บทที่ 4 หนึ่งวันหาเงินได้หนึ่งหมื่น
by จักรพรรดิTV
08:01,Feb 18,2021
เมื่อมองไปที่เขาที่กำลังยุ่งอยู่ในห้องครัว หนิงเสี่ยวฉินก็รู้สึกสงสัย
ถึงแม้ว่าโดนเอาไปหนึ่งพันเมื่อเช้าและเธอก็โกรธมาก แต่พอถึงตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไปเอากับข้าวมาจากร้านอาหาร
และยังทำความสะอาดบ้านอีกด้วย และในตอนนี้เขายังอาสาที่จะล้างจาน เขาต้องการจะทำอะไรกันแน่?
หนิงเสี่ยวฉินนึกถึงความเป็นไปได้แล้วก็ตกใจ ผู้ชายคนนี้คงไม่ได้คิดที่จะขายบ้านหรอกนะ?
ห้องที่อาศัยอยู่ในตอนนี้ เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของหลี่ซูเฮิง พื้นที่ทั้งหมดคิดแล้วยังไม่ถึงสามสิบตารางเมตร เป็นห้องเก่าที่มีประวัติยาวนานมากว่าสี่สิบปี ถ้าจะขายละก็คงจะขายได้ไม่ถึงสองแสน
ความพยายามของเขาไม่ใช่เพื่อเงินเล็กๆน้อยๆนี่ แล้วเขาจะทำอะไรกันนะ?
เป็นไปได้ที่เขาจะให้เธอยินยอมเซ็นชื่อในเอกสารตอนขายบ้าน บ้านหลังนี้ได้มาหลังจากที่เขาทั้งสองแต่งงานกันและก่อนที่ปู่จะเสียชีวิตก็ได้โอนเป็นมรดกให้กับหลี่ซูเฮิง ซึ่งถือว่าเป็นสินสมรส
หนิงเสี่ยวฉินคิดไตร่ตรองกับความเป็นไปได้อยู่นั้น เธอก็ได้ยินเสียง"ติ๊งต๋อง"
เมื่อหันไปมองก็เห็นข้อความมากมายแสดงอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์
หนิงเสี่ยวฉินเดินไปดูและต้องประหลาดใจเมื่อพบว่ามีคนเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก
เธอรีบนั่งลงเพื่อตอบกลับข้อความเหล่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้เธองงก็คือคำถามแรกที่อีกฝ่ายถามมาคือ:คุณคือเจ้าของร้านคนสวยคนนั้นใช่มั้ย?เมื่อก่อนที่หนักเกินร้อยกิโล?ยานี้ให้ผลลัพธ์ดีจริงๆซินะ!"
หนิงเสี่ยวฉินที่ถูกถามถึงกับมึนงง หนักเกินร้อยกิโลอะไรกัน?
ยังไม่ทันที่เธอจะเข้าใจ ก็มีเสียง"ติ๊งต๋อง"ดังขึ้นอีก คำถามที่สองก็เด้งขึ้นมา
ฮั่วปู้ฝานทำความสะอาดครัวเสร็จออกมากก็เห็นว่าหนิงเสี่ยวฉินกำลังยุ่งวุ่นวายกับการตอบข้อความอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เสียง"ติ๊งต๋อง"ดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้เธอรู้สึกกังวล
ในเวลาสั้นๆเพียงไม่กี่นาทีนี้ มีผู้ซื้อมากมายเข้ามาสอบถามและบางคนก็สั่งซื้อโดยที่ไม่ถามอะไรเลย
หนิงเสี่ยวฉินทั้งตื่นเต้นและกระวนกระวายไม่รู้จะตอบกลับยังไง เพราะว่าผู้ซื้อส่วนใหญ่ล้วนถามว่าเธอเคยหนักเกินร้อยกิโลจริงเหรอ
ซึ่งเป็นคำถามที่แปลก?
ตอนนั้นเองก็มีเสียงดังมาจากด้านหลัง:"คุณตอบแบบนั้นไม่ได้"
หนิงเสี่ยวฉินหันกลับไปมองก็เห็นฮั่วปู้ฝานยื่นอยู่ด้านหลังแล้วพูดกับเธอ:"คุณดูนะ ผู้ซื้อรายนี้กำลังถามว่าจะได้ผลลัพธ์เหมือนกับคุณไหม?คุณไม่ควรตอบว่าไม่แน่ใจ แต่คุณควรตอบว่าร่างกายของคนเราตอบสนองต่อยาลดน้ำหนักต่างกัน ฉันสามารถบอกคุณได้ว่าต้องเห็นผลลัพธ์อย่างแน่นอน แต่กว่าฉันจะลดมาได้ขนาดนี้ไม่ได้พึ่งแค่ยาลดน้ำหนักอย่างเดียวต้องทำควบคู่ไปกับการคุมอาหาร การออกกำลังกาย เป็นต้นด้วย ฉันเชื่อว่าหากคุณตั้งใจและอดทน ใช้เวลาเพียงไม่นาน คุณก็จะกลายเป็นแบบที่คุณตั้งใจได้แน่นอน!"
หนิงเสี่ยวฉินได้ยินในคำพูดของฮั่วปู้ฝานถึงกับตกตะลึง แม้ว่าเขาจะเป็นคนขายแต่ทำไมได้ยินคำพูดพวกนี้แล้วเคลิ้มไปด้วยนะ?
หากเธอไม่รู้ว่ายาลดน้ำหนักเป็นเพียงแค่ตัวช่วย เธออาจจะซื้อมาลองซักสองขวด
เหมือนขาดสติิไปชั่วขณะเป็นครั้งแรกที่หนิงเสี่ยวฉิงไม่ได้โต้เถียงคำพูดของฮั่วปู้ฝาน อีกทั้งยังลบข้อความที่ตัวเองพิมพ์ไว้ทิ้งไปด้วยและพิมพ์ใหม่ตามคำพูดของฮั่วปู้ฝาน
ไม่ช้านักผู้ซื้อก็ตอบกลับมา: ซื้อยาลดน้ำหนักในร้านออนไบน์มาก็หลายครั้งแล้ว มีเพียงแค่คุณเท่านั้นที่พูดจาได้จริงใจที่สุด โอเค งั้นฉันซื้อมาลองก่อนห้าขวด! ขอบคุณเจ้าของร้านคนสวยนะคะ อิจฉาหุ่นที่ดีของคุณจริงๆ!
หลังจากนั้นก็มีภาพถ่ายของยาลดน้ำหนักห้าขวดเด้งขึ้นมา
"คุณเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวผมช่วยคุณตอบเอง"ฮั่วปู้ฝานพูด
ประโยคนี้หลี่ซูเฮิงก็เคยพูด ตอนนั้นหนิงเสี่ยวฉินเพิ่งจะเปิดร้านในเถาเป่า เขาคิดว่าการขายของก็ไม่ได้แย่อะไร แต่ผลก็คือหลังจากตอบเสร็จผู้ซื้อก็หายไปชั่วพริบตา ขายไม่ได้เลยซักชิ้นเดียว หลังจากที่ล้มเหลวไปหลายครั้ง หลี่ซูเฮิงก็ไม่อยากที่จะทำมันอีก
ตอนนี้หลี่ปู้ฝานก็พูดแบบเดียวกัน ถ้าตามปกติแล้วควรจะตั้งคำถามและต่อว่าเขา
แต่ตอนนี้เพิ่งจะขายยาลดน้ำหนักไปได้ห้าขวด จะให้หนิงเสี่ยวฉินถามอะไรเขา
ลังเลอยู่ซักพักหนึ่ง เธอลุกขึ้นและหลีกทางให้
ฮั่วปู้ฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้ ตอบข้อความลูกค้าพร้อมกับอธิบายหลักการของการตลาด: การขายของไม่ใช่การขายผลิตภัณฑ์ แต่คือความน่าเชื่อถือ เธอจะต้องทำให้ลูกค้าเชื่อใจคุณก่อนจากนั้นเขาถึงจะเชื่อในตัวผลิตภัณฑ์ คุณดูอยากลูกค้าคนนี้กินยาลดน้ำหนักมาแล้วมากมายแต่ก็ไม่เห็นผล ดังนั้นจึงควรตอบกลับไปแบบนี้...."
ฮั่วปู้ฝานพูดไปด้วยและตอบข้อความไปด้วย เสียงติ๊งต๋องดังมาไม่ขาดสาย ยาลดน้ำหนักโดนซื้ออยู่เรื่อยๆ หนิงเสี่ยวฉินที่ยืนอยู่ข้างหลังใจเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะ
เธอไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เมื่อก่อน2-3วันจะมีลูกค้าเข้ามาปรึกษา ตอนนี้เฉลี่ยในสิบนาทีมีคนเข้ามาสอบถาม5-6คน
อีกทั้งคนที่ปู้ฝานตอบกลับไป ในสิบคนมีถึงแปดคนที่ทำการสั่งซื้อสินค้า อัตราในการสั่งซื้อสูงจนน่าตกใจ
หนิงเสี่ยวฉินไม่ได้โง่ เธอรู้ดีว่ายาลดน้ำหนักที่เธอขายไม่ได้เป็นของดีอะไร การดึงดูดให้ลกค้าซื้อจริงๆแล้วมาจากการตอบของฮั่วปู้ฝาน
ทุกคำพูดทุกตัวอักษรของเขาเหมือนจะโดนใจของลูกค้าและทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะเชื่อเมื่ออ่านมัน
เวลาเพียงสองสามชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถังถังนอนหลับไปแล้วแต่เสียงแจ้งเตือนก็ไม่หยุดลงเลย ถึงแม้ว่าจะน้อยลงจากช่วงก่อนหน้านี้แล้วแต่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก
เพราะในเวลาไม่กี่ชั่วโมงนี้สามารถขายยาลดน้ำหนักไปได้มากกว่าร้อยขวด
กำไรต่อหนึ่งขวดเท่ากับหนึ่งร้อยบาท หนึ่งร้อยขวดก็เท่ากับหนึ่งหมื่น
หลังจากพิมพ์ข้อความมาสามชั่วโมงติด ฮั่วปู้ฝานก็ยืดแขนบิดขี้เกียจอย่างเมื่อยล้า ใช้เวลาช่วงไม่มีคนเข้ามาสอบถามพักผ่อนซักแป๊ป
หนิงเสี่ยวฉินที่อยู่อยู่ด้านหลังอย่างเงียบๆ สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า: "คุณทำได้ยังไง?"
"อะไรเหรอ?"ฮั่วปู้ฝานหันกลับมาถามเธอ
"คนมาถามเยอะขนาดนี้...."หนิงเสี่ยวฉิลชี้ไปที่คอมพิวเตอร์ ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอมั่นใจได้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่ร้านของเธอจะมีคนมาเยอะขนาดนี้โดยไม่มีสาเหตุ
ฮั่วปู้ฝานยิ้มและเปิดหน้าร้านค้าให้เธอดูว่าได้มีการแก้ไขการแนะนำผลิตภัณฑ์แล้วก็เปิดเว็บไซค์สองสามแห่งที่เขาไปลงโฆษณาในนั้นมีคนคอมเม้นท์เป็นจำนวนมาก จำนวนคลิกเข้าดูก็สูงมาก ถือว่าเป็นการโปรโมทที่ประสบความสำเร็จ
ที่สำคัญที่สุดคือไม่ได้ใช้เงินซักบาท เพียงแค่ใช้เวลานิดหน่อยในการสมัครแอคเคาน์และกรอกข้อมูลของการตลาดแค่เท่านั้น
เมื่อมองไปที่ร้านที่แทบจะไม่เหมือนเดิม หนิงเสี่ยวฉินก็ตกตะลึงในสิ่งที่เห็น
หลี่ซูเฮิงเป็นที่เข้าสังคมไม่เป็น เขาสนใจเรื่องการหาเงินมาแต่เขาก็ไม่เคยใช้วิธีนี้มาก่อน เพราะเขาเชื่อว่ากลิ่นไวน์หอมกระจายไปทั่วทุกที่ ขอเพียงแค่ผลิตภัณฑ์ดีไม่ต้องพูดอะไรก็มีคนซื้อ
ควรขายของแบบไหนควรขายราคาเท่าไหร่ จะปล่อยให้คนอื่นต่อราคาได้ยังไงมันน่าขายหน้ามาก
ไม่เหมือนกับฮั่วปู้ฝาน คนต่อราคาก็รีบขายให้เขา กำไรหนึ่งขวดหนึ่งร้อยบาทต่อให้เขาลดแล้วก็ยังเหลือกำไรอยู่ห้าสิบบาทจึงทำให้ยอดผู้ซื้อเพิ่มขึ้นหลายเท่า
ความคิดแบบที่หลี่ซูเฮิงไม่สามารถคิดได้
ถ้าไม่ใช่ใบหน้านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายคนนี้มาเจ็ดแปดปี หากมองเพียงข้างหลังหนิงเสี่ยวฉินคงคิดว่าเป็นคนอื่นที่นั่งอยู่
"วันนี้ยอดการขายลดลงมากแล้ว จำนวนคนที่เข้ามาสอบถามในช่วงเช้ามืดก็นอนลงแล้ว ตอนนีี้ก็ไม่ต้องสนใจแล้ว แค่ตั้งข้อความตอบกลับอัตโนมัติก็ได้แล้ว ซึ่งทั้งสองผลิตภัณฑ์ควรต้องใช้โอกาสนี้จัดโปรโมชั่นเพื่อส่งเสริมยอดการขาย และเลือกสินค้าอีกสองสามอย่างเพื่อช่วยเสริมให้ลำดับของร้านสูงขึ้น......"
ฮั่วปู้ฝานนั่งพูดอยู่ตรงนั้น หนิงเสี่ยวฉินฟังจนเวียนหัว
เธอเปิดร้านเถาเป่ามาปีสองปีแล้วแต่ก็ยังศึกษาไม่เข้าใจเกี่ยวกับหลักการพวกนี้ แต่ฮั่วปู้ฝานใช้เวลาแค่ครึ่งวันก็สามารถเข้าใจกฏที่สำคัญต่างๆและยังเตรียมแผนการตลาดไว้ล่วงหน้าอีกด้วย
เมื่อเห็นฮั่วปู้ฝานกับใบหน้าที่ตั้งใจนั้นหนิงเสี่ยวฉินถึงกับตกตะลึง
อยู่ดีดีสามีของเธอก็ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับเถาเป่าได้อย่างลึกซึ้ง
เขาเริ่มศึกษามันตอนไหนกันนะ?
"รูปลักษณ์ภายนอกของคุณดูดีมาก ตอนนี้การไลฟ์ในร้านเถาเป่าเป็นอะไรที่โด่งดังมาก ถ้าดูจากรูปลักษณ์ของคุณแล้วสามารถที่จะไลฟ์ขายสินค้าได้เลยนะ เพียงแค่ใช้วิธีการโปรโมทที่ดีจะต้องมีผลลัพธ์ที่ดีอย่างแน่นอน!"ฮั่วปู้ฝานพูดแบบสรุป
"พวกนี้ใครเป็นคนสอนคุณ?"หนิงเสี่ยวฉินอดไม่ได้ที่จะถาม
"ผมเรียนรู้ด้วยตัวผมเอง บนนี้มันมีรายละเอียดของกฏระเบียบใช่ไหมละ ผมก็แค่ตั้งใจอ่านมันใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถเข้าใจมันได้" ฮั่วปู้ฝานตอบกลับ สำหรับคนที่เคยรับมือกับธุรกิจขนาดใหญ่มาแล้วนั้น เรื่องพวกนี้ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับพวกเขา
เดิมทีหนิงเสี่ยวฉินรู้สึกดีใจที่วันนี้มีเงินพิเศษเข้ามาหนึ่งหมื่นบาท แต่เมื่อเขาได้ยินประโยคนั้นสีหน้าเขาก็ซีดลงในทันที
ถึงแม้ว่าโดนเอาไปหนึ่งพันเมื่อเช้าและเธอก็โกรธมาก แต่พอถึงตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไปเอากับข้าวมาจากร้านอาหาร
และยังทำความสะอาดบ้านอีกด้วย และในตอนนี้เขายังอาสาที่จะล้างจาน เขาต้องการจะทำอะไรกันแน่?
หนิงเสี่ยวฉินนึกถึงความเป็นไปได้แล้วก็ตกใจ ผู้ชายคนนี้คงไม่ได้คิดที่จะขายบ้านหรอกนะ?
ห้องที่อาศัยอยู่ในตอนนี้ เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของหลี่ซูเฮิง พื้นที่ทั้งหมดคิดแล้วยังไม่ถึงสามสิบตารางเมตร เป็นห้องเก่าที่มีประวัติยาวนานมากว่าสี่สิบปี ถ้าจะขายละก็คงจะขายได้ไม่ถึงสองแสน
ความพยายามของเขาไม่ใช่เพื่อเงินเล็กๆน้อยๆนี่ แล้วเขาจะทำอะไรกันนะ?
เป็นไปได้ที่เขาจะให้เธอยินยอมเซ็นชื่อในเอกสารตอนขายบ้าน บ้านหลังนี้ได้มาหลังจากที่เขาทั้งสองแต่งงานกันและก่อนที่ปู่จะเสียชีวิตก็ได้โอนเป็นมรดกให้กับหลี่ซูเฮิง ซึ่งถือว่าเป็นสินสมรส
หนิงเสี่ยวฉินคิดไตร่ตรองกับความเป็นไปได้อยู่นั้น เธอก็ได้ยินเสียง"ติ๊งต๋อง"
เมื่อหันไปมองก็เห็นข้อความมากมายแสดงอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์
หนิงเสี่ยวฉินเดินไปดูและต้องประหลาดใจเมื่อพบว่ามีคนเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก
เธอรีบนั่งลงเพื่อตอบกลับข้อความเหล่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้เธองงก็คือคำถามแรกที่อีกฝ่ายถามมาคือ:คุณคือเจ้าของร้านคนสวยคนนั้นใช่มั้ย?เมื่อก่อนที่หนักเกินร้อยกิโล?ยานี้ให้ผลลัพธ์ดีจริงๆซินะ!"
หนิงเสี่ยวฉินที่ถูกถามถึงกับมึนงง หนักเกินร้อยกิโลอะไรกัน?
ยังไม่ทันที่เธอจะเข้าใจ ก็มีเสียง"ติ๊งต๋อง"ดังขึ้นอีก คำถามที่สองก็เด้งขึ้นมา
ฮั่วปู้ฝานทำความสะอาดครัวเสร็จออกมากก็เห็นว่าหนิงเสี่ยวฉินกำลังยุ่งวุ่นวายกับการตอบข้อความอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เสียง"ติ๊งต๋อง"ดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้เธอรู้สึกกังวล
ในเวลาสั้นๆเพียงไม่กี่นาทีนี้ มีผู้ซื้อมากมายเข้ามาสอบถามและบางคนก็สั่งซื้อโดยที่ไม่ถามอะไรเลย
หนิงเสี่ยวฉินทั้งตื่นเต้นและกระวนกระวายไม่รู้จะตอบกลับยังไง เพราะว่าผู้ซื้อส่วนใหญ่ล้วนถามว่าเธอเคยหนักเกินร้อยกิโลจริงเหรอ
ซึ่งเป็นคำถามที่แปลก?
ตอนนั้นเองก็มีเสียงดังมาจากด้านหลัง:"คุณตอบแบบนั้นไม่ได้"
หนิงเสี่ยวฉินหันกลับไปมองก็เห็นฮั่วปู้ฝานยื่นอยู่ด้านหลังแล้วพูดกับเธอ:"คุณดูนะ ผู้ซื้อรายนี้กำลังถามว่าจะได้ผลลัพธ์เหมือนกับคุณไหม?คุณไม่ควรตอบว่าไม่แน่ใจ แต่คุณควรตอบว่าร่างกายของคนเราตอบสนองต่อยาลดน้ำหนักต่างกัน ฉันสามารถบอกคุณได้ว่าต้องเห็นผลลัพธ์อย่างแน่นอน แต่กว่าฉันจะลดมาได้ขนาดนี้ไม่ได้พึ่งแค่ยาลดน้ำหนักอย่างเดียวต้องทำควบคู่ไปกับการคุมอาหาร การออกกำลังกาย เป็นต้นด้วย ฉันเชื่อว่าหากคุณตั้งใจและอดทน ใช้เวลาเพียงไม่นาน คุณก็จะกลายเป็นแบบที่คุณตั้งใจได้แน่นอน!"
หนิงเสี่ยวฉินได้ยินในคำพูดของฮั่วปู้ฝานถึงกับตกตะลึง แม้ว่าเขาจะเป็นคนขายแต่ทำไมได้ยินคำพูดพวกนี้แล้วเคลิ้มไปด้วยนะ?
หากเธอไม่รู้ว่ายาลดน้ำหนักเป็นเพียงแค่ตัวช่วย เธออาจจะซื้อมาลองซักสองขวด
เหมือนขาดสติิไปชั่วขณะเป็นครั้งแรกที่หนิงเสี่ยวฉิงไม่ได้โต้เถียงคำพูดของฮั่วปู้ฝาน อีกทั้งยังลบข้อความที่ตัวเองพิมพ์ไว้ทิ้งไปด้วยและพิมพ์ใหม่ตามคำพูดของฮั่วปู้ฝาน
ไม่ช้านักผู้ซื้อก็ตอบกลับมา: ซื้อยาลดน้ำหนักในร้านออนไบน์มาก็หลายครั้งแล้ว มีเพียงแค่คุณเท่านั้นที่พูดจาได้จริงใจที่สุด โอเค งั้นฉันซื้อมาลองก่อนห้าขวด! ขอบคุณเจ้าของร้านคนสวยนะคะ อิจฉาหุ่นที่ดีของคุณจริงๆ!
หลังจากนั้นก็มีภาพถ่ายของยาลดน้ำหนักห้าขวดเด้งขึ้นมา
"คุณเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวผมช่วยคุณตอบเอง"ฮั่วปู้ฝานพูด
ประโยคนี้หลี่ซูเฮิงก็เคยพูด ตอนนั้นหนิงเสี่ยวฉินเพิ่งจะเปิดร้านในเถาเป่า เขาคิดว่าการขายของก็ไม่ได้แย่อะไร แต่ผลก็คือหลังจากตอบเสร็จผู้ซื้อก็หายไปชั่วพริบตา ขายไม่ได้เลยซักชิ้นเดียว หลังจากที่ล้มเหลวไปหลายครั้ง หลี่ซูเฮิงก็ไม่อยากที่จะทำมันอีก
ตอนนี้หลี่ปู้ฝานก็พูดแบบเดียวกัน ถ้าตามปกติแล้วควรจะตั้งคำถามและต่อว่าเขา
แต่ตอนนี้เพิ่งจะขายยาลดน้ำหนักไปได้ห้าขวด จะให้หนิงเสี่ยวฉินถามอะไรเขา
ลังเลอยู่ซักพักหนึ่ง เธอลุกขึ้นและหลีกทางให้
ฮั่วปู้ฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้ ตอบข้อความลูกค้าพร้อมกับอธิบายหลักการของการตลาด: การขายของไม่ใช่การขายผลิตภัณฑ์ แต่คือความน่าเชื่อถือ เธอจะต้องทำให้ลูกค้าเชื่อใจคุณก่อนจากนั้นเขาถึงจะเชื่อในตัวผลิตภัณฑ์ คุณดูอยากลูกค้าคนนี้กินยาลดน้ำหนักมาแล้วมากมายแต่ก็ไม่เห็นผล ดังนั้นจึงควรตอบกลับไปแบบนี้...."
ฮั่วปู้ฝานพูดไปด้วยและตอบข้อความไปด้วย เสียงติ๊งต๋องดังมาไม่ขาดสาย ยาลดน้ำหนักโดนซื้ออยู่เรื่อยๆ หนิงเสี่ยวฉินที่ยืนอยู่ข้างหลังใจเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะ
เธอไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เมื่อก่อน2-3วันจะมีลูกค้าเข้ามาปรึกษา ตอนนี้เฉลี่ยในสิบนาทีมีคนเข้ามาสอบถาม5-6คน
อีกทั้งคนที่ปู้ฝานตอบกลับไป ในสิบคนมีถึงแปดคนที่ทำการสั่งซื้อสินค้า อัตราในการสั่งซื้อสูงจนน่าตกใจ
หนิงเสี่ยวฉินไม่ได้โง่ เธอรู้ดีว่ายาลดน้ำหนักที่เธอขายไม่ได้เป็นของดีอะไร การดึงดูดให้ลกค้าซื้อจริงๆแล้วมาจากการตอบของฮั่วปู้ฝาน
ทุกคำพูดทุกตัวอักษรของเขาเหมือนจะโดนใจของลูกค้าและทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะเชื่อเมื่ออ่านมัน
เวลาเพียงสองสามชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถังถังนอนหลับไปแล้วแต่เสียงแจ้งเตือนก็ไม่หยุดลงเลย ถึงแม้ว่าจะน้อยลงจากช่วงก่อนหน้านี้แล้วแต่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก
เพราะในเวลาไม่กี่ชั่วโมงนี้สามารถขายยาลดน้ำหนักไปได้มากกว่าร้อยขวด
กำไรต่อหนึ่งขวดเท่ากับหนึ่งร้อยบาท หนึ่งร้อยขวดก็เท่ากับหนึ่งหมื่น
หลังจากพิมพ์ข้อความมาสามชั่วโมงติด ฮั่วปู้ฝานก็ยืดแขนบิดขี้เกียจอย่างเมื่อยล้า ใช้เวลาช่วงไม่มีคนเข้ามาสอบถามพักผ่อนซักแป๊ป
หนิงเสี่ยวฉินที่อยู่อยู่ด้านหลังอย่างเงียบๆ สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า: "คุณทำได้ยังไง?"
"อะไรเหรอ?"ฮั่วปู้ฝานหันกลับมาถามเธอ
"คนมาถามเยอะขนาดนี้...."หนิงเสี่ยวฉิลชี้ไปที่คอมพิวเตอร์ ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอมั่นใจได้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่ร้านของเธอจะมีคนมาเยอะขนาดนี้โดยไม่มีสาเหตุ
ฮั่วปู้ฝานยิ้มและเปิดหน้าร้านค้าให้เธอดูว่าได้มีการแก้ไขการแนะนำผลิตภัณฑ์แล้วก็เปิดเว็บไซค์สองสามแห่งที่เขาไปลงโฆษณาในนั้นมีคนคอมเม้นท์เป็นจำนวนมาก จำนวนคลิกเข้าดูก็สูงมาก ถือว่าเป็นการโปรโมทที่ประสบความสำเร็จ
ที่สำคัญที่สุดคือไม่ได้ใช้เงินซักบาท เพียงแค่ใช้เวลานิดหน่อยในการสมัครแอคเคาน์และกรอกข้อมูลของการตลาดแค่เท่านั้น
เมื่อมองไปที่ร้านที่แทบจะไม่เหมือนเดิม หนิงเสี่ยวฉินก็ตกตะลึงในสิ่งที่เห็น
หลี่ซูเฮิงเป็นที่เข้าสังคมไม่เป็น เขาสนใจเรื่องการหาเงินมาแต่เขาก็ไม่เคยใช้วิธีนี้มาก่อน เพราะเขาเชื่อว่ากลิ่นไวน์หอมกระจายไปทั่วทุกที่ ขอเพียงแค่ผลิตภัณฑ์ดีไม่ต้องพูดอะไรก็มีคนซื้อ
ควรขายของแบบไหนควรขายราคาเท่าไหร่ จะปล่อยให้คนอื่นต่อราคาได้ยังไงมันน่าขายหน้ามาก
ไม่เหมือนกับฮั่วปู้ฝาน คนต่อราคาก็รีบขายให้เขา กำไรหนึ่งขวดหนึ่งร้อยบาทต่อให้เขาลดแล้วก็ยังเหลือกำไรอยู่ห้าสิบบาทจึงทำให้ยอดผู้ซื้อเพิ่มขึ้นหลายเท่า
ความคิดแบบที่หลี่ซูเฮิงไม่สามารถคิดได้
ถ้าไม่ใช่ใบหน้านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายคนนี้มาเจ็ดแปดปี หากมองเพียงข้างหลังหนิงเสี่ยวฉินคงคิดว่าเป็นคนอื่นที่นั่งอยู่
"วันนี้ยอดการขายลดลงมากแล้ว จำนวนคนที่เข้ามาสอบถามในช่วงเช้ามืดก็นอนลงแล้ว ตอนนีี้ก็ไม่ต้องสนใจแล้ว แค่ตั้งข้อความตอบกลับอัตโนมัติก็ได้แล้ว ซึ่งทั้งสองผลิตภัณฑ์ควรต้องใช้โอกาสนี้จัดโปรโมชั่นเพื่อส่งเสริมยอดการขาย และเลือกสินค้าอีกสองสามอย่างเพื่อช่วยเสริมให้ลำดับของร้านสูงขึ้น......"
ฮั่วปู้ฝานนั่งพูดอยู่ตรงนั้น หนิงเสี่ยวฉินฟังจนเวียนหัว
เธอเปิดร้านเถาเป่ามาปีสองปีแล้วแต่ก็ยังศึกษาไม่เข้าใจเกี่ยวกับหลักการพวกนี้ แต่ฮั่วปู้ฝานใช้เวลาแค่ครึ่งวันก็สามารถเข้าใจกฏที่สำคัญต่างๆและยังเตรียมแผนการตลาดไว้ล่วงหน้าอีกด้วย
เมื่อเห็นฮั่วปู้ฝานกับใบหน้าที่ตั้งใจนั้นหนิงเสี่ยวฉินถึงกับตกตะลึง
อยู่ดีดีสามีของเธอก็ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับเถาเป่าได้อย่างลึกซึ้ง
เขาเริ่มศึกษามันตอนไหนกันนะ?
"รูปลักษณ์ภายนอกของคุณดูดีมาก ตอนนี้การไลฟ์ในร้านเถาเป่าเป็นอะไรที่โด่งดังมาก ถ้าดูจากรูปลักษณ์ของคุณแล้วสามารถที่จะไลฟ์ขายสินค้าได้เลยนะ เพียงแค่ใช้วิธีการโปรโมทที่ดีจะต้องมีผลลัพธ์ที่ดีอย่างแน่นอน!"ฮั่วปู้ฝานพูดแบบสรุป
"พวกนี้ใครเป็นคนสอนคุณ?"หนิงเสี่ยวฉินอดไม่ได้ที่จะถาม
"ผมเรียนรู้ด้วยตัวผมเอง บนนี้มันมีรายละเอียดของกฏระเบียบใช่ไหมละ ผมก็แค่ตั้งใจอ่านมันใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถเข้าใจมันได้" ฮั่วปู้ฝานตอบกลับ สำหรับคนที่เคยรับมือกับธุรกิจขนาดใหญ่มาแล้วนั้น เรื่องพวกนี้ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับพวกเขา
เดิมทีหนิงเสี่ยวฉินรู้สึกดีใจที่วันนี้มีเงินพิเศษเข้ามาหนึ่งหมื่นบาท แต่เมื่อเขาได้ยินประโยคนั้นสีหน้าเขาก็ซีดลงในทันที
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved