บทที่ 2 แม่ผู้ล่วงลับถูกดูถูก
by ลาวจินเหมา
11:51,Dec 14,2020
เมื่อเห็นว่าสายตาของหลัวชุนมีแววตาอาฆาตแค้น เขารู้สึกว่าไอ้คนบ้านี่ต้องการที่จะฆ่าเขาจริงๆ เขาจึงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว พลางคุกเข่าลงบนพื้นและขอโทษ: "ขอโทษ ขอโทษ"
หลัวชุนแตะเขาออกไปและพูดอย่างเหยียดหยาม "คนที่เป็นเหมือนขยะ ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมงานแต่งงานของผม ไสหัวไป"
หานเคอและคนของเขารีบหนีออกไปนอกประตู
บรรยากาศงานแต่งงานกลับสู่ความเงียบ ไม่มีใครคิดว่าเจ้าบ่าวที่ดูเหมือนจะถูกรังแกได้ง่ายจะระเบิดอารมณ์ที่ดุเดือดออกมา
หลัวชุนมองกลับไปที่แขกทุกคนและพูด "ผมเป็นคนไม่ค่อยสุภาพ และไม่เข้าใจการเสแสร้งเป็นสุภาพ ใครให้ความสำคัญกับผม ผมจะชนแก้วกับทุกคน แต่ใครดูถูกผม ก็อย่ามาสร้างความวุ่นวาย"
ต่อมาการชนแก้วก็ราบรื่นขึ้นเยอะ ทุกคนไม่กล้าที่จะดูถูกเขาอีก และดื่มไวน์ในมือจนหมด
สามีภรรยาตระกูลเย่ที่นั่งอยู่ห่างออกไปเริ่มมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน แม่ยายถางฉานมีสีหน้าขรึม มองเย่ไท่และพูดว่า “ไปบาดหมางกับหานเคอ เขาจะต้องกลับมาแก้แค้นแน่นอน ทำไมหลัวชุนต้องมาสร้างความเดือดร้อนด้วย ต่อไปคงต้องมีเรื่องยุ่งตามมาอีกแน่
เย่ไท่กล่าวอย่างเย็นชา "ตอนนั้นถ้าผมไม่ถูกหานจินฉวนหักหลังแย่งธุรกิจแรกไป จะเป็นเหมือนวันนี้ไหม ผู้ชายต้องกล้าหาญและไม่เป็นคนขี้ขลาด คุณนี่มีความคิดที่ไร้วิสัยทัศน์จริงๆเลย"
"คุณ……"
..............
งานแต่งงานสิ้นสุดลงในช่วงบ่าย แขกในงานต่างก็แยกย้ายกันกลับ เหล่าญาพี่น้องและเพื่อนสนิทตามมาที่คฤหาสน์ตระกูลเย่ที่ตงซาน เพื่อพูดคุยกับเย่ปิงหรงต่อ
หลัวชุนไม่สามารถสนทนากับคนเหล่านั้นได้ เขาจึงไปพูดคุยและดื่มกับหลี่ผิงและภรรยาของหลี่ผิง
ท้องฟ้ามืดลงอย่างรวดเร็ว เพื่อนสนิทและญาติก็ทยอยกลับ หลัวชุนดื่มเหล้าเข้าไป จึงรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว เขาเดินโซซัดโซเซไปถึงหน้าประตูห้องหอ แล้วจึงผลักประตูเข้าไป แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นเย่ปิงหรงกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า เรือนร่างของเธอแสดงต่อหน้าเขา เอวของเธอที่คอด สะโพกของเธอที่กลมมน...............
"ว้าย!" เย่ปิงหรงตกใจมาก รีบหยิบเสื้อมาปกปิดร่างกายของเธอ และพูดด้วยความโกรธ "ใครให้คุณเข้ามา ออกไปเดี๋ยวนี้"
เดิมทีหลัวชุนยังมีความสนใจและชื่นชมเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเธอ หลัวชุนก็ขมวดคิ้วและพูดว่า "นี่คือห้องหอของเรา ไม่ให้ผมนอนที่นี่จะให้ผมไปนอนที่ไหน"
เย่ปิงหรงตอบกลับอย่างเย็นชาว่า "จะไปนอนที่ไหนก็ไม่เกี่ยวกับฉัน แต่ต่อไปห้ามเข้ามาในห้องฉันตามต้องอำเภอใจอีก และอย่ามาแตะต้องตัวฉันด้วย ไม่งั้นฉันจะหย่าทันที"
หลัวชุนปิดประตูเสียงดัง หันตัวกลับและเดินขึ้นไปบนดาดฟ้า
สายลมยามค่ำคืนทำให้เขามีสติ และคิดว่าในเมื่อเย่ปิงหรงไม่ชอบเขา ในอนาคตเธอต้องฟ้องหย่าอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นลุงเย่ก็คงจะไม่เศร้าเกินไป ในขณะเดียวกันก็ไม่ถือว่าเขาขัดใจความประสงค์สุดท้ายของแม่
พอเรื่องนี้จบ เขาก็จะไปร่อนเร่ให้สุดขอบฟ้า เป็นอิสระไม่มีข้อผูกมัดกับใคร
สิ่งเดียวที่เสียใจคือในการกระทำครั้งล่าสุดเมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว เขาสูญเสีย “ตาพันลี้”ของเขาไป
ตั้งแต่เขายังเด็ก หลัวชุนพบว่าสายตาของเขาดีกว่าคนทั่วไปมาก เขาสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆได้ในระยะไกล ต่อมาได้เข้าร่วมกองทัพและได้อยู่ในทีมพิเศษ หลังจากการฝึกร่วมสองปี เขาถูกส่งไปรบในสมรภูมิรบที่ต่างประเทศ เขาถือปืนไรเฟิลกวาดไปทั่วสมรภูมิรบตะวันออกกลาง จนถูกขนานนามว่า "มือปืนผี"
ในระหว่างภารกิจคุ้มกันเมื่อสองเดือนก่อน เขาบังเอิญได้สัมผัสลูกบอลสีเหลืองขนาดเล็กในภารกิจที่คุ้มกันอยู่ แรงระเบิดพุ่งเข้าสู่ร่างกายของเขา และถูกดูดซึมไปอยู่ที่ท้องน้อยใต้สะดือของเขาอย่างรวดเร็ว ความแข็งแกร่งของเขาได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก และสายตาที่มองเห็นได้พันลี้ของเขาก็ลดประสิทธิภาพลงอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความสิ้นหวัง เขาทำได้เพียงเกษียณและกลับประเทศ
ลูกบอลสีเหลืองนั่นคืออะไร พลังงานที่ดูดเข้าไปในช่องท้องส่วนล่างของตัวเองคืออะไร
เขาอดไม่ได้ที่จะสัมผัสตำแหน่งของท้อง ซึ่งยังคงมีความรู้สึกอบอุ่นราวกับว่ามีมวลอากาศกระพือปีกอยู่
เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว หลัวชุนรู้สึกถึงความสงบในใจ ทันใดนั้นกระแสลมในช่องท้องก็แผ่กระจายตามช่องท้องส่วนล่างไปยังทุกส่วนของร่างกาย
เขาไม่เคยมีความรู้สึกแปลก ๆ เช่นนี้มาก่อน และกระแสลมอุ่น ๆ ก็ไหลผ่านร่างกายของเขาทันที เมื่อกระแสลมไหลผ่านดวงตาของเขา เขารู้สึกว่าตาของเขาสว่างขึ้นทันที และเขาสามารถมองเห็นแมงกุดจี่ในสนามหญ้าด้านล่างได้อย่างชัดเจน ความรู้สึกที่คุ้นเคยนี้ทำให้เขาประหลาดใจ
หลัวชุนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวตลอดทั้งคืน จนกระทั้งดวงดาวหายไปในยามรุ่งสาง เขาถึงได้หยุดมอง เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นเป็นร้อยเท่า เขาสามารถมองเห็นยุงได้อย่างชัดเจนจากระยะทางหนึ่งร้อยเมตร และร่างกายของเขาก็แข็งแรงกว่าเดิม นี่คือผลของการไหลเวียนของอากาศในช่องท้องส่วนล่างของเขา
หลัวชุนรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่เขาไม่คิดว่าครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดีได้ เขาไม่รู้ว่าพลังงานนั้นจะทำอะไรให้เขาประหลาดใจอีกในอนาคต
เมื่อเห็นว่าท้องฟ้าสว่างแล้ว หลัวชุนจึงหันหลังกลับลงไปชั้นล่าง เตรียมตัวอาบน้ำแล้วเดินทางไปเยี่ยมหลุมศพของแม่ แต่เมื่อกลับมาที่ห้องน้ำก็เห็นเรือนร่างที่สวยงามของสาวสวยคนหนึ่ง เธอสวมเสื้อชั้นในซึ่งมีความโปร่ง
แสงเล็กน้อย เมื่อมองอีกครั้งถึงได้รู้ว่าเป็นเย่ปิงเผิงน้องสาวภรรยาของเขา
เธอไม่เคยคุยกับหลัวชุน เมื่อวานก็ไม่ได้ร่วมงานแต่งงานด้วย แต่ไปสังสรรค์อยู่กับพวกเพื่อนที่ไม่ได้เรื่อง หลังจากเห็นหลัวชุนก็ไม่ได้คุยกัน แค่ปลายสายตามองเขาเท่านั้น
หลัวชุนขี้เกียจที่จะถือสา หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เย่ไท่ก็ลุกขึ้นและพูดว่า "วันนี้เป็นวันครบรอบการตายของแม่หลัวชุน ทุกคนมีภารกิจอะไรให้พักไว้ก่อน เราจะไปกวาดสุสานด้วยกัน เย่ปิงเผิง ถ้าพ่อยังไม่เห็นเงาแกอีก กลับมาพ่อจะตัดขาแกทิ้ง"
"พูดอย่างนั้นได้ยังไง ลูกๆ โตแล้ว จะมาตัดขาอะไร กับแค่แม่ของโจร......."ถางเฉินก็ยังพูดไม่หยุด หลัวชุนเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ขนของขึ้นรอบนรถรถ
เมื่อเย่ปิงเผิงขึ้นรถมาก็หัวเราะทันที และพูดว่า "โอ้โห นายแต่งตัวเป็นทางการมาก ตอนแม่ของนายตายทำไมไม่เห็นหน้านายเลย ตอนนี้มาเสแสร้งทำสิ่งนี้มันมีประโยชน์อะไรไหม"
เดิมทีหลัวชุนก็อารมณ์ไม่ดี เมื่อได้ยินประโยคนี้เขาก็รู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม
ในตอนนั้นเนื่องจากเขาต้องปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่สามารถกลับประเทศมาได้ แม้แต่ใบหน้าสุดท้ายของแม่ เขาก็ไม่ได้เห็น เขานึกโทษตัวเองในใจและไม่ได้ตอบโต้กับคำพูดของเย่ปิงเผิง แต่ดวงตาของเขากลับแดงขึ้นมา
หลัวชุนขับรถมาจอดที่นอกสุสาน ที่นี่เงียบสงบ ไม่มีใครเลยสักคน และเมื่อเข้าไปในสุสาน ก็ยิ่งรู้สึกเศร้าสลดใจ
ในที่สุดก็เดินไปถึงหน้าหลุมฝังศพของแม่ เมื่อเห็นรูปถ่ายรอยยิ้มอันสดใสของเธอบนนั้น หลัวชุนคุกเข่าบนพื้น และอดไม่ได้ที่จะคิดถึงฉากในตอนเด็กที่แม่ของเขากำลังอุ้มตัวเองเพื่อเล่านิทานให้ฟัง แล้วน้ำตาก็ไหลพรากเอ่อล้นออกมา
