บทที่ 11 ฉากที่มีความสุขและกลมกลืน

เรื่องมันยิ่งเป็นไปได้ หนิงเสี่ยวฉินก็ยิ่งคิดไม่ออก

ไม่นาน หนิงอี้หลินก็พาถังถังออกมา เมื่อเห็นว่าหนิงเสี่ยวฉินยังยืนอยู่ตรงนั้น ก็เลยพูดว่า"พี่ ยังเหม่อลอยอะไรอยู่ รีบๆล้างมือมาทานข้าวได้แล้ว!"

หนิงเสี่ยวฉินหันไปมองเขา ไม่ได้ขยับตัว เพียงแค่ถามอย่างจริงจัง"อี้หลิน คุณพูดความจริงกับฉันสิ ตกลงพวกคุณสองคนเป็นอะไรกัน?"

"คุณหมายความว่าอะไร?"หนิงอี้หลินไม่ค่อยเข้าใจความหมายที่เธอพูด

"เมื่อก่อนคุณเกลียดเขาขนาดนั้น ทำไมตอนนี้......"

"แค่กๆ คุณหมายถึงเรื่องนี้หรอ"เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อก่อน หนิงอี้หลินก็รู้สึกละอายใจเล็กน้อย เขาเกาหัวตัวเอง และพูดว่า"ก็เมื่อก่อนไม่ทราบว่าพี่เขยค้าขายเก่งขนาดนี้ไง พี่สาว คุณรู้ไหมว่า วันนี้พี่เขยสุดยอดจริงๆ ฉันมีลูกค้าอยู่คนหนึ่ง เดิมทีจะเสียลูกค้าไปแล้ว แต่เขาก็แค่คุยกับลูกค้าคนนั้นสักพักนึง คุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น? ลูกค้าคนนั้นสั่งของมูลค่า1ล้าน5แสนหยวนทันทีเลย!ฮ่าๆๆ ทำให้ผู้จัดการใหญ่ของพวกเราตกใจใหญ่เลย อย่าไปพูดถึงสิ่งอื่น แค่การค้าขายอย่างเดียว พี่เขยก็สุดยอดแล้ว!"

หนิงเสี่ยวฉินฟังแล้วยิ่งมึนงงไปใหญ่ สั่งของมูลค่า1ล้าน5แสนหยวน?

ตัวเลขนี้ ทำให้เธอมึนงงไปใหญ่ หลี่ซูเฮิงยังมีความสามารถแบบนี้เหรอ?

"นอกจากนี้แล้ว คุณรู้ไหมว่าร้านในเถาเป่าของคุณ วันนี้ขายของไปเท่าไหร่?"หนิงอี้หลินพูดเองตอบเอง ประจบสอพลอพี่เขยอย่างเต็มที่"ตอนนี้เกินสามหมื่นแล้ว! กำไรล้วนไรก็มีสี่พันหยวนแล้ว พี่สาว คุณจะรวยแล้ว!"

ถ้าเขาไม่พูด หนิงเสี่ยวฉินคงลืมเรื่องของร้านเถาเป่าไปแล้ว

สามหมื่น?กำไรสี่พัน?

เธอมองไปที่คอมพิวเตอร์โดยจิดสำนัก ฮั่วปู้ฝานเพิ่งพิมพ์ตัวอักษรเสร็จหนึ่งบรรทัด ลุกขึ้นมองไปที่เธอ พูดด้วยรอยยิ้ม"คืนนี้น่าจะยังมีอีกรอบหนึ่ง ถ้าโชคดีหน่อย อาจจะสามารถขายได้อีกหนึ่งหมื่นหยวน"

หนิงเสี่ยวฉินมองไปที่ฮั่วปู้ฝาน และมองไปที่หนิงอี้หลินอีกครั้ง ในที่สุดเธอก็เดินไปที่หน้าคอมพิวเตอร์อย่างเงียบๆ

ฮั่วปู้ฝานรู้ว่าถ้าเธอไม่ได้เห็นด้วยตาเอง เธอจะไม่เชื่อแน่นอน ก็เลยเดินไปอุ้มถังถังลงมาจากร่างกายของหนิงอี้หลิน"นั่งตัวตรง กินข้าวดีๆสิ เด็กผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว อย่าซี้ซั้วให้ผู้ชายคนอื่นอุ้ม"

"เฮ้ย ฉันเป็นน้าของเธอ......"

"แล้วคุณไม่ใช่ผู้ชายหรือ?"ฮั่วปู้ฝานเหลือบตาไปมองพร้อมพูด

แม้ว่าน้ำเสียงของเขาสงบมาก แต่ในตัวเต็มไปด้วยออร่าที่แข็งแกร่งอย่างไม่อาจบรรยายได้ หนิงอี้หลินถูกเขาทำจนตกใจ เพียงต้องพึมพำเบาๆ"น้าไม่ใช่ผู้ชายคนอื่น......'

ตอนนี้ หนิงเสี่ยวฉินก็ได้เห็นยอดขายทั้งหมดที่ปรากฏอยู่ในseller center รวมทั้งหมด30,670หยวน

ตัวเลขนี้ ดูจนเธอใจลอย

ทั้งหมด30,670หยวน เขาเปิดร้านในเถาเป่ามาหนึ่งปีเต็มๆ ยอดขายรวมกันก็ไม่ได้มากขนาดนี้

แต่ฮั่วปู้ฝานเพียงใช้เวลาเพียงวันเดียว ก็ถึงขั้นนี้แล้ว

พอดีในเวลานี้ เสียงการแจ้งเตือนของร้านดังขึ้นอีกครั้งนึง

หนิงเสี่ยวฉินจะไปเปิดช่องเเชทสอบถามออกมาอย่างเป็นนิสัย แต่ยังไม่ทันรอให้เธอเคาะคีบอร์ด ไหล่ก็ถูกคนกดเอาไว้

เสียงที่อ่อนโยนของฮั่วปู้ฝานดังขึ้นมาจากข้างหลัง"เรื่องงานไม่สามารถทำเสร็จได้ในระยะสั้นๆ คุณก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ทานข้าวก่อน มีเรื่องอะไรฉันมาจัดการก็พอ"

แรงที่อยู่บนไหล่ ทำให้หนิงเสี่ยวฉินต่อต้านไม่ได้ เวลาที่เธอยังครุ่นคิดอะไรอยู่ ก็ถูกผลักไปยังหน้าโต๊ะทานข้าว

สิ่งที่อยู่ต่อหน้าเธอตอนนี้ คือเกี๊ยวน้ำที่แสนอร่อยกำลังส่งกลิ่นหอมที่น่าดึงดูดใจคน

แป้งเกี๊ยวที่เกือบจะโปร่งแสงทำให้คนเห็นไส้ข้างในได้อย่างชัดเจน ซุปที่มีน้ำมันเล็กน้อยโรยด้วยถั่วงอกกระเทียมสีเขียวอยู่ข้างบน เพียงแค่มองก็ทำให้ผู้คนอยากกินทันที

ถังถังกินทีละคำอยู่ข้างๆ เนื่องจากมันร้อนเกินไป ยังต้องเป่าลมก่อนกิน"แม่คะ อร่อยจริงๆ แต่มันร้อนอยู่!เป็นไส้ลอบสเตอร์!"

เมื่อได้ดมกลิ่นหอมของเกี๊ยวน้ำ และมองไปดูฮั่วปู้ฝานที่ไล่ตัวเองใาทานข้าว อต่เขาเองยังไม่ทันได้กิน มัวแต่ตอบแชทลูกค้าอย่างตั้งใจ หนิงเสี่ยวฉินรู้สึกประเดประดังเข้ามาพร้อมกันหมด

โดยเฉพาะหนิงอี้หลืนยังกระซิบอยู่ข้างๆว่า"พี่ เขาปฏิบัติต่อคุณดีอยู่นะ"

หนิงเสี่ยวฉินไม่รู้จะเห็นด้วยกับคำพูดนี้ หรือปฏิเสธดี

หลี่ซูเฮิงในสองวันก่อน เป็นผู้ชายที่ทำให้เธอเกิดความรู้สึกที่อยากจะหย่าร้าง แต่สองวันนี้ เขากลับดีอย่างสมบูรณ์แบบ

คืออะไรที่ทำให้คนดีๆเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ราวกับฟ้ากับดินในเวลาเพียงสองวัน?

หรือว่าเขานอนอยู่บนเตียงสองวันสองคืน เลยตัดสินใจที่จะกลับเนื้อกลับตัวใหม่แล้วเหรอ?

ถ้าพูดตามตรง หนิงเสี่ยวฉินหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลี่ซูเฮิงจะสามารถมีการเปลี่ยนแปลง

สาเหตุที่ตอนนั้นเธอไม่สนใจการต่อต้านของทุกคน มาแต่งงานกับเขา เนื่องจากว่าเธอได้เห็นคนที่มาจีบหลายประเภท

คนพวกนั้นล้วนรักในหน้าตาที่ดีงามของเธอ ไม่มีคนไหนจริงใจ

มีแต่หลี่ซูเฮิง เป็นคนเดียวที่ซื่อสัตย์ โดดเด่นในฝูงคนที่มาจีบเธอ

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ตอนนั้นแผนการอนาคตที่หลี่ซูเฮิงอธิบายให้เธอฟังนั้นน่าดึงดูดคนมาก ทำให้คนเข้าใจว่าเขาเป็นคนที่ขยัน

ใครจะไปคาดคิดได้ว่า แต่งงานไปไม่ถึงสองปี หลี่ซูเฮิงก็ท้อแท้เพราะอุปสรรคต่างๆ

ถ้าหากไม่ใช่แนวคิดแบบเดิม ทำให้หนิงเสี่ยวฉินไม่เต็มใจที่จะหย่าร้าง ทั้งสองคนอาจจะแยกทางกันตั้งนานแล้ว

ตอนนี้ หลี่ซูเฮิงเหมือนฟื้นตัวขึ้นมาใหม่อีดครั้งแล้ว

หยิบช้อนขึ้นมา ตัดเกี๊ยวน้ำลูกหนึ่งเข้าปาก

ร้อนมาก แต่ก็อร่อยอยู่

"อร่อยไหม?"หนิงอี้หลินมองเธอด้วยความคาดเดา พูดด้วยสีหน้าโอ้อวด"ในนี้ก็มีคุณูปการของฉันด้วยนะ ฉันหั่นเนื้อหั่นจนมือแทบจะหักแล้ว"

หนิงเสี่ยวฉินตักเกี๊ยวน้ำลูกที่สองขึ้นมา เป่าลมเบาๆ พร้อมถามว่า"เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ทางด้านการทำธุรกิจจริงหรือ?"

"ไม่เพียงเท่าที่คุณเห็น เขาสุดยอดหรือเกิน!ในบรรดาคนที่ฉันรู้จัก ไม่มีคนไหนที่เก่งกว่าเขาอีกแล้ว! ประธานหวังของโรงงานเรา วันนี้ยังอยากจะจ้างเขาด้วยเงินเดือนละ2หมื่นหยวน แต่ไม่ทราบว่าไอ้เจ้านี่คิดอะไรอยู่ พูดยังไงก็ไม่ยอม ไม่ทราบว่าคิดอะไรอยู่ ฉันคาดว่า เขาน่าจะคิดจะทำเอาเอง"

เมื่อพูดถึงเรื่องการค้าขายของฮั่วปู้ฝาน หนิงอี้หลินก็หยุดไม่ได้ ชื่นชมเขาไปเรื่อย เกือบจะชมเขาขึ้นบนสวรรค์

หนิงอี้หลินไม่ได้เกิดความสงสัย เพียงแค่ฟังอยู่อย่างเงียบๆ

เธอสามารถแน่ใจได้แล้ว หนืงอี้หลินไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับฮั่วปู้ฝาน เพราะเรื่องบางอย่าง มันแกล้งไม่ได้ และความชื่นชมที่ปรากฏบนใบหน้าของหนืงอี้หลิน มันก็จริงจังมากเช่นกัน

"ฉันได้ยินมาหมดแล้วนะ คุณไม่พูดใส่ร้ายฉันก็กินไม่ลงใช่เปล่า"ฮั่วปู้ฝานตอบแชทลูกค้าเสร็จ เดินมาแกล้งทำเป็นว่าโมโห

หนิงอี้หลินฟัวเราะออกมา พูดว่า"ฉันจะกล้าพูดใส่ร้ายคุณได้ยังไงล่ะ ฉันชื่นชมคุณอยู่นะ"

"แล้วแต่คุณ ถังถัง ลองชิมไข่แดงดูสิ"ฮั่วปู้ฝานพูดไปด้วย และตักใส่ช้อนของถังถัง

"ขอบคุณค่ะคุณพ่อ!"ถังถังชิดเข้ามา ปากที่มันๆจูบบนหน้าของฮั่วปู้ฝาน

หนิงอี้หลินก็ชี้หน้าของตัวเอง พูดว่า"แล้วของน้าล่ะ!"

"ไม่เอา น้ามีเครา!"ถังถังหันหน้าไปอีกฝั่งด้วยความไม่เต็มใจ

สีหน้าของหนิงอี้หลินเศร้าโศกมาก ดูแล้วค่อนข้างจะตลก

เมื่อเห็นว่าสามคนนี้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขและกลมกลืน มุมปากของหนิงเสี่ยวฉินปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา

หลายปีที่เธอไม่ได้เห็นฉากที่อบอุ่นขนาดนี้แล้ว พวกทะเลาะวิวาทที่ผ่านมา ความผิดหวังในอดีตทั้งหมดล้วนหายไปในวินาทีนี้

ชีวิตที่ตัวเองคาดหวังมากที่สุด ก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือ?

เพียงแค่ว่า มันมาอย่างกระทันหัน

"คุณก็กินเยอะๆนะ ดูสิ คางแหลมไปแล้ว"ฮั่วปู้ฝานหันมาพูดกับหนิงเสี่ยวฉิน"ทีหลังไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้แล้ว เรื่องที่ทำงานหาเงินเลี้ยงชีพนั้น ฉันมารับผิดชอบ"

ความห่วงใยที่ปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา ทำให้ขอบตาของหนิงเสี่ยวฉินบวมแดงขึ้นมา เธออยากจะร้องไห้ออกมาสักครั้งหนึ่ง

ไม่ว่าผู้ชายที่อยู่ตรงข้ามคนนี้จริงใจหรือไม่ อย่างน้อยสิ่งที่เขาพูดอยู่ในตอนนี้ เป็นสิ่งที่เธออยากได้ยิน ผิดหวังไปหลายๆปี กว่าจะมาได้ยินคำพูดนี้

หนิงเสี่ยวฉินค่อยๆพยักหน้า เช็คน้ำตา แล้วตอบด้วยเสียงเบาๆว่า"อืม"

มื้อนี้สำหรับครอบครัวอื่นหลายๆครอบครัว อาจจะเป็นเพียงแค่มื้อที่ธรรมดา แต่สำหรับครอบครัวนี้ มันช่างมีค่าหรือเกิน

หนิงอี้หลินกินข้าวเสร็จ ก็ช่วยเก็บจานล้างจาน เดิมทีฮั่วปู้ฝานคิดจะช่วย แต่กลับถูกเขาผลักไปยังหน้าโต๊ะคอม"พี่เขยสุดที่รักครับ คุณรีบออกแบบแผนงานให้เสร็จเถอะ อย่างอื่นคุณไม่ต้องห่วง!ล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน ฉันบริการให้ทุกอย่าง!"

ฮั่วปู้ฝานฟังจนขำออกมา แต่ก็ไม่ได้เกรงใจกับเขา

แผนงานที่ตัวเองทำนั้น ตอนนั้นทำให้สำนักงานใหญ่หลายแห่งมาแย่งชิงกัน หนิงอี้หลินใช้การล้างจานกวาดบ้านเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน เขาคุ้มมากๆด้วย

รอจนกว่าหนิงอี้หลินทำงานบ้านเสร็จอย่างเหน็บเหนื่อย ฮั่วปู้ฝานก็ได้ส่งแผนงานไปยังอีเมล์ของเขาแล้ว

หนิงอี้หลินจากไปอย่างมีความสุข หลังจากปิดประตูแล้ว ฮั่วปู้ฝานหันมามอง เห็นแต่หนิงเสี่ยวฉินได้ช่วยอาบน้ำให้ถังๆเสร็จแล้ว และกำลังถอดเสื้อในห้องนอนเตรียมจะนอนหลับ

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

827