บทที่​ 3​ ฝึกฝนวิชากระบี่

ขณะที่มองไปที่หอคอยที่ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำ​ เย่ซวนรู้สึกตกใจ

สิ่งที่อยู่ตรงหน้าล้วนเกินความคาดหมายของเขา

ในไม่ช้าเขาก็สามารถควบคุมสติตัวเองได้​ แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเป็นโอกาสแต่ในโอกาสก็มีความอันตราย

ในที่สุดเย่ซวนก็ตัดสินใจผลักประตูหอคอยแล้วเดินเข้าไป​

หลังจากเข้าไปข้างใน​ เขาก็มองไปรอบ​ ๆ และสังเกตเห็น​ว่าผนังถูกตกแต่งด้วยสิ่งมีชีวิตแปลก​ ๆ ที่ไม่คยเห็นมาก่อน​ นอกจากนี้ยังมีอักษรลึกลับสีม่วงและสีทองจารึกไว้อยู่​ ตัวอักษรเหล่านั้นขยับไปมา!

สายตาของเขาจับจ้องไปที่ด้านหน้า​ เขาเห็นโครงกระดูกมีลักษณะนั่งขัดสมาธิ​ มีกระบี่วางอยู่ข้าง​ ๆ​ เขา​

เย่ซวนมองไปที่โครงกระดูกอันเหี่ยวเฉา จากนั้นก็มีประโยคหนึ่งปรากฏขึ้นมาบนพื้น​ "ข้าคือมือกระบี่ทมิฬในโลกแห่งชิงฉาง​ ข้าฝึกกระบี่ตอนอายุสิบสอง ฝึกวิชากระบี่จนชำนาญเมื่อตอนอายุสิบเจ็ด เป็นกระบี่ทมิฬมือหนึ่งตอนอายุ​ยี่สิบเอ็ดปี และเมื่อถึงอายุยี่สิบเจ็ดปี​เขาได้ทำลายสภาวะความเป็นหนึ่งของจิตจนบรรลุวิชากระบี่ขั้นสูงสุด​ น่าเสียดายที่ข้าถูกจองจับในเรือนจำใต้หอคอยนี้เป็นเวลาพันสองร้อยปี จนไม่สามารถออกจากหอคอยนี้ได้จนสิ้นอายุขัย​ เมื่อถึงวันนั้นข้ารู้ว่าข้าจะต้องฝากมรดกและความหวังให้แก่ผู้สืบทอดของข้า​ ข้าหวังว่าเขาจะผ่านไปได้​ หากเจ้าเห็นใจ​ ได้โปรดดูโลกแห่งชางแทนข้าด้วย”

กระบี่ทมิฬของโลกแห่งชาง?

เย่ซวนผู้ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนถึงกับขมวดคิ้ว จากนั้นก้มมองไปที่หินขนาดเท่ากำปั้น!

มรดกที่ว่าคือหิน!

เมื่อรู้ถึงตัวตนของผู้ที่อยู่ตรงหน้า​ เลือดในกายของเย่ซวนไหลพลุ่งพล่าน​

ผู้ฝึกวิชากระบี่!

ทั่วทั้งทวีปชิงมีจอมยุทธ์มากมาย แต่ผู้ฝึกวิชากระบี่นั้นน้อยมาก อาจกล่าวได้ว่าหาได้ยาก​มาก​ ส่วนกระบี่ทมิฬนั้นมีจำนวนน้อยยิ่งกว่า​ เพราะผู้ที่จะเป็นกระบี่ทมิฬได้นั้นจำเป็นต้องมีรากฐานของความพิเศษทางจิตวิญญาณ​ เขาไม่เข้าใจเรื่อวรากฐานทางจิตวิญญาณเลย อย่างไรก็ตาม เขารู้แค่ว่ากระบี่ทมิฬหายาก

ขณะที่เย่ซวนกำลังจะไปหยิบกระบี่เล่มนั้น​ก็มีพลังที่มองไม่เเห็นหยุดเขา​และพลังนั้นทำให้เขาไม่สามารถขยับตัวได้!

เย่ซวนตกตะลึง!

ขยับไม่ได้?

“มาใหม่? ”

ทันในนั้นก็มีเสียงปริศนาเกิดขึ้น

เสียงที่เกิดขึ้นทำให้เย่ซวนตกใจ เขาถอยหลังไปสองสามก้าว​ แต่เมื่อมองไปรอบ ๆ​ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น !

สงสัยคงหูฝาด?

เมื่อความคิดนี้แวบเข้ามาในสมองของเย่ซวน เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง "ใครคือเจ้าแห่งสวรรค์? "

เย่ซวนตกตะลึง "เจ้าแห่งสวรรค์? คืออะไร?"

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เสียงก็ดังขึ้นอีกครั้ง "เหตุใดจึงอ่อนแอเช่นนี้​ ทั้ง​ ๆ​ ที่ไม่ได้ติดกับ!"

เสียงนั้นทำให้เย่ซวนสับสน

ในเวลานี้ เสียงของหญิงคนนั้นดูแปลกใจเล็กน้อย "เจ้าไม่ได้เกิดมาจากพลังธรรมชาติ ภายในเจ้ามีสองจิตวิญญาณ ซึ่งทั้งสองจิตนี้รวมเป็นหนึ่ง​ ข้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คุมหอคอยเลือกเจ้า"

ร่างกายที่เกิดจากพลังธรรมชาติ​ ? สองจิตวิญญาณ?

เย่ซวนเต็มไปด้วยความสงสัย "ผู้อาวุโส​ ท่านเป็นใคร? "

เสียงหญิงลึกลับกล่าวว่า "ว่ากันตามเหตุและผล​ เจ้าเป็นผู้ใหญ่แล้ว อย่างน้อยเจ้าควรอยู่ในดินแดนที่เงียบสงบ​ เหตุใดเจ้าจึงอ่อนแอเช่นนี้? สภาพร่างกายเจ้าก็ย่ำแย่​และไม่น่าดูเลย"

เย่ซวน: "..."

ทันใดนั้นหญิงลึกลับก็ถามว่า "เจ้าฝึกร่างกายของเจ้าอย่างไร? "

เย่ซวนกำลังลังเลก่อนจะตอบว่า "ข้าแบกของหนักวิ่งไปมา"

หญิงลึกลับพูดอย่างเย็นชา "เจ้าอยู่ในยุคดึกดำบรรพ์หรือ? การฝึกโดยใช้วิธีเช่นนี้ทำร้ายร่างกายของเจ้า! มันทำลายพลังทางจิตวิญญาณของเจ้าเอง!"

เย่ซวนยิ้มอย่างมีเลศนัย "ผู้อาวุโสของข้าที่อยู่ในเมืองชิงก็ฝึกเช่นนี้"

หญิงคนนั้นเงียบไป

เย่ซวนพูดไม่ออก เขามองไปรอบ ๆ แต่ก็ยังไม่เห็นใครเลย

ทุกอย่างที่อยู่ที่นี่มีแต่ความแปลกประหลาด

เมื่อเห็นว่าหญิงลึกลับไม่ได้พูดอะไร เขาก็จ้องไปที่หินก้อนนั้นด้วยดวงตาอันกระตือรือร้นและอยากรู้อยากเห็น

“อยากเรียนกระบี่” หญิงลึกลับถามในทันใด

เย่ววนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว "อยาก​!"

ใครบ้างที่ไม่อยากขี้กระบี่ข้ามภิภพทะลุสวรรค์และโลก?

หญิงลึกลับกล่าวว่า "ตันเถียนของเจ้าถูกทำลายไปแล้ว เจ้าไม่สามารถฝึกจิตวิญญาณแห่งกระบี่ได้"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเย่ซวนก็เศร้าสลดในทันใด

ตันเถียนสลายแล้ว! ไม่ต้องพูดถึงผู้ฝึกฝนกระบี่ แม้แต่นักรบธรรมดาก็ฝึกได้ยากนัก ตอนนี้เขาเป็นแค่นักรบธรรมดาเท่านั้น

ทันใดนั้น หญิงลึกลับก็พูดขึ้น: "ไม่เป็นไร​ ฉันมีวิธีฝึกดาบแตกต่างจากคนอื่น​ อยากเรียนรู้ไหม? "

เย่ซวนตกตะลึง จากนั้นรีบพูดว่า "เรียนอย่างไม่มีตันเถียนได้ไหม? "

หญิงลึกลับกล่าวว่า "ไม่มีตันเถียนดีกว่า"

เรียนโดยไม่ต้องมีตันเถียน!

เย่ซวนเกือบจะกระโดดขึ้นอย่างตื่นเต้น เขาพยายามบังคับตัวเองให้สงบลง เขามองไปรอบ ๆ "ท่านผู้อาวุโสมีเงื่อนไขอย่างไร? " เขารู้ว่าทุกอย่างต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนเสมอ

หญิงลึกลับกล่าวว่า​ "ตอนนั้นหอคอยนี้ได้รับความเสียหายอย่างมาก​ และกฏทั้งเก้าก็กระจายออกไปยังอาณาจักรชิงฉาง​ ผนึกในแต่ละชั้นนั้นเริ่มคลี่คลาย​ เจ้าเป็นโชคดี ผู้ฝึกฝนดาบที่อยู่ต่อหน้าเจ้าเสียชีวิตตอนที่เจ้ามา​ มิเช่นนั้นเจ้ากลายเป็นศพไปแล้ว "

เย่ซวน: "..."

หญิงลึกลับพูดอีกครั้ง​ "ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังสงสัยมากว่าหอคอยนี้คือหอคอยอะไร แต่ข้าไม่อาจบอกความหมายเจ้าได้ เจ้าแค่ต้องรู้ว่าหอคอยนี้มี 12 ชั้นและแต่ละชั้นได้กักขังสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดในแต่ละโลกไว้​ ไม่ว่าจะเป็นโลกมนุษย์ โลกวิญญาณ โลกปีศาจ และแม้แต่โลกแห่งเทพเซียนสวรรค์... หอคอยนี้เคยผนึกได้ทั้งหมด​ แต่ตอนนี้ ผนึกได้คลายออกเป็นที่เรียบร้อย​และในตอนนี้ยากที่จะควบคุม”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เธอหยุดไปชั่วครู่แล้วกล่าวว่า​ "สิ่งที่เจ้าต้องทำคือคือตามหากฎที่หายไป​ทั้งเก้ากลับมา​เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับหอคอยแห่งนี้ แน่นอนว่าเจ้าสามารถเลือกที่จะปลดปล่อยได้เช่นกัน "

“ปลดปล่อย?”

เย่ซวนตกตะลึงแล้วพูดว่า "จะเกิดอะไรขึ้น?"

หญิงลึกลับกล่าวว่า​ "ผลลัพท์มีอยู่​สองประการ​ ประการแรกคือพวกเขาจะฆ่าเจ้า และยึดหอคอย ประการที่สองคือยับยั้งพวกเขาและให้พวกเขาทำงานให้เจ้า แน่นอนว่าด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าในตอนนี้ เจ้ามีโอกาสฆ่าพวกเขาได้แน่นอน"

เย่ซวนยิ้มอย่างมีเลศนัย นี่เป็นทั้งคำอวยพรและคำสาป!

เย่ซวนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง​และถามขึ้นมาว่า​ "ท่านผู้อาวุโสถูกขังอยู่ที่นี่หรือ? "

หญิงลึกลับกล่าว​ "ไม่​ !"

เย่ซวนถาม​ "เหรอ?"

หญิงลึกลับกล่าว​ "เจ้าถามมากเกินไป"

เย่ซวน "..."

หญิงลึกลับกล่าวว่า​ "ตอนนี้คุณเป็นเจ้าของของหอคอยแห่งนี้ ทุกครั้งที่เจ้าพบกฎหนึ่งข้อ ความแข็งแกร่งของเจ้าจะไม่เพียงเพิ่มมากขึ้น แต่การควบคุมหอคอยนี้ของเจ้าจะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เจ้าจะสามารถควบคุมหอคอยชั้นแรกได้ และเมื่อคุณต่อสู้กับผู้คน หากศัตรูแข็งแกร่งกว่าเจ้าไม่มากเจ้าสามารถใช้พลังของหอคอยนี้เพื่อผนึกคู่ต่อสู้ ตอนนี้หอคอยนี้ยังมีประสิทธิภาพยังไม่สมบูรณ์ ผนึกแต่ละชั้นค่อย​ ๆ ถูกทำลาย และค่อยปลดปล่อยสิ่งที่ถูกผนึกไว้อยู่​ เมื่อหอคอยพังทลาย และสิ่งมีชีวิตที่ถูกผนึกในหอคอยนี้จะได้รับการปลดปล่อย เมื่อทุกสิ่งได้รับอิสระ​ คนแรกที่ต้องตายอาจจะเป็จเจ้า"

เย่ซวนกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้ม "ท่านผู้อาวุโส​ ท่านต้องการให้ข้ากอบกู้ใช่หรือไม่? "

หญิงลึกลับกล่าวว่า "สิ่งที่เจ้าต้องช่วยคือตัวเจ้าเอง ผู้ที่ถูกคุมขังในชั้นที่สองนั้นไม่ใช่คนดี คาดว่าผนึกชั้นที่สองจะสลายไปอย่างสมบูรณ์ในอีกหนึ่งปี​หากถึงเวลานั้นเจ้าทำได้แค่​ "บอกลา"

เย่ซวนโค้งคำนับ "ท่านผู้อาวุโสได้โปรดสอนวิธีการฝึกฝนที่ไม่ต้องใช้ตันเถียนให้ข้าด้วย"

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง หญิงลึกลับก็กล่าวว่า "วิธีการฝึกฝนกระบี่ของข้าค่อนข้างแตกต่างจากวิธีการฝึกฝนวิชากระบี่โดยทั่วไป และความยากต่างกันโดยสิ้นเชิง​ หลังจากได้รับการฝึกเจ้าอาจจะยอมตายเสียดีกว่า​ จงทบทวนให้ดีก่อน"

เย่ซวนขำตัวเองยิ่งนัก "ข้าไม่มีตันเถียนแล้ว จะมีหนทางสำหรับข้าอีกหรือ? "

หญิงลึกลับกล่าว​ "หนทางมีเสมอ อย่างไรก็ตาม ข้ายังอยากจะบอกวิธีการฝึกฝน​ ในเมื่อเจ้าไม่มีตันเถียน เจ้าเหมาะกับวิธีการฝึกของข้า นั่นคือการใช้กระบี่เป็นตันเถียน"

เย่ซวนตกตะลึง "ใช้กระบี่เป็นตันเถียน ได้จริงหรือ?"

หญิงลึกลับกล่าวว่า​ "แน่นอนว่าสามารถใช้กระบี่เป็นตันเถียนได้ การฝึกวิชากระบี่ของข้าไม่ได้ฝึกศิลปะการต่อสู้ แต่เป็นวิถีแห่งการใช้กระบี่ การใช้ดกระบี่เป็นตันเถียน หากกระบี่ยิ่งดีเท่าไหร่ ตันเถียนของเจ้าจะดีขึ้นเท่านั้น ไม่เพียงเท่านั้น ขณะคนอื่นฝึกลมปราณ เจ้าก็ฝึกกระบี่ เมื่อเจ้าฝึกฝนอย่างชำนาญ ต่อไปเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องทำสมาธิเพื่อดูดซับพลังงานทางจิตวิญญาณ เพียงแค่ต้องหากระบี่ดี​ ๆ เพื่อดูดซับพลังวิญญาณ ยิ่งดาบดีเท่าไหร่ เจ้าก็จะยิ่งเร็วพัฒนาตัวเองได้เร็วขึ้น การฝึกฝนจะดีขึ้นเรื่อย​ ๆ ในช่วงแรก กระบี่จะเป็นร่างกายของเจ้า​ เจ้าจะมีภูมิคุ้มกันต่อกระบี่ธรรมดา ไม่เพียง แต่ป้องกันได้ หากเจ้าปรากฎกาย​ กระบี่ทุกเล่มจะยอมจำนนต่อเจ้า "

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

958