ครอบครัวเย่ไท่เงียบไม่พูดอะไร
มากมาที่นี่ เขาจึงขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
"ไอ้ย่า นี่ใช่หลัวชุนลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ของตระกูลเย่รึเปล่า บังเอิญจริงๆ" หานเคอพูดแสยะยิ้ม
เย่ไท่จ้องมองเขาและพูดว่า "ไอ้หนุ่ม วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของแม่หลัวชุน ทางที่ดีนายอย่าสร้างปัญหาจะดีกว่า"
"ลุงเย่เอาแต่ใจจังเลยนะครับ ลุงต้องการปกป้องลูกเขยไร้ประโยชน์คนนี้เหรอ "
หานเคอยิ้มเยาะเย้ย มองไปที่เย่ปิงหรงและพูดว่า “ คุณสวยและหุ่นดีมากขนาดนี้ ทำไมคุณถึงแต่งงานกับทหารขี้เหร่ๆอย่างเขา ถ้าคุณแต่งงานกับผม ครอบครัวของเราสองคนผนึกกำลังกัน และต่อไปก็ไม่ต้องกลัวใครในเมืองตงเหอนี้อีก"
"นายพูดอะไรให้เกียรติฉันด้วย ถ้าไม่มีธุระอะไรก็ไสหัวไป" เย่ไท่พูดอย่างโมโห
"มีธุระน่ะ มีแน่นอน" ใบหน้าของหานเคอค่อยๆขรึมขึ้น เขาเหลือบมองไปที่หลัวชุนที่คุกเขาอยู่บนพื้นและพร้อมพูดว่า "โถ่ แม่ตายแล้วเหรอ แล้วเป็นอะไรตายล่ะ”
หลัวชุนทำเป็นหูหนวก เขาได้แต่มองไปที่หลุมศพ
"แม่ง คุณชายหานถามมึงอยู่นะ" บอดี้การ์ดคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆเขา แตะเครื่องไหว้ทั้งหมดที่อยู่หน้าหลุมฝังศพ ผลไม้กลิ้งไปทั่วพื้น ถ้วยชาก็ร่วงลงเกลื่อนพื้น
หลัวชุนแตะเขาออกไปและพูดอย่างเหยียดหยาม "คนที่เป็นเหมือนขยะ ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมงานแต่งงานของผม ไสหัวไป"
หานเคอและคนของเขารีบหนีออกไปนอกประตู
บรรยากาศงานแต่งงานกลับสู่ความเงียบ ไม่มีใครคิดว่าเจ้าบ่าวที่ดูเหมือนจะถูกรังแกได้ง่ายจะระเบิดอารมณ์ที่ดุเดือดออกมา
หลัวชุนมองกลับไปที่แขกทุกคนและพูด "ผมเป็นคนไม่ค่อยสุภาพ และไม่เข้าใจการเสแสร้งเป็นสุภาพ ใครให้ความสำคัญกับผม ผมจะชนแก้วกับทุกคน แต่ใครดูถูกผม ก็อย่ามาสร้างความวุ่นวาย"
ต่อมาการชนแก้วก็ราบรื่นขึ้นเยอะ ทุกคนไม่กล้าที่จะดูถูกเขาอีก และดื่มไวน์ในมือจนหมด
สามีภรรยาตระกูลเย่ที่นั่งอยู่ห่างออกไปเริ่มมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน แม่ยายถางฉานมีสีหน้าขรึม มองเย่ไท่และพูดว่า “ไปบาดหมางกับหานเคอ เขาจะต้องกลับมาแก้แค้นแน่นอน ทำไมหลัวชุนต้องมาสร้างความเดือดร้อนด้วย ต่อไปคงต้องมีเรื่องยุ่งตามมาอีกแน่
เย่ไท่กล่าวอย่างเย็นชา "ตอนนั้นถ้าผมไม่ถูกหานจินฉวนหักหลังแย่งธุรกิจแรกไป จะเป็นเหมือนวันนี้ไหม ผู้ชายต้องกล้าหาญและไม่เป็นคนขี้ขลาด คุณนี่มีความคิดที่ไร้วิสัยทัศน์จริงๆเลย"
"คุณ……"
..............
งานแต่งงานสิ้นสุดลงในช่วงบ่าย แขกในงานต่างก็แยกย้ายกันกลับ เหล่าญาพี่น้องและเพื่อนสนิทตามมาที่คฤหาสน์ตระกูลเย่ที่ตงซาน เพื่อพูดคุยกับเย่ปิงหรงต่อ
หลัวชุนไม่สามารถสนทนากับคนเหล่านั้นได้ เขาจึงไปพูดคุยและดื่มกับหลี่ผิงและภรรยาของหลี่ผิง
ท้องฟ้ามืดลงอย่างรวดเร็ว เพื่อนสนิทและญาติก็ทยอยกลับ หลัวชุนดื่มเหล้าเข้าไป จึงรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว เขาเดินโซซัดโซเซไปถึงหน้าประตูห้องหอ แล้วจึงผลักประตูเข้าไป แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นเย่ปิงหรงกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า เรือนร่างของเธอแสดงต่อหน้าเขา เอวของเธอที่คอด สะโพกของเธอที่กลมมน...............
"ว้าย!" เย่ปิงหรงตกใจมาก รีบหยิบเสื้อมาปกปิดร่างกายของเธอ และพูดด้วยความโกรธ "ใครให้คุณเข้ามา ออกไปเดี๋ยวนี้"
เดิมทีหลัวชุนยังมีความสนใจและชื่นชมเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเธอ หลัวชุนก็ขมวดคิ้วและพูดว่า "นี่คือห้องหอของเรา ไม่ให้ผมนอนที่นี่จะให้ผมไปนอนที่ไหน"
เย่ปิงหรงตอบกลับอย่างเย็นชาว่า "จะไปนอนที่ไหนก็ไม่เกี่ยวกับฉัน แต่ต่อไปห้ามเข้ามาในห้องฉันตามต้องอำเภอใจอีก และอย่ามาแตะต้องตัวฉันด้วย ไม่งั้นฉันจะหย่าทันที"
หลัวชุนปิดประตูเสียงดัง หันตัวกลับและเดินขึ้นไปบนดาดฟ้า
สายลมยามค่ำคืนทำให้เขามีสติ และคิดว่าในเมื่อเย่ปิงหรงไม่ชอบเขา ในอนาคตเธอต้องฟ้องหย่าอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นลุงเย่ก็คงจะไม่เศร้าเกินไป ในขณะเดียวกันก็ไม่ถือว่าเขาขัดใจความประสงค์สุดท้ายของแม่
พอเรื่องนี้จบ เขาก็จะไปร่อนเร่ให้สุดขอบฟ้า เป็นอิสระไม่มีข้อผูกมัดกับใคร
สิ่งเดียวที่เสียใจคือในการกระทำครั้งล่าสุดเมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว เขาสูญเสีย “ตาพันลี้”ของเขาไป
ตั้งแต่เขายังเด็ก หลัวชุนพบว่าสายตาของเขาดีกว่าคนทั่วไปมาก เขาสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆได้ในระยะไกล ต่อมาได้เข้าร่วมกองทัพและได้อยู่ในทีมพิเศษ หลังจากการฝึกร่วมสองปี เขาถูกส่งไปรบในสมรภูมิรบที่ต่างประเทศ เขาถือปืนไรเฟิลกวาดไปทั่วสมรภูมิรบตะวันออกกลาง จนถูกขนานนามว่า "มือปืนผี"
ในระหว่างภารกิจคุ้มกันเมื่อสองเดือนก่อน เขาบังเอิญได้สัมผัสลูกบอลสีเหลืองขนาดเล็กในภารกิจที่คุ้มกันอยู่ แรงระเบิดพุ่งเข้าสู่ร่างกายของเขา และถูกดูดซึมไปอยู่ที่ท้องน้อยใต้สะดือของเขาอย่างรวดเร็ว ความแข็งแกร่งของเขาได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก และสายตาที่มองเห็นได้พันลี้ของเขาก็ลดประสิทธิภาพลงอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความสิ้นหวัง เขาทำได้เพียงเกษียณและกลับประเทศ
ลูกบอลสีเหลืองนั่นคืออะไร พลังงานที่ดูดเข้าไปในช่องท้องส่วนล่างของตัวเองคืออะไร
เขาอดไม่ได้ที่จะสัมผัสตำแหน่งของท้อง ซึ่งยังคงมีความรู้สึกอบอุ่นราวกับว่ามีมวลอากาศกระพือปีกอยู่
เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว หลัวชุนรู้สึกถึงความสงบในใจ ทันใดนั้นกระแสลมในช่องท้องก็แผ่กระจายตามช่องท้องส่วนล่างไปยังทุกส่วนของร่างกาย
เขาไม่เคยมีความรู้สึกแปลก ๆ เช่นนี้มาก่อน และกระแสลมอุ่น ๆ ก็ไหลผ่านร่างกายของเขาทันที เมื่อกระแสลมไหลผ่านดวงตาของเขา เขารู้สึกว่าตาของเขาสว่างขึ้นทันที และเขาสามารถมองเห็นแมงกุดจี่ในสนามหญ้าด้านล่างได้อย่างชัดเจน ความรู้สึกที่คุ้นเคยนี้ทำให้เขาประหลาดใจ
หลัวชุนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวตลอดทั้งคืน จนกระทั้งดวงดาวหายไปในยามรุ่งสาง เขาถึงได้หยุดมอง เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นเป็นร้อยเท่า เขาสามารถมองเห็นยุงได้อย่างชัดเจนจากระยะทางหนึ่งร้อยเมตร และร่างกายของเขาก็แข็งแรงกว่าเดิม นี่คือผลของการไหลเวียนของอากาศในช่องท้องส่วนล่างของเขา
หลัวชุนรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่เขาไม่คิดว่าครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดีได้ เขาไม่รู้ว่าพลังงานนั้นจะทำอะไรให้เขาประหลาดใจอีกในอนาคต
เมื่อเห็นว่าท้องฟ้าสว่างแล้ว หลัวชุนจึงหันหลังกลับลงไปชั้นล่าง เตรียมตัวอาบน้ำแล้วเดินทางไปเยี่ยมหลุมศพของแม่ แต่เมื่อกลับมาที่ห้องน้ำก็เห็นเรือนร่างที่สวยงามของสาวสวยคนหนึ่ง เธอสวมเสื้อชั้นในซึ่งมีความโปร่ง
แสงเล็กน้อย เมื่อมองอีกครั้งถึงได้รู้ว่าเป็นเย่ปิงเผิงน้องสาวภรรยาของเขา
เธอไม่เคยคุยกับหลัวชุน เมื่อวานก็ไม่ได้ร่วมงานแต่งงานด้วย แต่ไปสังสรรค์อยู่กับพวกเพื่อนที่ไม่ได้เรื่อง หลังจากเห็นหลัวชุนก็ไม่ได้คุยกัน แค่ปลายสายตามองเขาเท่านั้น
หลัวชุนขี้เกียจที่จะถือสา หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เย่ไท่ก็ลุกขึ้นและพูดว่า "วันนี้เป็นวันครบรอบการตายของแม่หลัวชุน ทุกคนมีภารกิจอะไรให้พักไว้ก่อน เราจะไปกวาดสุสานด้วยกัน เย่ปิงเผิง ถ้าพ่อยังไม่เห็นเงาแกอีก กลับมาพ่อจะตัดขาแกทิ้ง"
"พูดอย่างนั้นได้ยังไง ลูกๆ โตแล้ว จะมาตัดขาอะไร กับแค่แม่ของโจร......."ถางเฉินก็ยังพูดไม่หยุด หลัวชุนเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ขนของขึ้นรอบนรถรถ
เมื่อเย่ปิงเผิงขึ้นรถมาก็หัวเราะทันที และพูดว่า "โอ้โห นายแต่งตัวเป็นทางการมาก ตอนแม่ของนายตายทำไมไม่เห็นหน้านายเลย ตอนนี้มาเสแสร้งทำสิ่งนี้มันมีประโยชน์อะไรไหม"
เดิมทีหลัวชุนก็อารมณ์ไม่ดี เมื่อได้ยินประโยคนี้เขาก็รู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม
ในตอนนั้นเนื่องจากเขาต้องปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่สามารถกลับประเทศมาได้ แม้แต่ใบหน้าสุดท้ายของแม่ เขาก็ไม่ได้เห็น เขานึกโทษตัวเองในใจและไม่ได้ตอบโต้กับคำพูดของเย่ปิงเผิง แต่ดวงตาของเขากลับแดงขึ้นมา
หลัวชุนขับรถมาจอดที่นอกสุสาน ที่นี่เงียบสงบ ไม่มีใครเลยสักคน และเมื่อเข้าไปในสุสาน ก็ยิ่งรู้สึกเศร้าสลดใจ
ในที่สุดก็เดินไปถึงหน้าหลุมฝังศพของแม่ เมื่อเห็นรูปถ่ายรอยยิ้มอันสดใสของเธอบนนั้น หลัวชุนคุกเข่าบนพื้น และอดไม่ได้ที่จะคิดถึงฉากในตอนเด็กที่แม่ของเขากำลังอุ้มตัวเองเพื่อเล่านิทานให้ฟัง แล้วน้ำตาก็ไหลพรากเอ่อล้นออกมา
ครอบครัวเย่ไท่เงียบไม่พูดอะไร
มากมาที่นี่ เขาจึงขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
"ไอ้ย่า นี่ใช่หลัวชุนลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ของตระกูลเย่รึเปล่า บังเอิญจริงๆ" หานเคอพูดแสยะยิ้ม
เย่ไท่จ้องมองเขาและพูดว่า "ไอ้หนุ่ม วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของแม่หลัวชุน ทางที่ดีนายอย่าสร้างปัญหาจะดีกว่า"
"ลุงเย่เอาแต่ใจจังเลยนะครับ ลุงต้องการปกป้องลูกเขยไร้ประโยชน์คนนี้เหรอ "
หานเคอยิ้มเยาะเย้ย มองไปที่เย่ปิงหรงและพูดว่า “ คุณสวยและหุ่นดีมากขนาดนี้ ทำไมคุณถึงแต่งงานกับทหารขี้เหร่ๆอย่างเขา ถ้าคุณแต่งงานกับผม ครอบครัวของเราสองคนผนึกกำลังกัน และต่อไปก็ไม่ต้องกลัวใครในเมืองตงเหอนี้อีก"
"นายพูดอะไรให้เกียรติฉันด้วย ถ้าไม่มีธุระอะไรก็ไสหัวไป" เย่ไท่พูดอย่างโมโห
"มีธุระน่ะ มีแน่นอน" ใบหน้าของหานเคอค่อยๆขรึมขึ้น เขาเหลือบมองไปที่หลัวชุนที่คุกเขาอยู่บนพื้นและพร้อมพูดว่า "โถ่ แม่ตายแล้วเหรอ แล้วเป็นอะไรตายล่ะ”
หลัวชุนทำเป็นหูหนวก เขาได้แต่มองไปที่หลุมศพ
"แม่ง คุณชายหานถามมึงอยู่นะ" บอดี้การ์ดคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆเขา แตะเครื่องไหว้ทั้งหมดที่อยู่หน้าหลุมฝังศพ ผลไม้กลิ้งไปทั่วพื้น ถ้วยชาก็ร่วงลงเกลื่อนพื้น
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved