บทที่ 3 วิชาแห่งการฟื้นฟู
by โย่วฉ่ายโย่วล่างม่าน
16:18,May 04,2021
"เพราะว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป พ่อก็จะแข็งแกร่งแล้ว พ่อไม่จำเป็นต้องอดทนพวกเขาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว"
หลงไจ่เทียนหัวเราะอย่างขมขื่น
"โอเค ฉันเชื่อคุณพ่อ!"
สาวน้อยกอดคอของหลงไจ่เทียน เอาแก้มอ้วนๆใบหน้าเล็กๆซบที่คอของหลงไจ่เทียน เวลาผ่านไปไม่นาน หลงไจ่เทียนพบว่าในอ้อมแขนของตัวเอง ได้มีเสียงหายใจที่สม่ำเสมอส่งมา
หลงไจ่เทียนฟังเสียง วางสาวน้อยลงบนเตรียงอย่างระมัดระวัง
"สาวน้อย ขอโทษด้วย พ่อไม่ใช่พ่อที่ดีคนหนึ่งเลย! แต่ว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป จะไม่มีใครสามารถทำให้หนูได้รับความเสียใจแม้แต่นิดเดียว เพราะว่าหนูเป็นลูกสาวของหลงไจ่เทียน!"
หลังจากหลงไจ่เทียนปิดไฟ พูดเบาๆ สิ้นสุดเสียง มุ่งเดินออกไปทางประตู ปิดประตู สิ่งที่เขาไม่ได้สังเกตเห็นคือ ช่วงเวลาที่เขากำลังหันตัว ดวงตาที่ปิดสนิทของสาวน้อยนั้นเอ่อล้นไปด้วยของน้ำตาสีใสๆ
ตอนนี้เป็นเวลาประมาณห้าทุ่มแล้ว ทุกคนในครอบครัวได้พักผ่อนกันเกือบหมดแล้ว มีเพียงห้องของกู่ชิงเลียนเท่านั้นที่ยังคงมีแสงไฟสว่างอยู่
มองดูหนึ่งที หลังจากนั้นหลงไจ่เทียนลงชั้นล่าง แล้วออกไป
ชุมชนตั้งอยู่ในเขตที่อยู่อาศัยของภูเขาหยุนหลัน ครอบคลุมภูเขาหยุนหลันทั้งหมด หนึ่งในข้างล่างของภูเขาหยุนหลันมีชุมชนที่ธรรมดาตั้งอยู่ ตรงกลางของภูเขาหยุนหลันมีวิลล่ารวมกลุ่มอยู่ ผู้ที่สามารถอาศัยอยู่ในวิลล่าล้วนแล้วเป็นตระกูลใหญ่ของเมืองหลินเจียง ยอดเขาหยุนหลันเป็นย่านที่อยู่อาศัยระดับคนชั้นสูง แหล่งรวมตัวของคนรวยระดับสูง เฉพาะคนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลินเจียง จึงจะมีปัญญาอยู่ได้
เขาเดินเป็นเวลานาน ค่อยหาสถานที่เงียบสงบแห่งหนึ่งใต้ภูเขาหยุนหลันเจอ นั่งขัดสมาธิ ปรับการหายใจ
เขาพึ่งจะปลดผนึกออกมา ฟื้นฟูพลัง คืนมาเพียงหนึ่งหรือสองในสิบเท่านั้น ค่อยๆปิดดวงตา รอบๆตัวของเขา มีเกราะชั้นหนึ่งที่เป็นออร่าสีเหลืองหุ้มเอาไว้
ตอนอายุสิบขวบ เขาถูกคนที่ไม่รู้จักแหล่งที่มาลักพาตัวไป เป็นนักบวชเต๋าท่านหนึ่งที่ช่วยชีวิตเขาออกมา
นักบวชเต๋าบอกว่าเขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้นับหมื่นปียากที่จะพบเจอได้ ดังนั้นจึงมีการสืบทอดวิชาทางจิตที่มีชื่อว่าวิชาแห่งการฟื้นฟู วิชาแห่งการฟื้นฟูสามารถทำให้อาการบาดเจ็บฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว การปลูกฝังวิธีการทางจิตวิญญาณของพลังและความแข็งแกร่งทางกายภาพ ตั้งแต่มีการฝึกฝนทางด้านจิตวิญญาณแล้ว ความสามารถในการเรียนรู้และเข้าใจศิลปะการต่อสู้และความสามารถต่างๆของเขานั้นเหนือกว่าคนทั่วไป
เพียงแต่ว่า ห้าปีมาแล้วที่เขามีการปิดผนึกพลังของตัวเอง สำหรับสภาพร่างกาย มีพฤติกรรมที่กลับตาลปัตร ต้องการฟื้นฟูความแข็งแกร่งอย่างเต็มที่ด้วยการยืมความช่วยเหลือของวิชาแห่งการฟื้นฟูในเวลาอันสั้น มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย
แต่ว่าฟื้นฟูกลับมาหนึ่งหรือสองในสิบก็ถือว่าใช้ได้อยู่
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเวลาที่หลงไจ่เทียนลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ท้องฟ้าเริ่มมีแสงสีเหลืองส่องออกมาแล้ว เวลานี้ ประมาณตีห้าสามสิบนาทีของช่วงเช้า
มีน้ำค้างช่วงฤดูใบไม้ร่วง หลงไจ่เทียนลุกขึ้นยืน ดูเหมือนว่าบนร่างกายมีน้ำค้างติดอยู่ กุมมือทั้งสองข้าง รู้สึกมีพลังที่เต็มเปี่ยมส่งออกมา
"ตุ้ม!"
เขาต่อยออกไปหนึ่งหมัด ระเบิดต้นไม้ที่มีขนาดเท่ากับต้นขาที่หนาลงกับพื้นโดยตรง
"ยังคงอ่อนแอเกินไป ฟื้นฟูกลับมาไม่ถึงหนึ่งหรือสองในสิบเท่านั้น ดีตรงที่ร่างกายฟื้นฟูกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงแล้ว เรื่องของการฟื้นฟูความแข็งแรง ค่อยว่ากันในภายหลังแล้วกัน!"
หลงไจ่เทียนส่ายหัว พูดอย่างไม่ค่อยเต็มใจ หลังจากพูดเสร็จ จากนั้นก็หันตัวจากไป เขาจากไปได้ไม่นานเท่าไหร่ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งเดินมาพร้อมกับถือไฟฉาย
"เช้าตรู่ขนาดนี้ เกิดบ้าอะไรขึ้นกันเนี่ย เป็นไปได้ไหมที่ภูเขาหยุนหลันยังมีหมูป่าอยู่?"
ผู้ชายที่สวมชุดรักษาความปลอดภัยเดินมา มองดูต้นไม้ใหญ่ที่ล้มอยู่บนพื้น อึ้งไปชั่วขณะ แต่เมื่อมองไปที่ลำต้นส่วนที่หักของต้นไม้ นอกจากนี้เวลาที่เห็นบนต้นไม้มีรอยกำปั้นติดอยู่ ทั้งคนตกตะลึงด้วยความตกใจยืนอยู่กับที่
เวลาที่กลับถึงบ้าน เกือบจะเป็นเวลาหกโมงเช้าแล้ว หกโมงเช้า เป็นช่วงเวลาหลายปีมานี้เขาต้องตื่นขึ้นมาทำอาหารทุกวัน เมื่อทำเป็นเวลานาน ก็ทำเป็นนิสัยจนเคยชินแล้ว ต่อให้ไม่มีนาฬิกาปลุก เขาก็สามารถตื่นได้ตรงเวลาเช่นกัน
วันนี้ เขานั้นไม่ได้นอนทั้งคืน แต่ดูเหมือนว่ายังคงเต็มไปด้วยพลัง นี่คือความมหัศจรรย์ของวิชาแห่งการฟื้นฟู
หลังจากกลับถึงบ้าน ก่อนอื่นกลับไปที่ห้องของตัวเอง
"คุณพ่อ เมื่อคืนคุณไม่ได้กลับมาเหรอ?"
หลงไจ่เทียนเพิ่งจะเดินเข้าห้อง ก็เห็นสาวน้อยพลิกตัวลุกขึ้นมาจากเตียง ขยี้ตาที่เพิ่งจะลืมขึ้นมาและถาม
"อื้ม!"
หลงไจ่เทียนตอบกลับ พร้อมกับเอื้อมมือไปอุ้มสาวน้อยขึ้นมา วางไว้บนเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ช่วยเธอหวีผมที่ยุ่งเหยิงของเธอ
บอกว่าเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ความจริงแล้วมันคือโต๊ะตัวหนึ่งและกระจกหนึ่งบานเท่านั้น
"ผู้ชายที่ไม่กลับบ้านตอนกลางคืนไม่ใช่ผู้ชายดีนะ!"
สาวน้อยไม่ได้มองหน้าหลงไจ่เทียนแม้แต่นิดเดียว แต่เป็นการบ่นพึมพำ
"ฮ่าๆ.....คำพูดแบบนี้หนูไปฟังใครมาเหรอ?"
หลงไจ่เทียนรู้สึกสับสนกับคำพูดของสาวน้อย และถาม
"ป้าจางข้างบ้านไง เธอเอาแต่พูดว่าลุงจางตอนกลางคืนไม่กลับบ้าน ไม่ใช่ผู้ชายที่ดี!"
"โอเค!"
หลงไจ่เทียนพูดอะไรไม่ออก
"คุณพ่อ ป้าจางยังบอกอีกว่าผมที่คุณเปียให้ไม่สวย"
สาวน้อยได้พูดต่อ
"ทำไหมป้าจางถึงเรื่องมากขนาดนี้? เมื่อก่อนฉันก็ช่วยแม่ของหนูเปียแบบนี้นะ แม่ของหนูก็ไม่ได้พูดอะไรเลย ทำไมหนูถึงมีความคิดเห็นมากมายขนาดนี้?"
หลงไจ่เทียนเคาะไปที่หัวเล็กๆของสาวน้อยและพูด เวลาที่พูดถึงแม่ของลูก มือของหลงไจ่เทียนสั่นเล็กน้อย ภาพในอดีตปรากฏออกมาเป็นฉากๆ มีความรู้สึกเจ็บปวดส่งออกมาจากจมูก
"เอาล่ะ เปียเสร็จแล้ว หนูไปล้างหน้าแปรงฟันได้แล้ว จากนั้นก็ออกไปเล่นสักพักหนึ่ง ฉันจะทำอาหารเช้าเสร็จในไม่ช้า"
หลังจากผ่านไปเจ็ดแปดนาที หลงไจ่เทียนค่อยพูด
"อ้อ ขอบคุณนะคุณพ่อ! แม้ว่าจะไม่สวย แต่ว่าเสี่ยวซียังคงชอบผมที่คุณพ่อเปียให้เหมือนเดิมนะ!"
สาวน้อยมองดูผมที่ถูกเปียของตัวเองที่กระจก และพูด
"พอได้แล้ว อายุยังน้อยอยู่เลย ก็ประจบสอพอเป็นแล้วนะ ฝึกมาจากใครเนี่ย?" หลงไจ่เทียนพูดออกมาหนึ่งประโยค จากนั้นก็มองไปที่บนโต๊ะมีจดหมายหนึ่งฉบับ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจ "เอ๊ะ? นี่คืออะไร?"
"นี่คือจดหมายที่พี่สาวชิงเลียนให้"
สาวน้อยกระพริบตาหลายทีและพูด หลงไจ่เทียนค่อยหยิบซองจดหมายขึ้นมา เปิดออกมาดู เกิดความอบอุ่นในใจขึ้นมาทันที
ข้างใจจดหมายมีเงิน มีประมาณสี่ห้าพันหยวนน่าจะได้ หลังจากเก็บเงินเสร็จเรียบร้อย จากนั้นเขาก็ลงไปที่ชั้นล่าง เพิ่งจะเข้าไปในห้องครัว เขาก็มองเห็นกู่ชิงเลียนที่เพิ่งจะล้างของเสร็จ
"ขอบคุณนะ!"
หลงไจ่เทียนพูดด้วยน้ำเสียงที่มีความตื้นตันใจ
"เธอเป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่ง ฉันไม่ต้องการเห็นเด็กน้อยต้องมามีส่วนเกี่ยวข้องระหว่างพวกเรา"
กู่ชิงเลียนล้างมือ ล้างมือไปด้วยพูดไปด้วย
"ฉันเข้าใจแล้ว เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ฉันจะจากไปเอง ก่อนจะจากไป ฉันจะคืนคุณทุกอย่างที่เป็นหนี้คุณ หลายปีนี้ ต้องขออภัยจริงๆ!"
หลงไจ่เทียนพูดด้วยสีหน้าที่ขมขื่น
"หลงไจ่เทียน ตอนนี้คุณมาพูดแบบหมายความว่ายังไง? ค่าชดเชย? คุณจะเอาอะไรมาจ่ายค่าชดเชย?"
กู่ชิงเลียนจ้องไปที่หลงไจ่เทียนอย่างดุร้าย ในดวงตาแดงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าทำไหมกัน เมื่อเวลาที่หลงไจ่เทียนพูดอะไรแบบนั้น ภายในใจของเธอเหมือนได้รับผลกระทบอะไรบางอย่าง มีความรู้สึกที่สูญเสียเกิดขึ้นมาเอง
"ขอโทษ!"
"หลงไจ่เทียนก้มหน้าพูด"
"นอกจากขอโทษแล้วคุณยังทำอะไรเป็นอีก หลายปีมานี้คุณพูดขอโทษมากี่ครั้งแล้ว! สุดท้ายฉันยังคงต้องถูกคนอื่นหัวเราะเยาะอยู่ข้างหลังเหรอ? ฉันไม่อยากถูกคนอื่นหัวเราะเยาะอยู่ข้างหลัง ไม่อยากให้คนอื่นพูดว่าฉันแต่งงานกับคนไร้ค่าคนหนึ่ง ไม่อยากเป็นคนที่ถูกคนอื่นเอาแต่หัวเราะเยาะตลอดเวลา! สิ่งเหล่านี้คุณสามารถทำได้ไหม? สิ่งเหล่านี้คุณชดเชยได้เหรอ?"
กู่ชิงเลียนจ้องมองหลงไจ่เทียน ข้างในดวงตากลายเป็นสีแดงแล้ว
"เพียงแค่คุณบอกฉันว่าคุณต้องการ ฉันก็สามารถทำได้"
ในดวงตาของหลงไจ่เทียนมีความหนักแน่นแผ่ออกมา มองไปทางกู่ชิงเลียน พูดด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมย
"ฉันต้องการ ทำไหมฉันจะไม่ต้องการ ต่อให้เป็นแค่ฝันก็ต้องการ"
เวลาที่พูด กู่ชิงเลียนเริ่มร้องไห้ออกมาแล้ว หลายปีมานี้ เธอต้องทนกับคำดูถูกมากแค่ไหน ต้องอดทนกับการปฏิบัติของคนอื่นที่ใจร้ายใจดำมากแค่ไหน มีชีวิตที่ทุกข์ใจมากแค่ไหน มีเพียงตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้
"ได้ ฉันรู้แล้วว่าควรจะทำยังไง"
หลงไจ่เทียนไม่กล้ามองไปทางกู่ชิงเลียนที่กำลังร้องไห้ เพียงแค่ถอนหายใจเบาๆ และพูด
หลงไจ่เทียนหัวเราะอย่างขมขื่น
"โอเค ฉันเชื่อคุณพ่อ!"
สาวน้อยกอดคอของหลงไจ่เทียน เอาแก้มอ้วนๆใบหน้าเล็กๆซบที่คอของหลงไจ่เทียน เวลาผ่านไปไม่นาน หลงไจ่เทียนพบว่าในอ้อมแขนของตัวเอง ได้มีเสียงหายใจที่สม่ำเสมอส่งมา
หลงไจ่เทียนฟังเสียง วางสาวน้อยลงบนเตรียงอย่างระมัดระวัง
"สาวน้อย ขอโทษด้วย พ่อไม่ใช่พ่อที่ดีคนหนึ่งเลย! แต่ว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป จะไม่มีใครสามารถทำให้หนูได้รับความเสียใจแม้แต่นิดเดียว เพราะว่าหนูเป็นลูกสาวของหลงไจ่เทียน!"
หลังจากหลงไจ่เทียนปิดไฟ พูดเบาๆ สิ้นสุดเสียง มุ่งเดินออกไปทางประตู ปิดประตู สิ่งที่เขาไม่ได้สังเกตเห็นคือ ช่วงเวลาที่เขากำลังหันตัว ดวงตาที่ปิดสนิทของสาวน้อยนั้นเอ่อล้นไปด้วยของน้ำตาสีใสๆ
ตอนนี้เป็นเวลาประมาณห้าทุ่มแล้ว ทุกคนในครอบครัวได้พักผ่อนกันเกือบหมดแล้ว มีเพียงห้องของกู่ชิงเลียนเท่านั้นที่ยังคงมีแสงไฟสว่างอยู่
มองดูหนึ่งที หลังจากนั้นหลงไจ่เทียนลงชั้นล่าง แล้วออกไป
ชุมชนตั้งอยู่ในเขตที่อยู่อาศัยของภูเขาหยุนหลัน ครอบคลุมภูเขาหยุนหลันทั้งหมด หนึ่งในข้างล่างของภูเขาหยุนหลันมีชุมชนที่ธรรมดาตั้งอยู่ ตรงกลางของภูเขาหยุนหลันมีวิลล่ารวมกลุ่มอยู่ ผู้ที่สามารถอาศัยอยู่ในวิลล่าล้วนแล้วเป็นตระกูลใหญ่ของเมืองหลินเจียง ยอดเขาหยุนหลันเป็นย่านที่อยู่อาศัยระดับคนชั้นสูง แหล่งรวมตัวของคนรวยระดับสูง เฉพาะคนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลินเจียง จึงจะมีปัญญาอยู่ได้
เขาเดินเป็นเวลานาน ค่อยหาสถานที่เงียบสงบแห่งหนึ่งใต้ภูเขาหยุนหลันเจอ นั่งขัดสมาธิ ปรับการหายใจ
เขาพึ่งจะปลดผนึกออกมา ฟื้นฟูพลัง คืนมาเพียงหนึ่งหรือสองในสิบเท่านั้น ค่อยๆปิดดวงตา รอบๆตัวของเขา มีเกราะชั้นหนึ่งที่เป็นออร่าสีเหลืองหุ้มเอาไว้
ตอนอายุสิบขวบ เขาถูกคนที่ไม่รู้จักแหล่งที่มาลักพาตัวไป เป็นนักบวชเต๋าท่านหนึ่งที่ช่วยชีวิตเขาออกมา
นักบวชเต๋าบอกว่าเขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้นับหมื่นปียากที่จะพบเจอได้ ดังนั้นจึงมีการสืบทอดวิชาทางจิตที่มีชื่อว่าวิชาแห่งการฟื้นฟู วิชาแห่งการฟื้นฟูสามารถทำให้อาการบาดเจ็บฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว การปลูกฝังวิธีการทางจิตวิญญาณของพลังและความแข็งแกร่งทางกายภาพ ตั้งแต่มีการฝึกฝนทางด้านจิตวิญญาณแล้ว ความสามารถในการเรียนรู้และเข้าใจศิลปะการต่อสู้และความสามารถต่างๆของเขานั้นเหนือกว่าคนทั่วไป
เพียงแต่ว่า ห้าปีมาแล้วที่เขามีการปิดผนึกพลังของตัวเอง สำหรับสภาพร่างกาย มีพฤติกรรมที่กลับตาลปัตร ต้องการฟื้นฟูความแข็งแกร่งอย่างเต็มที่ด้วยการยืมความช่วยเหลือของวิชาแห่งการฟื้นฟูในเวลาอันสั้น มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย
แต่ว่าฟื้นฟูกลับมาหนึ่งหรือสองในสิบก็ถือว่าใช้ได้อยู่
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเวลาที่หลงไจ่เทียนลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ท้องฟ้าเริ่มมีแสงสีเหลืองส่องออกมาแล้ว เวลานี้ ประมาณตีห้าสามสิบนาทีของช่วงเช้า
มีน้ำค้างช่วงฤดูใบไม้ร่วง หลงไจ่เทียนลุกขึ้นยืน ดูเหมือนว่าบนร่างกายมีน้ำค้างติดอยู่ กุมมือทั้งสองข้าง รู้สึกมีพลังที่เต็มเปี่ยมส่งออกมา
"ตุ้ม!"
เขาต่อยออกไปหนึ่งหมัด ระเบิดต้นไม้ที่มีขนาดเท่ากับต้นขาที่หนาลงกับพื้นโดยตรง
"ยังคงอ่อนแอเกินไป ฟื้นฟูกลับมาไม่ถึงหนึ่งหรือสองในสิบเท่านั้น ดีตรงที่ร่างกายฟื้นฟูกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงแล้ว เรื่องของการฟื้นฟูความแข็งแรง ค่อยว่ากันในภายหลังแล้วกัน!"
หลงไจ่เทียนส่ายหัว พูดอย่างไม่ค่อยเต็มใจ หลังจากพูดเสร็จ จากนั้นก็หันตัวจากไป เขาจากไปได้ไม่นานเท่าไหร่ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งเดินมาพร้อมกับถือไฟฉาย
"เช้าตรู่ขนาดนี้ เกิดบ้าอะไรขึ้นกันเนี่ย เป็นไปได้ไหมที่ภูเขาหยุนหลันยังมีหมูป่าอยู่?"
ผู้ชายที่สวมชุดรักษาความปลอดภัยเดินมา มองดูต้นไม้ใหญ่ที่ล้มอยู่บนพื้น อึ้งไปชั่วขณะ แต่เมื่อมองไปที่ลำต้นส่วนที่หักของต้นไม้ นอกจากนี้เวลาที่เห็นบนต้นไม้มีรอยกำปั้นติดอยู่ ทั้งคนตกตะลึงด้วยความตกใจยืนอยู่กับที่
เวลาที่กลับถึงบ้าน เกือบจะเป็นเวลาหกโมงเช้าแล้ว หกโมงเช้า เป็นช่วงเวลาหลายปีมานี้เขาต้องตื่นขึ้นมาทำอาหารทุกวัน เมื่อทำเป็นเวลานาน ก็ทำเป็นนิสัยจนเคยชินแล้ว ต่อให้ไม่มีนาฬิกาปลุก เขาก็สามารถตื่นได้ตรงเวลาเช่นกัน
วันนี้ เขานั้นไม่ได้นอนทั้งคืน แต่ดูเหมือนว่ายังคงเต็มไปด้วยพลัง นี่คือความมหัศจรรย์ของวิชาแห่งการฟื้นฟู
หลังจากกลับถึงบ้าน ก่อนอื่นกลับไปที่ห้องของตัวเอง
"คุณพ่อ เมื่อคืนคุณไม่ได้กลับมาเหรอ?"
หลงไจ่เทียนเพิ่งจะเดินเข้าห้อง ก็เห็นสาวน้อยพลิกตัวลุกขึ้นมาจากเตียง ขยี้ตาที่เพิ่งจะลืมขึ้นมาและถาม
"อื้ม!"
หลงไจ่เทียนตอบกลับ พร้อมกับเอื้อมมือไปอุ้มสาวน้อยขึ้นมา วางไว้บนเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ช่วยเธอหวีผมที่ยุ่งเหยิงของเธอ
บอกว่าเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ความจริงแล้วมันคือโต๊ะตัวหนึ่งและกระจกหนึ่งบานเท่านั้น
"ผู้ชายที่ไม่กลับบ้านตอนกลางคืนไม่ใช่ผู้ชายดีนะ!"
สาวน้อยไม่ได้มองหน้าหลงไจ่เทียนแม้แต่นิดเดียว แต่เป็นการบ่นพึมพำ
"ฮ่าๆ.....คำพูดแบบนี้หนูไปฟังใครมาเหรอ?"
หลงไจ่เทียนรู้สึกสับสนกับคำพูดของสาวน้อย และถาม
"ป้าจางข้างบ้านไง เธอเอาแต่พูดว่าลุงจางตอนกลางคืนไม่กลับบ้าน ไม่ใช่ผู้ชายที่ดี!"
"โอเค!"
หลงไจ่เทียนพูดอะไรไม่ออก
"คุณพ่อ ป้าจางยังบอกอีกว่าผมที่คุณเปียให้ไม่สวย"
สาวน้อยได้พูดต่อ
"ทำไหมป้าจางถึงเรื่องมากขนาดนี้? เมื่อก่อนฉันก็ช่วยแม่ของหนูเปียแบบนี้นะ แม่ของหนูก็ไม่ได้พูดอะไรเลย ทำไมหนูถึงมีความคิดเห็นมากมายขนาดนี้?"
หลงไจ่เทียนเคาะไปที่หัวเล็กๆของสาวน้อยและพูด เวลาที่พูดถึงแม่ของลูก มือของหลงไจ่เทียนสั่นเล็กน้อย ภาพในอดีตปรากฏออกมาเป็นฉากๆ มีความรู้สึกเจ็บปวดส่งออกมาจากจมูก
"เอาล่ะ เปียเสร็จแล้ว หนูไปล้างหน้าแปรงฟันได้แล้ว จากนั้นก็ออกไปเล่นสักพักหนึ่ง ฉันจะทำอาหารเช้าเสร็จในไม่ช้า"
หลังจากผ่านไปเจ็ดแปดนาที หลงไจ่เทียนค่อยพูด
"อ้อ ขอบคุณนะคุณพ่อ! แม้ว่าจะไม่สวย แต่ว่าเสี่ยวซียังคงชอบผมที่คุณพ่อเปียให้เหมือนเดิมนะ!"
สาวน้อยมองดูผมที่ถูกเปียของตัวเองที่กระจก และพูด
"พอได้แล้ว อายุยังน้อยอยู่เลย ก็ประจบสอพอเป็นแล้วนะ ฝึกมาจากใครเนี่ย?" หลงไจ่เทียนพูดออกมาหนึ่งประโยค จากนั้นก็มองไปที่บนโต๊ะมีจดหมายหนึ่งฉบับ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจ "เอ๊ะ? นี่คืออะไร?"
"นี่คือจดหมายที่พี่สาวชิงเลียนให้"
สาวน้อยกระพริบตาหลายทีและพูด หลงไจ่เทียนค่อยหยิบซองจดหมายขึ้นมา เปิดออกมาดู เกิดความอบอุ่นในใจขึ้นมาทันที
ข้างใจจดหมายมีเงิน มีประมาณสี่ห้าพันหยวนน่าจะได้ หลังจากเก็บเงินเสร็จเรียบร้อย จากนั้นเขาก็ลงไปที่ชั้นล่าง เพิ่งจะเข้าไปในห้องครัว เขาก็มองเห็นกู่ชิงเลียนที่เพิ่งจะล้างของเสร็จ
"ขอบคุณนะ!"
หลงไจ่เทียนพูดด้วยน้ำเสียงที่มีความตื้นตันใจ
"เธอเป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่ง ฉันไม่ต้องการเห็นเด็กน้อยต้องมามีส่วนเกี่ยวข้องระหว่างพวกเรา"
กู่ชิงเลียนล้างมือ ล้างมือไปด้วยพูดไปด้วย
"ฉันเข้าใจแล้ว เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ฉันจะจากไปเอง ก่อนจะจากไป ฉันจะคืนคุณทุกอย่างที่เป็นหนี้คุณ หลายปีนี้ ต้องขออภัยจริงๆ!"
หลงไจ่เทียนพูดด้วยสีหน้าที่ขมขื่น
"หลงไจ่เทียน ตอนนี้คุณมาพูดแบบหมายความว่ายังไง? ค่าชดเชย? คุณจะเอาอะไรมาจ่ายค่าชดเชย?"
กู่ชิงเลียนจ้องไปที่หลงไจ่เทียนอย่างดุร้าย ในดวงตาแดงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าทำไหมกัน เมื่อเวลาที่หลงไจ่เทียนพูดอะไรแบบนั้น ภายในใจของเธอเหมือนได้รับผลกระทบอะไรบางอย่าง มีความรู้สึกที่สูญเสียเกิดขึ้นมาเอง
"ขอโทษ!"
"หลงไจ่เทียนก้มหน้าพูด"
"นอกจากขอโทษแล้วคุณยังทำอะไรเป็นอีก หลายปีมานี้คุณพูดขอโทษมากี่ครั้งแล้ว! สุดท้ายฉันยังคงต้องถูกคนอื่นหัวเราะเยาะอยู่ข้างหลังเหรอ? ฉันไม่อยากถูกคนอื่นหัวเราะเยาะอยู่ข้างหลัง ไม่อยากให้คนอื่นพูดว่าฉันแต่งงานกับคนไร้ค่าคนหนึ่ง ไม่อยากเป็นคนที่ถูกคนอื่นเอาแต่หัวเราะเยาะตลอดเวลา! สิ่งเหล่านี้คุณสามารถทำได้ไหม? สิ่งเหล่านี้คุณชดเชยได้เหรอ?"
กู่ชิงเลียนจ้องมองหลงไจ่เทียน ข้างในดวงตากลายเป็นสีแดงแล้ว
"เพียงแค่คุณบอกฉันว่าคุณต้องการ ฉันก็สามารถทำได้"
ในดวงตาของหลงไจ่เทียนมีความหนักแน่นแผ่ออกมา มองไปทางกู่ชิงเลียน พูดด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมย
"ฉันต้องการ ทำไหมฉันจะไม่ต้องการ ต่อให้เป็นแค่ฝันก็ต้องการ"
เวลาที่พูด กู่ชิงเลียนเริ่มร้องไห้ออกมาแล้ว หลายปีมานี้ เธอต้องทนกับคำดูถูกมากแค่ไหน ต้องอดทนกับการปฏิบัติของคนอื่นที่ใจร้ายใจดำมากแค่ไหน มีชีวิตที่ทุกข์ใจมากแค่ไหน มีเพียงตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้
"ได้ ฉันรู้แล้วว่าควรจะทำยังไง"
หลงไจ่เทียนไม่กล้ามองไปทางกู่ชิงเลียนที่กำลังร้องไห้ เพียงแค่ถอนหายใจเบาๆ และพูด
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved