูกต้องดูแลแม่ของลูกให้ดีเข้าใจไหม”
เย่ปิงหรงร้องไห้ออกมาทันที ส่ายหน้าและพูดว่า “ไม่ ฉันอยากให้พวกคุณปลอดภัยกลับมา”
เย่ไท่ถอนหายใจ เดินกลับไปที่รถขนาดเล็ก เขาทำได้แค่ขับรถไปส่งเงินด้วยตัวเอง
หลัวชุนก็ขับรถอีกคัน เตรียมที่จะตามอย่างห่างๆ
ก่อนไปเย่ปิงหรงออกมายืนข้างหน้าต่าง ดวงตาแดงก่ำ เธอพูดสิ่งที่ไม่เคยได้พูดออกมา กัดปากตัวเองแล้วพูดว่า “นายดูแลตัวเองกด้วยนะ ถ้าทำอะไรไม่ได้ก็อย่าฝืนนะ”
ถางฉานที่ยืนอยู่ข้างๆก็พูดต่อ “เสี่ยวชุน นายต้องช่วยปิงเผิงกลับมาให้ได้นะ”
”ทำอาหารดีๆไว้รอพวกเราได้เลย” หลัวชุนยิ้ม เหยียบคันเร่ง ตามหลังรถเย่ไท่ไป
สำหรับเรื่องนี้ในใจเขาไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่อง เมื่อเทียบกับชีวิตที่สิ้นหวังในตะวันออกกลางแล้ว พวกการลักพาตัวก็ไม่ต่างอะไรกับพวกนักเลง
รถของเย่ไท่ที่อยู่ด้านหน้าค่อยๆขับไปในชานเมือง รถบนถนนยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ หลัวชุนไม่สามารถติดตามเขาอย่างใกล้ชิดเกินไปได้ โดยปกติถ้าอยู่ห่างจากกันสองกิโล ฝ่ายตรงข้ามคงไม่คิดว่าจะมีรถอะไรที่ตามมาด้วยระยะทางที่ไกลอย่างนั้น
ไม่นานรถตู้คันสีดำก็ขับเข้ามาขวางทาง บอกให้เย่ไท่หยุดรถ ไอ้โม่งหลายคนลงมาจากรถแล้วมองไปรอบๆด้วยความตื่นตัว และไม่เห็นรถของหลัวชุน
คนพวกนั้นหยิบปืนและไล่เย่ไท่ลงไปอยู่ในรถอีกคัน และขับรถบรรทุกเงินขับออกไป
เย่ปิงหรงตกใจกับความโกรธของเขา เธอคิดอยู่นาน และถอนหายใจยาว เธอหยิบบัตรเครดิตใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อหลัวชุนและพูดว่า “งั้นนายยิ่งต้องไม่ให้คนจับตัวได้ ฉันจะจองไฟท์บินที่เร็วที่สุดให้นาย รีบไปเถอะ”
และในตอนนี้ช่องข่าวก็ยังคงรายงานต่อ “...........ไม่พบร่องรอยหรือนิ้วมือในที่เกิดเหตุ กล้องวงจรปิดก็หยุดทำงานไปก่อนหน้านี้ ไม่มีหลักฐานอะไรเลย ตำรวจระบุว่าผู้ร้ายมีความชำนาญในการหลบหลีกการตรวจจับ คดีนี้จึงหยุดชะงัก........”
หลัวชุนพูดอย่างไม่แยแส “ผมสามารถเขาออกทำเนียบขาวได้สบายๆ ยิ่งคนพวกนี้จะเจอหลักฐานอะไรล่ะ คดีต้องว่าด้วยหลักฐาน คุณว่าไง ที่นี่เป็นสังคมที่มีกฎหมาย ไม่มีใครจะจับผมได้”
เย่ปิงหรงมองเขานิ่งๆ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเวลาผ่านไปหลายปี เธอไม่เคยเข้าใจผู้ชายคนนี้เลย
รถแล่นมาถึงประตูสำนักงานเขต
”ถึงแล้ว ลงรถเถอะ”
หลัวชุนลงจากรถแล้วเดินไปที่สำนักงานเขต และเย่ปิงหรงก็ตามเขาไป อย่างวิตกกังวล
คนมาหย่ามีไม่เยอะ ห้องโถงค่อนข้างมีความเยือกเย็น เจ้าพนักงานเป็นคุณป้าท่านหนึ่ง มองคนทั้งสองอยู่นาน โดยเฉพาะจ้องมองตาเย่ปิงหรงอยู่หลายครั้ง และถามว่า “เกิดอะไรขึ้น ภรรยาสวยขนาดนี้ ทำไมถึงจะหย่า พูดตามตรงนะ ทำงานมาตั้งหลายปี ภรรยาที่สวยๆแบบนี้ของคุณฉันเพิ่งเจอเป็นครั้งแรก ป้าแนะนำให้นะว่าควรทะนุถนอมเธอไว้”
หลัวชุนยิ้มอย่างขมขื่น แล้วเซ็นชื่อของตัวเอง พร้อมประทับลายนิ้วมือ
เย่ปิงหรงค่อนข้างลังเล เธอจับปากกาด้วยความลังเล และจู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอรับสายและฟัง สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที เธอรีบลุกขึ้นพร้อมกับพูดว่า “ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” พูดจบเธอก็วางสายไป มือเธอสั่นแรงมากจนโทรศัพท์ร่วงจากมือหลนลงพื้น
หลัวชุนรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและถามว่า “เป็นอะไร เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ”
ปิงเผิงถูกลักพาตัว” เย่ปิงหรงตกใจจนน้ำเสียงเปลี่ยนไป น้ำตาไหลมาเป็นสาย “ทำยังไงดี............”
อย่าตื่นตระหนก”หลัวชุนหยิบกระเป๋าเธอขึ้นมาแล้วลากเธอออกนอกประตูไป “เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนไหน มีเบาะแสอะไรไหม”
”ฉันไม่รู้..........เมื่อวานเธอไม่กลับมาบ้านเลยทั้งคืน น่าจะเป็นเพื่อนเหล่านั้นของเธอ ฉันก็ไม่รู้ พ่อบอกว่าเขาจะฆ่าตัวประกันถ้าไม่ได้เงินสามร้อยล้านก่อนเที่ยง” ตอนนี้เย่ปิงหรงสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สมองยุ่งเหยิงจนไหลมารวมกัน
”ถ้าต้องการเงินก็ไม่ต้องรีบร้อน”หลัวชุนจึงวางใจลงถ้าเป็นการแก้แค้นของหานจินฉวนจริงๆ แม้จะจับตัวเย่ปิงเผิงไปแล้ว ก็คงไม่ต้องการเงินง่ายๆขนาดนี้ เมื่อมองนาฬิกาแล้ว ยังเหลือเวลากว่าจะเที่ยง เขาจึงพาเย่ปิงหรงขึ้นรถแล้วพูดว่า “กลับไปแล้วค่อยพูดเถอะ”
”พวกเราแจ้งความดีไหม”เย่ปิงหรงที่อยู่ในรถสีหน้าซีดขาวมาก เธอตื่นตระหนกเหมือนแมลงวันไร้หัว
หลัวชุนคิดในใจว่าถ้าผมเจอเรื่องแบบนี้ด้วย ไม่รู้ว่าคุณจะเป็นห่วงแบบนี้ไหม ความคิดนี้แค่แวบเข้ามาเท่านั้น เขาส่งน้ำให้เธอขวดหนึ่งพร้อมพูดว่า “ดื่มน้ำให้ใจเย็นก่อน ก่อนเที่ยงเย่ปิงเผิงต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน พวกลักพาตัวพวกนี้ผมจัดการมาเยอะแล้ว แค่ให้เงินไปก็ไม่มีปัญหาแล้ว ถ้าไม่มั่นใจจัดลูกปืนให้พวกเขา วางใจเถอะ เธอจะไม่เป็นอะไร”
”จริงเหรอ” ในที่สุดสายตาเย่ปิงหรงก็มีประกายขึ้นมา มองไปที่หลัวชุนอย่างมีความหวัง
หลัวชุนสบตาเธอ แล้วใจอ่อน ยื่นมือไปกุมมือเธอไว้และพูดว่า “แน่นอน”เย่ปิงหรงรู้สึกว่ามือที่เย็นเฉียบของเธอก็อบอุ่นขึ้นในทันที ราวกับว่าเรือที่ลอยเคว้งอยู่สามารถเข้าจอดเทียบท่าได้ “ขอบคุณนะ ขอบคุณ”
เมื่อรู้ว่าหลัวชุนต่อสู้ในสนามรบมา บางทีเรื่องแบบนี้เขาคนเดียวก็แก้ไขได้
ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเธอต้องการผู้ชายคนนี้มาก เธออธิษฐานในใจว่าขอแค่ให้น้องสาวปลอดภัย ตัวเองไม่ได้หย่าก็ไม่เป็นไร
ไม่นานรถก็แล่นมาถึงหน้าคฤหาสน์ ทั้งสองคนเพิ่งจะลงจากรถก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังออกมา เมื่อเข้าไปในบ้านก็พบว่าถางฉานกำลังนั่งร้องไห้ไม่หยุดอยู่บนโซฟา “เป็นเพราะคุณ คุณต้องใส่ใจลูก ไม่งั้นลูกจะถูกลักพาตัวไปไหม”
เย่ไท่ด่ากลับ “ยังไม่โทษตัวเองอีกเหรอผมตีเธอไปกี่ครั้งแต่เธอก็ไม่จำ กลับยังไปอยู่กับพวกเพื่อนไร้สาระพวกนั้น ตอนนี้เป็นไง ถูกลักพาตัวไปแล้ว แบบนี้จะได้ให้เธอจดจำไปนานๆ”
”ฉันไม่สน ฉันต้องการแค่ลูกสาวของฉัน”ถางฉานร้องห่มร้องไห้ ไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น
หลัวชุนส่ายหน้า และถามว่า “เตรียมเงินไว้รึยังครับ แจ้งตำรวจรึเปล่า”
เมื่อเห็นหลัวชุน เย่ไท่ก็สงบลงเล็กน้อย “ต้องไปถอนเงินก่อน สามร้อยล้านไม่ใช้เงินจำนวนน้อยๆ แล้วก็ไม่กล้าแจ้งความด้วย ฉันกลัวว่าหานจินฉวนจะทำให้เสียไปเสียก่อน ฉันจะเอาเงินไปให้ด้วยตัวเอง เอาระเบิดไปด้วย ถ้าพวกมันกล้าทำอะไรลูกสาวฉัน กูจะตายไปพร้อมกับมันเอง”
เย่ไท่ก็เป็นทหาร หนังเหนียว กลัวว่าจะกล้าทำเรื่องนี้ขึ้นมาจริงๆ หลัวชุนจึงพูดด้วยเสียงด้วยรอยยิ้มจางๆว่า “ไม่ต้องครับ คุณลุงแค่ส่งเงินมาก็พอแล้ว ส่งหน้าที่นี้มาให้ผม ผมรับรองว่าเย่ปิงเผิงจะกลับมาอย่างปลอดภัย
สิบเอ็ดนาฬิกา เงินทั้งหมดถูกนำมาไว้ที่คฤหาสน์ตระกูลเย่เก็บไว้เต็มรถขนาดเล็ก
เงินก็เตรียมพร้อมแล้ว เย่ไท่มองตาภรรยาและลูกสาวตัวเอง สายตาสับสนมาก เขาลูบหัวเย่ปิงหรงและพูดว่า “ถ้าพ่อไม่กลับมา ลูกต้องดูแลแม่ของลูกให้ดีเข้าใจไหม”
เย่ปิงหรงร้องไห้ออกมาทันที ส่ายหน้าและพูดว่า “ไม่ ฉันอยากให้พวกคุณปลอดภัยกลับมา”
เย่ไท่ถอนหายใจ เดินกลับไปที่รถขนาดเล็ก เขาทำได้แค่ขับรถไปส่งเงินด้วยตัวเอง
หลัวชุนก็ขับรถอีกคัน เตรียมที่จะตามอย่างห่างๆ
ก่อนไปเย่ปิงหรงออกมายืนข้างหน้าต่าง ดวงตาแดงก่ำ เธอพูดสิ่งที่ไม่เคยได้พูดออกมา กัดปากตัวเองแล้วพูดว่า “นายดูแลตัวเองกด้วยนะ ถ้าทำอะไรไม่ได้ก็อย่าฝืนนะ”
ถางฉานที่ยืนอยู่ข้างๆก็พูดต่อ “เสี่ยวชุน นายต้องช่วยปิงเผิงกลับมาให้ได้นะ”
”ทำอาหารดีๆไว้รอพวกเราได้เลย” หลัวชุนยิ้ม เหยียบคันเร่ง ตามหลังรถเย่ไท่ไป
สำหรับเรื่องนี้ในใจเขาไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่อง เมื่อเทียบกับชีวิตที่สิ้นหวังในตะวันออกกลางแล้ว พวกการลักพาตัวก็ไม่ต่างอะไรกับพวกนักเลง
รถของเย่ไท่ที่อยู่ด้านหน้าค่อยๆขับไปในชานเมือง รถบนถนนยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ หลัวชุนไม่สามารถติดตามเขาอย่างใกล้ชิดเกินไปได้ โดยปกติถ้าอยู่ห่างจากกันสองกิโล ฝ่ายตรงข้ามคงไม่คิดว่าจะมีรถอะไรที่ตามมาด้วยระยะทางที่ไกลอย่างนั้น
ไม่นานรถตู้คันสีดำก็ขับเข้ามาขวางทาง บอกให้เย่ไท่หยุดรถ ไอ้โม่งหลายคนลงมาจากรถแล้วมองไปรอบๆด้วยความตื่นตัว และไม่เห็นรถของหลัวชุน
คนพวกนั้นหยิบปืนและไล่เย่ไท่ลงไปอยู่ในรถอีกคัน และขับรถบรรทุกเงินขับออกไป
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved