บทที่ 12 ป้าจางเป็นคนพูดทั้งหมด
by โย่วฉ่ายโย่วล่างม่าน
16:19,May 04,2021
เมืองเจียงหลิน ด้านข้างของโรงเรียนอนุบาลเสี่ยวหยี่เอ่อ หลังจากจ่ายค่าเทอมให้สาวน้อยเสร็จแล้ว เป็นเวลาบ่ายสองโมงกว่า หลงไจ่เทียนหาร้านบะหมี่เล็กๆใกล้ๆเพื่อกินอาหาร
ร้านอาหารเล็กๆมองดูแล้วเรียบง่ายมาก แต่เมื่อเทียบกับความยากลำบากในช่วงห้าปีที่ผ่านมา สามารถมากินอาหารร้านเล็กๆแบบนี้ได้หนึ่งมือ มันฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว
ข้างในร้านเล็กๆ พ่อและลูกสาวนั่งตรงข้ามกัน หลังจากที่สาวน้อยกินบะหมี่ไส้หมูไปหนึ่งชาม รู้สึกว่าท้องยังร้องอยู่ ที่มุมปากเต็มไปด้วยคราบน้ำมัน
"คุณพ่อ ฉันจะเอาอีกหนึ่งชาม"
สาวน้อยพูด
"หนูกินไปชามใหญ่มากเลยนะ กินเยอะขนาดนี้ เดี๋ยวจะอิ่มเกินไปนะ นอกจากนี้ บะหมี่ไส้หมูไขมันเป็นสิ่งที่ทำให้เลี่ยน กินมากเกินไปไม่ได้"
หลงไจ่เทียนพูด
"แต่ว่า ฉันไม่ได้กินข้าวเที่ยงนิ!"
สาวน้อยพูดด้วยท่าทีที่น้อยใจ
"รอให้ย่อยไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน เดี๋ยวค่อยกิน ผู้หญิงต้องรักษาหุ่นให้สวย ไม่อย่างนั้นอ้วนแล้วจะดูไม่สวย"
หลงไจ่เทียนพูดอย่างจริงใจและขมขื่น
"แต่ว่าถ้ากินไม่อิ่ม แล้วจะมีแรงรักษาหุ่นได้ยังไง?"
สาวน้อยพูดอีกครั้ง
"นี่เป็นเหตุผลที่โกงนิ ใครสอนเธออีกแล้ว?"
หลงไจ่เทียนพูดไม่ออก
"ป้าจางที่อยู่ด้านข้างพูด ลุงจางบอกป้าจางว่าถ้ายังกินอีกเดี๋ยวก็อ้วนตายหรอก ป้าจากบอกไม่กินแล้วจะมีแรงลดหุ่นได้ยังไง"
สาวน้อยพูดด้วยความมั่นใจ
"นี่ก็คือเหตุผลที่โกง"
หลงไจ่เทียนพูด
"ก็ได้ หลงไจ่เทียน คุณพูดอะไรก็ถูกหมด คนอื่นเค้าพูดอะไรก็ไม่ถูกทั้งหมด"
สาวน้อยพูดด้วยท่าทีที่น้อยใจ ที่หน้าใบเล็กมีความแค้นเล็กน้อย เพียงแต่น้ำเสียงที่พูด แทบจะทำให้ความโกรธของหลงไจ่เทียนพุ่งออกมาแล้ว
"หนูเรียกฉันว่าอะไรนะ?"
"หลงไจ่เทียนไง คนอื่นเขาก็เรียกคุณแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?"
"ฉันเป็นพ่อของหนู ต่อจากนี้ห้ามเรียกชื่อ เข้าใจไหม?"
"แต่ว่าตอนนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี ไม่อยากเรียกพ่อ!"
สาวน้อยเม้มริมฝีปาก พูดด้วยท่าทีโอ้อวดเล็กน้อย
"ฮ่าๆๆ.....มา เดี๋ยวคุณปู่จะให้หนูกินบะหมี่ไส้หมูอีกหนึ่งชาม ไม่เอาเงินของพวกคุณ เป็นโอกาสที่ยากมากที่จะได้มา งั้นให้เด็กกินอิ่มแล้วค่อยไปดีกว่า"
ในเวลานี้ ชายชราในชุดผ้ากันเปื้อนเดินออกมาจากห้องครัวของร้านเล็ก ๆ ที่มือของชายชราถือบะหมี่ไส้หมูไว้หนึ่งชาม พูดด้วยสีหน้าที่ใจดีอย่างมาก
ร้านเล็ก ๆ แห่งนี้อยู่ไม่ได้ถือว่าไกลจากชุมชนของหลงไจ่เทียนอยู่ แม้ว่าจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง แต่ว่าที่นี่เป็นร้านอาหารที่ถูกที่สุดแล้ว
พ่อลูกสองคนหลายปีมานี้ มักจะเดินมากินบะหมี่ที่นี่บ่อยๆ อาหารที่สาวน้อยชอบที่สุด ก็คือบะหมี่ไส้หมูของที่นี่
"ขอบคุณคุณปู่เหอ!"
สาวน้อยยิ้มตาเบิกกว้างและพูด เวลาที่เธอหัวเราะออกมา มีลักยิ้มเบาๆบนใบหน้าเล็กน้อย ดวงตาทั้งคู่โค้งงอจนกลายเป็นเหมือนพระจันทร์เสี้ยว
"ขอบคุณคุณลุงเหอ!"
หลงไจ่เทียนพูดอีกครั้ง
"ไม่เป็นไร ไจ่เทีนเอ๊ย ลูกอยากกินก็ให้เธอกินเลย อะไรที่ว่ารักษาหุ่นให้สวยไม่รักษาหุ่นให้สวย เรื่องไร้สาระทั้งหมด ทำให้คนอื่นน้อยใจได้แต่ไม่สามารถให้ลูกน้อยใจได้ ลุงเหอก็รู้ถึงสถานการณ์ของคุณ ถ้าหากคุณมีความยากลำบากจริงๆ ก็มาที่ลุงเหอที่นี่ ต้องการกินอะไร ลุงเหอก็จะจดบันทึกเอาไว้ก่อน บันทึกเอาไว้ถ้าคุณคืนไม่ได้ อย่างนั้นก็ไม่ต้องคืน"
ลุงเหอพูดด้วยความจริงจังและจริงใจ สีหน้าที่มองไปทางหลงเสี่ยวซี ทั้งหมดเป็นความรักและความเอ็นดู สามารถพูดได้ว่าหลายปีมานี้ เขานั้นมองดูหลงเสี่ยวซีเติบโต
"ขอบคุณคุณปู่เหอ คุณปู่เหอคุณดีที่สุดแล้ว!"
สาวน้อยเงยหน้าขึ้นจากชาม หัวเราะและพูด
"ขอบคุณคุณลุงเหอหลายปีมานี้ที่คอยดูแล ไจ่เทียนซาบซึ้งใจอย่างมาก"
หลงไจ่เทียนพูดด้วยความซาบซึ้งใจ
"เอ๊ะ พูดพวกนี้ทำไหมกัน? ฉันนั้นมองดูเสี่ยวซีเติบโต ไม่สนใจว่าพ่ออย่างคุณจะยอมรับหรือว่าไม่ยอมรับ ฉันนั้นถือได้ว่าเป็นคุณปู่คนหนึ่งของเสี่ยวซีแล้ว"
ลุงเหอปัดมือและพูด
"เอาล่ะ พวกคุณกินเลย ฉันจะไปทำงานต่อแล้ว"
ลุงเหอพูดอีกครั้ง จากนั้นก็เข้าไปที่ด้านหลังห้องครัว
"หลงไจ่เทียน คุณปู่เหอเป็นคนดี ถ้าหากในอนาคตพวกเรารวยแล้ว จะต้องไม่ลืมเขาอย่างแน่นอน"
หลงเสี่ยวซีกินอย่างมูมมามมูมมาม จากนั้นเงยหน้าขึ้นและพูด
"เรียกพ่อ!"
หลงไจ่เทียนพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
"ก็คนอื่นเค้าอารมณ์ยังไม่ดีนิ"
หลงเสี่ยวซีพูด จากนั้นก็ก้มหัวลงไปกินบะหมี่ของตัวเอง
"อย่างนั้นอารมณ์ของเธอจะดีตอนไหน?"
หลงไจ่เทียนพูดไม่ออกอีกครั้ง สาวน้อยคนนี้ ตอนที่เชื่อฟังนั้นเชื่อฟังอย่ามาก แต่ว่าเวลาดื้อและซนนั้น เป็นเหมือนกับปีศาจน้อยตนหนึ่งเลย
"หลังจากฉันกินบะหมี่ไส้หมูชามนี้เสร็จแล้ว"
หลงเสี่ยวซีพูดกับตัวเอง
"งั้นก็ได้!"
หลงไจ่เทียนพูดไม่ออกเล็กน้อย
"หลงไจ่เทียน ฉันรู้สึกว่าพี่สาวชิงเลียนเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง"
หลงเสี่ยวซีพูด
"หนูรู้ได้ยังไง? อายุยังน้อยอยู่เลย!"
หลงไจ่เทียนมองไปทางหลงเสี่ยวซีและถาม
"ป้าจางเป็นคนพูด ป้าจางบอกว่าแม้ว่าพี่สาวชิงเลียนจะมีแต่ความเย็นชา แต่ว่าเธอเป็นคนในครอบครัวทั้งหมด เป็นคนเดียวที่ดีกับฉัน เธอไม่เคยด่าฉันมาก่อนเลย!"
"เธอไมได้ด่าหนู แต่ว่าเธอด่าฉันไง!"
หลงไจ่เทียนพูดด้วยความรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย
"หลงไจ่เทียน ฉันว่าคุณเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ทำไหมถึงคิดเล็กคิดน้อยขนาดนี้? คุณก็อายุมากแล้ว เอาแต่เลือกมากไปทำไหมกัน พี่สาวชิงเลียนเขาไม่เคยรังเกียจที่คุณมีหน้าตาขี้เหร่"
"แค่กแค่ก....."
เลือดของหลงไจ่เทียนเกือบจะพุ่งออกมาแล้ว
"ยังเด็กยังเล็ก หนูรู้ได้ยังไง? ฉันนั้นเป็นคนที่มีภรรยาแล้วนะ หนูเรื่องมากขนาดนี้ ไม่กลัวแม่ของหนูจะมาตีก้นหนูเหรอ?"
หลงไจ่เทียนพูด
"หลงไจ่เทียน คุณเป็นคนหลอกหลวง คุณแม่ของฉันเสียชีวิตไปนานแล้วใช่ไหม คุณคิดว่าคุณกำลังหลอกเด็กหรือไง?"
จู่ๆสาวน้อยก็เงยหน้าขึ้น มองไปทางหลงไจ่เทียน ในดวงตามีน้ำตาวนอยู่เล็กน้อย ดวงตาแดงเล็กน้อย
"สิ่งนี้เป็นใครพูดให้หนูฟังอีกแล้ว?"
หลงไจ่เทียนรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นแรงอย่างมาก จากนั้นถาม
"ป้าจาง ยังคงเป็นป้าจางพูด"
"ทำไหมป้าจางถึงยุ่งไม่เข้าเรื่องขนาดนี้ อะไรก็พูดให้หนูฟังหมด ฉันจะต้องหาโอกาสไปคุยกับเธอสักหน่อยแล้ว!"
หลงไจ่เทียนพูดอีกครั้ง
"ไม่ใช่ยุ่งไม่เข้าเรื่องสักหน่อย ป้าจางเป็นคนที่ดีอย่างมาก เธอยังสอนให้ฉันจำตัวอักษร เขียนหนังสือ และยังเล่านิทานให้ฉันฟัง เธอยังบอกฉันอีกว่าเพียงแค่ฉันรู้จักตัวอักษรให้มาก หลังจากนั้นนักเรียนเพื่อนร่วมชั้นก็จะสู้ฉันไม่ได้!"
สาวน้อยเบะปาก พูดพร้อมกับเสียงร้องไห้ ระหว่างที่พูด น้ำตาก็ไหลพรากลงมา
"พอได้แล้ว ร้องไห้อะไร หนูรู้ทั้งหมดแล้ว ก็เหมือนกับที่ป้าจางพูดแบบนั้น!"
หลงไจ่เทียนปวดใจเล็กน้อย จากนั้นก็อุ้มสาวน้อยมานั่งบนตักของตัวเอง พูดปลอบ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสังเกตเห็นว่า ลูกสาวของตัวเอง ดูเหมือนว่าเด็กที่มีอายุในวัยเดียวกัน จะมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่กว่า
"คุณแม่จะต้องเป็นคนที่ดีมากแน่เลย ใช่ไหม? แต่ว่าคนอื่นล้วนแล้วมีแม่ ฉันก็อยากมีแม่คนหนึ่งเหมือนกัน เด็กๆในชุมชนล้วนแล้วบอกฉันว่าเป็นลูกเลวที่ไม่มีแม่!"
สาวน้อยเช็ดน้ำตาและพูด
"พวกเขาพูดหนูแบบนี้เหรอ หนูก็อย่าไปเล่นกับพวกเขาก็พอแล้วนิ"
หลงไจ่เทียนไม่รู้จะแสดงความรับผิดชอบกับลูกของตัวเองยังไงดี สามารถทำได้แค่พูดแบบนี้
"ฉันไม่อยากเล่นกับพวกเขาอยู่แล้ว พวกเขาไร้เดียงสามากขนาดนั้น เล่นกับพวกเขาอย่างนั้นไปเรียนเขียนหนังสือกับป้าจางยังดีสะกว่า"
สาวน้อยหัวดื้อเล็กน้อยและพูด
"เรียนเขียนหนังสือเป็นเรื่องดี ในอนาคตเสี่ยวซีของบ้านพวกเราจะต้องเป็นนักเรียนต้นแบบ"
หลงไจ่เทียนพูด
"มันก็ใช่ ในอนาคตฉันจะไม่ทำให้คุณขายหน้าอย่างแน่นอน"
สาวน้อยพูดด้วยความมั่นใจอย่างมาก
สองคนนี้ก็พูดแบบนี้กัน ในเวลานี้ ลัมโบร์กีนีหนึ่งคันสุดเท่จอดอยู่ที่หน้าร้านเล็กๆ
หน้าร้านเล็กๆที่ต่ำต้อยแบบนี้ คาดไม่ถึงว่าจะมีลัมโบร์กีนีหนึ่งคันปรากฏ เป็นสิ่งที่ทำให้ร้านเล็กๆมีความโดดเด่นอย่างไม่ต้องสงสัย
ร้านอาหารเล็กๆมองดูแล้วเรียบง่ายมาก แต่เมื่อเทียบกับความยากลำบากในช่วงห้าปีที่ผ่านมา สามารถมากินอาหารร้านเล็กๆแบบนี้ได้หนึ่งมือ มันฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว
ข้างในร้านเล็กๆ พ่อและลูกสาวนั่งตรงข้ามกัน หลังจากที่สาวน้อยกินบะหมี่ไส้หมูไปหนึ่งชาม รู้สึกว่าท้องยังร้องอยู่ ที่มุมปากเต็มไปด้วยคราบน้ำมัน
"คุณพ่อ ฉันจะเอาอีกหนึ่งชาม"
สาวน้อยพูด
"หนูกินไปชามใหญ่มากเลยนะ กินเยอะขนาดนี้ เดี๋ยวจะอิ่มเกินไปนะ นอกจากนี้ บะหมี่ไส้หมูไขมันเป็นสิ่งที่ทำให้เลี่ยน กินมากเกินไปไม่ได้"
หลงไจ่เทียนพูด
"แต่ว่า ฉันไม่ได้กินข้าวเที่ยงนิ!"
สาวน้อยพูดด้วยท่าทีที่น้อยใจ
"รอให้ย่อยไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน เดี๋ยวค่อยกิน ผู้หญิงต้องรักษาหุ่นให้สวย ไม่อย่างนั้นอ้วนแล้วจะดูไม่สวย"
หลงไจ่เทียนพูดอย่างจริงใจและขมขื่น
"แต่ว่าถ้ากินไม่อิ่ม แล้วจะมีแรงรักษาหุ่นได้ยังไง?"
สาวน้อยพูดอีกครั้ง
"นี่เป็นเหตุผลที่โกงนิ ใครสอนเธออีกแล้ว?"
หลงไจ่เทียนพูดไม่ออก
"ป้าจางที่อยู่ด้านข้างพูด ลุงจางบอกป้าจางว่าถ้ายังกินอีกเดี๋ยวก็อ้วนตายหรอก ป้าจากบอกไม่กินแล้วจะมีแรงลดหุ่นได้ยังไง"
สาวน้อยพูดด้วยความมั่นใจ
"นี่ก็คือเหตุผลที่โกง"
หลงไจ่เทียนพูด
"ก็ได้ หลงไจ่เทียน คุณพูดอะไรก็ถูกหมด คนอื่นเค้าพูดอะไรก็ไม่ถูกทั้งหมด"
สาวน้อยพูดด้วยท่าทีที่น้อยใจ ที่หน้าใบเล็กมีความแค้นเล็กน้อย เพียงแต่น้ำเสียงที่พูด แทบจะทำให้ความโกรธของหลงไจ่เทียนพุ่งออกมาแล้ว
"หนูเรียกฉันว่าอะไรนะ?"
"หลงไจ่เทียนไง คนอื่นเขาก็เรียกคุณแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?"
"ฉันเป็นพ่อของหนู ต่อจากนี้ห้ามเรียกชื่อ เข้าใจไหม?"
"แต่ว่าตอนนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี ไม่อยากเรียกพ่อ!"
สาวน้อยเม้มริมฝีปาก พูดด้วยท่าทีโอ้อวดเล็กน้อย
"ฮ่าๆๆ.....มา เดี๋ยวคุณปู่จะให้หนูกินบะหมี่ไส้หมูอีกหนึ่งชาม ไม่เอาเงินของพวกคุณ เป็นโอกาสที่ยากมากที่จะได้มา งั้นให้เด็กกินอิ่มแล้วค่อยไปดีกว่า"
ในเวลานี้ ชายชราในชุดผ้ากันเปื้อนเดินออกมาจากห้องครัวของร้านเล็ก ๆ ที่มือของชายชราถือบะหมี่ไส้หมูไว้หนึ่งชาม พูดด้วยสีหน้าที่ใจดีอย่างมาก
ร้านเล็ก ๆ แห่งนี้อยู่ไม่ได้ถือว่าไกลจากชุมชนของหลงไจ่เทียนอยู่ แม้ว่าจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง แต่ว่าที่นี่เป็นร้านอาหารที่ถูกที่สุดแล้ว
พ่อลูกสองคนหลายปีมานี้ มักจะเดินมากินบะหมี่ที่นี่บ่อยๆ อาหารที่สาวน้อยชอบที่สุด ก็คือบะหมี่ไส้หมูของที่นี่
"ขอบคุณคุณปู่เหอ!"
สาวน้อยยิ้มตาเบิกกว้างและพูด เวลาที่เธอหัวเราะออกมา มีลักยิ้มเบาๆบนใบหน้าเล็กน้อย ดวงตาทั้งคู่โค้งงอจนกลายเป็นเหมือนพระจันทร์เสี้ยว
"ขอบคุณคุณลุงเหอ!"
หลงไจ่เทียนพูดอีกครั้ง
"ไม่เป็นไร ไจ่เทีนเอ๊ย ลูกอยากกินก็ให้เธอกินเลย อะไรที่ว่ารักษาหุ่นให้สวยไม่รักษาหุ่นให้สวย เรื่องไร้สาระทั้งหมด ทำให้คนอื่นน้อยใจได้แต่ไม่สามารถให้ลูกน้อยใจได้ ลุงเหอก็รู้ถึงสถานการณ์ของคุณ ถ้าหากคุณมีความยากลำบากจริงๆ ก็มาที่ลุงเหอที่นี่ ต้องการกินอะไร ลุงเหอก็จะจดบันทึกเอาไว้ก่อน บันทึกเอาไว้ถ้าคุณคืนไม่ได้ อย่างนั้นก็ไม่ต้องคืน"
ลุงเหอพูดด้วยความจริงจังและจริงใจ สีหน้าที่มองไปทางหลงเสี่ยวซี ทั้งหมดเป็นความรักและความเอ็นดู สามารถพูดได้ว่าหลายปีมานี้ เขานั้นมองดูหลงเสี่ยวซีเติบโต
"ขอบคุณคุณปู่เหอ คุณปู่เหอคุณดีที่สุดแล้ว!"
สาวน้อยเงยหน้าขึ้นจากชาม หัวเราะและพูด
"ขอบคุณคุณลุงเหอหลายปีมานี้ที่คอยดูแล ไจ่เทียนซาบซึ้งใจอย่างมาก"
หลงไจ่เทียนพูดด้วยความซาบซึ้งใจ
"เอ๊ะ พูดพวกนี้ทำไหมกัน? ฉันนั้นมองดูเสี่ยวซีเติบโต ไม่สนใจว่าพ่ออย่างคุณจะยอมรับหรือว่าไม่ยอมรับ ฉันนั้นถือได้ว่าเป็นคุณปู่คนหนึ่งของเสี่ยวซีแล้ว"
ลุงเหอปัดมือและพูด
"เอาล่ะ พวกคุณกินเลย ฉันจะไปทำงานต่อแล้ว"
ลุงเหอพูดอีกครั้ง จากนั้นก็เข้าไปที่ด้านหลังห้องครัว
"หลงไจ่เทียน คุณปู่เหอเป็นคนดี ถ้าหากในอนาคตพวกเรารวยแล้ว จะต้องไม่ลืมเขาอย่างแน่นอน"
หลงเสี่ยวซีกินอย่างมูมมามมูมมาม จากนั้นเงยหน้าขึ้นและพูด
"เรียกพ่อ!"
หลงไจ่เทียนพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
"ก็คนอื่นเค้าอารมณ์ยังไม่ดีนิ"
หลงเสี่ยวซีพูด จากนั้นก็ก้มหัวลงไปกินบะหมี่ของตัวเอง
"อย่างนั้นอารมณ์ของเธอจะดีตอนไหน?"
หลงไจ่เทียนพูดไม่ออกอีกครั้ง สาวน้อยคนนี้ ตอนที่เชื่อฟังนั้นเชื่อฟังอย่ามาก แต่ว่าเวลาดื้อและซนนั้น เป็นเหมือนกับปีศาจน้อยตนหนึ่งเลย
"หลังจากฉันกินบะหมี่ไส้หมูชามนี้เสร็จแล้ว"
หลงเสี่ยวซีพูดกับตัวเอง
"งั้นก็ได้!"
หลงไจ่เทียนพูดไม่ออกเล็กน้อย
"หลงไจ่เทียน ฉันรู้สึกว่าพี่สาวชิงเลียนเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง"
หลงเสี่ยวซีพูด
"หนูรู้ได้ยังไง? อายุยังน้อยอยู่เลย!"
หลงไจ่เทียนมองไปทางหลงเสี่ยวซีและถาม
"ป้าจางเป็นคนพูด ป้าจางบอกว่าแม้ว่าพี่สาวชิงเลียนจะมีแต่ความเย็นชา แต่ว่าเธอเป็นคนในครอบครัวทั้งหมด เป็นคนเดียวที่ดีกับฉัน เธอไม่เคยด่าฉันมาก่อนเลย!"
"เธอไมได้ด่าหนู แต่ว่าเธอด่าฉันไง!"
หลงไจ่เทียนพูดด้วยความรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย
"หลงไจ่เทียน ฉันว่าคุณเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ทำไหมถึงคิดเล็กคิดน้อยขนาดนี้? คุณก็อายุมากแล้ว เอาแต่เลือกมากไปทำไหมกัน พี่สาวชิงเลียนเขาไม่เคยรังเกียจที่คุณมีหน้าตาขี้เหร่"
"แค่กแค่ก....."
เลือดของหลงไจ่เทียนเกือบจะพุ่งออกมาแล้ว
"ยังเด็กยังเล็ก หนูรู้ได้ยังไง? ฉันนั้นเป็นคนที่มีภรรยาแล้วนะ หนูเรื่องมากขนาดนี้ ไม่กลัวแม่ของหนูจะมาตีก้นหนูเหรอ?"
หลงไจ่เทียนพูด
"หลงไจ่เทียน คุณเป็นคนหลอกหลวง คุณแม่ของฉันเสียชีวิตไปนานแล้วใช่ไหม คุณคิดว่าคุณกำลังหลอกเด็กหรือไง?"
จู่ๆสาวน้อยก็เงยหน้าขึ้น มองไปทางหลงไจ่เทียน ในดวงตามีน้ำตาวนอยู่เล็กน้อย ดวงตาแดงเล็กน้อย
"สิ่งนี้เป็นใครพูดให้หนูฟังอีกแล้ว?"
หลงไจ่เทียนรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นแรงอย่างมาก จากนั้นถาม
"ป้าจาง ยังคงเป็นป้าจางพูด"
"ทำไหมป้าจางถึงยุ่งไม่เข้าเรื่องขนาดนี้ อะไรก็พูดให้หนูฟังหมด ฉันจะต้องหาโอกาสไปคุยกับเธอสักหน่อยแล้ว!"
หลงไจ่เทียนพูดอีกครั้ง
"ไม่ใช่ยุ่งไม่เข้าเรื่องสักหน่อย ป้าจางเป็นคนที่ดีอย่างมาก เธอยังสอนให้ฉันจำตัวอักษร เขียนหนังสือ และยังเล่านิทานให้ฉันฟัง เธอยังบอกฉันอีกว่าเพียงแค่ฉันรู้จักตัวอักษรให้มาก หลังจากนั้นนักเรียนเพื่อนร่วมชั้นก็จะสู้ฉันไม่ได้!"
สาวน้อยเบะปาก พูดพร้อมกับเสียงร้องไห้ ระหว่างที่พูด น้ำตาก็ไหลพรากลงมา
"พอได้แล้ว ร้องไห้อะไร หนูรู้ทั้งหมดแล้ว ก็เหมือนกับที่ป้าจางพูดแบบนั้น!"
หลงไจ่เทียนปวดใจเล็กน้อย จากนั้นก็อุ้มสาวน้อยมานั่งบนตักของตัวเอง พูดปลอบ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสังเกตเห็นว่า ลูกสาวของตัวเอง ดูเหมือนว่าเด็กที่มีอายุในวัยเดียวกัน จะมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่กว่า
"คุณแม่จะต้องเป็นคนที่ดีมากแน่เลย ใช่ไหม? แต่ว่าคนอื่นล้วนแล้วมีแม่ ฉันก็อยากมีแม่คนหนึ่งเหมือนกัน เด็กๆในชุมชนล้วนแล้วบอกฉันว่าเป็นลูกเลวที่ไม่มีแม่!"
สาวน้อยเช็ดน้ำตาและพูด
"พวกเขาพูดหนูแบบนี้เหรอ หนูก็อย่าไปเล่นกับพวกเขาก็พอแล้วนิ"
หลงไจ่เทียนไม่รู้จะแสดงความรับผิดชอบกับลูกของตัวเองยังไงดี สามารถทำได้แค่พูดแบบนี้
"ฉันไม่อยากเล่นกับพวกเขาอยู่แล้ว พวกเขาไร้เดียงสามากขนาดนั้น เล่นกับพวกเขาอย่างนั้นไปเรียนเขียนหนังสือกับป้าจางยังดีสะกว่า"
สาวน้อยหัวดื้อเล็กน้อยและพูด
"เรียนเขียนหนังสือเป็นเรื่องดี ในอนาคตเสี่ยวซีของบ้านพวกเราจะต้องเป็นนักเรียนต้นแบบ"
หลงไจ่เทียนพูด
"มันก็ใช่ ในอนาคตฉันจะไม่ทำให้คุณขายหน้าอย่างแน่นอน"
สาวน้อยพูดด้วยความมั่นใจอย่างมาก
สองคนนี้ก็พูดแบบนี้กัน ในเวลานี้ ลัมโบร์กีนีหนึ่งคันสุดเท่จอดอยู่ที่หน้าร้านเล็กๆ
หน้าร้านเล็กๆที่ต่ำต้อยแบบนี้ คาดไม่ถึงว่าจะมีลัมโบร์กีนีหนึ่งคันปรากฏ เป็นสิ่งที่ทำให้ร้านเล็กๆมีความโดดเด่นอย่างไม่ต้องสงสัย
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved