บทที่ 15 ทักษะกระบี่

การดำรงอยู่แบบนี้ค่อนข้างหายาก ต้องรู้ว่าตระกูลเย่มีศิลปะการต่อสู้ระดับต่ำเป็นเวลาหลายปี !

นอกจากนี้ทักษะการต่อสู้ยังแบ่งออกเป็นขั้นต่าง ๆ กันไป เช่น ขั้นสวรรค์ ขั้นปฐพี ขั้นจิตวิญญาณ ขั้นมนุษย์ และขั้นสามัญ

และทักษะการต่อสู้ที่ดีที่สุดของตระกูลเย่เป็นเพียงทักษะขั้นมนุษย์ระดับต่ำ ซึ่งมีเพียงผู้อาวุโสเท่านั้นที่สามารถฝึกฝนได้ ในเมืองชิงทักษะที่ดีที่สุดมีเพียงผู้นำตระกูลเจียงที่ฝึกขั้นจิตวิญญาณสำเร็จ !

ทักษะการต่อสู้ล้ำค่ายิ่งกว่ายาลูกกลอน ! สำหรับทักษะกระบี่นั้นหายากยิ่งกว่า ในเมืองชิงอาจจะไม่มีก็ว่าได้ !

หญิงลึกลับกล่าวว่า "ข้ามีทักษะกระบี่สองประเภทให้เจ้าเลือก ประเภทแรกเป็นทักษะกระบี่ที่ทรงพลัง ทักษะประเภทนี้มีพลังทำลายล้างที่รุนแรงมาก แต่มีขีดจำกัด และอีกประเภทคือประเภทไม่มีระดับ และไม่มีขอบเขต ยิ่งเจ้าแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ทักษะกระบี่จะยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น และสามารถอยู่กับเจ้าไปชั่วชีวิต อย่างไรก็ตามทักษะกระบี่ประเภทนี้มีข้อบกพร่องใหญ่หลวงนั่นคือ หากเจ้ามีเจตนาฆ่าผู้ใด และศรัทธาเจ้ายังไม่แข็งแกร่งพอ มันจะอ่อนแอลงเรื่อย ๆ ในทางกลับกัน หากเจ้ามีเจตนาฆ่าผู้ใด และศรัทธาเจ้าแข็งแกร่ง มันก็จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ แข็งแกร่งจนไร้ขีดจำกัด !"

เย่ซวนพูดด้วยเสียงทุ้ม "ผู้อาวุโส ข้าสามารถฝึกทั้งสองอย่างได้หรือไม่? "

หญิงลึกลับกล่าวว่า "ไม่ เจ้าโลภมากไม่ได้ เจ้ายังเก่งไม่เท่านาง เจ้าสามารถฝึกฝนทักษะกระบี่อื่น ๆ ได้อีกในอนาคต แต่สำหรับตอนนี้ สิ่งที่ดีที่สุดคือเลือกฝึกฝนเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะเจ้ามีความรู้ความเข้าใจของวิชากระบี่ยังไม่ลึกซึ้ง อีกอย่างเรียนมากไปก็กินไม่ได้ ทักษะกระบี่ทุกแขนง โดยเฉพาะวิชากระบี่ที่ข้าถ่ายทอดให้เจ้า ไม่ใช่ทักษะกระบี่ธรรมดา มันคือทักษะแห่งทัศนคติ ชีวิต และแนวคิดของเต๋า เข้าใจไหม? "

เย่ซวนมองไปรอบ ๆ และกล่าวว่า "ผู้อาวุโสฝึกกระบี่เหมือนกันอย่างนั้นเหรอ?"

หญิงลึกลับพูดเบา ๆ "เจ้าถามมากเกินไป"

เย่ซวน "..."

หญิงลึกลับพูดต่อ "เลือกสิ จะเลือกอันไหน? "

เย่ซวนยิ้มอย่างมีเลศนัย "แน่นอนว่าเป็นแบบที่สอง"

หญิงลึกลับกล่าวว่า "เจ้ามีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ แต่จำไว้ว่าหัวใจที่ยิ่งใหญ่ต้องคู่กับความแข็งแกร่งเสมอ "

เย่ซวนพยักหน้าเล็กน้อย "เข้าใจแล้ว"

หญิงลึกลับกล่าวว่า "ทักษะกระบี่ของข้าเรียกว่า กระบี่ชี้ชะตา สิ่งสำคัญของทักษะกระบี่นี้คือหากข้าชักกระบี่ มันจะกำหนดความเป็น และความตาย ทักษะกระบี่นี้ได้รับการฝึกฝนต่างออกไปจากทักษะกระบี่อื่น ๆ มันเป็นความเชื่ออย่างหนึ่งในวิถีแห่งวิชากระบี่ ดังนั้นเจ้าจะฝึกฝนมันได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนของเจ้าเอง !”

เมื่อสิ้นเสียงของหญิงลึกลับ บางสิ่งบางอย่างปรากฏขึ้นในใจของเย่ซวน ทักษะกระบี่กำลังทำงานอยู่!

เย่ซวนจับกระบี่หลิงเซียวอย่างรวดเร็ว และใช้มันตามวิธีการทำงานของทักษะกระบี่นั้น แต่เขาต้องตกใจมากที่พบว่าวิธีดังกล่าวไม่ได้ผลเลย เขาอึดอัดใจ !

เย่ซวนมองไปรอบ ๆ ด้วยความสับสน "ผู้อาวุโส นี่คืออะไร?"

หญิงลึกลับกล่าวว่า "วิธีการฝึกฝนทักษะกระบี่นี้ แบ่งออกเป็นหกขั้นตอน เจ้ายังปลดทักษะด่านแรกไม่ได้ ดังนั้นเจ้าจึงไม่สามารถใช้มันได้ เจ้าจะรู้เองเมื่อเจ้าได้ปลดทักษะแล้ว"

เย่ซวนรู้สึกแปลก ๆ ให้ตายเถอะ ทักษะกระบี่นี้คืออะไร ? ยังต้องปลดอีกหรือ ?

ทันใดนั้นหญิงลึกลับก็พูดว่า "ผู้ฝึกกระบี่ใช้กระบี่เมื่อชักกระบี่แล้ว ความเป็นและความตายของศัตรูจะถูกกำหนด รากฐานของทักษะกระบี่นี้อยู่ที่เจตนาและความเชื่อในวิถีของกระบี่ เจ้าไม่ควรมุ่งมั่นมาก แต่ต้องบรรลุทั้งหมดในเวลาที่เหมาะสม"

เย่ซวนยิ้มอย่างมีเลศนัย นั่นคือทั้งหมดที่เขาทำได้ในขณะนี้

ในเวลาต่อมา เย่ซวนไม่หยุดนิ่ง เขาซ้อมกับเงาอย่างเมามัน และการซ้อมกับเงาของเขาพัฒนาความเร็ว ความแข็งแกร่ง และความสามารถในการตอบสนองของเขาอย่างมาก !

เดิมทีเขามีประสบการณ์ในการต่อสู้มากมายและตอนนี้เขาไม่เพียงฝึกฝนกายาซ่อนเร้น แต่ยังกลายเป็นนักกระบี่แล้ว พลังการต่อสู้ในปัจจุบันของเขาแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมาก !

แม้ว่าเขาจะอยู่ในระดับผสานลมปราณขั้นที่หก แต่คนธรรมดาทั่วไปไม่อาจเทียบกับเขาได้ในตอนนี้ !

เวลาผ่านไปเร็วมาก และในไม่ช้าก็ถึงวันประลองระหว่างเย่หลางและเย่ซวน

และเพราะเย่หลางได้ป่าวประกาศเรื่องนี้ไปทั่วเมืองชิง ทำให้ทุกคนในเมืองต่างรู้เรื่องนี้

เย่ซวน !

เย่ซวนไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับคนเมืองชิง เขาเป็นผู้ช่วยชุบสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีของตระกูลเย่ในเมืองชิง กล่าวได้ว่าเย่ซวนเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลเย่ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ตระกูลเย่มีเย่หลางแทนที่

ราชวงศ์ไม่มีเครือญาติ ก็ไม่ต่างกับขุนนาง และที่โหดร้ายยิ่งกว่า นั่นคือใครก็ตามที่ทำเช่นนั้นจะได้รับคำชมจากในตระกูล และจะต้องไม่มีที่ว่างสำหรับเสือสองตัว ท้ายที่สุด มีเพียงคนเดีบงเท่านั้น พูดง่าย ๆ คือตระกูลเย่จะเลือกใครระหว่างเย่ซวนและเย่หลาง

วันนี้เป็นการต่อสู้แบบเอาเป็นเอาตายระหว่างเย่ซวนและเย่หลาง ตระกูลเย่ได้เชิญตระกูลใหญ่อื่น ๆ ในเมืองชิงมาดู ไม่เพียงแค่นั้น พวกเขาย้ายเวทีประลองไปนอกจวน

เวทีประลองนอกจวนกว้างมาก

คนที่ห่วงใยบางคนจะเข้าใจเจตนาของตระกูลเย่ เมื่อเร็ว ๆ นี้เย่หลังเป็นคนจุดไฟ และผู้อาวุโสต่าง ๆ เป็นคนกระพือไฟ ให้เขายกระดับศักดิ์ศรีสูงขึ้น และสร้างแรงผลักดันให้กับเขา แน่นอนว่าต้องมีความยับยั้งชั่งใจ เย่หลางไม่ค่อยแสดงทางสีหน้า และครั้งนี้เขาปรากฏตัวเพราะเขาต้องการแสดงศักดิ์ศรีของเขา

การจัดการของตระกูเย่นั้นสอดคล้องกับความปรารถนาของหลาย ๆ คนในเมืองชิง คนเหล่านี้ต้องการเห็นว่าผู้ถูกเลือกนั้นชั่วร้ายเพียงใด ดังนั้นผู้คนเกือบทั้งหมดในเมืองชิงต่างพากันไปที่เมืองเย่

นอกจวนตระกูลเย่ ถูกล้อมรอบไปด้วยผู้คน และมันมีชีวิตชีวามาก

จวนตระกูลเย่

ในห้องโถง ผู้อาวุโสทุกคนของตระกูลเย่ และเย่หลางก็อยู่ที่นั่นด้วย

เย่หลางสวมเสื้อคลุมสีดำ เสื้อคลุมนี้ไม่ใช่เสื้อคลุมธรรมดา ด้านในทอด้วยผ้าไหมสีทอง มันยากที่จะถูกทำลายด้วยกระบี่ธรรมดา นอกจากนี้ยังมีแผ่นหยกสีน้ำเงินห้อยอยู่ที่เอวของเย่หลาง แผ่นหยกนี้ไม่ใช่สิ่งธรรมดา เช่นกัน หยกสมาธิ สามารถทำให้เป็นสมาธิ และทำให้จิตใจแจ่มใส จิตใจแจ่มใสในช่วงเวลาวิกฤตเป็นสิ่งสำคัญมาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหยกสมาธินี้ประกอบด้วย พลังงานทางจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ ตอนนี้เย่หลางสามารถใช้ลมปราณควบคุมสภาวะได้ และการมีหยกสมาธินี้ก็เหมือนกับการเพิ่มปีกให้กับเสืออย่างไม่ต้องสงสัย

กล่าวได้ว่าคนตระกูลเย่นั้นยอมทุ่มเทให้เย่หลางมากเลยทีเดียว และทุกคนคิดว่ามันคุ้มค่า

ผู้อาวุโสใหญ่ทำความเคารพแผ่นจารึกบรรพบุรุษของตระกูลเย่ "สวรรค์ทรงโปรดปราน บรรพบุรุษโปรดปราน ตระกูลเย่ของข้ามีบุคคลที่ได้รับเลือก จากนี้ไปตระกูลเย่ของข้าจะกลับมารุ่งโรจน์ดั่งเช่นอดีต"

เมื่อพูดจบ ทุกคนในสนามก็โค้งคำนับอย่างสุดซึ้ง

หลังจากเสร็จพิธี ผู้อาวุโสใหญ่หันไปมองเย่หลาง "เย่หลาง วันนี้เป็นการแสดงครั้งแรกของเจ้า เจ้าไม่จำเป็นต้องจับมือกับเย่ซวน"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้อาวุโสทุกคนที่อยู่ด้านข้างก็พยักหน้า เย่ซวนผู้นี้มีหนามแหลมคมเกินไป กำจัดมันเสียจะดีกว่า

เย่หลางยิ้มเล็กน้อย "ไม่ แน่นอน !"

ผู้อาวุโสใหญ่พยักหน้า "ข้าได้รับข่าวว่ามีคนมาจากเมืองเหยียน เมืองหลัวเดินทางมาที่เมืองชิง ข้าคิดว่าพวกเขาถูกส่งมาเพื่อดูการประลองระหว่างเจ้าและเย่ซวน สร้างแรงผลักดัน หลังจากที่เจ้าฆ่าเย่ซวนได้ เจ้าจะมีชื่อเสียง และตระกูลต่าง ๆ จะเข้าหาเรา ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้รับความสนใจ และแม้กระทั่งเป็นความสนใจของสำนักชางมู่ !”

เย่หลางพยักหน้าเล็กน้อย "เข้าใจแล้ว"

ผู้อาวุโสใหญ่เดินมาหาเย่หลาง และเขาตบไหล่ของเย่หลางเบา ๆ "ผู้ที่ได้รับเลือกจากสวรรค์มีความทรงจำในอดีตชาติ ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครในชาติที่แล้ว แต่เจ้ามีสายเลือดตระกูล เย่ของข้า “เจ้าคัดค้านหรือไม่ ?”

เย่หลางยิ้ม และพูดว่า "วิญญาณและเลือดของข้าเป็นของตระกูลเย่" อย่างไรก็ตาม เขาก็เกิดความคัดค้านในใจ เขาดูถูคนตระกูลเย่ และเย่ซวนเป็นเพียงก้อนหินอันต่ำต้อยให้เขาเหยียบย่ำ ตระกูลเย่เป็นเพียงสะพานให้เขาก้าวข้าม !

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้อาวุโสใหญ่ "ดีแล้ว ไปกันเถอะ!"

ในไม่ช้า ภายใต้การนำของผู้เฒ่าผู้ยิ่งใหญ่และผู้อาวุโสคนอื่นๆ เย่หลางได้ออกจากจวนตระกูลเย่ และมาที่เวทีการประลองที่สร้างขึ้นใหม่

เมื่อผู้ชมเห็นเย่หลาง ผู้ชมต่างก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที

วายร้ายอัจฉริยะ!

อัจฉริยะผู้นี้สามารถดึงดูดนิมิตแห่งสวรรค์และโลกที่ไม่เคยมีใครสามารถทำให้ปรากฏที่เมืองชิงมาก่อน

เย่หลางมองไปที่ฝูงชนด้านล่าง และรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา ในชีวิตก่อน ๆ ของเขาเขาเคยเห็นคนอื่น ๆ แบบนี้ แต่ในชีวิตนี้สวรรค์เมตตาให้เขาดึงดูดนิมิตแห้งสวรรค์และโลกมนุษย์ได้

ในชีวิตนี้ เขาถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในไข่มุกที่แพรวพราวในเมืองชิง!

เย่หลางจะกลายเป็นตำนานอย่างแน่นอน !

หลังจากได้ยินเช่นนั้น รอยยิ้มที่มุมปากของเย่หลางก็ค่อยๆ กว้างขึ้น และหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็หันศีรษะไปมองจวนตระกูลเย่อย่างกะทันหัน "เย่ซวนออกมา ข้าจะพาเจ้าไปสู่ความตาย!"

เสียงฟ้าร้องดังก้องไปทั่วท้องฟ้า

เย่ซวน!

ผู้คนนับไม่ถ้วนมองไปที่จวนตระกูลเย่

แล้วเย่ซวนล่ะ?

เย่ซวนยังไม่ออกมา

“กลัวงั้นเหรอ?”

"ไม่มีทาง? เย่ซวนเป็นถึงมือสังหารตระกูลเย่ เขาไม่กลัวความตายหรอก"

“ไม่เห็นเหรอว่าคู่ต่อสู้ปัจจุบันของเขาคือใคร ? นี่คือผู้ที่ถูกเลือก และเขายังเป็นผู้ที่ถูกเลือกที่สามารถดึงดูดนิมิตแห่งสวรรค์และโลกมนุษย์ได้”

"อย่าพูดถึง รอดูก่อน ตระกูลเย่จะให้คำอธิบายกับทุกคนอย่างแน่นอน!"

ณ เวทีประลองไม่ไกลนัก ผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลเย่มองไปที่จวนตระกูลเย่และขมวดคิ้ว "เขากำลังทำบ้าอะไร ไปดูซิ"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เย่ขู่ก็พยักหน้าและกลับไปดู