บทที่ 3 โต๊ะที่เต็มไปด้วยของอร่อย
by จักรพรรดิTV
08:01,Feb 18,2021
ทั้งหมดก็เพราะหลี่ซูเฮิงนั่น มันจะไม่เป็นแบบนี้ถ้าพยายามซักหน่อย
ยังไงก็ได้เงินมาแล้ว ฮั่วปู้ฝานไม่คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
เขาไปตลาดเพื่อซื้ออาหารที่สองแม่ลูกชอบทาน ในตอนนั้นเองเขารู้สึกขอบคุณมากที่ได้เรียนรู้วิธีการทำอาหารตอนที่เขายังเป็นหลานชายตะกูลฮั่ว ไม่อย่างนั้นคิดจะทำตอนนี้ก็คงจะทำไม่ได้
แต่สองแม่ลูกไม่กลับมาในช่วงเที่ยง ฮั่วปู้ฝานก็ไม่กล้าที่จะใช้เงินหนึ่งพันที่ได้มาอย่างอยากลำบากนี้จึงทำก๋วยเตี๋ยวใส่ผักง่ายๆกินในตอนเที่ยง
ไม่ต้องพูดถึงอาหารรสชาติอันโอชะที่เขาคุ้นเคย ก๋วยเตี๋ยวชามนี้ไม่ใส่แม้กระทั้งเกลือกินแล้วก็ได้รสชาติที่แปลกใหม่
ฮั่วปู้ฝานใช้เวลาที่มีให้เป็นประโยชน์ ทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกของบ้าน สิ่งไหนที่ต้องจัดก็จัดเรียบร้อย สิ่งไหนต้องเช็ดก็เช็ด หลังจากทำทุกอย่างเสร็จแล้วเขาก็ไปนั่งที่หน้าคอมพิวเตอร์และเปิดคอม
เขาลังเลอยู่ซักพักและเริ่มค้นหาข่าวล่าสุด แต่ก็ไม่เจอข่าวอะไรที่เกี่ยวกับเขาเลย
เรื่องของเขาเกิดขึ้นมาสองวันแล้ว ทำไมถึงไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลยนะ? ไม่ว่าจะยังมีชีวิตหรือตายแล้ว ยังไงก็ต้องมีข่าวอะไรบ้าง
ฮั่วปู้ฝานยังไม่ชัดเจนในสิ่งแปลกๆที่ซ่อนอยู่ แล้วก็ยังไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้
หลังจากปิดหน้าเว็บไซค์และใช้เวลายี่สิบนาทีเพื่อสงบจิตใจ ฮั่วปู้ฝานก็เปิดหน้าการทำงานของเถาเป่า
เมื่อคืนเขานอนคิดทั้งคืนที่จะแก้ไขสถานการณ์ในตอนนี้ นอกจากปัจจัยของตัวเขาเองแล้ว ยังไงก็ต้องหาเงินให้คนในบ้านด้วย อย่างน้อยๆก็ต้องทำให้สองแม่ลูกได้กินอาหารที่ดีดี?
ตัวเองต้องสามารถหาเงินได้ เอาแต่พึ่งแต่เงินจากหนิงเสี่ยวฉิน พูดไปแล้วก็เหมือนเกาะผู้หญิงกิน
ร้านเถาเป่าของหนิงเสี่ยวฉินก็ขายพวกผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักแต่ยอดขายแย่มาก
สาเหตุที่มันไม่ดีเพราะนอกจากตัวผลิตภัณฑ์จะธรรมดาแล้ว ประสิทธิภาพของหัวข้อ ประสิทธิภาพของหน้าหลัก รวมถึงสิ่งดึงดูดภายในและภายนอกล้วนเป็นปัญหา
ถึงแม้ว่าฮั่วปู้ฝานจะไม่เคยมีร้านในเถาเป่ามาก่อนแต่เขาก็เข้าใจคนอื่นๆ รู้ว่าหัวข้อแบบไหน รูปภาพแบบไหน โปรโมทผลิตภัณฑ์แบบไหนถึงจะดึงดูดลูกค้าได้
หลังจากคัดกรองผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในร้านในที่สุดฮั่วปู้ฝานก็เหลือผลิตภัณฑ์ไว้เพียงแค่สองอย่างและลบผลิตภัณฑ์อื่น ๆออกหมด
จากนั้นเขาก็ดาวน์โหลดPhotoshop และทำการปรับแต่งรูปของผลิตภัณฑ์ คิดไปคิดมาฮั่วปู้ฝานก็เอาถาพถ่ายไม่กี่รูปของหนิงเสี่ยวฉินที่วางอยู่บนโต๊ะอัพโหลดลงไปเพื่อแนะนำตัวตนของเจ้าของร้านและยังสามารถตรวจสอบบัตรประชาชนได้
แม้ในการแนะนำจะบอกว่าหนิงเสี่ยวฉินเคยน้ำหนักถึงร้อยกิโล คำพูดพวกนี้ล้วนเป็นคำโกหก แต่เพื่อขายของก็ต้องทำแบบนี้แหละ
หลังจากแก้ไขบางอย่างเสร็จ หน้าหลักของร้านก็ดูสบายตาขึ้นซึ่งดูดีขึ้นมากหากเปรียบเทียบกับแบบเดิม
จัดการกับร้านค้าเรียบร้อยก็เหลือเพียงแค่การโปรโมท
ฮั่วปู้ฝานอาศัยความสามารถทางการตลาดที่แข็งแกร่งทำให้บริษัทเล็กๆที่กำลังจะล้มละลายเข้าสู่ 100 อันดับแรกของประเทศได้
จัดทำแผนการตลาดและทำการโปรโมทตามแผนที่วางไว้ ใช้เวลาไม่นานยอดขายจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
เหงยหน้ามองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังตอนนี้ก็ห้าโมงครึ่งแล้ว มีเวลาอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนที่สองแม่ลูกนั่นจะกลับมา
ไม่ว่าการโปรโมทจะสมบูรณ์แบบแค่ไหนแต่ก็ต้องใช้เวลาถึงจะเห็นผล ฮั่วปู้ฝานละความสนใจจากเรื่องนั้น ลุกขึ้นเดินไปที่ห้องครัวและเริ่มทำกับข้าว
ปลาผัดเปรี้ยวหวาน,หมาล่ากุ้ง,ผัดมันฝรั่งเส้น,ถั่วฝักยาวผัดน้ำมัน
อาหารสี่อย่างพร้อมซุปต้มยำเนื้อ ถ้าไม่ใข่เพราะมีเวลาน้อย ฮั่วปู้ฝานยังอยากที่จะทำก๋วยเตี๋ยวและนึงหมั่นโถวอีกหม้อหนึ่ง
แม้ว่าหมั่นโถวที่ทำจากเครื่องจะนิ่มแต่มันก็ยังเหนียวอยู่ดี ต้องนวดด้วยตัวเองหลายชั่วโมง เมื่อกินแล้วถึงจะนิ่มและได้รสชาติ
หนิงเสี่ยวฉินและถังถังเปิดประตูเข้ามา ทั้งสองตกตะลึงมาก
กลิ่นที่โชยเข้ามาในจมูกประกอบกับภาพอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะทำให้พวกเขาตกตะลึงมากๆ หนิงเสี่ยวฉินเรียกสติตัวเองกลับมาแล้วหันกลับไปมองเลขที่หน้าประตูเพื่อเช็คว่าเธอไม่ได้เข้าผิดห้อง
ฮั่วปู้ฝานถือซุปต้มยำออกมาจากห้องครัว ยิ้มเมือเห็นพวกเขาและพูดว่า:"ยืนตรงนั้นกันทำไมละ รีบเข้ามากินข้าวเถอะ"
"ว้าว!"ถังถังโต้ตอบและรีบวิ่งไปที่โต๊ะอาหาร กำลังเอื้อมมือจะไปหยิบอาหาร
"ล้างมือก่อน"ฮั่วปู้ฝานเอื้อมมือไปคว้าไว้แล้วพาไปที่ห้องน้ำ
"ขอหนูกินคำหนึ่งก่อนไม่ได้เหรอ....."ถังถังดิ้นอย่างขัดใจ
"ไม่ได้ ล้างมือก่อนต้องทำให้เป็นความเคยชิน"ฮั่วปู้ฝานพูดออกมาอย่างหนักแน่น
หนิงเสี่ยวฉินปิดประตูและมองมาที่อาหารที่วางอยู่บนโต๊ะไม่มีคำอะไรจะพูด
นอกว่าจานชามและโต๊ะที่เป็นของจริงอย่างอื่นล้วนเหมือนของปลอม...
ฮั่วปู้ฝานเป็นถึงหลายชายของตระกูลใหญ่ คนที่สอนทำอาหารให้เขาเป็นถึงเชฟมิชลินสตาร์
นอกจากการปรุงอาหารแล้วเซฟระดับนี้ยังให้ความสำคัญกับการจัดจานอีกด้วย ถ้าจัดจานไม่ดีอาหารที่ทำออกมาก็เสียเปล่า
ดังนั้นการจัดจานของฮั่วปู้ฝานจึงดูมีระดับและดูเหมือนว่าจะดีกว่าโรงแรมทั่วไปเสียด้วยซ้ำ
หนิงเสี่ยวฉินตรวจสอบสภาพแวดล้อมในบ้าน บ้านที่ดูว่าจะเหมือนเดิม แต่กลับดูดีกว่าปกติ ทุกอย่างสะอาดหมดจด เธอเอื้อมมือไปแตะสวิตช์ไฟที่อยู่ข้างๆซึ่งไม่มีแม้แต่ฝุ่น
ฮั่วปู้ฝานออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับถังถังหลังจากที่ล้างมือเสร็จและเห็นเธอยืนอยู่ที่ตรงนั้นจึงพูดว่า: "คุณก็ไปล้างมือแล้วมาทานข้าวเถอะ"
หนิงเสี่ยวฉินมองไปที่อาหารบนโต๊ะแล้วมองไปที่เขาและถามว่า "คุณซื้อมาจากไหน?"
"ก็ที่ตลาดนั้นแหละ"
หนิงเสี่ยวฉินมองไปที่เขาและพูดอีกครั้ง: "ฉันหมายถึงไปเอาอาหารจากร้านไหนกลับมา?"
ฮั่วปู้ฝานผงะและรู้ว่าเธอคิดว่าเขาซื้ออาหารสำเร็จรูปมาจากร้านอาหาร
"อาหารพวกนี้ผมทำเอง"ฮั่วปู้ฝานอธิบาย
"คุณคิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ?"หนิงเสี่ยวฉินเหลือบมองไปที่อาหารบนโต๊ะ:"ขนาดมะเขือเทศผัดไข่คุณยังทำไม่เป็นเลย อยู่ๆตอนนี้จะมาบอกฉันว่าอาหารพวกนี้เอง?ถึงแม้จะไม้รู้ว่าคุณต้องการจะทำอะไร แต่คุณคิดว่าทำแบบนี้มันมีความหมายเหรอ?คนอื่นไม่รู้ว่าคุณเป็นยังไง แต่ฉันจะไม่รู้เหรอ?"
ฮั่วปู้ฝานยิ้มอย่างขมขื่นเขารู้ว่าหลี่ซูเฮิงเป็นคนไม่ดี แต่นี้ก็ไม่ดีเกินไปมั้ง ถึงแม้เขาจะอยากทำเรื่องดีดีก็ล้วนมีแต่การตั้งคำถามยังไงก็ไม่มีทางหักล้างได้
"อร่อยมากอร่อยมาก!อร่อยที่สุดเลย!ปะป๋าเก่งที่สุดเลย!"ถังถังตะโกนและเป่าปลาผัดเปรี้ยวหวานที่ยังคงร้อนอยู่แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะชื่นชมฝีมือของเขา ฮั่วปู้ฝานไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้ว่าเธอตั้งใจจะสร้างบรรยากาศ
"ไม่ว่าใครเป็นคนทำ นั่งลงและกินให้อิ่มก่อนเถอะนะ"ฮั่วปู้ฝานพูด
หนิงเสี่ยวฉินไม่ตอบโต้อะไร เงินก็ใช้ไปแล้วจะทำอะไรได้ละ?
เธอไปล้างมือ เมื่อกลับมาก็เห็นฮั่วปู้ฝานเป่าเนื้อปลาที่คีบอยู่บนตะเกียบและป้อนให้กับถังถัง
ถ้าเป็นไม่กี่ปีก่อนภาพนี้เป็นคงอะไรที่อบอุ่นมาก แต่ตอนนี้เธอคิดว่ามันเป็นแค่การแสดงเท่านั้น
ในวันธรรมดาสามารถนับครั้งได้ที่หลี่ซูเฮิงจะกินข้าวที่บ้าน นานๆจะกินซักครั้ง นู้นก็ไม่ชอบนี่ก็ไม่ชอบ ตัวเขาเองยังแทบต้องให้คนอื่นป้อนจะไปป้อนคนอื่นได้ยังไงกัน
อย่างไรก็ตามหนิงเสี่ยวฉินไม่ได้ขัดจังหวะความสุขที่เกิดขึ้นได้ยากของสองพ่อลูก เธอหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบเส้นมันฝรั่งเข้าปาก
กรอบแบบที่ไม่ใช่กรอบแบบของดิบและรสชาติก็ดีมาก
แม่ค่ะ ปลา ปลา!อร่อยมากเลย!ไม่ต้องแกะก้างเลย!"ถังถังชี้ไปที่ปลาผัดเปรี้ยวหวานแล้วตะโกน
"ก้างปลาโดนทอดจนกรอบหมดแล้วแค่กัดก็จะละเอียดทันที ไม่ติดคอแน่ๆ" ฮั่วปู้ฝานอธิบาย
หนิงเสวี่ยชิงไม่พูดอะไรและใช้ตะเกียบคีบเข้าปาก หนังไหม้ เนื้อนุ่ม ก้างก็กรอบมาก การอยากทอดแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เชฟธรรมดาจะทำได้
การปรุงซอสเปรี้ยวหวานก็รสชาติดีมาก ทำให้คนที่กินไปแล้วอยากกินต่อเรื่อยๆ
"เป็นไงบ้าง?"ฮั่วปู้ฝานถามอย่างคาดหวัง ปกติแล้วเขาไม่เคยถามใครเกี่ยวกับรสชาติของอาหาร แค่ตัวเองชอบก็โอเคแล้ว แต่วันนี้เขาสนใจมากว่าหนิงเสี่ยวฉินและถังถังจะชอบมันไหม
"เอาเบอร์ร้านอาหารมาให้ฉัน หลังจากนี้พอวันเกิดฉันจะพาถังถังไปกิน"หนิงเสี่ยวฉินพูดนิ่งๆ
ฮั่วปู้ฝานยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า:"ผมทำเองจริงๆ....."
"ไม่ให้ก็ไม่เป็นไร ถังถังกินอิ่มแล้วก็ไปทำการบ้านซะ วันนี้คุณครูบอกว่าการบ้านเยอะใช่ไหม"หนิงเสี่ยวฉินพูดอย่างไม่สนใจ
"อื้ม หนูรู้แล้วค่ะ ซี๊ด เผ็ดนะ แต่อร่อยมากเลย!"ถังถังอุ้มชามน้ำซุปขึ้นมา แล้วก็ซดคำโตๆ ไม่นานเธอก็กินจนหมดแสดงว่าเธอชอบมันจริงๆ
แม้ว่าเด็กน้อยจะกินเก่ง แต่ก็มีขีดจำกัดเสมอเมื่อเธออิ่มเธอก็จะถูกหนิงเสี่ยวฉินเรียกไปทำการบ้าน
ฮั่วปู้ฝานลุกขึ้นก่อนเพื่อเก็บจานและตะเกียบ หนิงเสี่ยวฉินรีบถอยมือกลับเมื่อมือเธอสัมผัสกับมือของเขา
เธอไม่ได้จะทำอะไร แต่พูดอย่างนิ่งๆว่า:"แม้ว่าฉันไม่รู้ว่าคุณต้องการจะทำอะไรกันแน่ แต่การกินอาหารหนึ่งพันบาทต่อมื้อไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถรับไหว เรื่องอย่างนี้ต่อไปก็อย่างทำอีก มันไม่มีประโยชน์"
ฮั่วปู้ฝานรู้ว่าเธอไม่มีทางที่จะเชื่อและไม่คิดจะอธิบายอะไร เขาพยักหน้าถือจานเข้าไปในห้องครัว
ยังไงก็ได้เงินมาแล้ว ฮั่วปู้ฝานไม่คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
เขาไปตลาดเพื่อซื้ออาหารที่สองแม่ลูกชอบทาน ในตอนนั้นเองเขารู้สึกขอบคุณมากที่ได้เรียนรู้วิธีการทำอาหารตอนที่เขายังเป็นหลานชายตะกูลฮั่ว ไม่อย่างนั้นคิดจะทำตอนนี้ก็คงจะทำไม่ได้
แต่สองแม่ลูกไม่กลับมาในช่วงเที่ยง ฮั่วปู้ฝานก็ไม่กล้าที่จะใช้เงินหนึ่งพันที่ได้มาอย่างอยากลำบากนี้จึงทำก๋วยเตี๋ยวใส่ผักง่ายๆกินในตอนเที่ยง
ไม่ต้องพูดถึงอาหารรสชาติอันโอชะที่เขาคุ้นเคย ก๋วยเตี๋ยวชามนี้ไม่ใส่แม้กระทั้งเกลือกินแล้วก็ได้รสชาติที่แปลกใหม่
ฮั่วปู้ฝานใช้เวลาที่มีให้เป็นประโยชน์ ทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกของบ้าน สิ่งไหนที่ต้องจัดก็จัดเรียบร้อย สิ่งไหนต้องเช็ดก็เช็ด หลังจากทำทุกอย่างเสร็จแล้วเขาก็ไปนั่งที่หน้าคอมพิวเตอร์และเปิดคอม
เขาลังเลอยู่ซักพักและเริ่มค้นหาข่าวล่าสุด แต่ก็ไม่เจอข่าวอะไรที่เกี่ยวกับเขาเลย
เรื่องของเขาเกิดขึ้นมาสองวันแล้ว ทำไมถึงไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลยนะ? ไม่ว่าจะยังมีชีวิตหรือตายแล้ว ยังไงก็ต้องมีข่าวอะไรบ้าง
ฮั่วปู้ฝานยังไม่ชัดเจนในสิ่งแปลกๆที่ซ่อนอยู่ แล้วก็ยังไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้
หลังจากปิดหน้าเว็บไซค์และใช้เวลายี่สิบนาทีเพื่อสงบจิตใจ ฮั่วปู้ฝานก็เปิดหน้าการทำงานของเถาเป่า
เมื่อคืนเขานอนคิดทั้งคืนที่จะแก้ไขสถานการณ์ในตอนนี้ นอกจากปัจจัยของตัวเขาเองแล้ว ยังไงก็ต้องหาเงินให้คนในบ้านด้วย อย่างน้อยๆก็ต้องทำให้สองแม่ลูกได้กินอาหารที่ดีดี?
ตัวเองต้องสามารถหาเงินได้ เอาแต่พึ่งแต่เงินจากหนิงเสี่ยวฉิน พูดไปแล้วก็เหมือนเกาะผู้หญิงกิน
ร้านเถาเป่าของหนิงเสี่ยวฉินก็ขายพวกผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักแต่ยอดขายแย่มาก
สาเหตุที่มันไม่ดีเพราะนอกจากตัวผลิตภัณฑ์จะธรรมดาแล้ว ประสิทธิภาพของหัวข้อ ประสิทธิภาพของหน้าหลัก รวมถึงสิ่งดึงดูดภายในและภายนอกล้วนเป็นปัญหา
ถึงแม้ว่าฮั่วปู้ฝานจะไม่เคยมีร้านในเถาเป่ามาก่อนแต่เขาก็เข้าใจคนอื่นๆ รู้ว่าหัวข้อแบบไหน รูปภาพแบบไหน โปรโมทผลิตภัณฑ์แบบไหนถึงจะดึงดูดลูกค้าได้
หลังจากคัดกรองผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในร้านในที่สุดฮั่วปู้ฝานก็เหลือผลิตภัณฑ์ไว้เพียงแค่สองอย่างและลบผลิตภัณฑ์อื่น ๆออกหมด
จากนั้นเขาก็ดาวน์โหลดPhotoshop และทำการปรับแต่งรูปของผลิตภัณฑ์ คิดไปคิดมาฮั่วปู้ฝานก็เอาถาพถ่ายไม่กี่รูปของหนิงเสี่ยวฉินที่วางอยู่บนโต๊ะอัพโหลดลงไปเพื่อแนะนำตัวตนของเจ้าของร้านและยังสามารถตรวจสอบบัตรประชาชนได้
แม้ในการแนะนำจะบอกว่าหนิงเสี่ยวฉินเคยน้ำหนักถึงร้อยกิโล คำพูดพวกนี้ล้วนเป็นคำโกหก แต่เพื่อขายของก็ต้องทำแบบนี้แหละ
หลังจากแก้ไขบางอย่างเสร็จ หน้าหลักของร้านก็ดูสบายตาขึ้นซึ่งดูดีขึ้นมากหากเปรียบเทียบกับแบบเดิม
จัดการกับร้านค้าเรียบร้อยก็เหลือเพียงแค่การโปรโมท
ฮั่วปู้ฝานอาศัยความสามารถทางการตลาดที่แข็งแกร่งทำให้บริษัทเล็กๆที่กำลังจะล้มละลายเข้าสู่ 100 อันดับแรกของประเทศได้
จัดทำแผนการตลาดและทำการโปรโมทตามแผนที่วางไว้ ใช้เวลาไม่นานยอดขายจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
เหงยหน้ามองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังตอนนี้ก็ห้าโมงครึ่งแล้ว มีเวลาอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนที่สองแม่ลูกนั่นจะกลับมา
ไม่ว่าการโปรโมทจะสมบูรณ์แบบแค่ไหนแต่ก็ต้องใช้เวลาถึงจะเห็นผล ฮั่วปู้ฝานละความสนใจจากเรื่องนั้น ลุกขึ้นเดินไปที่ห้องครัวและเริ่มทำกับข้าว
ปลาผัดเปรี้ยวหวาน,หมาล่ากุ้ง,ผัดมันฝรั่งเส้น,ถั่วฝักยาวผัดน้ำมัน
อาหารสี่อย่างพร้อมซุปต้มยำเนื้อ ถ้าไม่ใข่เพราะมีเวลาน้อย ฮั่วปู้ฝานยังอยากที่จะทำก๋วยเตี๋ยวและนึงหมั่นโถวอีกหม้อหนึ่ง
แม้ว่าหมั่นโถวที่ทำจากเครื่องจะนิ่มแต่มันก็ยังเหนียวอยู่ดี ต้องนวดด้วยตัวเองหลายชั่วโมง เมื่อกินแล้วถึงจะนิ่มและได้รสชาติ
หนิงเสี่ยวฉินและถังถังเปิดประตูเข้ามา ทั้งสองตกตะลึงมาก
กลิ่นที่โชยเข้ามาในจมูกประกอบกับภาพอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะทำให้พวกเขาตกตะลึงมากๆ หนิงเสี่ยวฉินเรียกสติตัวเองกลับมาแล้วหันกลับไปมองเลขที่หน้าประตูเพื่อเช็คว่าเธอไม่ได้เข้าผิดห้อง
ฮั่วปู้ฝานถือซุปต้มยำออกมาจากห้องครัว ยิ้มเมือเห็นพวกเขาและพูดว่า:"ยืนตรงนั้นกันทำไมละ รีบเข้ามากินข้าวเถอะ"
"ว้าว!"ถังถังโต้ตอบและรีบวิ่งไปที่โต๊ะอาหาร กำลังเอื้อมมือจะไปหยิบอาหาร
"ล้างมือก่อน"ฮั่วปู้ฝานเอื้อมมือไปคว้าไว้แล้วพาไปที่ห้องน้ำ
"ขอหนูกินคำหนึ่งก่อนไม่ได้เหรอ....."ถังถังดิ้นอย่างขัดใจ
"ไม่ได้ ล้างมือก่อนต้องทำให้เป็นความเคยชิน"ฮั่วปู้ฝานพูดออกมาอย่างหนักแน่น
หนิงเสี่ยวฉินปิดประตูและมองมาที่อาหารที่วางอยู่บนโต๊ะไม่มีคำอะไรจะพูด
นอกว่าจานชามและโต๊ะที่เป็นของจริงอย่างอื่นล้วนเหมือนของปลอม...
ฮั่วปู้ฝานเป็นถึงหลายชายของตระกูลใหญ่ คนที่สอนทำอาหารให้เขาเป็นถึงเชฟมิชลินสตาร์
นอกจากการปรุงอาหารแล้วเซฟระดับนี้ยังให้ความสำคัญกับการจัดจานอีกด้วย ถ้าจัดจานไม่ดีอาหารที่ทำออกมาก็เสียเปล่า
ดังนั้นการจัดจานของฮั่วปู้ฝานจึงดูมีระดับและดูเหมือนว่าจะดีกว่าโรงแรมทั่วไปเสียด้วยซ้ำ
หนิงเสี่ยวฉินตรวจสอบสภาพแวดล้อมในบ้าน บ้านที่ดูว่าจะเหมือนเดิม แต่กลับดูดีกว่าปกติ ทุกอย่างสะอาดหมดจด เธอเอื้อมมือไปแตะสวิตช์ไฟที่อยู่ข้างๆซึ่งไม่มีแม้แต่ฝุ่น
ฮั่วปู้ฝานออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับถังถังหลังจากที่ล้างมือเสร็จและเห็นเธอยืนอยู่ที่ตรงนั้นจึงพูดว่า: "คุณก็ไปล้างมือแล้วมาทานข้าวเถอะ"
หนิงเสี่ยวฉินมองไปที่อาหารบนโต๊ะแล้วมองไปที่เขาและถามว่า "คุณซื้อมาจากไหน?"
"ก็ที่ตลาดนั้นแหละ"
หนิงเสี่ยวฉินมองไปที่เขาและพูดอีกครั้ง: "ฉันหมายถึงไปเอาอาหารจากร้านไหนกลับมา?"
ฮั่วปู้ฝานผงะและรู้ว่าเธอคิดว่าเขาซื้ออาหารสำเร็จรูปมาจากร้านอาหาร
"อาหารพวกนี้ผมทำเอง"ฮั่วปู้ฝานอธิบาย
"คุณคิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ?"หนิงเสี่ยวฉินเหลือบมองไปที่อาหารบนโต๊ะ:"ขนาดมะเขือเทศผัดไข่คุณยังทำไม่เป็นเลย อยู่ๆตอนนี้จะมาบอกฉันว่าอาหารพวกนี้เอง?ถึงแม้จะไม้รู้ว่าคุณต้องการจะทำอะไร แต่คุณคิดว่าทำแบบนี้มันมีความหมายเหรอ?คนอื่นไม่รู้ว่าคุณเป็นยังไง แต่ฉันจะไม่รู้เหรอ?"
ฮั่วปู้ฝานยิ้มอย่างขมขื่นเขารู้ว่าหลี่ซูเฮิงเป็นคนไม่ดี แต่นี้ก็ไม่ดีเกินไปมั้ง ถึงแม้เขาจะอยากทำเรื่องดีดีก็ล้วนมีแต่การตั้งคำถามยังไงก็ไม่มีทางหักล้างได้
"อร่อยมากอร่อยมาก!อร่อยที่สุดเลย!ปะป๋าเก่งที่สุดเลย!"ถังถังตะโกนและเป่าปลาผัดเปรี้ยวหวานที่ยังคงร้อนอยู่แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะชื่นชมฝีมือของเขา ฮั่วปู้ฝานไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้ว่าเธอตั้งใจจะสร้างบรรยากาศ
"ไม่ว่าใครเป็นคนทำ นั่งลงและกินให้อิ่มก่อนเถอะนะ"ฮั่วปู้ฝานพูด
หนิงเสี่ยวฉินไม่ตอบโต้อะไร เงินก็ใช้ไปแล้วจะทำอะไรได้ละ?
เธอไปล้างมือ เมื่อกลับมาก็เห็นฮั่วปู้ฝานเป่าเนื้อปลาที่คีบอยู่บนตะเกียบและป้อนให้กับถังถัง
ถ้าเป็นไม่กี่ปีก่อนภาพนี้เป็นคงอะไรที่อบอุ่นมาก แต่ตอนนี้เธอคิดว่ามันเป็นแค่การแสดงเท่านั้น
ในวันธรรมดาสามารถนับครั้งได้ที่หลี่ซูเฮิงจะกินข้าวที่บ้าน นานๆจะกินซักครั้ง นู้นก็ไม่ชอบนี่ก็ไม่ชอบ ตัวเขาเองยังแทบต้องให้คนอื่นป้อนจะไปป้อนคนอื่นได้ยังไงกัน
อย่างไรก็ตามหนิงเสี่ยวฉินไม่ได้ขัดจังหวะความสุขที่เกิดขึ้นได้ยากของสองพ่อลูก เธอหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบเส้นมันฝรั่งเข้าปาก
กรอบแบบที่ไม่ใช่กรอบแบบของดิบและรสชาติก็ดีมาก
แม่ค่ะ ปลา ปลา!อร่อยมากเลย!ไม่ต้องแกะก้างเลย!"ถังถังชี้ไปที่ปลาผัดเปรี้ยวหวานแล้วตะโกน
"ก้างปลาโดนทอดจนกรอบหมดแล้วแค่กัดก็จะละเอียดทันที ไม่ติดคอแน่ๆ" ฮั่วปู้ฝานอธิบาย
หนิงเสวี่ยชิงไม่พูดอะไรและใช้ตะเกียบคีบเข้าปาก หนังไหม้ เนื้อนุ่ม ก้างก็กรอบมาก การอยากทอดแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เชฟธรรมดาจะทำได้
การปรุงซอสเปรี้ยวหวานก็รสชาติดีมาก ทำให้คนที่กินไปแล้วอยากกินต่อเรื่อยๆ
"เป็นไงบ้าง?"ฮั่วปู้ฝานถามอย่างคาดหวัง ปกติแล้วเขาไม่เคยถามใครเกี่ยวกับรสชาติของอาหาร แค่ตัวเองชอบก็โอเคแล้ว แต่วันนี้เขาสนใจมากว่าหนิงเสี่ยวฉินและถังถังจะชอบมันไหม
"เอาเบอร์ร้านอาหารมาให้ฉัน หลังจากนี้พอวันเกิดฉันจะพาถังถังไปกิน"หนิงเสี่ยวฉินพูดนิ่งๆ
ฮั่วปู้ฝานยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า:"ผมทำเองจริงๆ....."
"ไม่ให้ก็ไม่เป็นไร ถังถังกินอิ่มแล้วก็ไปทำการบ้านซะ วันนี้คุณครูบอกว่าการบ้านเยอะใช่ไหม"หนิงเสี่ยวฉินพูดอย่างไม่สนใจ
"อื้ม หนูรู้แล้วค่ะ ซี๊ด เผ็ดนะ แต่อร่อยมากเลย!"ถังถังอุ้มชามน้ำซุปขึ้นมา แล้วก็ซดคำโตๆ ไม่นานเธอก็กินจนหมดแสดงว่าเธอชอบมันจริงๆ
แม้ว่าเด็กน้อยจะกินเก่ง แต่ก็มีขีดจำกัดเสมอเมื่อเธออิ่มเธอก็จะถูกหนิงเสี่ยวฉินเรียกไปทำการบ้าน
ฮั่วปู้ฝานลุกขึ้นก่อนเพื่อเก็บจานและตะเกียบ หนิงเสี่ยวฉินรีบถอยมือกลับเมื่อมือเธอสัมผัสกับมือของเขา
เธอไม่ได้จะทำอะไร แต่พูดอย่างนิ่งๆว่า:"แม้ว่าฉันไม่รู้ว่าคุณต้องการจะทำอะไรกันแน่ แต่การกินอาหารหนึ่งพันบาทต่อมื้อไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถรับไหว เรื่องอย่างนี้ต่อไปก็อย่างทำอีก มันไม่มีประโยชน์"
ฮั่วปู้ฝานรู้ว่าเธอไม่มีทางที่จะเชื่อและไม่คิดจะอธิบายอะไร เขาพยักหน้าถือจานเข้าไปในห้องครัว
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved