บทที่ 2 การเปลี่ยนแปลงของสามี

ฮั่วปู้ฝานรู้ดีว่าหนิงเสี่ยวฉินไม่เชื่อในคำขอโทษของเขา เพราะคนเลวคนหนึ่งทำให้ความทรงจำนี้มันฝังลึกลงไปภายในใจของเธอ

แต่เขาก็เกิดใหม่ในร่างของหลี่ซูเฮิงแล้ว ถ้าหากว่าเขาต้องใช้ร่างนี้เริ่มต้นที่จะทำเรื่องต่างๆที่อยากทำให้สำเร็จแบบนั้นก็จะต้องเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง

หลังจากที่คิดอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าจะต้องทำยังไงต่อไป ภายในห้องกลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง มีเพียงเสียงดูดเส้นก๋วยเตี๋ยวอย่างจริงจังของถังถังที่ดังเข้ามาในหู

หลังใช้เวลา2ชั่วโมงเต็มๆในการลงโฆษณา ก็ยังไม่มีใครมาซื้อเลย หนิงเสี่ยวฉินทำได้เพียงปล่อยวาง"งาน"ของวันนี้

ในขณะที่เธอลุกขึ้นจะไปเก็บถ้วยก๋วยเตี๋ยวของลูกสาวนั้นเธอก็พบว่าบนโต๊ะนั้นไม่มีอะไรอยู่แล้ว

เมื่อหันไปมองที่ห้องครัวเธอก็พบว่าฮั่วปู้ฝานกำลังเช็ดเตาอย่างกระฉับกระเฉง

แม้เขาจะเป็นหลายชายคนโตของตระกูลฮั่วที่มีคนคอยจัดการดูแลทุกเรื่องภายในบ้าน แต่ฮั่วปู้ฝานไม่ชอบพึ่งพาคนอื่น เขาชอบทำอาหารเอง ล้างจานเอง ใส่เสื้อผ้าเอง ซักเสื้อผ้าเอง

แม้กระทั้งรถที่เขาขับ เขาก็ล้างมันด้วยตัวเขาเอง

ไม่ใช่เพราะเห็นอกเห็นใจความยากลำบากของพี่เลี้ยงหรอกนะ แต่เขารู้สึกว่าเขาก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งซึ่งต้องทำอะไรบ้าง ไม่อย่างนั้นก็ผ่าเอาสมองออกมาวางไว้ในห้องทำงาน และเผาร่างกายส่วนอื่นทิ้งไปซะให้หมด

โดยเฉพาะวันนี้เขายิ่งรู้สึกว่าเขาควรทำอะไรบางอย่างไม่ใช่เพียงเพื่อจะปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหนิงเสี่ยวฉินและเขายิ่งหวังว่าจะทำให้ตัวเองรู้สึกว่ายังเป็นคน!

หนิงเสี่ยวฉินไม่เคยเห็นสามีของเขาทำงานบ้านมานานแล้ว" ภาพนี้เหมือนเกิดขึ้นเมื่อวาน และก็เหมือนว่ากำลังฝันไป

อย่างไรก็ตามในที่สุดก็ต้องตื่นจากฝัน

เมื่อฮั่วปู้ฝานออกมาจากห้องครัว สองแม่ลูกก็เข้าห้องนอนไปแล้ว

ในตอนนั้นเองจู่ๆเด็กน้อยก็ร้องว่าปวดฉี่และวิ่งออกมาจากห้องนอน

เธอหันไปมองแม่ที่ยังจดจ่ออยู่กับหน้าจอโทรศัพท์จากนั้นก็รีบวิ่งไปหาฮั่วปู้ฝานยัดของบางสิ่งใส่ในมือของเขาและทำท่า"ซู่ว"

"ถังถังเร็วๆหน่อยลูก เดี๋ยวเป็นหวัดเอานะ!"หนิงเสี่ยวฉินตะโกนเรียก

"อื้มอื้ม หนูรู้แล้วค่ะ!"ถังถังวิ่งเข้าห้องน้ำไปด้วยรอยยิ้ม ไม่ถึงสองวิเธอก็วิ่งออกมา

"เข้าห้องน้ำอะไรเนี้ยทำไมไวจัง?"

"ก็แค่เมื่อกี้ปวดฉี่ แต่ตอนนี้ไม่ปวดแล้วค่ะ"

บทสนทนาระหว่างแม่และลูกสาวดังเข้ามาในหู ฮั่วปู้ฝานก้มลงมองของที่อยู่ในมือนั้นก็คือไส้กรอกข้าวโพดอีกครึ่งแท่ง

เห็นได้ชัดว่าเป็นอันที่ถังถังกิน เพราะแม่ไม่ให้พ่อกิน ดังนั้นเธอเลยเก็บไว้ครึ่งหนึ่งและใช้โอกาสนี้แอบเอามาให้เขา

มองไปที่ไส้กรอกข้าวโพดครึ่งแท่งในมือและมองไปยังเด็กน้อยที่เล่นกับแม่อยู่ในห้องนอน แม้ว่าฮั่วปู้ฝานจะเจอกับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเขา แต่ตอนนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอ

นี่คือความรักในครอบครัวที่ไม่สามารถมองข้ามมันไปได้ และมันเป็นแสงสว่างที่เขาเห็นในช่วงเวลาที่สิ้นหวังและมืดมนที่สุด

เมื่อคิดถึงตอนที่เด็กน้อยคนนี้กำลังจะเติบโตแต่เธอกินเพียงแค่ก๋วยเตี๋ยวที่ไม่มีสารอาหารอะไร แม้กระทั้งไส้กรอกข้าวโพดก็กินเพียงครึ่งเดียวเพื่อเก็บส่วนที่เหลือไว้ให้เขา

ฮั่วปู้ฝานกำหมัดแน่นจนเล็บของเขาฝังลงไปในเนื้อ

สองวันก่อนเขาหมดหวังกับความสัมพันธ์ในครอบครัว

สองวันต่อมาเขาได้รับความรักอีกครั้ง

เมื่อเคยเสียมันไป ถึงจะเรียนรู้วิธีการดูแลรักษามัน

ฮั่วปู้ฝานเข้าใจความหมายของประโยคนี้แล้ว

เขาค่อยๆหยิบไส้กรอกครึ่งหนึ่งนั้นเข้าปากที่ละนิดแล้วเคี้ยวมันอย่างช้าๆ ของกินที่เมื่อก่อนเขาไม่เคยจะสนใจ เขากินมันอย่างช้าๆและระมัดระวัง

เมื่อกินไส้กรอกคำสุดท้ายเสร็จฮั่วปู้ฝานก็พูดว่า:"ผมสัญญา ว่าผมจะทำให้ภรรยาและลูกมีชีวิตที่ดีที่สุด!ถ้าหากผมทำไม่ได้ ขอให้ผมโดนฟ้าผ่าตาย!"

คำสัญญานี้พูดออกมาพร้อมกับไส้กรอกที่อยู่ในปาก ของที่กินไปแล้วไม่สามารถคายออกมาได้

เสียงบนเตียงเงียบลง ถังถังโผล่หัวออกมามองเขา แต่ก็โดนหนิงเสี่ยวฉินเรียกกลับไปอย่างรวดเร็ว

"นอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนนะ!"หนิงเสี่ยวฉินดุลูกสาวของเธอ และตอบกลับในสิ่งที่ฮั่วปู้ฝานพูด:"เอาเถอะฉันฟังจนเบื่อแล้ว"

ฮั่วปู้ฝานไม่ตอบโต้อะไร เขารู้ว่าเรื่องบางเรื่องไม่สามารถแก้ไขได้โดยเร็ว เขาเพียงแค่พูดในสิ่งที่เขาต้องการจะทำออกไป หลังจากนี้เขาจะทำให้มันเป็นความจริง!

ห้องนอนเล็กที่ขนาดไม่ถึงสิบตารางเมตร เตียงนอนก็เล็กมากเพียง1.2เมตร

หากยึดตามความทรงจำแล้วเตียงนั้นมีพื้นที่ที่เป็นของฮั่วปู้ฝานอยู่ แต่ตาม"มารยาท"และความไม่มั่นใจในตัวตนของเขา ฮั่วปู้ฝานไม่อาจขึ้นเตียงได้อย่างสบายใจ

ใช้ร่างกายของคนอื่น แล้วยังจะใช้ภรรยาของคนนั้นด้วยมันไม่ใช่เรื่องที่ดี อย่างน้อยๆตอนนี้ฮั่วปู้ฝานก็ไม่ได้ความคิดอะไรแบบนั้น เขาไปนอนลงบนโซฟาที่ใช้มานานกว่า18ปี

เช้าวันรุ่งขึ้น ฮั่วปู้ฝาต้มน้ำร้อนไว้เรียบร้อย บีบยาสีฟันเตรียมไว้ให้ อีกทั้งยังทำไข่ลวกไว้สำหรับสามคนอีกด้วย

ในบ้านไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า"ขั้นสูง"อย่างไมโครเวฟ จึงต้องใช้หม้อใบเล็กในการอุ่นนม

เขาถือทุกอย่างมาที่โต๊ะในห้องนั่งเล่น และเห็นหนิงเสี่ยวฉินและถังถังกำลังมองเขาอยู่บนที่นอน

สองแม่ลูกล้วนเหมือนเห็นผี ถังถังจึงถามตรงๆว่า:"ปะป๋าต้องการเงินใช่ไหมคะ?"

ฮั่วปู้ฝานหัวเราะอย่างขมขื่น แม้กระทั้งลูกสาวก็รู้ถึง"นิสัยไม่ดี"ของเขาเหรอ?

"ปะป๋ามีเงินลูก รีบลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าล้างหน้าแปรงฟันเถอะ"ฮั่วปู้ฝานพูดด้วยรอยยิ้ม

"อื้ออื้อ เยี่ยมไปเลยหนูอยากกินอาหารที่ปะป๋าทำ!"ถังถังกำลังจะลงจากเตียงมาด้วยความตื่นเต้น แต่โดนหนิงเสี่ยวฉินรั้งไว้:"เสื้อผ้ายังใส่ไม่เรียบร้อยเลย ถ้าเป็นหวัดขึ้นมาจะทำยังไง!"

"เดี๋ยวผมใส่ให้ลูกเอง คุณไปล้างหน้าแปรงฟันเถอะ" ฮั่วปู้ฝานกล่าว

"ทำดีเพื่อหวังผลประโยชน์" หนิงเสี่ยวฉินเหลือบมองมาที่เขา และใส่เสื้อผ้าให้ถังถังต่อ

เมื่อคืนสองแม่ลูกเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ เช้าวันนี้เขาเพิ่งได้มองในระยะใกล้ ฮั่วปู้ฝานจึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่ารูปร่างของหนิงเสี่ยวฉินนั้นดีมาก แม้จะบดบังด้วยชุดนอนที่หลวมโคร่งก็ยังสามารถรับรู้ได้

"มองอะไรอยู่ได้!"หนิงเสี่ยวฉินจ้องมาที่เขา

ฮั่วปู้ฝานหัวเราะเบาๆและละสายตาอย่างรวดเร็ว

สองแม่ลูกใส่เสื้อผ้าเสร็จ เมื่อเดินไปที่ห้องน้ำก็พบว่า แปรงสีฟันยาสีฟันหรือแม้กระทั้งน้ำร้อนก็เตรียมไว้เรียบร้อยหมดแล้ว

เมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้ หนิงเสี่ยวฉินก็ตกอยู่ในความงุนงงชั่วขณะ

"แม่คะ ปะป๋าเหมือนจะเปลี่ยนไปแล้ว" ถังถังเหงยหน้าขึ้นพูด

เมื่อหนิงเสี่ยวฉินเรียกสติตัวเองกลับมาได้ เธอก้มลงมองลูกสาว และพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มว่า:"จริงเหรอ......"

ไม่ว่าจะยังไงหนิงเสี่ยวฉินก็ไม่เชื่อว่าหลังจากที่สามีเขานอนอยู่บนเตียงมาสองวันเต็มๆจะเปลี่ยนไปได้มากมายเช่นนี้

หลังจากแปรงฟัน ล้างหน้า ทานอาหารเสร็จฮั่วปู้ฝานก็ถามขึ้นขณะที่กำลังเก็บถ้วยชามว่า:"ไม่ต้องไปส่งลูกที่โรงเรียนจริงๆเหรอ ยังไงซะผมก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว"

"ถ้าคุณคิดว่าไม่มีอะไรทำก็กลับไปขับรถหาเงินเถอะ"หนิงเสี่ยวฉินจัดระเบียบเสื้อผ้าให้ถังถัง ลุกขึ้นและเดินออกไป

ฮั่วปู้ฝานถอนหายใจและไม่ได้พูดอะไร เขาลูบที่กระเป๋ากางเกงของ เขาคิดว่าว่าอีกซักพักจะออกไปซื้อกับข้าว ปรับปรุงอาหารการกินของทั้งสองแม่ลูก กินก๋วยเตี๋ยวกับไส้กรอกอยู่ตลอดมันจะเป็นไปได้ยังไงกัน

แต่เมื่อดูในกระเป๋าตัวเองแล้วกลับช่างว่างเปล่าไม่มีแม้แต่เงินซักบาท

ฮั่วปู้ฝานเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าก่อนที่เขาจะมาเกิดใหม่ในร่างของหลี่ซูเฮิง หลี่ซูเฮิงสูญเสียเงินเดือนเดือนที่แล้วไปกับการแพ้พนันและยังเป็นหนี้อยู่อีกห้าแสนกว่าบาท

ไอ้คนไร้ประโชน์เอ้ย....

"เดี๋ยวก่อน!"

หนิงเสี่ยวฉินหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียง เห็นฮั่วปู้ฝานกำลังวิ่งมาหาเธอ ซึ่งเธอสามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพูดพร้อมกับรอยยิ้มว่า:"ทำอะไรนะ?"

ฮั่วปู้ฝานมีสีหน้าที่ลำบากใจ เมื่อเช้าเขายังพูดอยู่เลยว่ามีเงิน ตอนนี้กลับคำเสียแล้ว.......

ถึงจะสิ้นเนื้่อประดาตัวแต่ก็คงไม่ไปขอบ่อยๆเพียงเพื่อจะมาซื้อกับข้าวหรอก?

เขาพูดด้วยสีหน้าเขิน:"ก็คือ.....ฉันอยากจะทำของอร่อยๆให้คุณกับลูกกิน ให้เงินผมซักหนึ่งพันได้ไหม ผมจะเอาไปซื้อกับข้าว....."

"งั้นเอาไปพันห้าโอเคไหม เอาไปซื้อซีอิ๊ว น้ำส้มสายชูพวกนี้ด้วย?"หนิงเสี่ยวฉินกล่าว

"เหมือนว่าน้ำมันและเต้าเจียวในบ้านจะหมดแล้วถ้า....."ฮั่วปู้ฝานพูดต่อ พูดไปซักพักถึงรู้ในความหมายของหนิงเสี่ยวฉิน เขาเหงยหน้าขึ้นมามองและก็พบว่าสีหน้าของหนิงเสี่ยวฉินใจเย็นลงแล้ว

เธอหยิบกระเป็าสตางค์และโยนเงินให้ฮั่วปู้ฝานหนึ่งพัน:สันดานมันเปลี่ยนกันยาก!"

พูดเสร็จก็จูงถังถังออกไป

เด็กน้อยหันกลับมามอง ถอนหายใจและส่ายหัวให้กับฮั่วปู้ฝานด้วยสีหน้าที่หมดหวัง

ฮั่วปู้ฝานยิ้มอย่างขมขื่น เขาไม่ได้อย่างทำแบบนี้เขาเพียงแค่อยากจะทำของอร่อยๆให้พวกเธอกิน

ก้มลงเก็บเงินหนึ่งพันขึ้นมาเห็นฝุ่นที่อยู่บนสิ่งนั้น ฮั่วปู้ฝานไม่รู้จะพูดอะไรเลย

เคยเป็นถึงหลายชายคนโตของตระกูลฮั่ว เงินร้อยล้านพันล้านเขาไม่เคยใส่ใจ แต่วันนี้ต้องก้มลงเก็บเงินเพียงหนึ่งพันบาท













Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

827